|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
รักนอมินี
โลกสรรสร้างบางวันเป็นฝันเปียก ล้านคำเพรียกเรียกหาบรรดาสรร ก่อกำเนิดความรักชักนานวัน สิ่งละอันพันละนิดคิดถึงเธอ โชคชะตาขีดเขี่ยเลียสะบัด หล่อบำบัดรุกล้ำนำเสนอ ประกาศหาหญิงโสดโปรดมาเจอ รักหาวเรอเอ่อล้นจนพิการ
เมื่อตกลงเป็นหมั่นเหมาะกับนุช ว่าจะคบกันฉันท์เพื่อนสนิทแต่ไม่ใช่แฟน ( เอ๊ะ....ยังงัย ) โดยไม่ต้องรอลงประชามติแบบรัฐธรรมนูญปี50 ให้ยุ่งยาก ไม่ว่าจะอยู่ในซอก หลืบ ง่าม แง่งบริเวณไหนของวิทยาลัยจะเห็นผมและนุชเดินเกี่ยวก้อยกันจนเป็นภาพที่ชาชินของเพื่อนๆทุกคน เมื่อใกล้วันงานจะมาถึง ผมกับนุชนัดกันไปเดินซื้อเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ในวันงาน เนื่องจากตลอดทั้งชีวิตผมไม่เคยซื้อเสื้อผ้าเอง ส่วนใหญ่ก็โละเอาของพ่อบ้าง ของเพื่อนบ้าง ทั้งเสื้อและกางเกงที่ผมมีจึงออกแนว วัยรุ่นยุคปี 1960 กางเกงยีนส์บางตัวขาบานชนิดขังแม่ไก่ได้เป็นตัวๆ ส่วนเสื้อจะเป็นลายสก๊อตบ้าง ลายดอกบ้าง บางตัวก็ลายงูเหลือม หากเป็นมรดกที่ได้มาจากเพื่อนก็ดีหน่อย เข้ายุค เข้าสมัย " เอากูให้ เห็นสารรูปมึงกับอาภรณ์ที่ปิดบังแล้วสังเวชว่ะ " ดำมักเอ่ยในทำนองนี้เสมอ อย่างกางเกงยีนส์ลีวายส์ 501 มันก็บริจาคผมมาตัวนึง แถมสอนวิธีดูกางเกงยีนส์ว่าแท้ไม่แท้ให้ผมเป็นวิชาติดตัวอีกต่างหาก " ขั้นแรกมึงต้องดูป้ายตรงด้านบนของกระเป๋าหลัง ต้องมีตัวอักษรเขียนคำว่าลีวายส์เป็นภาษาอังกฤษชัดเจน หากเห็นตัว E เป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่นั่นแสดงว่ารุ่นนี้เป็นรุ่น บิ๊ก E ซึ่งถือว่ามีค่านิยมสูงสุด ราคาแพงสุด หายากสุด จากนั้นให้มาดูป้ายสีแดงเล็กๆที่อยู่ด้านในของกางเกง รวมไปถึงกระดุมตรงบริเวณเป้าที่ต้องมีตัวอักษรของคำว่าลีวายส์ชัดเจน ถ้ามีครบหมดแสดงว่าของแท้ อีกอย่างการเลือกกางเกงต้องดูว่าขึ้นเป็นเนื้อทรายหรือเปล่า ตะเข็บขึ้นตลอดไหม บางตัวอาจเป็นริมแดงราคาก็จะสูงกว่าแบบตะเข็บธรรมดา " ดำเล่าเป็นฉากๆ " ที่มึงเล่ามาทั้งหมด ไม่ยักจะปรากฎให้เห็นเป็นสง่าในกางเกงที่มึงให้กูมาแม้แต่น้อย " ผมแย้งในทันทีที่รู้ถึงการสำรวจตรวจตราวินิจฉัยกางเกงยีนส์ " อ้าว.....เหรอ....ของมึงมันรุ่นพิเศษจัดทำขึ้นในสมัยสงครามเกาะฟอคแลนด์...ที่อังกฤษสัปยุทธกับอาเจนติน่า " ผมเริ่มนึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว " แล้วมันเกี่ยวกันยังงัย" ผมยังไม่หายสงสัย "อ้าว...ไอ้นี่...ยังจะมาทำ แอ๊บแป๊ว ก็มันทำให้ระบบเศรษฐกิจทั้งโลกล่มสลาย อัตราการเจริญเติบโตของจีดีพีก็ลดลง สงครามเย็น ระหว่างสหรัฐกับสหภาพโซเวียตก็ยังตึงเครียด....แล้วรุ่นของมึงแม้จะไม่มีคุณลักษณะที่กูเอ่ยมา...แต่ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ผลิตจากโรงงานลีวายส์เหมือนๆกับรุ่นอื่นๆทุกประการ เพียงแต่ส่วนประกอบอาจไม่ครบถ้วน เพราะฉะนั้นจึงคู่ควรแก่การเก็บรักษา พอๆกับรุ่นแรกๆที่ยีนส์ลีวายส์ ถือกำเนิดขึ้นมาในปี ค.ศ. 1853 โดยนายลีวาย สเตราท์ ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวที่หลงไปทำงานที่เหมืองทองในซานฟรานซิสโก" ดำแถไปเรื่อย " ถ้าคู่ควรกับการเก็บรักษา ทำไมมึงไม่เก็บไว้เอง " ผมเริ่มจะหลงเคลิ้มกับดำเพราะมันอ้างถึงบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งอาณาจักรลีวายส์ " กูเก็บไว้ 2 ตัว อุตสาห์แบ่งบุญให้มึงไปตัวยังไม่สำนึก" ดำเริ่มทวงบุญคุณตามแบบฉบับ " พี่แห้ง...ไปกันหรือยัง" เสียงเจื้อยแจ้วปานนกการเวกของนุชเรียกผมดังมาแต่ไกล " เฮ้ย...กูไปก่อน" ผมบอกลาดำในทันที " ไอ้นี่...นับวันชักจะเอาใหญ่ตั้งแต่มีแฟนลืมเพื่อนลืมฝูง เอาอกเอาใจเสียยิ่งกว่า พรรคการเมืองเลียแข้งเลียขา คณะ คมช." เสียงดำบ่นแว่วๆให้ได้ยิน
ผมกับนุชและเพื่อนอีกสองคนโดยสารรถสองแถวจากตัวจังหวัดไปยังตลาดนัดขายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในแถบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองมาประมาณสิบกิโลเมตร ที่นี้เป็นแหล่งรวมเสื้อผ้าทั้งใหม่และเก่า ภายในตลาดตั้งอยู่ในหมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยชุมชนชาวไทยมุสลิม ทั้งแผงเสื้อผ้า ผลไม้ ขนม ข้าวแกง มีมากมายละลานตาเต็มไปหมด ผมกับนุชเดินตามเพื่อนมุสลิมในฐานะเจ้าของพื้นที่ตรงไปยังร้านที่มันแนะนำว่าดีนักดีหนา เจ้าของร้านเป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ 35 -40 ปี เชื้อเชิญให้ผมดูลีวายส์ริมแดงเป็นการใหญ่ จากการได้ศึกษาเล่าเรียนในตำนานของยีนส์ลีวายส์มาบ้าง รวมไปถึงการดูคุณลักษณะพิเศษต่างๆ ทำให้ผมอวดภูมิในทันที " เนื้อทรายไม่ขึ้น ตะเข็บขึ้นไม่เป็นขีดๆ " ผมวิจารณ์ชนิดสาดเสียเทเสีย " น้อง..นี่มันริมแดง ผ้าด้าน ตะเข็บจะขึ้นเป็นปื้น " คนขายเฉลยความจริงที่ทำให้ผมต้องหน้าชา นุชเองก็หันมามองค้อน จนผมต้องเบือนหน้าหนีความละอาย เฉไฉไปดูเสื้อแทน หลังจากเดินสำรวจทุกซอกมุมของตลาด ผมกัดฟันน้ำนมซี่สุดท้ายที่หลงเหลือจากหมัดเท้า เข่า ศอกในชีวิตบนผืนผ้าใบ ได้กางเกงยีนส์ลีวายส์ 501 จำนวน 1 ตัว และ 701 อีกหนึ่งตัว ส่วนนุชหัตถ์ของพระเจ้าได้รังสรรค์ผลงานมาสเตอร์พีชให้เธอออกมาสวยเด่น เลอโฉม อาภรณ์ใดๆในหล้าจึงไม่ได้ช่วยให้เธอดูดีมากนัก นุชจึงได้เพียงหมวกแก๊ปมาหนึ่งใบ อีกอย่างเธอเองก็มีบรรดาเสื้อผ้าอยู่ไม่น้อย ครั้งนี้เธอจึงสวมวิญญาณมาเป็นสไตล์ลิสต์ให้ผม อย่างน้อยเมื่อถึงวันงาน ภาพจะได้ออกมา ไม่เป็นที่ครหาของชาวโลกจนเธอเขินอาย
สถานที่จัดงานเป็นรีสอร์ทอยู่ติดชายทะเล มีห้องพักประมาณ 20 ห้อง บรรยากาศร่มรื่น ภายในประกอบไปด้วยแมกไม้เป็นทิวสนปกคลุมบริเวณรีสอร์ต ช่วงนี้แขกมาพักน้อย ทำให้งานที่เราจัดไม่รบกวนแขกคนอื่นๆ เราเลือกที่จะเช่าห้องพักไว้ 4 ห้องเผื่อสำหรับบรรดาผู้หญิงที่ต้องการพักผ่อน ส่วนเพศชายงานนี้ต้องมีถึงรุ่งสาง งานเลี้ยงเริ่มประมาณ 17.00 น.โดยประมาณ ในฐานะที่ต้องจัดเตรียมข้าวของทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ผมจึงถูกแกมบังคับให้มาถึงในงานเป็นคนแรกๆพร้อมกับนุช โดยผมใส่กางเกงยีนส์ที่เพิ่งซื้อมาชิมลางเป็นการโหมโรง มีเสื้อคอปกสวมไว้ด้านใน และแจ๊คแก๊ตยีนส์สวมทับอีกชั้นกันลมหนาว มองผ่านๆนึกว่า จอร์ด คลูนีย์ ส่วนนุชมาในชุดเสื้อสีชมพู กางเกงยีนส์รัดรูป รองเท้าคัทชูสีขาว ดูสวยเด่นยังกับน้องฟ้า นาตาลี ผมโชว์ให้ดำเห็นทันทีที่ไปถึง กูเพิ่งถอยออกมาใหม่ๆ ตรงตามตำราทุกประการ ดำมองอย่างทึ่งเหมือนเห็นว่าที่นายกฯเป็นคุณสมัครไม่ใช่คุณอภิสิทธิ์อย่างที่คาดหวัง ไหนขอกูพิจารณา....นิดนึง ดำลากเสียงสูงและเดินเข้ามาแกะโน้น เกานั่น จนผมจั๊กกะจี้ กางเกงตัวนี้มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ดำเริ่มบทวิจารณ์ ผมแอบยิ้มเล็กน้อยด้วยความภาคภูมิใจ กางเกงตัวนี้มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ต้องโง่ด้วย ดำสาธยายต่อ ผมแทบเป็นลมล้มพับ นี่มันของปลอม เอาเข้ามาแถบโรงเกลือ ไม่ใช่ลีวายส์ของแท้ ผมนึกแล้วเชียว ถึงว่าถูกนัก ถูกหนา แค่สองร้อย นุชแอบหัวเราะ หล่อนอาจสมเพชเวทนากับความตัวตนที่แท้จริงของผม ที่นอกจากจะโง่แล้วยังซื่อบื้อเป็นสรณะโดนหลอกแล้วหลอกเล่าจนน่าเบื่อหน่าย
บรรดาเพื่อนฝูงเริ่มทยอยมาในงานจนเกือบครบ อ้วนพารถกระบะของบิดามากับแฟนชื่อโอ๋ซึ่งเรียนรุ่นเดียวกันแต่เธออยู่คณะคหกรรม มังเพื่อนมุสลิมพาแฟนชื่อ แก้ว เป็นรุ่นน้องหนึ่งปี ทั้งคู่มาในชุดคาวบอยหนุ่มสาว หมี เพื่อนสุดเวอร์พาน้องหนิงสาวจากคณะพานิชย์มาจัดเป็นคู่รักทรหดอีกคู่เพราะคบกันสมัยยังเรียนมัธยม ซะเพื่อนลูกผสมมุสลิมและไทยพุทธมากับแฟนชื่อ พิม เป็นรุ่นน้องสองปี ดำซึ่งมาก่อนผมพาน้องนก ที่เรียนอยู่โรงเรียนมัธยมชื่อดังในจังหวัดสงขลา ดูเหมือนจะเป็นเพียงผู้หญิงคนเดียวที่ไม่ได้เรียนที่วิทยาลัยแห่งนี้ ในห้องมีประมาณ 18 คน ในจำนวนนี้มีไม่จบพร้อมกับรุ่น 3 คนคือ โจ้,เฮง,ตั่น แต่ทั้งหมดก็มาร่วมงานโดยไม่ได้ตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใด โจ้พาแฟนน้องปุ้มมาในชุดสีส้มดูสมกลมกลืนกันเป็นอย่างดี ปกติ โจ้จัดเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่มีสาวๆแอบหลงรักมากมาย เพราะฉะนั้นชีวิตรักของ โจ้ จึงมีสิทธิ์เลือก ผิดกับผมที่ต้อง ใส่ตะแรงแกรงล้างน้ำซักสามน้ำ ตั้งผึ่งแดดรอให้แห้ง และวางไว้ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์เพื่อรอให้ผู้หญิงมาเลือก เฮง มาโดดเดี่ยวเพียงคนเดียวโดยมันขอจับคู่กับศักดิ์เพื่อนเลิฟที่ประคบประหงม กันมาตั้งแต่สมัยเพิ่งเข้าจนจบการศึกษา แต่ทำไปทำมา เฮงดันไม่จบ แต่ศักดิ์จบแถมได้โควตาเรียนต่ออีกต่างหาก ตั่นพาแฟนสาวชื่อ น้องป่านมาด้วย หลังจากซุ่มเก็บเงียบมานาน รักของตั่นจึงเป็นรัก หยบ ๆ ( หลบๆ ) กอล์ฟ มากับญาติห่างๆ ที่แอบเผลอใจจนลืมนับญาติ เธอชื่อ ส้มเป็นรุ่นน้องสองปี เรียนคณะบัญชี งานในวันนี้เราเชื้อเชิญอาจารย์มาด้วย 2 ท่าน เป็นอาจารย์ที่เราเคารพรัก ชื่อ อาจารย์บรรจบ และอาจารย์ปรีชา ในระหว่างที่รออาจารย์ พวกเราก็นั่งโซ้ยน้ำตาลเมา ที่ดำอุตสาห์ไปหิ้วมาจาก อ.ตากใบ เสี่ยงต่อการโดนสรรพสามิตจับ พูดถึงน้ำตาลเมาหรือ ตะหวาก ต้องรินใส่กะลามะพร้าวถึงจะขลัง รสชาดกลมกล่อมเข้าที ห้ามรินใส่แก้วโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นแก้วไวน์หรือแก้วคริสตัล ส่วนเครื่องดื่มสำหรับสุภาพสตรีผมรับอาสา เพราะอาศัยที่แม่ผมเคยเป็นแม่บ้านช่วยงานของสมาคมแม่บ้านตำรวจฯ เลยได้วิชาทำสูตรน้ำพั้นรสเยี่ยม ที่แม่เคยทำเลี้ยงรับรองแขกผู้ใหญ่ที่มาเยี่ยมชมดูงานที่โรงพัก จนพ่อผมได้สองขั้นแทบทุกปี ส่วนบรรดากับแกล้มเราสั่งพวก กุ้ง หอย ปู ปลา มาย่างกินบริเวณชายทะเล เกือบสองทุ่มอาจารย์สองท่านก็เดินทางมาถึงพร้อมกับเหล้านอกชั้นดี 2 ขวด หลังจากทุกคนพาน้องๆมาแนะนำตัวจนหมด ซึ่งคู่ของผมได้รับเสียงกรี๊ดมากสุด ไม่แพ้ผู้เข้าแข่งขันอคาเดมี่แฟนตาเซีย
กาลเวลาล่วงเลยจนเกือบสี่ทุ่ม พวกเราต่างเมามายทั้งฤทธิ์เหล้า น้ำตาลเมา หรือแม้กระทั่งน้ำพั้น บางคนก็ออกไปจับคู่กระหนุงกระหนิงกันสองต่อสอง บางคู่ก็ออกไปดื่มด่ำกับธรรมชาติท่ามกลางเสียงคลื่น เสียงลม หาดทรายสองเรา นุชจับกลุ่มกับบรรดาผู้หญิงที่มาในงานอยู่ภายในห้อง ส่วนผมยังนั่งดริ๊งด้วยอารมณ์สุนทรีย์ น้ำตาลเมาหมดไปครึ่งแกลลอน เหล้านอกเหลือค่อนขวด ในวงเหล้า ณ.ตอนนี้เหลือเพียง ผม ดำ ศักดิ์ เฮง อ้วน และอาจารย์ทั้งสองท่าน เสียงเครื่องยนต์ขนาด 1500 ซีซี 4 สูบ ขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์ธรรมดาห้าสปีดดังกระหึ่ม จนวงสนทนาต้องหยุดชะงักเล็กน้อย เมื่อเสียงเครื่องยนต์สงบเราก็สนทนากันต่อ โดยไม่ใส่ใจ พวกเราจะเรียนต่อกันไหม อาจารย์บรรจบถามขึ้นมาแต่ทำให้บางคนต้องแสลงใจ โดยเฉพาะ เฮง ที่ไม่จบการศึกษาในเทอมนี้ ผมกะจะไปสอบวิทยาลัยครู ในสาขาอุตสาหกรรมศิลป์ครับ ดำวาดฝันถึงอนาคต ผมจะไปเรียนต่อในระดับ ปวส.ที่ไหนก็ได้สักแห่งแต่ไม่ใช่ที่นี่ ศักดิ์บอกถึงความอัดอั้นบางประการ แล้วแห้งล่ะ อาจารย์ปรีชาหันมาทางผม ตอนแรกผมกะจะขึ้นกรุงเทพ ไปเดินแถวมาบุญครองให้ โมเดลลิ่งมาเห็นแบบ มอส ปฏิฎาณ หรือเต๋า สมชาย เพื่อกรุยทางเข้าสู่วงการบันเทิง หากไม่ได้ก็จะไปสมัครเข้าประกวด โดมอนแมน หรือไม่ก็ ดัชชี่บอย ครับ ผมตอบชนิดไม่อายปาก แล้วตอนนี้ล่ะ อาจารย์เริ่มซักต่อ ตอนนี้ โลกของผมเป็นสีชมพู วันเวลากำลังหอมหวาน ผมไม่มั่นใจทั้งตัวเอง และผู้หญิงว่าจะตักตวง ความสุขนี้ไปได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นผมคงเลือกที่จะเรียนต่อ ปวส.ที่นี่ เพื่อ อยู่ดูแลให้รักเป็นรักยืนยง ไม่ฉาบฉวย ไม่โฉบเฉียว เหมือนอย่างที่แล้วมา ผมตอบอย่างหนักแน่น แววตาเจิดจรัส เฉกเช่นคุณสมัครรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แสดงว่าเลือกความรัก มากกว่าอนาคต อาจารย์ยังไม่เลิกขุดคุ้ย ชีวิตผมไม่มีอนาคตครับอาจารย์ มีแต่อดีตและปัจจุบัน ผมไม่เคยสร้างฝันให้กับตัวเอง เพราะทุกครั้งที่ทำอย่างนั้น เมื่อไม่ได้ตามหวัง คนที่เจ็บปวดคือผม วันวานและวันนี้จะชี้อนาคตในวันข้างหน้าเอง ผมฟุ้งต่อ
อาจารย์มีบุคคลที่นับถืออยู่คนแกฝังตัวในถ้ำนานนับสิบปี อาจารย์ปรีชาเอ่ยขึ้นมาเหมือนจะสอนสั่ง ฝึกวิชาหรือวรยุทธ ครับอาจารย์ตั้งสิบปี เฮงเสียมารยาทแย้งขึ้นมา เปล่า ท่านหนีคดี อาจารย์ปรีชาเฉลย เรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งวง ท่านหนีคดีเกณฑ์ทหาร ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ใดๆ แต่อายุความถูกบัญญัติไว้ที่บรรทัดฐานเท่าเทียมกัน หลังจากหมดอายุความ ท่านก็ออกมาใช้ชีวิตเยี่ยงคนปกติ และพยายามพร่ำสอนทุกๆคนถึงความผิดพลาดเมื่อครั้งอดีต ส่วนสาเหตุของการหนีทหารในคราวนั้นก็เพราะเป็นห่วงลูกและเมีย อาจารย์ปรีชาเล่าต่อ แล้วมันเกี่ยวกับผมยังงัยครับ ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่อาจารย์เล่า เกี่ยว..ซิ เวลา และโอกาส คือสิ่งที่สูญเสียไปแล้วไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ ชีวิตเธอก็เหมือนกัน ลองคิดทบทวนดูใหม่ อาจารย์เองก็เคยมีรักในวัยรุ่น ซึ่งก็ไม่เคยจีรังหรือยั่งยืนแม้แต่ครั้งเดียว อาจารย์ปรีชาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ไม่นานนักอาจารย์ทั้งสองท่านก็ลากลับ ผมออกเดินไปส่งที่รถพร้อมกำชับเรื่องการขับรถ ก่อนหลับ อาจารย์บรรจบหันมากระซิบบอกผมว่า บุคคลที่นับถือของอาจารย์ปรีชา แท้จริงแล้วคือ คุณพ่อ แกนั่นเอง เมื่อมองแสงไฟจากรถมอเตอร์ไซค์ของอาจารย์ลับตา ผมก็ถ่อสังขารไปดูนุช ในใจก็ครุ่นคิดถึงเรื่องเล่าเมื่อสักครู่อยู่ตลอด ผมเดินผ่านต้นสนเห็นเงาตะคุ่มของคนสองคนนั่นแอบอิงกัน คงเป็นหนึ่งในหมู่เพื่อน ผมคิดในใจ จึงเลี่ยงอ้อมผ่านทางด้านหลังเกรงจะกลายเป็นตัวทำเสียบรรยากาศ คืนนี้แม้จะไม่ใช่แรม 15 ค่ำ แต่สภาพท้องฟ้าเปิด หากเพ็งจริงๆ ก็พอจะมองออกว่าใครเป็นใคร ผมสวมวิญญาณนักย่องเบา พยายามให้เสียงฝ่าเท้าปะทะกับผืนทรายหรือใบไม้ใบหญ้าให้น้อยที่สุด แต่ทันใดนั้น ก็สะดุดกับเสียงของหนึ่งในนั้น น่าสงสารไอ้แห้งมัน โดนหลอกมาเป็นนอมินีให้แฟนเค้าอิจฉา พอเค้าคืนดีกันตัวเองก็เป็นหมาหัวเน่า ผมฟังอย่างตั้งใจด้วยความมึนงง เสียงที่ว่าเป็นเสียงไอ้หมี น่าสงสาร แห้งน่ะ ถึงเค้าจะรูปชั่ว ตัวดำ แต่ยังซื่อบื้ออีกด้วย หนิงว่าพี่ต้องคุยให้เค้ารู้แล้วล่ะ ไม่งั้นจะเลยเถิดไปกันใหญ่ เสียงยายหนิงทับถมผม ตอนนี้ข้างในตัวผมเหมือนมีลมวูบอะไรบางอย่างพัดเข้าไป ไม่ต้องรอให้การสนทนาจบกระบวนความ ผมวิ่งโผล่พรวดเข้าไปในทันที ไอ้....แห้ง หมีร้องเสียงหลง เออ....มึงไม่ต้องอธิบายอะไรอีกแล้ว ตอนนี้นุชไปไหน ผมคาดคั้นเอาความจริง นุชไปกับแฟนที่เป็นรุ่นพี่ ปวส.ด้วยรถเก๋งนานนับชั่วโมงแล้วมั้ง ก่อนไปเห็นฝากจดหมาย ตอนแรกจะฝากไว้ที่หนิงแต่หนิงไม่ยอมรับฝาก จะฝากกับคนอื่นก็ไม่มีใครอยากยุ่งด้วย แถมบางคนยังด่านุชมันเสียยับเลยหาว่าเป็นผู้หญิงหลอกลวง บอกให้ไปให้พี่แห้งเอง นุชมันก็ไม่กล้า เลยต้องเอาไปฝากไว้ที่เคาเตอร์แทน หนิงเล่าความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมตรงดิ่งไปยังหน้าเคาเตอร์ปลุกพนักงานให้ลุกมาในทันที โดยไม่สนใจว่านี่มันยามสามเข้าไปแล้ว นอกจากจดหมายยังมีผ้าเช็ดหน้าสีชมพู 1 ผืน ผมทั้งมึน ทั้ง งง ทั้งสับสนกับสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ แล้วนี่กูจะทำอะไรดี อ่านจดหมาย ฉีกจดหมาย เผาจดหมาย หรือฉีกเป็นชิ้นๆแล้วกลืนลงคอ เสียงคำสอนของอาจารย์ก็ดังก้องในโสตประสาท ภาพของนุชก็วนเวียนแถบรอยหยักของสมอง ผมเดินกลับจากหน้าเคาท์เตอร์ ในวงเหล้าตอนนี้ไม่มีใครนั่งอยู่แม้แต่คนเดียว สารรูปของผมจึงไม่เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก
ผมทรุดกับผืนทราย หยิบจดหมายมาพับเป็นรูปเรือ จากนั้นเอาผ้าเช็ดหน้าใส่ลงไปในเรือ รอเวลาคลื่นลูกที่แรงที่สุด เพื่อจะนำมาเรือลำน้อยไปให้ถึงฝั่งฝัน ส่วนผมขอจบเรื่องรักนอมินีไว้เพียงแค่นี้ รอพบกับตอนต่อไป เมื่อหนุ่มแห้งเข้ามาในบางกอก
Create Date : 23 สิงหาคม 2556 |
Last Update : 23 สิงหาคม 2556 12:13:38 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1143 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|