|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
อาบัติสังฆาทิเสส ๑๓
อาบัติสังฆาทิเสส ๑๓
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑
สัญเจตะนิกา สุกกะวิสัฏฐิ, อัญญัต๎ระ สุปินันตา สังฆาทิเสโส.
ปล่อยสุกกะ (อสุจิ)เป็นไปด้วยความจงใจ เว้นไว้แต่ฝันเป็นิสังฆาทิเสส.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๒
โย ปะนะ ภิกขุ โอติณโณ วิปะริณะเตนะ จิตเตนะ มาตุคาเมนะ.....
อนึ่ง ภิกษุใดกำหนัดแล้ว มีจิตแปรปรวนแล้ว ถึงความเคล้าคลึงด้วยกายกับมาตุคาม คือจับมือก็ตาม จับช้องผมก็ตามลูบคลำอวัยวะอันใดอันหนึ่งก็ตาม เป็นสังฆาทิเสส.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๓
โย ปะนะ ภิกขุ โอติณโณ วิปะริณะเตนะ จิตเตนะ มาตุคามัง.....
อนึ่ง ภิกษุใด กำหนัดแล้ว มีจิตแปรปรวนแล้ว พูดเคาะ(ล่วงเกิน)มาตุคาม ด้วยวาจาชั่วหยาบ เหมือนชายหนุ่มพูดเคาะหญิงสาว ด้วยวาจาพาดพิงเมถุน เป็นสังฆาทิเสส.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๔
โย ปะนะ ภิกขุ โอติณโณ วิปะริณะเตนะ จิตเตนะ มาตุคามัสสะ.....
อนึ่ง ภิกษุใด กำหนัดแล้ว มีจิตแปรปรวนแล้ว กล่าวคุณแห่งการบำเรอตนด้วยกามในสำนักมาตุคาม ด้วยถ้อยคำพาดพิงเมถุนว่า น้องหญิง สตรีใดบำเรอผู้ประพฤติพรหมจรรย์ มีศีลมีกัลยาณธรรม เช่นเรา ด้วยธรรมนั่น นั่นเป็นยอดแห่งความบำเรอทั้งหลาย เป็นสังฆาทิเสส.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๕
โย ปะนะ ภิกขุ สัญจะริตตัง สะมาปัชเชยยะ อิตถิยา.....
อนึ่ง ภิกษุใดถึงความเป็นผู้ชักสื่อ บอกความประสงค์ของบุรุษแก่สตรีก็ดี บอกความประสงค์ของสตรีแก่บุรุษก็ดี ในความเป็นเมียก็ตาม ในความเป็นชู้ก็ตาม โดยที่สุด บอกแม้แก่หญิงแพศยาอันจะพึงอยู่ร่วมชั่วขณะ เป็นสังฆาทิเสส.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๖
สัญญาจิกายะ ปะนะ ภิกขุนา กุฏิง การะยะมาเนนะ.....
อนึ่ง ภิกษุผู้จะสร้างกุฎีอันหาเจ้าของมิได้ เฉพาะตนเองด้วยอาการขอเอาเอง พึงสร้างให้ได้ประมาณ ประมาณในการสร้างกุฎีนั้นดังนี้ โดยยาว ๑๒ คืบ โดยกว้างในร่วมใน ๗ คืบ ด้วยคืบพระสุคต๑ พึงนำภิกษุทั้งหลายไปเพื่อแสดงที่ ภิกษุเหล่านั้นพึงแสดงที่อันไม่มีผู้จองไว้ อันมีชานรอบ หากภิกษุสร้างกุฎีด้วยอาการขอเอาเอง ในที่อันมีผู้จองไว้ อันหาชานรอบมิได้ หรือไม่นำภิกษุทั้งหลายไปเพื่อแสดงที่ หรือสร้างให้ล่วงประมาณเป็นสังฆาทิเสส.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๗
มะหัลละกัมปะนะ ภิกขุนา วิหารัง การะยะมาเนนะ.....
อนึ่งภิกษุจะให้สร้างวิหารใหญ่ อันมีเจ้าของเฉพาะตนเองพึงนำภิกษุทั้งหลายไปเพื่อแสดงที่ ภิกษุเหล่านั้นพึงแสดงที่อันไม่มีผู้จองไว้ อันมีชานรอบ หากภิกษุให้สร้างวิหารใหญ่ ในที่อันมีผู้จองไว้ อันหาชานรอบมิได้ หรือไม่นำภิกษุทั้งหลายไปเพื่อแสดงที่ เป็นสังฆาทิเสส.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๘
โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุง ทุฏโฐ โทโส อัปปะตีโต อะมูละเกนะ.....
อนึ่ง ภิกษุใด ขัดใจ มีโทสะ ไม่แช่มชื่น ตามกำจัด ซึ่งภิกษุด้วยธรรมมีโทษถึงปาราชิก อันหามูลมิได้ ด้วยหมายว่า แม้ไฉนเราจะยังเธอให้เคลื่อนจากพรหมจรรย์นี้ได้ ครั้นสมัยอื่นแต่นั้นอันผู้ใด ผู้หนึ่ง ถือเอาตามก็ตาม ไม่ถือเอาตามก็ตาม แต่อธิกรณ์นั้น เป็นเรื่องหามูลมิได้ แลภิกษุยันอิงโทสะอยู่ เป็นสังฆาทิเสส.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๙
โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุง ทุฎโฐ โทโส อัปปะตีโต อัญญะภาคิยัสสะ.....
อนึ่ง ภิกษุใด ขัดใจ มีโทสะ ไม่แช่มชื่น ถือเอาเอกเทศ บางแห่ง แห่งอธิกรณ์อันเป็นเรื่องอื่น ให้เป็นเพียงเลศ ตามกำจัดซึ่งภิกษุ ด้วยธรรมอันมีโทษถึงปาราชิก ด้วยหมายว่า แม้ไฉนเราจักยังเธอให้เคลื่อนจากพรหมจรรย์นี้ได้ ครั้นสมัยอื่นแต่นั้นอันผู้ใดผู้หนึ่งถือเอาตามก็ตาม ไม่ถือเอาตามก็ตาม แต่อธิกรณ์นั้นเป็นเรื่องอื่นแท้ เอกเทศบางแห่ง เธอถือเอาพอเป็นเลศแลภิกษุ ยันอิงโทสะอยู่ เป็นสังฆาทิเสส.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๐
โย ปะนะ ภิกขุ สะมัคคัสสะ สังฆัสสะ เภทายะ.....
อนึ่ง ภิกษุใด ตะเกียกตะกายเพื่อทำลายสงฆ์ผู้พร้อมเพรียงหรือถือเอาอธิกรณ์อันเป็นเหตุแตกกัน ยกย่องยันอยู่ ภิกษุนั้นอันภิกษุทั้งหลายพึงว่ากล่าวอย่างนี้ว่า ท่านอย่าได้ตะเกียกตะกายเพื่อทำลายสงฆ์ผู้พร้อมเพรียง หรืออย่าได้ถือเอาอธิกรณ์อันเป็นเหตุแตกกันยกย่องยันอยู่ ขอท่านจงพร้อมเพรียงด้วยสงฆ์ เพราะว่าสงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกัน ปรองดองกัน ไม่วิวาทกัน มีอุเทศเดียวกันย่อมอยู่ผาสุก แลภิกษุนั้น อันภิกษุทั้งหลายว่ากล่าวอยู่อย่างนี้ยังยกย่องอยู่อย่างนั้นเทียว ภิกษุนั้น อันภิกษุทั้งหลาย พึงสวดสมนุภาสน์กว่าจะครบสามจบเพื่อให้สละกรรมนั้นเสีย หากเธอถูกสวดสมนุภาสน์กว่าจะครบสามจบอยู่ สละกรรมนั้นเสีย สละได้อย่างนี้ นั่นเป็นการดี หากเธอไม่สละเสีย เป็นสังฆาทิเสส.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๑
ตัสเสวะ โข ปะนะ ภิกขุสสะ ภิกขู โหนติ อะนุวัตตะกา.....
อนึ่ง มีภิกษุผู้ประพฤติตาม ผู้พูดเข้ากันของภิกษุนั้นแล ๑ รูปบ้าง ๒ รูปบ้าง ๓ รูปบ้าง เธอทั้งหลายกล่าวอย่างนี้ว่า ขอท่าน ทั้งหลายอย่าได้กล่าวคำอะไรๆ ต่อภิกษุนั่น ภิกษุนั่นกล่าวถูกธรรมด้วย ภิกษุนั่นกล่าวถูกวินัยด้วย ภิกษุนั่นถือเอาความพอใจและความชอบใจของพวกข้าพเจ้ากล่าวด้วย เธอทราบความพอใจและความชอบใจของพวกข้าพเจ้าจึงกล่าว คำที่เธอกล่าวนั่นย่อมควรแม้แก่พวกข้าพเจ้าภิกษุเหล่านั้น อันภิกษุทั้งหลายพึงว่ากล่าวอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายอย่าได้กล่าวอย่างนั้น ภิกษุนั่นหาใช่ผู้กล่าวถูกธรรมไม่ด้วย ภิกษุนั่นหาใช่ผู้กล่าวถูกวินัยไม่ด้วย ความทำลายสงฆ์อย่าได้ ชอบแม้แก่พวกท่าน ขอพวกท่านจงพร้อมเพรียงด้วยสงฆ์ เพราะว่าสงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกัน ปรองดองกันไม่วิวาทกัน มีอุเทศเดียวกัน ย่อมอยู่ผาสุก แลภิกษุเหล่านั้น อันภิกษุทั้งหลายว่ากล่าวอยู่อย่างนี้ ยังยกย่องอยู่อย่างนั้นเทียว ภิกษุเหล่านั้น อันภิกษุทั้งหลายพึงสวดสมนุภาสน์กว่าจะครบสามจบ เพื่อให้สละกรรมนั้นเสีย หากเธอทั้งหลายถูกสวดสมนุภาสน์กว่าจะครบสามจบอยู่ สละกรรมนั้นเสีย สละได้อย่างนี้นั่นเป็นการดี หากเธอทั้งหลายไม่สละเสียเป็นสังฆาทิเสส.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๒
ภิกขุ ปะเนวะ ทุพพะจะชาติโก โหติ, อุทเทสะปะริยาปันเนสุ.....
อนึ่งภิกษุเป็นผู้มีสัญชาติแห่งคนว่ายาก อันภิกษุทั้งหลายว่ากล่าวอยู่ ถูกทางธรรม ในสิกขาบททั้งหลายอันเนื่องในอุเทศทำตนให้เป็นผู้อันใครๆ ว่ากล่าวไม่ได้ ด้วยกล่าวโต้ว่า พวกท่านอย่าได้กล่าวอะไรต่อเรา เป็นคำดีก็ตาม เป็นคำชั่วก็ตาม แม้เราก็จักไม่กล่าวอะไรๆ ต่อพวกท่านเหมือนกัน เป็นคำดีก็ตามเป็นคำชั่วก็ตามขอพวกท่านจงเว้นจากการว่ากล่าวเราเสียภิกษุนั้นอันภิกษุทั้งหลายพึงว่ากล่าวอย่างนี้ว่า ท่านอย่าได้ทำตนให้เป็นผู้อันใครๆ ว่ากล่าวไม่ได้ ขอท่านจงทำตนให้เขาว่ากล่าวได้แล แม้ท่านก็จงว่ากล่าวภิกษุทั้งหลายโดยชอบธรรม แม้ภิกษุทั้งหลายก็จักว่ากล่าว ท่านโดยชอบธรรม เพราะว่าบริษัท ของพระผู้มีพระภาคนั้น เจริญแล้วด้วยอาการอย่างนี้ คือด้วยว่ากล่าวซึ่งกันและกัน ด้วยเตือนกันและกันให้ออกจากอาบัติ แลภิกษุนั้นอันภิกษุทั้งหลายว่ากล่าวอยู่อย่างนี้ ยังยกย่องอยู่อย่างนั้นเทียวภิกษุนั้น อันภิกษุทั้งหลายพึงสวดสมนุภาสน์กว่าจะครบสามจบเพื่อให้สละกรรมนั้นเสีย หากเธอถูกสวดสมนุภาสน์กว่าจะครบสามจบอยู่ สละกรรมนั้นเสีย สละได้อย่างนี้ นั่นเป็นการดี หากเธอไม่สละเสีย เป็นสังฆาทิเสส.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓
ภิกขุ ปะเนวะ อัญญะตะรัง คามัง วา นิคะมัง วา.....
อนึ่ง ภิกษุเข้าไปอาศัยบ้านก็ดี นิคมก็ดี แห่งใดแห่งหนึ่งอยู่เป็นผู้ประทุษร้ายสกุล มีความประพฤติเลวทราม ความประพฤติเลวทรามของเธอ เขาได้เห็นอยู่ด้วย เขาได้ยินอยู่ด้วยและสกุลทั้งหลายอันเธอประทุษร้ายแล้ว เขาได้เห็นอยู่ด้วย เขาได้ยินอยู่ด้วย ภิกษุนั้นอันภิกษุทั้งหลาย พึงว่ากล่าวอย่างนี้ว่า ท่านเป็นผู้ประทุษร้ายสกุล มีความประพฤติเลวทราม ความประพฤติเลวทรามของท่านเขาได้เห็นอยู่ด้วย เขาได้ยินอยู่ด้วย และสกุล ทั้งหลายอันท่านประทุษร้ายแล้ว เขาได้เห็นอยู่ด้วย เขาได้ยินอยู่ด้วย ท่านจงหลีกไปเสียจากอาวาสนี้ ท่านอย่าอยู่ในที่นี้ และภิกษุนั้นอันภิกษุทั้งหลายว่ากล่าวอยู่อย่างนี้ พึงกล่าวกับภิกษุเหล่านั้นอย่างนี้ว่า พวกภิกษุถึงความพอใจด้วย ถึงความขัดเคืองด้วยถึงความหลงด้วย ถึงความกลัวด้วย ย่อมขับภิกษุบางรูป ย่อมไม่ขับภิกษุบางรูป เพราะอาบัติเช่นเดียวกัน ภิกษุนั้น อันภิกษุทั้งหลายพึงว่ากล่าวอย่างนี้ว่า ท่านอย่าได้กล่าวอย่างนั้นภิกษุทั้งหลาย หาได้ถึงความพอใจไม่ หาได้ถึงความขัดเคืองไม่หาได้ถึงความหลงไม่ หาได้ถึงความกลัวไม่ ท่านเองแลเป็นผู้ประทุษร้ายสกุล มีความประพฤติเลวทราม ความประพฤติเลวทรามของท่าน เขาได้เห็นอยู่ด้วย เขาได้ยินอยู่ด้วย และสกุลทั้งหลาย อันท่านประทุษร้ายแล้ว เขาได้เห็นอยู่ด้วยเขาได้ยินอยู่ด้วย ท่านจงหลีกไปเสียจากอาวาสนี้ ท่านอย่าอยู่ในที่นี้ และภิกษุนั้น อันภิกษุทั้งหลายว่ากล่าวอยู่อย่างนี้ ยังยกย่องอยู่อย่างนั้นเทียว ภิกษุนั้น อันภิกษุทั้งหลายพึงสวดสมนุภาสน์กว่าจะครบสามจบ เพื่อให้สละกรรมนั้นเสียหากเธอถูกสวดสมนุภาสน์กว่าจะครบสามจบอยู่ สละกรรมนั้นเสีย สละได้อย่างนี้นั่นเป็นการดี หากเธอไม่สละเสีย เป็นสังฆาทิเสส.
Create Date : 04 มีนาคม 2554 |
Last Update : 4 มีนาคม 2554 17:35:56 น. |
|
31 comments
|
Counter : 2213 Pageviews. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:21:29:34 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:15:44:35 น. |
|
|
|
โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:22:51:26 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:15:49:54 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:19:58:45 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:12:15:36 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:15:11:45 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:16:44:58 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:10:42:39 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:11:33:10 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:18:53:26 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:11:28:21 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:15:03:59 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 3 เมษายน 2554 เวลา:18:59:18 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 5 เมษายน 2554 เวลา:16:13:36 น. |
|
|
|
โดย: แม่ออมบุญ วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:14:41:48 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:9:49:06 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:14:39:11 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 20 เมษายน 2554 เวลา:15:07:29 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 21 เมษายน 2554 เวลา:17:22:31 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 22 เมษายน 2554 เวลา:11:12:25 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:12:41:07 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:10:09:09 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 28 เมษายน 2554 เวลา:9:35:01 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 29 เมษายน 2554 เวลา:15:13:56 น. |
|
|
|
โดย: ม่านแพร IP: 223.207.46.14 วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:25:40 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:02:17 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:19:03 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:15:12 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:30:44 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 19 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:09:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เมื่อสัตว์ถูกชรานำเข้าไปแล้ว ไม่มีผู้ป้องกัน
มีความสุขกับเวลาอันหาค่ามิได้ ตลอดไป..นะคะ
ฝันดี ราตรีสวัสดิ์...ค่ะ