|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
ทำฟันปลอมแบบไหนดี? เปรียบเทียบฟันปลอมแบบติดแน่นและแบบถอดได้ |
|
ผู้ที่สูญเสียฟันแท้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพฟันที่ทำให้จำเป็นต้องถอนฟันทั้งซี่ หรือเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดจนสูญเสียฟันไป มักได้รับการแนะนำให้ใส่ฟันปลอมทดแทนทันที
หลายๆ คนอาจกำลังสงสัยว่า ในความเป็นจริงแล้วจำเป็นต้องใส่ฟันปลอมหรือไม่? และหากจำเป็นต้องใส่ ควรเลือกใส่ฟันปลอมแบบไหนจึงจะดีที่สุด? บทความนี้จะพาคุณไปดูเหตุผลที่คุณต้องใส่ฟันปลอม พร้อมทั้งข้อมูลเปรียบเทียบฟันปลอมประเภทติดแน่นและแบบถอดได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่า ควรเลือกแบบไหนจึงจะดีและเหมาะสมกับตัวคุณที่สุด
ฟันปลอมคืออะไร จำเป็นแค่ไหน“ฟันปลอม” (Prosthodontics) คือ ทันตกรรมประดิษฐ์ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมสร้างขึ้น เพื่อใช้ทดแทนตัวฟันที่สูญเสียไปบางส่วนหรือทั้งซี่ ซึ่งสามารถช่วยในเรื่องของการรักษาสภาพฟันแท้เดิม ยืดอายุการใช้งาน ตกแต่งเพื่อความสวยงาม แก้ปัญหารูปทรงหรือสีฟันที่มีลักษณะไม่พึงประสงค์ ประสิทธิภาพการใช้งาน รวมไปจนถึงการป้องกันฟันข้างเคียงล้มเนื่องจากการสูญเสียฟัน และป้องกันกระดูกละลายในอนาคตได้ ประเภทของฟันปลอมมีกี่แบบประเภทของฟันปลอม แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ฟันปลอมแบบติดแน่น (Fixed Prosthodontics)ฟันปลอมแบบติดแน่น (Fixed Prosthodontics) เป็นฟันปลอมถาวรที่ติดแน่นกับช่องปาก โดยใช้ฟันแท้ที่อยู่ข้างเคียงเป็นหลักในการยึดฟันปลอม ซึ่งไม่สามารถถอดเข้าออกเพื่อทำความสะอาดได้ โดยฟันปลอมแบบติดแน่นมีการทำหลากหลายรูปแบบ ดังนี้ - สะพานฟัน เป็นการนำฟันปลอมมายึดเกี่ยวกับฟันข้างเคียงของซี่ฟันที่สูญเสียไป มีลักษณะคล้ายกับสะพานเชื่อมฟัน
- รากฟันเทียม เป็นการฝังรากฟันเทียมไททาเนียมในกระดูกขากรรไกรตรงบริเวณที่มีการสูญเสียฟัน และมีการทำตัวฟันขึ้นมายึดติดกับไททาเนียม เพื่อทำหน้าที่ต่างๆเหมือนกันฟันแท้
- ครอบฟัน เป็นการนำวัสดุประเภทโลหะหรือเซรามิกมาครอบฟันที่มีการเสียหายเอาไว้ เพื่อทำหน้าที่แทนฟันตามธรรมชาติ ปกป้องเนื้อฟันที่เหลือ และรักษารากฟันเอาไว้ ซึ่งการทำครอบฟัน จะทำบนฟันธรรมชาติที่มีราก หรือบนรากเทียมเท่านั้น
- การอุดฟัน Onlays และ Inlay เป็นการอุดฟันด้านในของตัวฟัน ในกรณีที่มีการสูญเสียเนื้อฟันเป็นอย่างมากจากอาการฟันผุ หรือฟันแตก ทำให้เกิดโพรงขนาดใหญ่ขึ้นจนไม่สามารถอุดฟันได้ด้วยวิธีตามปกติ อีกทั้งยังมีเนื้อฟันเหลือมากเพียงพอ จึงไม่ต้องทำครอบฟัน
- วีเนียร์ เป็นการนำแผ่นเคลือบฟันมาติดบริเวณผิวหน้าฟัน วิธีนี้สามารถแก้ไขให้รูปร่างลักษณะฟัน กลับมาสวยงามได้อีกครั้ง จึงเหมาะกับบุคคลที่มีความผิดปกติของฟันไม่มากนัก เช่น ปัญหาสีฟัน ฟันเล็ก ฟันไม่เท่ากัน ไม่สบกัน เป็นต้น
ฟันปลอมแบบถอดได้ (Removable Prosthodontics)ฟันปลอมแบบถอดได้ (Removable Prosthodontics) คือ การใช้ชิ้นส่วนมาทดแทนฟันที่สูญเสียไปบางส่วน สามารถถอดเข้าออกเพื่อทำความสะอาดได้ ฟันปลอมประเภทนี้มักมีฐานที่ทำมาจากวัสดุโลหะหรือพลาสติก และมีตะขอเกี่ยวยึดกับฐานฟันแท้ที่เหลือตามธรรมชาติ สามารถแยกออกได้ 2 ประเภท คือ - ฟันปลอมทั้งปาก (Full dentures) เป็นฟันปลอมที่ทำขึ้นเพื่อใช้ทดแทนฟันด้านบนทั้งหมด หรือด้านล่างทั้งหมดของผู้รับบริการ มีลักษณะเป็นโครงฟันเสมือนจริงเพื่อใช้ติดเข้ากับเหงือก สามารถถอดเข้าออกเพื่อทำความสะอาดได้
- ฟันปลอมบางส่วน (Partial dentures) เป็นฟันปลอมที่ใช้สำหรับการทดแทนตัวฟันบางซี่ที่เกิดการสูญเสียไป แต่ยังมีฟันบางส่วนที่แข็งแรงหลงเหลืออยู่ด้วย เช่น กรณีการเกิดอุบัติเหตุ สุขภาพฟัน ซึ่งลักษณะของฟันปลอมแบบบางส่วนจะเป็นการทำซี่ฟันไว้ติดกับเหงือก สามารถถอดซี่ฟันปลอมเข้าออกเพื่อทำความสะอาดได้ เพียงแต่อาจมีปัญหาที่ตัวซี่ฟันปลอมมีสีไม่สม่ำเสมอกับฟันแท้ได้
เปรียบเทียบฟันปลอมติดแน่น Vs ฟันปลอมถอดได้
มาถึงตรงนี้ ใครหลายๆคนคงสงสัยว่า แล้วแบบนี้ควรเลือกอะไรดี ระหว่างฟันปลอมติดแน่น กับฟันปลอมแบบถอดได้ ดังนั้นในช่วงนี้เราจะพาไปเปรียบเทียบถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละรูปแบบ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจกันฟันปลอมแบบติดแน่นข้อดี - มีความสวยงามและดูเหมือนฟันธรรมชาติ
- มีความแข็งแรง มีประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารได้ดี
- ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกรำคาญ ขณะบดเคี้ยวอาหารหรือพูดคุย
- กรณีทำรากฟันเทียม สามารถป้องกันการสลายของกระดูกได้
- การทำฟันปลอมแบบติดแน่น ป้องกันฟันข้างเคียงล้มได้
- สามารถดูแลทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย โดยใช้แปรงสีฟันและไหมขัดฟัน เหมือนดั่งการดูแลฟันตามธรรมชาติ ยกเว้นการทำแบบสะพานฟันที่ต้องใช้เครื่องมือทำความสะอาดแบบพิเศษ
- อายุการใช้งานยาวนาน เนื่องจากเป็นฟันปลอมแบบถาวร
ข้อเสีย - มีขั้นตอนการทำซับซ้อน ใช้ระยะเวลานาน จึงไม่เหมาะกับบุคคลที่ไม่มีเวลาเข้าพบทันตแพทย์
- มีราคาค่อนข้างสูงกว่าฟันปลอมแบบถอดได้
- มีข้อกำจัดสำหรับผู้ตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
- ในบางประเภท จำเป็นต้องกรอฟันข้างเคียงก่อนติดตั้งฟันปลอม
- ผู้ที่มีภาวะกระดูกสลาย ต้องทำการปลูกถ่ายกระดูกเพื่อรองรับรากฟันเทียม ทำให้ค่าใช้จ่ายมากขึ้น
ฟันปลอมแบบถอดได้ข้อดี - สามารถเลือกใส่ได้หลายๆซี่หรือใส่ได้ทั้งปากภายในชิ้นเดียว
- สามารถทำความสะอาดได้สะดวก เนื่องจากถอดเข้าออกได้ง่าย
- ราคาค่อนข้างถูกกว่าฟันปลอมแบบติดแน่น
- ใช้เวลาในการทำไม่นาน และไม่ซับซ้อน
- สามารถใช้เป็นฟันปลอมชั่วคราว ในขณะที่รอการรักษาอื่นๆได้
ข้อเสีย - ฟันปลอมแบบถอดได้ มีโอกาสหลุดระหว่างการใช้งาน จึงทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่มั่นใจและอาจเกิดความรำคาญได้
- ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารไม่ดีเท่าฟันปลอมแบบติดแน่น เพราะการกระจายน้ำหนักจะไปลงที่เหงือก ซึ่งอาจทำให้สันเหงือกหรือสันกระดูกเกิดการยุบตัวได้
- การดูแลรักษาจะต้องใช้น้ำยาสำหรับแช่ฟันปลอมโดยเฉพาะ
- หากฐานฟันปลอมทำมาจากวัสดุอะคริลิก จะทำให้เปราะหรือแตกหักได้ง่าย
- ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เนื่องจากเวลายิ้มจะสามารถมองเห็นตะขอเกี่ยวยึดฟันปลอมได้
วัสดุที่ใช้ทำฟันปลอมรูปแบบต่างๆในการทำฟันปลอมแต่ละรูปแบบจะมีการใช้วัสดุในการทำที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้ - ฟันปลอมแบบติดแน่น หรือ ฟันปลอมถาวร
ฟันปลอมแบบติดแน่น ทำมาจากวัสดุหลากหลายชนิด ขึ้นอยู่กับลักษณะฟัน ปัญหาของแต่ละบุคคล และรูปแบบที่ทำฟันปลอม เช่น การทำฟันปลอมในรูปแบบรากฟันเทียม ก็จะทำมาจากวัสดุไทเทเนียม หรือหากทำฟันปลอมจากรูปแบบครอบฟัน ก็อาจทำมาจากวัสดุเซรามิก พอร์ซเลนผสมโลหะ หรือโลหะล้วน เป็นต้น - ฟันปลอมแบบถอดได้ หรือ ฟันปลอมแบบชั่วคราว
ฟันปลอมแบบถอดได้ จะมีฐานหรือโครงที่แนบสนิทกับเหงือกในขณะที่ทำการสวมใส่ ซึ่งวัสดุที่นำมาเป็นฐาน มี 3 ชนิดหลัก ดังนี้ - ฐานพลาสติก หรือ ฐานอะคริลิก
ฐานฟันปลอมจะทำมาจากวัสดุอะคริลิกสีชมพูคล้ายคลึงกับเหงือกตามธรรมชาติ สามารถทำได้ทั้งแบบซี่ๆ หรือหลายๆซี่ มักใช้ในบุคคลที่ไม่เคยมีประสบการณ์ใส่ฟันปลอมมาก่อนการทำฟันปลอมแบบฐานโลหะ อาจทำให้ความสวยงามน้อยลง เนื่องจากสามารถมองเห็นตะขอที่ยึดเกี่ยวฟันปลอมได้ แต่ในแง่ของการใช้งานค่อนข้างดีมาก เนื่องจากมีลักษณะที่บาง แนบเหงือกได้มากกว่า ทำให้รู้สึกรำคาญน้อยลง สามารถยืดอายุการใช้งานได้ยาว ความทนทานสูงฟันปลอมแบบฐานนิ่ม จะทำด้วยวัสดุพลาสติกที่มีความยืดหยุ่น ไม่แข็งเท่าฐานโลหะ เมื่อทำตกก็ไม่แตกหักง่ายๆ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสบายกว่า และไม่เจ็บ อายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 5-8 ปี อีกทั้งสีของฐานมีความใกล้เคียงกับเหงือกธรรมชาติอีกด้วย ลักษณะของการทำฟันปลอมฟันปลอม ทั้งปากแบบดั้งเดิมการทำฟันปลอมทั้งปากแบบดั้งเดิม คือการที่ต้องถอนฟันออกจนหมด จากนั้นรอให้เนื้อเยื่อเกิดการฟื้นตัว ซึ่งในระยะนี้จะยังไม่มีฟันในการบดเคี้ยวอาหาร และใช้เวลาอีกหลายเดือน จนเมื่อเนื้อเยื่อฟื้นตัว จึงจะเริ่มทำการพิมพ์ปาก สร้างแบบจำลองฟัน เพื่อให้ฟันปลอมมีขนาดและรูปร่างที่เหมาะสมกับผู้ใช้งาน
ก่อนที่จะได้รับฟันปลอมชุดจริงที่จะไว้ใช้งาน ทันตแพทย์จะทำการนัดหมายให้เข้ามาลองฟันปลอมแบบชั่วคราว เพื่อดูตำแหน่ง ขนาด รูปร่าง รวมไปจนถึงความสะดวกสบายในการใช้งาน เมื่อแก้ไขเรียบร้อยแล้ว จึงจะผลิตฟันปลอมชุดจริงออกมาให้แก่ผู้รับบริการ และทำการนัดเพื่อติดตามผลต่อไปฟันปลอม ทั้งปากแบบทันทีฟันปลอมทั้งปากแบบทันที คือ ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปาก แล้วค่อยถอนฟันผู้รับบริการ เพื่อจะได้ส่งมอบฟันปลอมให้ในวันที่ผู้รับบริการเข้ามาทำการถอนฟัน กล่าวคือ ผู้รับบริการสามารถใส่ได้ทันทีในตอนที่ฟันทั้งหมดถูกถอนออกไปแล้ว
เมื่อสวมใส่ฟันปลอมชนิดนี้ หลายเดือนหลังจะต้องเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมและพอดีกับช่วงนั้นๆ เนื่องจากกระดูกที่รองรับฟันและเหงือกอาจมีการเปลี่ยนแปลงและยุบตัวลง ทำให้ต้องเข้ามาปรับเปลี่ยนเพื่อความสะดวกในการใช้งาน และฟันปลอมชนิดนี้สามารถใช้ได้เพียงชั่วคราวฟันปลอม แบบบางซี่ฟันปลอมแบบบางซี่ คือการทำฟันปลอมที่ยึดด้วยโครงโลหะที่ติดกับฟันตามธรรมชาติ ซึ่งในบางกรณีอาจต้องครอบฟันที่ฟันธรรมชาติ หรืออาจต้องทำสะพานฟัน เพื่อยึดฟันข้างเคียงไว้ ใครบ้างที่ควรใส่ฟันปลอม
ผู้ที่ควรใส่ฟันปลอม มีดังต่อไปนี้ - บุคคลที่เริ่มมีปัญหาเรื่องของฟัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฟันบิ่น ฟันแตก รูปร่างฟันมีลักษณะผิดปกติ
- ผู้ที่สูญเสียฟันหรือเนื้อฟันไป เช่น ปัญหาฟันผุ เกิดอุบัติเหตุ เป็นโรคเหงือก หรือโรคปริทันต์อักเสบ
- บุคคลที่สูญเสียความมั่นใจในการยิ้มหรือเข้าสังคม เนื่องจากสูญเสียฟันตามธรรมชาติ
- บุคคลที่สวมใส่ฟันปลอมอยู่แล้ว แต่ต้องการปรับเปลี่ยนฟันปลอมใหม่ เนื่องจากฟันปลอมไม่พอดี
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบดเคี้ยวอาหาร
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องของการพูดไม่ชัด เนื่องจากสูญเสียฟันด้านหน้า
ขั้นตอนการทำฟันปลอมการทำฟันปลอมกับทางโรงพยาบาลหรือคลินิกทางทันตกรรม มักจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ - 1 เดือน เพื่อปรับแก้และพัฒนาฟันปลอมให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานมากที่สุด ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
- เข้าพบทันตแพทย์ เพื่อทำประวัติ ตรวจสุขภาพภายในช่องปาก X-ray พิมพ์แบบจำลองช่องปาก หรือสแกนแบบดิจิทัล เพื่อวัดช่องว่างของฟัน ลักษณะการกัด
- ทันตแพทย์จะทำการสร้างฟันปลอมขึ้นบนแบบจำลอง ตรวจการเรียงตัวของฟันและสีฟันให้มีความใกล้เคียงกับฟันตามธรรมชาติ พร้อมกับดูขนาดเพื่อให้ผู้ใช้งานสวมใส่ได้พอดีในช่องปาก
- กรณีที่มีการถอนฟัน ผู้รับบริการอาจต้องพูดคุยปรึกษากับทันตแพทย์เกี่ยวกับรูปแบบการทำฟันปลอม ว่าจะต้องทำฟันปลอมแบบดั้งเดิม หรือทำฟันปลอมแบบใส่ได้ทันที ซึ่งตรงนี้จะทำให้ขั้นตอนการทำฟันปลอมมีความแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย
- หากทำฟันปลอมแบบดั้งเดิม เมื่อทำการถอนฟันเรียบร้อยแล้ว จะต้องรอให้แผลหรือเนื้อเยื่อฟื้นตัวเสียก่อน จึงจะใส่ฟันปลอมได้
- หากทำฟันปลอมแบบใส่ได้ทันที ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากไว้ก่อนถอนฟัน เพื่อทำการจัดทำฟันปลอมให้สามารถส่งมอบแก่ผู้รับบริการได้ในวันที่มีการถอนฟัน เมื่อถอนฟันเสร็จ ผู้รับบริการสามารถสวมใส่ได้ทันที
- เมื่อทำการปรับแต่งแก้ไขฟันปลอมให้พอดีกับผู้ใช้งานแล้ว ทันตแพทย์จะนัดพบผู้รับบริการอีกครั้ง เพื่อติดตามผลการใช้งานอย่างละเอียด ซึ่งระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับทันตแพทย์และรูปแบบของการทำฟันปลอม
ข้อดีของการทำฟันปลอมการทำฟันปลอม มีข้อดีดังต่อไปนี้ - สามารถช่วยป้องกันการเคลื่อนที่หรือล้มของฟันซี่ข้างเคียงได้
- ป้องกันฟันล้ม ฟันเอียง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียฟันเพิ่ม
- ทำให้ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารดีขึ้น
- ฟันปลอมสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจในรอยยิ้มและการเข้าสังคมได้ หลังจากที่มีการสูญเสียฟัน
- ช่วยเรื่องของการออกเสียง ในกรณีที่มีการสูญเสียฟันไปจนทำให้เกิดปัญหาพูดไม่ชัด
- ลดโอกาสการเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปหน้า เนื่องจากสูญเสียฟัน
วิธีดูแลฟันปลอมการดูแลฟันปลอมเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กับส่วนอื่นๆ หากคุณต้องการให้ฟันปลอมสามารถมีอายุการใช้งานที่ยืนยาวและดูดีอยู่เสมอ คุณควรทำตามคำแนะนำในเรื่องของวิธีการดูแล ดังต่อไปนี้
การดูแลฟันปลอมแบบติดแน่น - ในระยะที่มีการปรับตัวให้คุ้นเคยกับฟันปลอม ควรทานอาหารที่มีลักษณะอ่อน นิ่ม
- ดูแลรักษาเสมือนฟันธรรมชาติ คือแปรงฟันหลังรับประทานอาหารเสร็จอย่างถูกวิธี พร้อมทั้งใช้ไหมขัดฟันในบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก
- ทำความสะอาดใต้ฟันปลอมด้วยเครื่องมือร้อยไหมขัดฟัน (Floss Threader) ร่วมกันกับไหมขัดฟัน
- เข้าพบตามนัดทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสุขภาพภายในช่องปาก และติดตามผลการใช้งาน
การดูแลฟันปลอมแบบถอดได้ - หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีลักษณะเหนียว แข็ง เนื่องจากอาจทำให้ฟันปลอมหลุดขณะใช้งาน
- กรณีที่ทำฟันปลอมฐานพลาสติก ควรระมัดระวังไม่ให้มีการหล่นเกิดขึ้น เพราะอาจเกิดการเสียหายได้
- เมื่อรับประทานอาหารเสร็จสิ้น ควรถอดฟันปลอมออกเพื่อทำความสะอาด โดยใช้แปรงสีฟันนุ่มๆค่อยๆปัดเศษอาหารออกจากฟันปลอม และอย่าลืมที่จะทำความสะอาดภายในช่องปากของตนเองด้วย
- ไม่ควรใช้ยาสีฟันในการทำความสะอาดฟันปลอม เนื่องจากอาจทำให้ฟันปลอมสึกได้
- ไม่ควรทิ้งฟันปลอมไว้ในที่แห้ง เพราะอาจทำให้ฟันปลอมเกิดการเปลี่ยนแปลงจนไม่สามารถใส่ได้อย่างแนบสนิท
- ควรใช้เม็ดฟู่แช่ฟันในการทำความสะอาดฟันปลอม
- ควรแช่ฟันปลอมไว้ในน้ำ เพื่อคงรูปร่างของฟัน
ค่าใช้จ่ายในการทำฟันปลอม ราคาเท่าไหร่ในส่วนของราคาฟันปลอมไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัด เนื่องจากมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่เลือก วัสดุที่ใช้ สถานที่ทางทันตกรรมที่เข้ารับบริการ ฯลฯ จึงทำให้บอกได้เพียงช่วงราคาเท่านั้น คุณควรพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัยให้ดีก่อนเลือกเข้ารับบริการ ซึ่งราคาโดยประมาณของแต่ละรูปแบบมีดังนี้ราคาฟันปลอมแบบติดแน่น ราคาฟันปลอมแบบติดแน่น รายการ | ราคาโดยประมาณ (ต่อซี่) | Composite Veneer | 3,000 - 9,000 บาท | Ceramic Veneer | 12,000 - 20,000 บาท | ครอบฟันโลหะ | 8,000 - 15,000 บาท | ครอบฟันเซรามิก | 12,000 - 18,000 บาท | รากฟันเทียม | 29,000 - 65,000 บาท | - Composite Veneer ใส่ฟันปลอม 1 ซี่ ราคาประมาณ 3,000 - 9,000 บาท
- Ceramic Veneer ทำฟันปลอมราคาประมาณซี่ละ 12,000 - 20,000 บาท
- ครอบฟันโลหะ ราคาซี่ละประมาณ 8,000-15,000 บาท
- ครอบฟันเซรามิก ราคาประมาณ 12,000-18,000 บาทต่อซี่
- รากฟันเทียม ซี่ละประมาณ 29,000 - 65,000 บาท
ราคาฟันปลอมแบบถอดได้ ราคาฟันปลอมแบบถอดได้ รายการ | ราคา (โดยประมาณ) | ฟันปลอมฐานโลหะ (บางส่วน) | 6,000-15,000 บาท | ฟันปลอมฐานโลหะ (ทั้งปาก) | 20,000 - 35,000 บาท | ฟันปลอมฐานพลาสติก (บางส่วน) | 1,500 - 5,500 บาท | ฟันปลอมฐานพลาสติก (ทั้งปาก) | 20,000 - 30,000 บาท | ฟันปลอมแบบยืดหยุ่น | 7,000 - 13,000 บาท | - ฟันปลอมฐานโลหะ หากทำแบบบางส่วน จะอยู่ที่ประมาณ 6,000-15,000 บาท และทำแบบทั้งปาก จะอยู่ที่ประมาณ 20,000 - 35,000 บาท
- ฟันปลอมฐานพลาสติก ทำบางส่วน อยู่ที่ประมาณ 1,500 - 5,500 บาท และทำทั้งปาก อยู่ที่ประมาณ 20,000 - 30,000 บาท
- ฟันปลอมแบบยืดหยุ่น ราคาประมาณ 7,000 - 13,000 บาท
ฟันปลอม ทำที่ไหนดีการจะเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกทางทันตกรรมดีๆสักที่ ไม่ใช่ว่าจะเลือกที่ใดก็ได้ เราจะต้องพิจารณาถึงปัจจัยหลายๆอย่าง เพื่อจะได้สามารถเลือกคลินิกทันตกรรมที่ดีและตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด ซึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเลือกเข้าใช้บริการ มีดังนี้ - คลินิกที่มีความสะอาด มีความเป็นมาตรฐาน
การที่คลินิกมีความสะอาด มีความเป็นมาตรฐาน จะช่วยให้มั่นใจได้ว่า มีความปลอดภัยในการทำทันตกรรมใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเมื่อทำเสร็จสิ้นแล้ว จะมีปัญหาใดๆตามมา อันเนื่องมาจากความไม่สะอาดการเดินทางสะดวกเป็นสิ่งที่ดีและสำคัญไม่แพ้หัวข้ออื่นๆ เพราะการเดินทางที่สะดวกจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง อีกทั้งเวลาที่เกิดปัญหาหรือมีการนัดพบก็จะทำให้คุณเดินทางไปได้ทันท่วงที ยิ่งในกรณีที่จำเป็นต้องเข้าพบทันตแพทย์บ่อยๆ ก็จะช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปพบได้อย่างสม่ำเสมอ - มีประวัติการเปิดคลินิกมานาน
หากคุณต้องการเข้ารับบริการกับคลินิกทันตกรรม ควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่า คลินิกทันตกรรมนี้มีประวัติการเปิดให้บริการที่ยาวนานในพื้นที่นี้หรือไม่ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น กำลังอยู่ในขั้นตอนการทำทันตกรรมกับคลินิกนี้อยู่ จู่ๆคลินิกเกิดปิดให้บริการหรือย้ายไปพื้นที่อื่นที่ไม่สะดวกในการเดินทาง ก็จะทำให้เกิดปัญหาได้ - คลินิกจะต้องมีความน่าเชื่อถือ
คลินิกทันตกรรมที่ดี จะต้องมีความน่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองต่างๆ หรือมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง รวมไปจนถึงมีการรีวิวจากผู้รับบริการจริง ว่าสามารถดูแลผู้รับบริการได้ดี มีผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจส่วนสำคัญที่สุดคือ การมีทีมทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ที่มากเพียงพอ มีใบประกอบวิชาชีพ เพราะจะทำให้คุณสามารถวางใจได้ว่า ทันตแพทย์ที่ให้การดูแลอยู่ มีความรู้ที่มากเพียงพอ และสามารถทำผลลัพธ์ออกมาได้ดี
หากคุณยังนึกไม่ออกว่าจะมีคลินิกทันตกรรมดีๆ แบบนี้ที่ใดบ้าง ทางเราขอแนะนำ “คลินิกทันตกรรมสีวลี” ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดีๆให้คุณพิจารณา เพราะคลินิกทันตกรรมสีวลี เป็นคลินิกที่มีการเปิดให้บริการมามากกว่า 20 ปี มีทีมทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญทุกสาขา พร้อมทั้งยังมีรีวิวมากมายจากผู้ใช้บริการจริง ทำให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่า ฟันปลอมของคุณจะออกมาสวยงาม สะดวกสบายต่อการใช้งาน และเหมาะสมกับคุณ ข้อสรุปเกี่ยวกับฟันปลอมดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น การทำฟันปลอม เป็นการทำขึ้นทดแทนฟันหรือเนื้อฟันที่เกิดการสูญเสียไป เพื่อช่วยในเรื่องของประสิทธิภาพการบดเคี้ยวอาหาร การออกเสียง ความสวยงาม รวมไปจนถึงการป้องกันฟันข้างเคียงเคลื่อนหรือล้ม และกรณีของกระดูกละลาย ซึ่งฟันปลอมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ฟันปลอมแบบติดแน่น และฟันปลอมแบบถอดได้ โดยแต่ละประเภทก็จะมีรูปแบบในการทำที่แตกต่างกันออกไป
นอกจากการทำฟันปลอมแล้ว วิธีการดูแลฟันปลอมและดูแลตนเองหลังจากนั้นก็สำคัญเช่นกัน การดูแลฟันปลอมแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย จะต้องดูแลให้ถูกวิธี เพื่อยืดอายุการใช้งาน และเข้าพบทันตแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ รวมไปจนถึงการเลือกคลินิกทันตกรรมเองก็ควรให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน
Create Date : 14 ธันวาคม 2564 |
|
1 comments |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2565 18:17:35 น. |
Counter : 1010 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 15 ธันวาคม 2564 12:01:46 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สรุปแบบติดแน่นดี แต่ราคาแพงจ้า