Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
25 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
ช่วงเวลาที่หายไป

             ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจถามตัวเองอยู่ตลอดว่าไม่ได้เขียนบล๊อคมานานเท่าไรแล้วนะ เดาว่าครั้งสุดท้ายที่เขียนน่าจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์ หรือ มีนาคม ละมั๊ง...แต่มาดูอีกทีตั้งแต่ ธันวาคมเลยเหรอเนี่ย นี่มันสิงหาแล้วนะอีกไม่กี่เดือนก็จะครบปีอยู่แล้ว เวลามันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วอะไรอยากนี้...
            ก็มันมีอะไรหลาย ๆ อย่างเข้ามาในชีวิต แล้วมันยังหาจุดสรุปให้ตัวเองยังไม่ได้เหมือนคนที่โดนพายุพัดเลยต้องรอให้พายุสงบ รอทุกอย่างมันสรุปด้วยตัวของมันเองซะก่อน ชีวิตเราเนี่ยก็แปลกหลายปีที่ผ่านมาเจรอการเปลี่ยนแปลงของชีวิตมาตลอด ทั้งเรื่องการขยับตำแหน่ง การเปลี่ยนงาน การเปลี่ยนที่อยู่ แต่อยู่ ๆในวันที่มีอย่างนึงเข้ามาก็ดันมีหลายสิ่งวิ่งเข้ามาพร้อม ๆ กันซึ่งแต่ละอย่างคุณต้องเลือกแค่อย่างเดียว...เหมือนอยู่ดีดีเดินมาเจอทางสี่ ห้าแพร่ง...ไม่ว่าเลือกทางไหนคุณก็ไม่มีทางรู้จุดจบของมันทั้งนั้น หรือไม่มีทางรู้เลยว่าข้างทางจะเป็นยังไง มีสิทธิเลือกได้จากบานประตูที่ปิดอยู่รอคุณเปิดเข้าไปเท่านั้น เรื่องมันเริ่มจาก

1 อยู่ดีๆพ่อก็โทรมาบอกให้ไปสมัครเป็นอาจารย์ที่มหาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งในภาคเหนือ
2 หัวหน้าบอกว่าเดี่๋ยวจะเลื่อนตำแหน่งให้นะแต่ต้องย้ายส่วนงานเพราะต้องรับผิดชอบงานกว้างขึ้น
3 มีพี่อีกคนโทรมาชวนไปทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งที่เคยเป็นหนึ่งในความฝันของเรา

             เจเลือกที่จะทำตามข้อ 1 ก่อนถึงแม้ว่าไม่รู้ว่าจะทำได้ดีรึเปล่าเพราะมันไม่เคยอยู่ในอาชีพในฝันของเจเลย แต่บางทีเราก็ต้องตัดสินใจทำในสิ่งที่ทำให้พ่อกับแม่สบายใจ
             ก็เลยต้องบอกหัวหน้าและพี่คนนั้นไปว่าคงต้องไปเป็นอาจารย์แล้วล่ะพับทุกอย่างเตรียมเปลี่ยนสายงานจากสาวโรงงานไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยกันก็ครานี้....ลาออก เก็บกระเป๋ากลับบ้านไปตั้งหลัก...
            แต่....ชีวิตยังมีจุดเปลี่ยนหลังจากผ่านขั้นตอนการคัดเลือก สอบ และมอบตัว วันก่อนทำสัญญาจ้าง 1 วันขณะที่พากันตระเวนหาหอพักกันอยู่ (จริง ๆ แล้วเป็นแผนของเจนิดโหน่ย จริง ๆ แล้วยังไม่ต้องรีบหาก็ได้อาทิตย์แรก ๆ นอนโรงแรมไปก่อนก็ได้แต่แค่อยากแกล้งพ่อกะแม่ให้ลำบากเล่น ๆ 555)   อยู่ ๆ คุณหญิงแม่เกิดมองเห็นอะไรในตัวลูกสาวคนนี้ก็ไม่ทราบได้ ถามว่าถ้าแม่บอกว่าให้กลับบ้านเหอะลูกไม่ต้องเป็นอาจารย์แล้วลูกจะเสียดายมั้ย แม่เป็นห่วงเพราะไกลบ้านและการเดินทางผ่านเหวผ่านเขาแม่เป็นห่วง  เจตอบแบบไม่ต้องคิดว่า...ไม่เสียดายแต่กลับสบายใจที่สุด อย่างน้อยก็ได้พยายามทำในสิ่งที่พ่อกับแม่อยากให้ทำสำเร็จแล้วส่วนการตัดสินใจไม่ให้ทำก็เป็นการตัดสินใจของแม่เอง จริง ๆ แล้วมันก็มีเหตุผลประกอบอีกพอสมควรละไว้ในที่นี้นะคะยาวมากแต่สรุปว่างานนี้ภาระกิจยกเลิก by คุณหญิงแม่ จบข่าวค่ะ
            หลังจากที่ไม่ต้องเป็นอาจารย์แล้วทำไรต่อละก็งานที่ทำอยู่ก็ลาออกแล้วเพราะจะไปเริ่มงานใหม่อยู่พรุ่งนี้แล้วนี่สิ เลยโทรไปหาพี่ในหัวข้อที่ 3 ว่ายังมีตำแหน่งว่างอยู่มั้ย โชคดีรึเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ ยังว่าง.....แต่ก็ต้องทำตามระเบียบบริษัทคือมีการคัดเลือกกันอีกหลายด่าน
        4    ... และ อยู่ ๆ ก็มีสายจากหัวหน้าเก่าโทรมา...ตามกลับไปทำงานในตำแหน่งเดิมโดยคืนสภาพเดิมให้ทั้งหมดประมาณว่าฉีกใบลาออกทิ้ง
        5   ... และ พี่อีกคน คนนี้ให้ชื่อนางว่าเจ๊ปรี..แนะนำไปทำที่บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งที่พึ่งจะเปิดใหม่ในภาคอีสาน...อันนี้น่าสนในมากใกล้บ้านซะด้วย

แล้ว......................จะเลือกอะไรดี
แล้ว......................ถ้าไม่มีที่ไหนเลือกเรา

เห็นมั้ยคะมีทางแยกเข้ามาอีกแล้วรักพี่เสียดายน้องที่สุด

แต่ เจเชื่อว่าคนเราน่าจะมีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ อีกยังมีอะไรที่ต้องออกไปดูอีกเยอะ แม้จะซึ้งใจหัวหน้าเก่าอยู่ไม่น้อยแต่เจขอเลือกที่จะก้าวไปข้างหน้าแม้ยังไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรรู้สึกว่ามันท้าทายกว่าการกับไปทำในสิ่งที่เคยทำมาหลายปีแล้วอย่างน้อยก็เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ เปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง

เจเลือกที่จะสมัครงาน ที่ข้อ 3 และ ข้อ 5 พร้อมกัน...แต่รู้มั้ยคะว่ากว่าเค้าจะเรียกเวลาผ่านไป 2 เดือน ระว่างนั้นเจทำอะไร...

เดือนแรกผ่านไปกับการสัมภาษณ์งานกับ ข้อ 3 รอบแรก และช่วยงานที่บ้านในตำแหน่ง ผจก. สินทรัพย์บุพการี เอิ๊กๆ

กำลังจะผ่านไปอีกเดือน
       อยู่ๆ อีน้องชายสุดสวาทก็โทรมาเรียกให้ไปช่วยทำ วิทยานิพนธ์ (IS) ไอ้เราก็นึกว่าคงจะแค่แก้ฟอร์มไม่ก็คงช่วยพิมพ์บ้างนิดหน่อย...เปล่าเล๊ยย...เริ่มกันตั้งแต่ไปตั้งชื่อเรื่องให้กันเลยทีเดียว ฮึ่มมมม เอาใบปริญญามาให้ชั้นเลยมั้ยแก..Smiley.  แต่ก็สงสารอ่ะค่ะถ้าไม่ช่วยก็ไม่จบเพราะคุณชายงานยุ่งมากเลิกงานสี่ทุ่มไปทำงานหกโมงเช้าเป็นเจก็คงไม่ได้ทำไรเหมือนกันนอกจาก ทำงานเสร็จ กลับถึงบ้าน อาบน้ำนอน อีกอย่างก็ทำเพื่อความสบายใจของพ่อกับแม่อีกเหมือนเคยค่ะ เหมือนเป็นคนดีเน๊าะ หุหุ Smiley
ก็ว่าง... สุดท้าย IS ที่ทำกันตั้งแต่บทแรกยันสอบก็เสร็จลุล่วงไปได้ภายใน 1 เดือน น่าทึ่งมากเจว่าคงมีคนดีๆน้อยคนมากที่ทำได้ถ้าไม่ใช่คนบ้า 555 แม่ยังบอกเลยว่าตอนเจจบโทไม่เห็นต้องมาลุ้นเหนื่อยเหมือนของน้องเลย เพราะเจทำเองหมด แต่นี่มันลุ้นกันทั้งตระกูล ถือว่างานนี้ทำให้พ่อแม่สบายใจไปได้อีกเรื่อง อิอิ

หลังการสัมภาษณ์ไปแล้ว 3 รอบ  กับบริษัทข้อ 3 และมีการตกลงเรื่องทำงานกันแล้ว
วันเดียวกัน บริษัทข้อ 5 ก็โทรมาเรียกสัมภาษณ์บ้าง เฮ้อตอนรอก็ไม่ติดต่อมาเน๊าะพอรับที่อื่นแล้วดันโทรมาซะงั้น...ถึงแม้จะอยากไปเพราะใกล้บ้านแต่ก็คงต้องปฎิเสธไปละเพราะได้ตกลงกับ บริษัทข้อ 3 ไปแล้วนิไม่อยากผิดคำพูด ไม่อยากให้คนแนะนำเสียคน สรุปว่าตอนนี้เปลี่ยนจากสาวประจำโรงงานมาเป็นสาวไม่จำโรงงานคือเป็น Technical service Engineer ถึงจะไม่ใช่พนักงานโรงงานแต่ก็ต้องเข้าโรงงานทุกวัน แถมโดนบังคับให้ใส่ฟอร์มของบริษัทนั้นจนหลาย ๆ คนนึกว่าเจเป็นพนักงานโรงงานนั้นเรียบร้อย

ที่นี่มีอะไรต๊อง ๆ ฮา ๆ ของคนมาเล่าอีกเยอะเลยค่ะ สองเดือนที่เข้ามาทำงานที่นี่ได้เจอะเจอคนหลายรูปแบบ เดียวว่าง ๆ จะมาอัฟใหม่นะวันนี้ยาวละ

จบแบบงงๆนี่แหละจ้า
ฝันดีนะจุ๊ฟๆ Smiley








Create Date : 25 สิงหาคม 2556
Last Update : 25 สิงหาคม 2556 22:35:11 น. 0 comments
Counter : 505 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Dalapat
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




กำลังใช้ชีวิตอย่างพยายาม หรือ กำลังพยายามใช้ชีวิต แต่ยังไงพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ จะพยายาม ^_____^
free counters
Free counters
Friends' blogs
[Add Dalapat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.