โลกใบกว้างของคนชอบเขียนหนังสือ อ่านหนังสือ แปลหนังสือ...สอนหนังสือ แถมยังชอบเดินทางไกล เพราะรู้สึกว่าโลกทั้งใบก็เหมือนหนังสือ
|
|||
พยายามเป็นสามเท่า ตอน3 : ถนนหิมะ ถ้าอยู่ดีๆตาคุณมองไม่เห็น คุณจะยังเรียนหนังสือจนจบได้ไหม จะทำงานที่คุณเคยทำอย่างไร จะยังพยายามต่อไปหรือเปล่า ชีวิตเรา นอกจากจุดเปลี่ยนในเรื่องจิตใจตอนเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว จุดหักเหที่สุดทางทัศนคติของเราเกิดจากการได้พบหนังสือของคนๆหนึ่ง ที่ตามองไม่เห็น แต่ยังจดจำได้ ว่าดวงดาวงดงามแค่ไหน คนธรรมดาที่แสนยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของเรา วันหยุดยาวตอนปีใหม่ เรากลับไปเยี่ยมบ้าน หนังสือเล่มนั้นวางอยู่บนหัวนอนของแม่ เราหยิบมาอ่านระหว่างนั่งรอแม่อาบน้ำ กว่าจะรู้ตัว เราก็อ่านจบเอาตอนเกือบสว่าง แล้วก็ตั้งใจว่าจะต้องไปพบคนเขียนให้ได้ หนังสือเล่มนั้นเล่าถึงชีวิตของคนๆหนึ่ง ที่มาตาบอดเพราะอุบัติเหตุเอาตอนกำลังเรียนหนังสือสักม.ต้นได้ ที่น่านับถือคือ ใจ ของคนเขียนค่ะ ท่านต้องพยายามอย่างหนัก ในการใช้ชีวิต หลังจากที่ตามมองไม่เห็น แค่จะเดินให้ได้เหมือนคนอื่น ก็ต้องฝึกแล้วฝึกอีก แค่เราอ่านถึงตอนนี้ก็ขนลุกแล้ว ต้องอาศัยความกล้าขนาดไหนนะ คนที่เคยมองเห็นมาตลอด ถึงจะกล้าหลับตาเดินออกถนน แล้วเราเองล่ะ คนที่มองเห็นได้ทุกสิ่ง แต่ไม่เคยมองอนาคตของตัวเองได้ชัดเจน แล้วยังไม่กล้าออกถนน เดินไปบนเส้นทางของชีวิตจริงๆซะอีก เราโทรศัพท์ไปนัดอาจารย์ด้วยข้ออ้างว่าจะไปสัมภาษณ์ค่ะ ทำหนังสือก็ดีอย่างนี้แหละ J หลังจากได้คุยกับท่านแล้ว เราคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจลาออกจากงาน ก้าวออกถนนใหญ่ ทางเดินชีวิตที่แม่อยากให้เราเดิน แต่เราไม่ยอม เพราะอ้างว่าไม่ชอบ แต่ที่จริงเราไม่กล้าต่างหาก เราไม่กล้าไปเรียนไกลบ้าน ภาษาเราก็ไม่เก่ง หนาวก็หนาว เรากลัวหนาวน่ะ ขนาดเชียงใหม่หน้าหนาว เรายังไม่ชอบเลย บ้านเราเองแท้ๆ ถ้าไปเจอหิมะ ต้องตายแน่ๆ... ตอนเด็กๆก็คิดได้แค่นั้น > แต่ถ้าคนที่มองไม่เห็นทางคนหนึ่ง กล้าเดินออกจากบ้าน ขึ้นรถเมล์ กล้าที่จะตกท่อ และหกล้มซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อที่จะเดินบนทางชีวิตไปได้อย่างสง่างามเหมือนคนอื่นๆ แล้วทำไมเราจะไม่กล้า ออกไปมองโลกกว้าง และเผชิญความหนาวบ้างล่ะ ตาเราก็ออกจะดี และเสื้อกันหนาวดีๆมันก็ให้ความอบอุ่นได้นี่นา ตอนนี้ เราไม่กลัวหิมะแล้วล่ะค่ะ หนังสือชื่อเรื่องอะไรคะ ฟังดูน่าอ่านจริง คุณเล่าประสบการณ์ที่ฟังดูแล้วเหมือนตัวเองมาก ตัวเองก็ใช้เวลานานกว่าจะลุกขึ้นกัดฟันสู้ในที่สุดก็เรียนจบ (จนได้) แต่กว่าจะจบก็อายุเยอะเกินกว่าที่จะไปตระเวณหาประสบการณ์แล้ว เสียใจเหมือนกันที่ใช้เวลานานเหลือเกิน กว่าจะกลับใจ
โดย: พี่หมูน้อย วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:31:46 น.
อ้อ ตอนนี้อยู่เชียงใหม่เหมือนกันค่ะ ไม่ใช่คนเชียงใหม่แต่มาเรียนที่เชียงใหม่แต่เด็กจึงติดใจเมืองนี้ ตอนนีจึงกลับมาทำงานที่นี่ค่ะ้
โดย: พี่หมูน้อย วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:33:08 น.
ความกล้าสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด
พอกล้าทุกอย่างก็เริ่มต้นได้ จากนั้นขอแค่อดทนเท่านั้น ที่เหลือมันก็ดีขึ้นเอง โดย: เอกเอง (Ace striker ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:40:40 น.
|
dararye
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] เกิดเชียงใหม่ ไปเรียนกรุงเทพ พอทำงานก็ชีพจรลงเท้า เดินทางได้สักพัก ก็ชักรู้สึกว่าโลกนี้ที่จริงแล้วไม่มีขอบเขต เริ่มทำบล็อคอย่างจริงจัง เพราะรู้ตัวว่าต้องร่อนเร่ไปอีกไกล เผื่อว่าใครคิดถึงจะได้ตามหากันเจอ ชื่อนี้เป็นนามปากกาเดียวกับใน bookcyber ค่ะ ยิ้มก็อันเดิมนะ >>>> @^__^@ Group Blog
All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |