Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2557
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 

"คือรัก" (บทที่ 7)


บทที่ 7






ในที่สุดผมก็เรียนตัดเย็บเสื้อผ้าจบหลักสูตรเบื้องต้น


งานฉลองรับประกาศนียบัตร..
ผมรับหน้าที่ตกแต่งสถานที่และเป็นคู่เต้นรำให้สาวๆ..”ติ๋ว” คือเพื่อนขี้เล่นคนหนึ่ง เป็นกันเองกับผมมากจนบางครั้งนึกสงสัยว่าเธอคิดอย่างไรกับผม

หลังงานรับประกาศฯ ติ๋วชวนผมไปงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่บ้านเธอ ผมตกลงทันทีกลัวว่าถ้ากลับบ้านและเจอใครบางคนที่ปรากฏตัวปีละหนผมอาจใจอ่อน..ไม่ต้องเป็นห่วงแม่..เดี๋ยวนี้แม่มีเพื่อนชายคนใหม่เป็นหัวหน้างาน แม่มีโครงการฉลองปีใหม่กับท่านผู้นี้อยู่แล้ว..ลืมเล่าไปว่าพ่อของผมเสียชีวิตตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก



ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย..ไม่ใช่สิ..ประวัติศาสตร์ย้อนรอยมากกว่า..งานเลิกเมื่อเกือบสว่าง ผมกรำมาตั้งแต่เช้าจึงหมดแรงนั่งพักมุมหนึ่งของบ้านติ๋ว..รู้สึกตัวอีกทีเมื่อร่างใครคนหนึ่งทาบทับบนร่างที่เอนลงเมื่อไหร่ไม่รู้

เพราะแอลกอฮอล์ที่มากกว่าปีที่แล้วทำให้ผมปล่อยเลยตามเลย แต่ระวังตัวอยู่เหมือนกันที่จะไม่ให้มีอะไรมาก..ขนาดระวังผมยังเกือบถูกปลดกางเกง ท่อนบนของผมไม่เหลืออะไรปิดบังแล้ว ท่อนล่างคงเป็นแค่มือซุกซนล้วงเข้าในกางเกงขาสั้นของผม..จะใครเสียอีกถ้าไม่ใช่ติ๋วจอมแก่น

แม้จะหนึ่งปีผ่านมาผมก็ยังไม่ลืมรสหวานหอมจากป๋อง นึกถวิลหาอยู่ทุกวันแต่ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ได้แต่คิดถึงและกระสันอยาก..ของติ๋วที่เลอะเทอะอยู่บนปากผมไม่หวานอย่างที่เคยลิ้มรสเมื่อปีที่แล้ว..ถึงติ๋วจะพยายามอย่างไร..ถึงบางสิ่งของผมจะพยายามเช่นกันแต่ผมก็หักใจเสียอย่างนั้น..พลิกคว่ำพลิกหงายกันจนฟ้าสว่างพร้อมอีกหลายชีวิตตื่นขึ้นมาเตรียมทำบุญตักบาตร


“ตี๋นะตี๋..” ติ๋วกระเง้ากระงอด “อะไรๆ พร้อมเป็นใจให้แล้วทำไมไม่ยอมให้เกิดขึ้น..” ลูบไล้ท่อนขาและกล้ามแขนที่ไม่ได้ป้อแป้เหมือนเมื่อครั้งเป็นเด็กหนุ่มแบกท่อนไม้แกว่งฟาดหัวใครคนนั้น “ก็น่ากินอย่างนี้..ฮึ!”

“อารัย..ฮะ..ฮะ..” ผมหัวเราะแก้เก้อให้เราทั้งสองคน

“ตอนตี๋ยืนเขย่งบนโต๊ะเพื่อติดสายรุ้งที่โรงเรียนตอนเย็น..” หยุดค้อนผมหนึ่งวง “มีหนุ่มสองคนยืนแอบมองอยู่ข้างนอก”

“มองติ๋วละมั้ง?”

“นี่แน่ะ!..” ถอนขนขาผมกระจุกหนึ่ง

“โอ๊ย!..” ผมกระเด้งขึ้นยืน ถือโอกาสรูดซิบและคว้าเสื้อใส่ “ผมไม่รู้เรื่องอะไรสักหน่อย”

“ก็หมั่นไส้ไอ้หนุ่มสองคนนั้นน่ะซิ..แหม..มองจนพวงข้าวหลามเกือบร่วงลงพื้น”

“ฮะ..ฮะ..ขนาดกระบอกข้าวหลามเชียวหรือ..” ผมนึกว่าติ๋วหมายถึงอย่างนั้น “จ้องจนข้าวเหนียวออกมาละซีถ้า..ฮะ..ฮะ..”

“บ้า!..ตี๋บ้า..เค้าไม่ได้หมายอย่างนั้น..พวงข้าวหลามจริงๆ นะ..ไอ้หนุ่มเค้าหิ้วพวงกระบอกข้าวหลามจริงๆ”


หนุ่มหิ้วพวงกระบอกข้าวหลาม ทำให้สารพัดเหตุผลออกจากปากผม..เหตุผลที่ผมจะต้องกลับบ้านทันที ไม่ว่าติ๋วและเพื่อนๆ ของเธอจะทัดทานอย่างไร




ไม่มีอะไรวางอยู่หน้าประตูบ้าน นอกจากโน๊ตสั้นๆ ของแม่บนโต๊ะเคียงโซฟาหวายว่าจะเลยไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ ที่ทำงาน..ผมจะต้องอยู่คนเดียวอีกหลายวัน

ดีเหมือนกัน ไม่มีอะไรไม่มีใครทำให้ผมมีเวลาพอจะคิดทบทวนเรื่องของตัวเอง..ในตู้เย็นมีอาหารสดสำรองอยู่ ผมตั้งใจจะไม่ออกไปไหนจนกว่าแม่จะกลับมา..นึกอยากมานานแล้วการแก้ผ้าเดินไปมาทั่วบ้าน..เพียงแปบเดียวผมก็คว้ากางเกงขาสั้นขึ้นมาใส่..มันเวิ้งว้างกว่าที่คิดไว้

ไม่รู้ทำไมผมลากที่นอนมาปูหน้าโซฟาหวายเหมือนคืนส่งท้ายปีเก่าปีที่แล้ว..ยังเช้าอยู่แต่ผมตกลงใจนอน..ป๋อง..หนุ่มหิ้วพวงข้าวหลามที่ติ๋วเห็นจะใช่ป๋องหรือเปล่า..คงไม่ใช่..ถ้าใช่เขาคงเข้าไปทักหรือวางพวงข้าวหลามนั้นไว้หน้าบ้าน..แต่ไม่มี..ไม่ใช่ป๋อง..ไม่ใช่แน่ๆ


“ก๊อก!..กีอก!..”

“ป๋อง!..”
ผมลุกพรวดไปเปิดประตู

“ผมเอง..” ไอ้แขกยืนอยู่หน้าบ้าน “ได้ยินเสียงกุกกัก ไม่แน่ใจว่าเป็นพี่ตี๋หรือขโมยจึงลองเคาะดู”

“อือ..พี่เอง..” แง้มประตู “เข้ามาสิ..” ชวนตามมารยาท ไม่นึกว่าไอ้แขกจะเข้ามาจริงๆ “ลุงมีไม่อยู่หรือ?”

“ไปไหว้พระต่างจังหวัดหลายวัน..” มองกางเกงขาสั้นของผม “ไม่ใส่เกงยีนส์ตัวนั้นล่ะพี่ เท่ดีออก”

“มันแข็ง อึดอัด ใส่ไปเที่ยวดีกว่า”

“งั้นพาผมไปเที่ยวหน่อยสิ..ปีนี้ไม่ได้ไปไหนเลย ไม่ได้กินของอร่อยๆ เหมือนปีที่แล้วด้วย”

“ลาบน้ำตก แกงจืดน่ะหรือ?”

“โห!..นั่นกินอยู่เกือบทุกวัน..ผมหมายถึง..เอ่อ..”

“อะไรบอกมา เดี๋ยวซื้อเลี้ยง” ผมนึกสนุก..อย่างน้อยไอ้แขกก็ช่วยให้หายเหงา

“เบียร์น่ะพี่..”แค่เอ๋ยถึงไอ้แขกก็หน้าแดงเสียแล้ว..ความจริงไอ้แขกตัวขาวแต่ทำไมชื่อแขกไม่รู้ “สัญญาแล้วนะพี่”

ตกลงผมกับไอ้แขกออกไปเดินเล่นที่ตลาดท่ารถ..ยังมีบรรยากาศครึกครื้นหลงเหลืออยู่..ผมนึกเอ็นดูไอ้แขก ซื้อเสื้อยืดสองตัวลายเหมือนกัน เปลี่ยนใส่ทันทีข้างถนน หัวเราะกิ๊กกักสองคนกับความระห่ำเล็กๆ นี้



ได้เบียร์มา 6 กระป๋อง หมูแผ่นและมันฝรั่งทอด..ไม่อยากกินอาหารคาวแซบอย่างเคยยังผะอืดผะอมอยู่..ฮะ..ฮะ..แล้วเบียร์ 4 กระป๋องส่วนของผมจะไม่ทำให้ย่ำแย่ลงอีกหรือ!

ไอ้แขกอายุ 15 แต่ตัวไม่เล็กแถมใจใหญ่เกินตัว เมื่อได้มาจอยกับหนุ่มกำลังห่ามอย่างผมจึงไปถึงไหนๆ โดยไม่ได้ตั้งใจเตรียมการณ์..ไม่มีอะไรเกินเลยนอกจากเมื่อใกล้หมดกระป๋องที่สอง ไอ้แขกถอดเสื้อออกกระโดดเต้นตามเสียงเพลง..ฉุดผมให้เต้นตาม

กระป๋องที่สามของไอ้แขกเกินโคว์ต้าทำให้ระห่ำมากขึ้นท้าชนกระป๋องกับผม..ไม่ชนแค่กระป๋อง แต่ทั้งตัว เราล้มลงบนพื้น..ไม่รู้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมตั้งใจหรือไม่..หน้าของเราชนกัน

น้ำลายของไอ้แขกไม่หวานเท่าของป๋องแต่ผมสนิทใจกว่าของติ๋ว..ไอ้แขกละเลงอย่างเมามัน ไม่เหมือนเมื่อครั้งแรกของผมกับป๋อง แต่เพราะความอ่อนวัยและอ่อนเจตนา ทำให้เหมือนเราเล่นสนุกกันมากกว่า..จูบไป หัวเราะไป ไม่ได้ซาบซึ้งอะไร


“พี่ตี๋เคยจูบกับพี่ป๋องหรือเปล่า?” ไอ้แขกถามขึ้นกลางดึกหลังจากละเลงน้ำลายใส่ผม

“เฮ๊ย!..” ผู้ชายเหมือนกันจะจูบกันได้อย่างไร

“ก็นี่ไง..” ไอ้แขกแสดงหลักฐาน “ให้ผมอยู่กับพี่จนกว่าลุงหรือแม่พี่กลับมานะ”

“อือ..” ผมจะพูดอะไรได้..เคยอ่านจากนิยายประโลมโลกที่ไหนสักแห่ง พูดถึงรสน้ำลายและความหลงใหลในรสจูบ..ตอนนี้ผมและไอ้แขกคงกำลังรู้สึกอย่างนั้น

“ลืมบอกไป..” จู่ๆ ไอ้แขกพูดใส่ปากผม

“อะไร..” กัดลิ้นที่อยู่ในปาก

เสียงอู้อี้ผสมน้ำลายที่ตอบกลับทำให้หัวใจผมแทบหยุดเต้น


“เมื่อวานตอนหัวค่ำผมเห็นหมาลากกระบอกข้าวหลามจากหน้าประตูบ้านพี่ไปเล่นในตลาด..ผมไล่ไม่ทัน”






 

Create Date : 01 ตุลาคม 2557
0 comments
Last Update : 1 ตุลาคม 2557 18:30:54 น.
Counter : 732 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.