พยายามเป็นสามเท่า ตอน2
(เท้าความ ตอนที่ 1 สำหรับคนที่ไม่เคยอ่าน)

1.คนไม่เอาไหน

เราเป็นคนไม่คล่องตัวค่ะ
ตอนสอบเทียบก็ตกพิมพ์ดีด
ทำกับข้าวก็หั่นผักไม่ทันใจแม่

ถึงวิชากีฬาหรือวิชาที่ต้องมีภาคปฏิบัติทีไร
เป็นต้องป่วย
ดีที่สุดคือวิชาการบ้านการเรือนการฝีมือ
เพราะหนีจากห้องครัวไปอยู่ห้องตัดเย็บได้

ที่ตลกก็คือ
เราสอยซ่อนด้ายเนียนสนิท
เย็บกระทง ร้อยมาลัย ไม่มีที่ติ

แต่ว่าเย็บจักรไม่ได้ค่ะ
ทำอะไรเร็วๆกับเขาไม่เคยได้เลย

ยิ่งมาบวกกับความจริงที่ว่า
ก่อนป.สี่เราเรียนหนังสือไม่เอาไหน
วิชาไหนที่ไม่ชอบก็ไม่เรียน
ที่ชอบก็ไม่ค่อยทำการบ้าน

ตอนนั้น
อนาคตของเราดูมืดมนจริงๆค่ะ
คิดไม่ออกเลยว่าจะเป็นคน "เอาไหน" กับเขาได้ยังไง

2.เก่ง...แต่ไม่พยายาม

โตขึ้นมาหน่อย เราเริ่มเรียนได้ดี
อันที่จริงเราชอบอ่านหนังสือ
เรียนเมืองไทยมันก็เลยง่ายค่ะ
แค่อ่านๆจำๆ ทำความเข้าใจ

เลขยิ่งง่ายกันไปใหญ่
มันมีคำตอบเดียว พลิกไม่ได้ คิดยังไงก็ต้องออกมาถูก

แต่ว่าเราจะเรียนเฉพาะสิ่งที่เราชอบ
อะไรที่เราทำไม่ได้ เราก็ไม่เคยคิดจะทำ

ขี้เกียจเขียนรายงานยาวๆ
ก็ไม่เคยคิดจะเขียน
ทำส่งๆไป
น่าอายนะถ้ามาเล่าตอนนี้

เอาเป็นว่าไม่เคยต่อสู้กับอะไรเลย
ไม่เคยพยายามเอาชนะตัวเอง

ถ้าไม่ใช่ว่าหัวดีอยู่บ้าง
ก็คงเรียนจบแบบดีๆกับเค้าไม่ได้

แล้วยังหลงภูมิใจแบบโง่ๆอีก
ว่าเราเก่ง
(ไม่เห็นต้องเรียนหนัก ก็ทำดีกว่าคนอื่นแล้วนี่... แน่ะ คิดเข้าไปได้ยังไง)

คนเรา ตอนเด็กๆคงเคยโง่มาทุกคนเนาะ



วิชาที่เราไม่ชอบเรียนที่สุดคือภาษาอังกฤษ
เอ็นติดเพราะเลขกับไทยค่ะ

ไม่ชอบแล้วยังไม่เรียนอีก
ยิ่งรักภาษาไทยก็ยิ่งคิดแบบใจแคบว่า ไม่เห็นต้องเก่งภาษาของคนอื่นเลย
(ตอนนี้ก็ยังรักภาษาไทยที่สุดอยู่ค่ะ แต่ทัศนคติน่ะเปลี่ยนแล้ว)

คณะเราเน้นภาษาด้วย ต้องเรียนอังกฤษมันทุกเทอมจนปีสุดท้าย
เราก็โดดมันได้ทุกเทอม
ตอนทำกิจกรรมก็อยู่ห้องชมรม
ตอนไม่ทำ ก็อยู่สามย่าน


ส่วนไอ้วิชาที่มีรายงานเราก็ไม่ค่อยทำ ถ้าเราไม่ชอบจริงๆ
ประมาณว่า ชอบก็ได้สี่ ไม่ชอบก็ได้ศูนย์ อาศัยท่องหนังสือสอบเอาคะแนนมาชดเชยกัน

เราพลาดเกียรตินิยมไป 0.2 GPA เพราะความดื้อด้านของตัวเองแท้ๆ

โตจนทำงานแล้ว
เราก็ยังทำกับข้าวไม่คล่อง
ทำเพาเวอร์พอยต์ไม่ได้
ไม่เคยกรอกเอกสารสมัครงาน
แทบไม่เคยพิมพ์งานด้วยตัวเอง

ที่จริงเราไม่เคยคิดจะทำเรซูเม่ด้วย

ขวางโลกจริงๆ


เรามีความคิดบ้าๆโง่ๆของเราอยู่เสมอว่า
อะไรที่ชั้นทำไม่ได้ชั้นก็จะไม่ทำ

จะไม่เปลี่ยนตัวเองเป็นคนอื่นนอกไปจากนี้

แล้วก็อาศัยว่าเราทำอย่างอื่นได้
ทำรายงานกลุ่มเราเป็นคนทำเนื้อหา
เพื่อนก็ไปพิมพ์แล้วนำเสนอ

ทำงานที่บริษัทเราเป็น creative
นอกจากคิด กับเขียนโครงร่างแล้ว เราไม่เคยทำอะไรที่เราคิดว่า "น่าเบื่อ" ด้วยตัวเองเลย

ทั้งโง่ ทั้งดื้อ ทั้งหยิ่งแหละตอนนั้น
ดีนะ ที่แอบหยิ่งและดื้ออยู่เงียบๆในใจไม่ให้ใครรู้

เพราะเราก็ไม่ได้ดูถูกหรือรังเกียจงานที่เราไม่ทำนะคะ
เราแค่เงียบๆ แล้วทำงานอื่นให้หนักๆ
อะไรที่ทำไม่ได้ก็เลยทำไม่ได้อยู่ต่อไป

ดื้อเงียบจนไม่เคยแก้ไขข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆของตัวเองได้
ไม่ต่อสู้ จนไม่เคยได้ทำในสิ่งที่ต้องการจริงๆ

เพราะคุณสมบัติที่ขาดๆเกินๆของตัวเอง



Create Date : 24 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2549 22:54:01 น.
Counter : 497 Pageviews.

2 comments
  
**โตขึ้นมาหน่อย ก็มีจุดเปลี่ยนของชีวิต
ตอนนี้คงไม่เล่าละเอียดค่ะ
โดย: dararye วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:35:58 น.
  
อ่านถึงตอนนี้ ยังหมั่นไส้ตัวเองเอามากๆ
ก็หวังว่าจะไม่รังเกียจเราไปก่อนที่จะอ่านจบนะคะ

เราเองหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนให้กับคนอื่นได้ด้วย
ก็เลยเอาความโง่ของตัวเองมา on line ค่ะ
โดย: dararye วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:48:35 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

dararye
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



เกิดเชียงใหม่ ไปเรียนกรุงเทพ พอทำงานก็ชีพจรลงเท้า เดินทางได้สักพัก ก็ชักรู้สึกว่าโลกนี้ที่จริงแล้วไม่มีขอบเขต
เริ่มทำบล็อคอย่างจริงจัง เพราะรู้ตัวว่าต้องร่อนเร่ไปอีกไกล เผื่อว่าใครคิดถึงจะได้ตามหากันเจอ ชื่อนี้เป็นนามปากกาเดียวกับใน bookcyber ค่ะ ยิ้มก็อันเดิมนะ >>>> @^__^@

พฤศจิกายน 2549

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
19
20
22
23
26
28
30
 
 
All Blog