Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 

๐ กมโลภิกขุ..ชายหนุ่มผู้บวชเป็นพระ ๐ (บทที่ 26)




บทที่ 26






“นพมันทะลึ่งพาผมไปเยี่ยมวัด” รีบรายงานก่อนแม่จะถาม


“แหะ..แหะ..”
นพยกมือไหว้ “ผมกลับก่อนนะครับ”

“เหม็นหน้าแล้วโว้ย อยู่ด้วยกันสองวันหนึ่งคืน..” เดินไปส่งนพที่ประตูรั้ว “รีบกลับเลย พรุ่งนี้ต้องทำงาน”

“แล้วชั้นจะดูงานให้แก ไม่ต้องที่เดียวกันก็ได้นะที่รัก..” ทำท่าส่งจูบ “จูบุ๊บ..จูบุ๊บ..”

“ทุเรศ ไอ้บ้านพ..ฮะ..ฮะ..” ส่งเสียงไล่หลังโนว่าน้ำเงินดำ



“เมื่อเช้ามีคนโทรมาหาแก..” แม่เข้าครัวเตรียมทำกับข้าว..นายนิดเดินตาม “หั่นหมูให้หน่อย”

“มีคนโทรมาหา..” ผมวางเนื้อหมูลงบนเขียง นึกแปลกใจ มีไม่กี่คนที่จะติดต่อทางโทรศัพท์ ขนาดนพที่ว่าสนิทยังมาด้วยตัวเอง “ใครหรือแม่?”

“เสียงเหน่อๆ เขาบอกว่าชื่อองอาจ”

“หลวงพี่อาจ!” ผมเกือบหั่นนิ้วตัวเอง

“เป็นอะไร?” แม่สังเกตเห็นอาการของผม

“เมื่อวานไฟไหม้วัด..พระรูปนี้หายไป” บิดเบือนความจริง

“วัดเป็นอะไรมากไหม เสียงท่านดูร้อนรน”

“มากเหมือนกันครับ”

“แปลก..ทำไมไม่บอกว่าเป็นพระ”

“คงเพราะรีบ หรือไม่ได้เป็นพระแล้วก็ได้” คงเป็นไปไม่ได้ที่หลวงพี่อาจจะทำอะไรอย่างไร้แบบแผน แต่ผมก็พูดไป



“เป็นอะไรหรือนิด พลิกไปพลิกมาเค้ารำคาญ” น้องชายรองไม่เคยเรียกผมว่าพี่

“อือ..” ขี้เกียจชี้แจงเหตุผลที่เจ้าน้องชายหรือแม้แต่ใครอื่นไม่มีวันเข้าใจ

นพพาผมไปวัดครั้งนี้ทำให้ได้ผจญเหตุการณ์และพบบางสิ่งที่ทำให้ปณิธานอันงดงามของผมผันเข้าสู่โลกความเป็นจริง..ความจริง..ไม่มีความจริงสักอย่างบนโลกนี้ที่สวยงาม

ไม่น่าเชื่อว่าวัดเก่าแก่ได้ถูกไฟไหม้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สิงสถิตอยู่ช่วยอะไรไม่ได้เลย หรืออาจเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประสงค์ให้ไฟไหม้เพื่อล้างความสกปรกโสมมที่ครอบคลุมอยู่ทั่ว ท่านแน่ใจหรือว่าไฟจะชำระล้างจิตใจของมนุษย์ได้..แต่ถึงไม่สะอาดก็คงว่างเว้นความสกปรกชั่วคราว..น่าเสียดายที่ต้องสูญเสียสิ่งยึดเหนียวและที่พึ่งทางใจของชาวบ้าน

สิ่งที่ไม่ถึงกับสูญเสียแต่ต้องตามหาคือความพึงใจเล็กๆ ของผม ความสุขเล็กน้อยที่มีผลมากมายกับชีวิตหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าชีวิตนั้นมาจากไหน แต่ผมก็ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จะโดยบังเอิญ พรหมลิขิต หรือรุ่นพี่ลิขิต ไม่มีใครรู้ได้

หลวงพี่อาจและนึงหายไป นึกตำหนิตัวเองที่ไปวัดกับนพไม่ได้อยู่รับสายเมื่อเช้านี้ แต่ก็เพราะไปวัดและเพราะนพรื้อฟื้นความหลังในอดีตไม่ใช่หรือผมจึงพบนึงในอีกฐานะที่น่าสงสัย

จะเพราะอะไรหรือเพราะใคร ทั้งสิ้นทั้งหลายได้เกิดขึ้นแล้วและกำลังผ่านไป วันหนึ่งคงผ่านมาอีก อาจจะคนเดิม เหตุการณ์เดิม หรือสิ่งใหม่ที่ดีเลวกว่าก็ได้



สองสามวันต่อมา หูผมแว่วแต่เสียงโทรศัพท์ที่ไม่มีใครได้ยิน..หลวงพี่อาจไม่โทรฯ มาอีก สร้างความกังวลใจให้พอสมควร

หนึ่งเดือนผ่านไปโทรศัพท์ก็ยังไม่มา ผมไม่กล้าออกไปไหนกลัวพลาดกับหลวงพี่อาจ..จากความกังวลกลายเป็นความทุกข์ใจ เบอร์โทรฯ ของวัดที่ผมขอมาก็ไม่มีใครรับสาย ผมจะทำอย่างไรดี

ชีวิตต้องดำเนินไป..คนรอบข้างระแคะระคายเรื่องส่วนตัวที่วัดของผมจากการเดาของแม่ น้องเล็กเซ้าซี้ให้ผมช่วยทำการบ้าน น้องสาวคนโตพาเพื่อนๆ น่ารักมาบ้าน แนะนำพี่ชายให้รู้จัก น้องรองชวนทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ที่วัยไม่ห่างจากผม แม่พาไปงานของเพื่อนร่วมงาน เทศกาลต่างๆ ดูเหมือนจะสำคัญขึ้นมาสำหรับครอบครัวเรา ที่สำคัญนพพาผมตระเวนหางานทำและมาคลุกคลีอยู่ที่บ้าน...ทั้งหมดนี้ทำให้เวลาผ่านไปเป็นปีโดยไม่รู้สึกตัว



“นายนิด..” มหาชัยโผล่มาเช้าวันหนึ่ง

“มหาชัย” ผมทักตอบ

“โชคดีเจอตัว..” ตบไหล่ผม “อยู่บ้านไม่ออกไปไหน”

“วันอาทิตย์ วันพักผ่อน ซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน” ผมนึกแปลกใจ ญาติห่างๆ คงมีเรื่องสำคัญ

“ทำงานทำการหรือยังล่ะ?”

“ทำแล้ว..” ไม่มีครับต่อท้าย “จนป่านนี้” เราเคยพูดกันแบบนี้

“อ้าว!..มหาชัย” แม่โผล่มาจากหลังบ้าน

“สวัสดีครับ วันนี้ผมมาชวนคุณน้าและนายนิดไปทำบุญที่วัดหลวงพ่อนิล”

“วัดหลวงพ่อนิล!..” ใจผมกระตุก..ตั้งแต่ไฟไหม้เมื่อห้าปีที่แล้วผมไม่ได้ไปเยี่ยมวัดอีกเลย..ใจดำจัง

“ไปวันนี้หรือ?” แม่ขมวดคิ้ว

“ครับ”

“เอ้อ..กะทันหันอย่างนี้น้าคงไปไม่ได้..” หันมาทางผม “นิดว่างไม่ใช่หรือ ไปทำบุญแทนแม่หน่อยนะ”

“ว่าไงนายนิด?”



ตั้งแต่ซุ้มกำแพงวัด ทางเข้า และทั่วทั้งวัดได้รับการบูรณะขึ้นใหม่จนผมจำเกือบไม่ได้ อุโบสถหลังใหม่ยกสูงจากพื้นมีบันไดนาคทั้งสี่ด้าน ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ วิจิตรตระการตา องค์หลวงพ่อนิลที่เคยพูดกันว่าจะนำเศียรส่วนใบหน้ามาสร้างต่อเติมก็ไม่เป็นเช่นนั้น หลวงพ่อองค์ใหม่งามผุดผ่องสีทองอร่ามเหมือนพระสังข์ถอดรูป

ศาลายาวหายไป มีหมู่กุฏิเรือนไทยหลังเล็กขึ้นแทน เหลือท่าน้ำใหญ่เพียงแห่งเดียวเพราะมีระบบน้ำประปาเข้ามาถึงวัด หอพระไตรปิฎกและสระน้ำถูกแทนที่ด้วยเมรุและศาลาตั้งศพ

“มหาชัย..” ผมกระซิบถาม “กุฏิหลวงปู่ย้ายไปที่ไหน มองไม่เห็นมี”

“หลวงปู่ท่านสิ้นหลังไฟไหม้วัดไม่นาน..” มหาชัยมองเหมือนตำหนิ “นิดไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือ?”

“เอ่อ..” ผมมัวทำอะไรอยู่นะ ไม่รู้เรื่องของวัดเลย “ผมนี่แย่จริง”

“ไหนข่าวลือว่าผูกพันกับวัดมาก มัคนายกคนหนึ่งถึงกับมั่นหมายว่านิดจะเป็นพระที่ดีในอนาคต เป็นผู้มีบุญประจำวัดหลวงพ่อทีเดียว” มุมมองของคนอื่นที่ผมเพิ่งรู้

“ตัดสินอะไรเพียงสายตาไม่ได้ โดยเฉพาะคน..” บางคนทำหน้าที่ที่ได้รับอยู่อย่างสมบูรณ์แม้ไม่เต็มใจ “ผมไม่ใช่คนดีอย่างที่เขาคิดหรอก” และเมื่อหมดหน้าที่นั้นไปรับบทบาทใหม่ เขาก็ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเช่นกัน ลืมบทบาทในอดีตหมดสิ้น..นายนิดเป็นอย่างนั้น..จะผิดไหม?

ยังจำได้เมื่อตอนเป็นเด็กนักเรียน มีคุณครูฝึกสอนท่านหนึ่งจู้จี้เจ้าระเบียบ หวงคะแนนและชอบทำโทษเด็ก ไม่มีใครชอบสักคนรวมถึงผม นักเรียนหัวโจกคอยแกล้งเธอบ่อยๆ ผมรับหน้าที่จับกิ้งกือใต้ตันมะม่วงให้หัวโจกเหล่านั้นปฏิบัติการ

เมื่อสิ้นเทอมฝึกสอน..ก่อนจาก คุณครูท่านนั้นกล่าวอำลา เธอชี้แจงว่าที่ดูเหมือนดุ เหมือนร้ายก็เพราะอยากให้นักเรียนได้รับบทเรียนอย่างเต็มที่ เป็นเด็กดีอยู่ในระเบียบวินัยและทำข้อสอบได้..เธอประกาศตำแหน่งเด็กดีประจำห้องและมอบของที่ระลึกให้..เด็กชายสานิตย์!

ผมกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่ ไม่ใช่ดีใจ ไม่ใช่เสียใจ ไม่รู้เพราะอะไร..ผมเกลียดคุณครูท่านนี้เท่ากับเด็กอื่นๆ แต่ในฐานะนักเรียนผมปฏิบัติตัวดีสมหน้าที่ จึงได้รับตำแหน่งเด็กดี..เด็กดีตามหน้าที่..พระดีตามหน้าที่..ลูกดีตามหน้าที่ แต่..คือผู้ให้กำเนิดที่ดีหรือไม่ยังสงสัย



มหาชัยแยกไปทำบุญ ดูพระ ส่องพระ ตามความชอบที่ศาลาวัตถุมงคล ศาลาที่สร้างขึ้นใหม่เพื่องานพุทธพาณิชย์และงานหาเงินเข้าวัดเพื่อการบูรณปฏิสังขรณ์ ผมตามไปห่างๆ แปลกใจที่พระเจ้าหน้าที่ประจำศาลาคือพระคงรูปเดิมทั้งที่เห็นถูกแบกออกจากโบสถ์และกองสมบัติของท่านเมื่อคืนไฟไหม้..ก็คงเพราะท่าน เพราะกิจการของท่านจึงทำให้อุโบสถและองค์หลวงพ่อนิลพลิกฟื้นขึ้นมาได้..ความดีและไม่ดีมักปนกันอยู่จนบางทีแยกไม่ออกว่าคืออย่างไหนกันแน่

พระรูปเก่าๆ หายหน้าหมด มีแต่พระใหม่เกือบทั้งวัด ที่เหลืออยู่อีกรูปคือหลวงพี่ปากแหว่งที่ร่วมวงฉันบนศาลายาว

“เด็กดำก็หายไป คงโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว..” หลวงพี่ตอบคำถามเมื่อผมเท้าความว่าคือใครในอดีต “คุณก็นะไม่เห็นมาเยี่ยมวัดบ้างเลย..คุณองอาจเขายังมาทุกปี”

“คุณองอาจ!” ผมหูผึ่งกับคำตอบที่ไม่ได้ถาม

“คุณองอาจ พระอาจ หลวงพี่อาจ พระพี่เลี้ยงของคุณไง ..” หลวงพี่แหว่งยิ้มๆ “มาทำบุญทุกปีกับลูกชายเขา เด็กนึง จำได้ไหม?”

“นึง ลูกซิ้มนึง” ทำไมผมจะจำไม่ได้ ยังตามหา ยังกังวลถึงอยู่ทุกวัน

“เดี่ยวนี้เขามีพ่อแม่ใหม่แล้ว เห็นเรียกคุณองอาจว่าพ่อ เรียกแม่คุณองอาจว่าแม่”

“ยังตัวใหญ่ไหมครับหลวงพี่อาจ..เอ๊ย..คุณองอาจ” ใจอยากจะถามถึงอีกคน

“ก็เหมือนเดิม แต่ออกไปเป็นฆราวาสดูแข็งแรงขึ้น”

“แล้ว..แล้ว..”

“เขาถามถึงคุณอยู่นะ เห็นว่าไปถามหาคุณกับทิดคิมเหมือนกัน แต่ทิดคิมออกเรือนไปอยู่กับเมียที่ต่างจังหวัดจึงไม่ได้เรื่องอะไร”

“เอ่อ..” น่าแปลกที่ผมไม่กล้าถามเกี่ยวกับนึง

“อาตมาขอตัวไปทำงานก่อนนะโยมนิด” หลวงพี่แหว่งเดินจากไป


เด็กชายนิดนักเรียนดีเด่น นายนิดลูกดีเด่น..มั่นใจได้เลยว่าไม่ใช่ “ป๊ะ” ดีเด่นของนายนึง






 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2554
0 comments
Last Update : 12 กรกฎาคม 2554 8:55:44 น.
Counter : 512 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.