|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
รักแท้ในคืนอกตรม
หลังจากเหตุการณ์ที่เกือบจะนองเลือด ผ่านพ้นมาด้วยดี จากการช่วยเหลือของหญิงผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม มันทำให้ผมต้องลดการกินดื่ม เที่ยวให้พอประมาณ ที่สำคัญเพื่อนร่วมอุดมการณ์ในกลุ่ม ก็เริ่มจะดังแล้วแยกวง เลียนแบบศิลปินชั้นนำ ผมเองก็ย่างเข้าสู่ช่วงโค้งตัว S (หัวเลี้ยว หัวต่อ )ของชีวิต เพื่อนคนอื่นๆในชั้นเรียนต่างกุลีกุจอหาที่เรียนต่อกันจ้าละหวั่น แต่ผมกับดำเพื่อนเลิฟอีกคน ต้องมานั่งปวดขมองแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต ( เรียกให้หรู )ตั้งแต่ทำงานส่งอาจารย์ ลงเรียนกับรุ่นน้อง ในบางรายวิชาที่ตก อ้าว.....พี่มาทำอะไร เด็กรุ่นน้องถามผมกับดำทันทีที่เห็นเรานั่งรออยู่หลังห้อง มา Re เกรด เพื่อจะขอโควต้า.......มั้ง ผมตอบลากเสียงสูง พร้อมส่งสายตาทมึงทึง ประมาณว่า ถ้าเอ็งเซ้าซี้ถามต่ออาจโดยท่าคชสารอย่างในหนังต้มยำกุ้ง ไม่ว่าจะตกลำบากยากระกำ ชีช้ำกะหล่ำปลีปานใด ผมก็ต้องเอาประกาศนียบัตรวิชาชีพ ไปประดับฝาบ้านให้ได้ ไม่ได้ทำเพื่อพ่อ ไม่ได้ทำเพื่อแม่ ไม่ได้ทำเพื่อพี่ เพื่อน้อง หรือเพื่อความรัก แต่มันเพื่อตัวผมเอง และนี่คืออุดมการณ์ที่ประกาศก้องเสมอมา และนี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผมต้องเลิกชกมวยอย่างเด็ดขาด หลังจากต่อยในวันตำรวจ ( 13 ตค.34 ) ในไฟต์ชิงแชมป์ ( ตามรูปในบล็อค ) แล้วแพ้อย่างราบคาบ และเป็นที่โจษจันเพราะพ่อผมเป็นตำรวจใหญ่ แพ้ครั้งไหนไม่ว่าดันมาแพ้ในวันตำรวจ เสียชื่อลูกตำรวจหมด พ่อผมพูดตำหนิหลังจากทราบข่าว ทั้งๆที่ความจริงผมอยากจะบอกพ่อว่า ผมแพ้ทุกวันครับ ไม่ได้จำเพาะเจาะจง ว่าจะเป็นวันตำรวจ วันฮาโลวีน วันเช้งเม้ง แม้แต่วันขอบคุณพระเจ้า ผมก็สร้างสถิติมาแล้ว
เมื่อวันจบการศึกษาในระดับ ปวช.มาถึง ผมแม้จะต้องลงเรียนกับรุ่นน้อง ทำงานรับใช้อาจารย์ ก็จบพร้อมๆกับเพื่อนร่วมรุ่น ซึ่งแน่นอนว่าเรามีงานเลี้ยงสังสรรค์กันตามประเพณีบ้าง โดยในงานมีข้อกำหนด กฎเกณฑ์ที่ระบุไว้อย่างชัดแจ้ง ยิ่งกว่ากฎอัยการศึกของคณะคมช. ว่า จะต้องเชิญผู้หญิงมาในงานเลี้ยงด้วย เอาล่ะซิ สำหรับคนที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนคงไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรค แต่ผมหนุ่มหน้ามลคนหน้าหวาน ที่หัวใจยังแตกระแหง ขาดความฉ่ำชื่น ถือว่าเป็นงานยากยิ่งกว่าการชี้มูลความผิด พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ภาพในห้วงความคิด เตลิด ไปไกล เค้าหน้าเด็กพานิชย์ น้องคหกรรม ที่ผมเคยแอบชอบ โผล่สลับสับเปลี่ยน เวียนวน ในมโนสำนึก เหมือนผมจะยิ้มรับกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ แต่เปล่าเลย......นั่นเป็นเพียงการแอบชอบ เจ้าหล่อนทั้งหลาย ที่มีดีกรีตั้งแต่ ดาววิทยาลัย ดรัมเมเยอร์ เชียร์ลีดเดอร์ ไม่เคยเหลียวแลผมแม้แต่หางตาด้วยซ้ำไป มีใครพอจะรับสมอ้างมาเป็นแฟนกูบ้างไหมว่ะ ผมหันปรึกษาดำ ดำชำเลืองมาที่ผมตั้งแต่ปลายขนยันเล็บครุฑ พร้อมทำท่าทีขบคิด เหมือนแบบฉบับ สสร.ขณะประชุมร่างรัฐธรรมนูญ หน้าตามึงถึงจะไม่หล่อ แม้จะไม่รวย การแต่งตัวก็ออกแนวบ้านนอก ยานพาหนะก็ไม่มีใช้ ตัวก็ดำ แถมในบางครั้งดูเหมือนจะออกแนวปัญญาอ่อนนิดๆ นอกนั้นปัจจัยอย่างอื่น เช่น ไม่ชอบอาบน้ำ ไม่ล้างหน้า ไม่แปรงฟัน ในตอนเช้า........ ดำสาธยาย พอๆ พอ......ไม่ใช่ให้มาวิจารณ์ พฤติกรรมเอกลักษณ์เอกบุรุษอย่างกู ผมร้องปราม ก่อนที่ชีวิตอันศรีวิไลจะเหลวแหลกไปมากกว่านี้ มีอยู่คน ดำเสนอทางออก น้องนุช เป็นระดับสะเก็ดดาวของวิทยาลัย ควงได้ไม่อายใคร หน้าตาระดับ B- อยู่หอเดียวกับน้องสาวกู ผมพยายามนึกหน้าตาของเจ้าหล่อนตามคำบอกเล่า ตรงเผง หล่อนเคยไปเที่ยวในอำเภอที่ผมอยู่ โดยเดินทางไปกับน้องสาวของดำ หล่อนไว้ผมสั้นประบ่า ตาโต ผิวขาว รูปร่างสูง ใครว่าสะเก็ดดาว อย่างนี้ ต้องระดับ3 ดาวเป็นอย่างน้อย ด้วยอาศัยคอนเนกชั่นส่วนตัวของน้องสาวดำ มันทำให้มีภาษี โอกาสมากขึ้น แต่ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือนเศษๆ จึงทำให้ผมเริ่มไม่มั่นใจใน รักเฉพาะกิจ ครั้งนี้ กูควรเริ่มต้นยังงัยดี เพื่อให้เค้ารู้ว่ากูชอบเค้า ผมขอคำแนะนำจากคาสโนว่าดำ ความจริงน้องเค้าเพิ่ง อกหักจากรุ่นพี่ ปวส. ตอนนี้น่าจะต้องการคนปลอบประโลมจิตใจ ถือเป็นจังหวะที่เหมาะที่สุดสำหรับการณ์ในครั้งนี้ ดำเริ่มแย้มความในที่แท้จริง ถึงว่า.....ฟังดูทะแม่งๆตั้งแต่ทีแรก ทำไมต้องจำเพาะเจาะจงว่าต้องเป็นน้องคนนี้ แต่ไม่เป็นไร จะอย่างไรก็ช่าง นี่อาจเป็นการแปลงวิกฤตเป็นโอกาส แปลงสินทรัพย์ เป็นทุน ทั้งหมดอาจเป็นเพียงเทพเจ้าแห่งความรักกลั่นแกล้งมันเป็นเพียง รักอลวน ที่มักหาได้เสมอสำหรับคู่รักแท้ ผมสร้างคำจำกัดความให้กับรักครั้งแรกเสมอ ผมบอกดำให้แจ้งผ่านน้องสาวมัน คือแสร้งทำทีนัดนุชมาเที่ยวแถวละแวกบ้าน แล้ววันเวลานั้นก็มาถึง นุชกับอ้อมน้องสาวของดำ นั่งอยู่บริเวณศาลาท่าน้ำ ( ทะเลแถบบ้านผม ต้องผ่านสะพานข้ามแม่น้ำประมาณ 300 เมตร ก่อนจะถึงทะเล ) ไม่นานนัก พระเอกในท้องเรื่องอย่างผม ก็แกล้งเดินหลงเข้าไปเจอแบบไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุรัก อ้าว.....อ้อมมาเที่ยวทะเลเหรอ ผมทักทายอ้อม นุชหันมาผงะ เล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียง พร้อมๆกับหันหน้ามองมาทางผม ค่ะ พี่แห้งจะไปไหน ไปเที่ยวทะเลเป็นเพื่อนหน่อยซิ พวกวัยรุ่นติดยามันแยะ เพื่อจะได้คุ้มครอง พอดีพาเพื่อนจากนรามาเที่ยวด้วย.........นุชนี่พี่แห้ง.......รุ่นพี่เราสองปี อยู่ห้องเดียวกับพี่ดำพี่ชายเรา อ้อม เชื้อเชิญผมไปเป็นบอดี้การ์ด และแนะนำให้รู้จักกับนุชอย่างเป็นทางการ สวัสดี ค่ะ ชื่อพี่แปลกดี นุชหันมาสวัสดีผมด้วยคำพูดแทนการยกมือไหว้ แถมแซวเรื่องชื่อทิ้งท้าย ผมยิ้มรับอย่างเขิน จนน้ำลายแอบไหลจากมุมปาก ไปซิ พี่ว่างอยู่พอดีเดี๋ยวจะไม่ทันดูพระอาทิตย์ตกดิน เชิญครับ ผมผายลมหลังจากอั้นมานาน ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญสุภาพสตรี ให้ก้าวผ่านไปก่อนตามมารยาทสุภาพบุรุษที่เห็นกันในนิยายน้ำเน่า ระหว่างทางดูเหมือนอ้อมจะรู้เห็นเป็นใจ รีบเดินออกนำไปก่อนปล่อยให้ผม กับนุชเดินห่างกันในระยะ 1 ช่วงตึก ชอบเที่ยวทะเลไหมครับ ผมยิงคำถามแรกทันที หล่อนเดินต่อไปไม่ตอบ ไม่พูด จนผมรู้สึกผิดขึ้นมาในบัดดล ณ.วินาทีนั่นเอง ผมแอบมองหล่อนชัดๆ เต็มสองลูกกะตา หล่อนกำลังร้องไห้ แม้ไม่มีเสียงสะอื้นให้ได้ยิน แต่พอจะมองนัยน์ตาออกว่าเพิ่งผ่านการร้องไห้มา ผมทำใจดีสู้เสือขัดจังหวะช่วงเศร้าของนุช เป็นอะไรไปครับ ถ้าไม่อยากไป เราจะกลับกันเลยก็ได้ ผมไปเรียกอ้อมให้ หล่อนหันมามองหน้าผม ตายังแดง พร้อมคราบน้ำตาที่ติดบริเวณขนตางอนของหล่อน นุชไม่เป็นไร แต่มีเรื่องเสียใจนิดหน่อย เสียงหล่อนแผ่วเบา และขาดช่วงไปบ้างในบางคำ มีอะไรลองระบายมันออกมา ผมจะเป็นนักฟังที่ดี ผมสวมบทพระเอกตามสัญชาตญาณ หลังจากนั้นนุชก็ปล่อยโฮ อย่างไม่เกรงใจเทพเจ้าโพไซดอนแห่งท้องทะเลลึก นั่นทำให้ผมอึ้งไปชั่วขณะ หวิดจะร้องไห้เป็นเพื่อนเธอ ทำไมพี่เค้าต้องทำกับนุชอย่างนี้ด้วย นุชให้พี่เค้าทุกอย่าง ทั้งตัว หัวใจ หรือแม้กระทั่งเงินทอง ทำไม นุชระบายออกมา โดยที่ผมแทบจะไม่ทราบว่า พี่ ที่หล่อนพูดถึงคือใคร และทำอะไรกับหล่อนไว้บ้าง นุชยังคงพูดซ้ำๆอย่างนั้นหลายต่อหลายครั้ง ใจเย็นๆนุช ผู้ชายหล่อ รวยน่ะมีมากแต่ที่หายาก คือคนดี ผมหยอดมุขเด็ด หวังจะให้หล่อนยิ้มได้ แต่ตรงกันข้าม หล่อนยิ่งฟูมฟายหนักเป็นจุฬาตรีคูณ ผมรวบรวมความกล้าทั้งหมด เอื้อมมือขวาสากๆ ของตัวเอง ไปเกาะกุมมือของนุชโดยพลการ แม้จุดประสงค์จะหวังดี แต่ท่าทีอาจดูหื่นกามไปบ้าง ไม่รู้นุชจะเข้าใจในความรู้สึกผมหรือป่าว เมื่อไม่มีปฏิกิริยาใดสนองตอบ เมื่อย่ามใจมากขึ้นผมเลยใช้วงแขนโอบกอดนุช พร้อมออกแรงเพื่อดึงเธอให้ซบมาร้องไห้กับอกผมแทนราวสะพาน นุชไม่มีท่าทีขัดขืน ดึงดันแม้แต่น้อย หลังจากพายุความโศกเศร้าจางหายไป นุชก็รีบสปริงตัวออกจากอ้อมแขนผมในทันที พี่คิดว่า....ผู้หญิงอย่างนุช ไม่ควรโดดเดี่ยวแม้แต่เพียงเสี้ยววินาที ควรจะมีผู้ชายดูแล ถ้านุชไม่รังเกียจพี่ขออาสาเป็นผู้ชายคนนั้นเอง ด้วยเกียรติของนักมวยและลูกชายนายตำรวจ ผมนำพื้นฐานทางครอบครัวมาอ้างอิงในความรัก นุชมองผมเหมือนกำลังหาคำตอบให้ตัวเอง ก็ได้ ค่ะ นุชตอบสั้นๆ แต่มีความหมายมากมายมหาศาล ทำอะไรกันอยู่ ช้าจัง จีบกันอยู่เหรอ อ้อมร้องตามมาแต่ไกลเมื่อเห็นเรายังไปไม่ถึงไหน ถ้าอ้อมมาเร็วกว่านั้นอาจได้เห็นชายหนุ่มคนนี้ กระโดดโลดเต้น เป็นบ้า เป็นหลัง เราสามคนเดินตรงไปยังชายหาด ผมเดินจับมือกับนุชตลอดเส้นทาง มีอ้อมเป็นประจักษ์พยาน มีเสียงลม เสียงคลื่น เป็นมโหรี ขับกล่อม ให้จังหวะในท่วงทำนอง ยามนี้แม้ผมจะถูกอายัดทรัพย์ ห้ามเข้าประเทศ ตัดสิทธิทางการเมือง ก็ยอม.....เป็นงัยเป็นกัน........นุช.....ที่รัก
|
Create Date : 08 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 5 สิงหาคม 2550 15:24:42 น. |
|
5 comments
|
Counter : 685 Pageviews. |
|
|
|
โดย: รักกานต์ (รักกานต์ ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:49:33 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 2 สิงหาคม 2550 เวลา:0:23:41 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:23:37:19 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:14:06:54 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:23:36:26 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|