Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
6 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
" November's Tears " ( บทที่ 30 )




บทที่ 30







หลังจากต่างฝ่ายหายแปลกใจ..เป็นผมที่ถามขึ้นก่อน



“มาได้ไง..ลากอร์” อีซูลากอร์ คือชื่อนายแฝด

“วันถัดมาจากที่ยืมเสื้อนาย ฉันมาหาที่นี่ตั้งใจจะคืนเอกสารและบัตรเงิน..เลยถูกจับ..” ลากอร์เข้ามาใกล้..ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า “นายล่ะ ทำไมไม่หนีไปให้ไกลๆ”

“ก็เห็นเขาจับแต่งตัวออกงานแทนฉันไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถูกขัง?”

“ทีแรกก็ดีละนะ..ฉันรู้ว่าเขาใช้เป็นหุ่นเชิด ให้ชีวิตที่หรูหราสุขสบาย..แต่เมื่อเขาได้นายกลับมา..” ลากอร์กลืนน้ำลาย

“ฉันไม่น่าใช้นายวันนั้นเลย หาความโหดร้ายมาให้ทั้งๆ ไม่เกี่ยวอะไรด้วย” ผมก้าวเข้าไปในห้องมืด ยื่นมือข้ามกรง

“ฉันก็ไม่ดีที่เห็นแก่สิ่งเย้ายวน..ถ้าฉันไม่เข้ามาตามคำชวน ไม่หลงคารม ไม่ปลื้มกับลาภยศจอมปลอม ก็คงไม่เป็นอย่างนี้..” ลากอร์จับมือผม

“เขาจะทำอย่างไรกับเราสองคนนะ?” ผมรำพึง

“คงฆ่าทิ้งคนหนึ่ง..และคงทั้งสองเมื่อเสร็จงาน” ความจริงที่น่ากลัว

“ฉันจะไม่ลงให้เขาง่ายๆ ถ่วงไว้เพื่อชีวิตของเรา..” ผมเขย่ามือแสดงความมั่นใจ “ตราบใดที่ยังไม่แน่ใจในเราคนใดคนหนึ่งเขาไม่กล้าทำอะไรร้ายๆ อย่างที่คิดหรอก”

“นายออกไปเถอะ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วค่อยมาหาฉันอีก หาทางหนีกัน..” ผมถอยออกจากห้อง..ลากอร์ร้องบอกขณะที่ผมกำลังเอื้อมมือไปที่สวิช “มันมีทางเข้าอีกทางแล้วจะชี้ให้ดู”



ผมขลุกอยู่ในห้องไปไหนไม่ได้..ไม่กล้าเปิดคอมพ์ ไม่แน่ว่าของจริง ของปลอม มีการแอบบันทึกหรือเปล่า..คิดถึงแม่ คิดถึงพ่อ..คิดถึงอนุชิต

“คลิ๊ก!..” ในที่สุดประตูถูกปลดล็อค

“เฮ้!..” ท่านอนุชาเข้าประตูมา “ชายราชศักดิ์เกษมของอาสบายดีหรือยัง..” สวมกอดผม “ที่ขังไว้เพราะอยากให้พักผ่อนเต็มที่..ถ้าแข็งแรงแล้วอาก็ไม่กักขังต่อไป”

“ครับ..” ผมไม่เชื่อคำพูดและกิริยาของท่านอนุชา แต่เก็บอาการไว้

“คืนนี้เราจะไปงานการกุศล..”

“ผมอยากกลับบ้านก่อน..ไปหาแม่..พ่อ” ผมต่อรอง

“ได้ๆ..” ท่านอนุชาหันไปพยักหน้าเรียกพนักงานหญิงชายที่เดินตามมา “อาจะไม่ถามเหตุผลที่ชายหายไปจากเวียงเดือน..พอเดาได้ว่าหนีภาระผูกพันที่จะตามมา แต่ไม่น่าถึงขนาดหนีจากศิลา..อาต้องรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไร”

พนักงานสองคนเข้ามาจัดการลอกคราบ ฉีดสารบางอย่างที่ข้อพับ ผมมึนไปพักหนึ่ง แต่กลับสดชื่นขึ้นในเวลาต่อมา ลืมตัว ลืมบางเรื่องที่กังวลและสงสัย

ในที่สุดชายราชศักดิ์เกษมผู้หล่อเฟี้ยวก็กลับคืนมา





น่าแปลกที่ไม่มีใครเฉลียวใจหรือสงสัยกับรูปลักษณ์ของชายราชศักดิ์เกษม

ลากอร์ไม่ได้เหมือนผมมากจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แต่จะว่าไปเขาผอมลงมากเกือบเท่าผม เมื่ออยู่ในชุดสูทหรูและแสงไฟ มองเผินๆ อาจเข้าใจเป็นอย่างนั้น

งานคืนนี้แขกเหรื่อและคนสำคัญของบ้านเมืองมากันครบแม้แต่ท่านผู้ครองนครและน้องอึ่งน้อย..มีความหม่นหมองอยู่บนใบหน้าของท่านประมุข น้องอึ่งน้อยเบิ่งตาโตเมื่อเห็นผมใกล้ๆ เธอรู้ดีที่สุดว่าใครคือชายราชศักดิ์เกษมตัวจริง

“ท่านชาย..พี่ Titee “ อึ่งน้อยย่อตัวทำความเคารพ “น้องมีเรื่อง..”

“คืนนี้สวยมากนะหลานอึ่งน้อย..” ท่านอนุชาเข้าขัดจังหวะการสนทนา

“ว่าที่เจ้าสาวของผมกำลังจะบอกอะไรบางอย่างครับท่านอา..” ผมไม่รู้ตัวว่าทำพลาดอีกแล้ว ใหญ่หลวงพอๆ กับเมื่อครั้งโทรฯ หาแม่

“ท่านพี่!..” อึ่งน้อยรู้อนาคตของเธอดี ย่อตัวทำความเคารพอีกครั้ง..ไม่สิ!..เธอเข่าอ่อนยืนไม่อยู่ต่างหาก

“พ่ออยู่ไหนท่านอา?” คงเพราะกระแสจิตจากอึ่งน้อยทำให้ผมถามออกไป

“พ่อของชายป่วยมาไม่ได้..” หลบตามีพิรุธ “เลิกงานแล้วอาจะพาไปพบ”

ท่านอนุชาพาผมไปทักทายคนทั่วงาน..เหมือนแสดงให้รับรู้ว่าผมยังอยู่ แถมเชียร์ช่างภาพให้ถ่ายรูปตลอดเวลา..ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ผมฉุกเฉลียวใจบ่อยๆ แทบทุกย่างก้าวตั้งแต่ออกจากวัง แต่มันแค่เดี๋ยวเดียวที่ความรู้สึกนั้นรบกวนใจ..มันหายไปง่ายๆ แทบจะทันทีทันใด

“Santé!” ดังเป็นระยะๆ

ผมเริ่มมึน..มากกว่าความเป็นจริง..แทบไม่รู้ว่างานเลิกเมื่อไหร่..และเช่นเคย ความคิดเรื่องจะกลับบ้านไปหาพ่อแม่ไม่เหลืออยู่อีก





รู้สึกตัวอีกทีบนที่นอน..ไม่รู้เวลาเท่าไหร่ ไม่มีนาฬิกาในห้อง ที่ข้อมือก็หายไป..คอมพ์!..แต่แน่ใจได้อย่างไรว่าคือเวลาจริง..ผมไปที่คอมพ์


ใครคนหนึ่งเขียนเข้ามาในข้อความส่วนตัวของผม..ใครคนนั้นไม่ใช่อนุชิต!

“กลับมาแล้วหรอครับคุณตี๋ มีคนเค้าฝากบอกว่า..เหอ..จะเป็นไงต่อดี?..”

“ไม่ทราบว่าใครฝากครับ?” ผมถาม..ใจหนึ่งคิดว่าอนุชิตกำลังล้อเล่น

“คุณอนุชิตครับ ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยที่ไทยตอนนี้หนาวๆ ไม่รู้ที่โน้นหนาวขนาดไหน” เพื่อนแปลกหน้าตอบมา..ปราโมทย์..ชื่อเฟส..เพื่อนคนหนึ่งของอนุชิตที่เคยขอเป็นเพื่อนผมนั่นเอง

“ทำไมอนุชิตไม่เขียนมาเอง..ทำไมคุณรู้เรื่องของเรา..” ผมเริ่มคิดในทางไม่ดี..นี้ผมกำลังเป็นตัวตลกในวงสนทนาของอนุชิตหรือ?

“ครับเค้าเป็นคนขี้อาย การตัดสินใจอะไรของเค้ามันต้องตัดสินใจถูกเพราะว่ามันไม่อยากเจ็บช้ำไปหลายๆ ครั้ง”

คำตอบของปราโมทย์ไม่ค่อยเข้ากับความสัมพันธ์ที่แท้จริงของผมและอนุชิต..สรุปว่านายคนนี้รู้อะไรเพียงผิวเผิน..อนุชิตคงติดธุระบางอย่าง วานให้ตอบข้อความแทน

“ถึงอย่างไรก็ดูแปลกๆ ที่ให้คุณคุยกับผมแทนเขา..อนุชิตหายไปไหนครับ?”

“555 คือถ้าอนุชิตคิดจะทำอะไรลงไปก็ต้องไตร่ตรอง ไห้มันถูกต้องครับ อีกอย่างอนุชิตไม่ได้หายไปไหน เห็นว่าโทรศัพท์พังไม่สามารถติดต่อกับใครได้ครับ”

“ถามหน่อยครับ..” ความอึดอัดใจที่ผมเคยได้รับบ่อยๆ “บางครั้งผมเห็นอนุชิตออนอยู่..ผมทักไป เขาไม่ตอบ..หนีเลย..พอทราบไหมว่าทำไม”

“สงสัยออนอยู่ในบีบี..อ้อ นึกออกเเละ อยู่ร้านเกมส์ครับไม่มีอะไรหรอก ออนเฟสทิ้งไว้เเล้วเล่นเกมส์อยู่ครับ มีไรก็ไปเล่นเกมส์งานกานไม่หาทำ 555 ช่วงนี้ว่างมากหรือไงก็ไม่รู้ ตกเย็นอยู่ร้านเกมส์ประจำเลย5555 (อนุชิตนะ)”

“เขาเคยพูดว่าเขาไม่ใช่เด็กติดเกมส์..แต่ติดเจ้าของร้านเกมส์..555..ครับ..” ผมกำลังหาเรื่องให้ตัวเองโดยไม่รู้ตัว

“ฮ่าๆๆ ไม่ใช่เจ้าของร้านเป็นเด็กเฝ้าร้านครับ ก็ดูดีอยู่ตัวเล็กๆ เรียบร้อยๆ เเต่อนุชิตคงไม่รู้ว่าเค้าสูบบุหรี่ 555 พึ่งเห็นวันนี้หน้าร้านเลย”

“แล้วนี้กำลังเล่นเกมส์กับเด็กคนนั้นอยู่หรือครับ” ผมกำลังก้าวเข้าสู่ความคลุ้มคลั่ง

“เปล่าครับ เรากำลังกินเหล้ากันอยู่ สังสรรค์ระหว่างเพื่อนฝูง นุมันให้ผมคุยแทนเพราะกำลังชนแก้วอยู่กับแฟนมัน”

“นี้ดึกมากแล้ว..ตีสอง..จะกลับกันอย่างไร” ทำใจดีสู้เสือถามไปแต่ใจเต้นตูมตาม

“บ้านผมอยู่แถวนี้..” แกล้งตอบ..หยุดพิมพ์ต่อเหมือนยั่ว

“อนุชิตละ?” รู้สึกตัวว่ากำลังถูกวางระเบิดโดยใครสักคน..อนุชิตเอง..เพื่อนผู้หวังดี (ร้าย) หรือแม้แต่แฟนอนุชิตที่วางแผนกำจัดผม

“นุคงนอนกับแฟนที่หอ..มันแปลกๆ ผมไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขาแล้วฮ่าๆๆๆ”


“ตูม!!..” ระเบิดลูกใหญ่หล่นใส่หัวผม..สะเก็ดเล็กตามมาเพิ่มความเจ็บปวด

“การจะรักใครต้องศึกษาไตร่ตรองดีๆ แล้วค่อยตัดสินใจ การยอมรับใครง่ายๆ คืออารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น อยากไห้คุณตี๋ลองศึกษา พูดคุยกะอนุชิตไปก่อน ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปจะดีกว่านะครับ”


ผมไม่มีแรงจะพิมพ์โต้ตอบอะไร..ไม่ว่าคนที่เขียนมาจะเป็นใคร มีวัตถุประสงค์อย่างไร..เขาประสพความสำเร็จแล้ว..ไม่อยากคิดว่าอนุชิตรู้เห็นด้วยกับการสนทนานี้

สติผมเริ่มแตก..ตัวสั่น ครางฮือๆ..รู้แน่ชัดว่าถูกตัดเยื่อใย..เหงื่อซึมทั่วใบหน้า ตามร่างกาย แม้อากาศในห้องจะเย็นฉ่ำ

ไม่แม้จะปิดคอมพ์..ผมเสียสติไปแล้ว..ครางฮือๆ..วิ่งไปที่ผนัง เลื่อนส่วนใส่เสื้อผ้าออก มุดเข้าไป รัวปุ่มสวิชไฟอย่างบ้าคลั่ง

“โอย..ฮือ..โอ๊ย..อากซ์.......” เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมบานประตูเลื่อนออก “ลากอร์ออกมา..ลากอร์ออกมา..”

“เป็นอะไรไป Titee ?” เพื่อนแฝดงัวเงียตื่น


“ฉันอยากอยู่ในนี้..โอ๊ย..ฉันจะอยู่ในนี้..ตลอดไป..อากซ์ซซซซซ”





Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2555 16:11:56 น. 0 comments
Counter : 658 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.