ผ่านทะเลเห็นน้ำไร้ความหมาย
Group Blog
 
 
กันยายน 2548
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
30 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
The Lord of the Rings

The Lord of the Rings แปลไว้นานหลายปีแล้วในเว็บคุยเล่นกันกับเพื่อน ๆ ชาวเรือสหมิตรแห่งห้องสมุด พันทิบ
ไปค้นเจอเก๊าะเลยเอามาแปะไว้

.................................................................
ก่อนจะอ่านเรื่องนี้เราต้องมาแนะนำฮ้อบบิทกันเสียก่อน เพราะในเรื่องฮ้อบบิทเป็นพระเอก และจะทำอย่างย่นย่อมากกว่าในหนังสือเพราะว่าใจร้อนอย่างแปลบทที่หนึ่งไวไว อิอิอิอิ

ฮ้อบบิทเป็นเผ่าพันธ์หนึ่งของมนุษย์ พวกเขามีรูปร่างเล็กมาก จะตัวเล็กกว่าคนแคระเสียอีก ความสูงเฉลี่ยของพวกนี้ประมาณสองถึงสามฟุต ลำตัวไม่หนา หน้าตาส่วนใหญ่ไม่งดงามมากนัก แต่ออกไปในทางมีความสุข นัยน์ตาแจ่มใส แก้มสองข้างแดงเปล่งปลั่ง เมื่อก่อนพวกเขาอาจจะมีอยู่ทั่วไป แต่ว่าตอนที่เล่าเรื่องนี้ก็มีจำนวนน้อยลงไปมากแล้ว บางแห่ง(ในหนังสือนั่นแหละ)ถือว่าพวกฮ้อบบิทเป็นพวกที่มีอยู่แต่ในตำนานเท่านั้นเอง พวกฮ้อบบิทเองก็แตกต่างกันไปเป็นสามพวก มีรูปกายต่าง ๆกันไป บ้างก็สูงโปร่ง บ้างก็หนากว่าอีกพวกหนึ่ง และบ้างก็ดูงดงามที่สุด และถิ่นที่อาศัยก็ต่าง ๆกัน

พวกฮ้อบบิทจะไม่ใคร่ชอบเจอหน้าคนเท่าไร ถ้าได้ยินเสียงฝีเท้าเขาจะหลบอย่างรวดเร็วและเงียบกริบ จนพวกเรานึกว่าพวกเขามีเวทย์มนตร์ แต่ในความเป็นจริงแล้วฮ้อบบิทไม่มีความรู้ในเรื่องมนตราหรืออำนาจพิเศษเหนือธรรมชาติแต่อย่างใด

บทที่หนึ่ง
ยามที่บิลโบ แบกกิ้นส์แห่งแบก เอนด์ป่าวร้องว่าเขาจะฉลองวันเกิดปีที่สิบเอ็ด-หนึ่งด้วยการจัดงานอย่างอลังการณ์ ทั้งฮอบบิทตันต่างก็พากันพูดถึงเรื่องนี้และตื่นเต้นกันขนานใหญ่

บิลโบร่ำรวยมหาศาล ในขณะเดียวกันก็แปลกประหลาดอย่างยิ่งยวด ทั่วทั้งไชร์ต่างพากันพิศวงสงสัยในตัวของเขามาถึง 60 ปี นับเนื่องมาตั้งแต่เขาหายตัวไปจากเมืองและก็กลับมาอีกอย่างไม่คาดฝัน ซึ่งเป็นเรื่องครึกโครมมาก ความร่ำรวยที่ได้มาจากการเดินทางผจญภัยหลายครั้งก็กลายเป็นตำนานที่เล่ากันต่อ ๆมา ผู้อาวุโสมักบอกว่าที่แบก เอนด์มีอุโมงค์ที่เต็มไปด้วยทรัพย์ศฤงคารนานา

นอกเหนือไปจากความโชคดีอย่างร้ายแล้ว ตัวบิลโบเองก็เป็นปริศนาเหมือนกัน เพราะว่าเขาคงความหนุ่มไว้ได้อย่างน่าพิศวง เหมือนกับกาลเวลาทำอะไรเขาไมได้เลย เมื่ออายุ 90 ปีก็แลดูเหมือนอายุแค่ 50 และพอเขาอายุได้ 99 ฮ้อบบิทอื่นก็เริ่มบอกว่าเขาเป็นพวกใส่สารกันแก่อยู่ในตัว (เจ๋งแมะ well-preserved อ่ะ ความจริงควรเอาแค่ว่า “ถนอมรักษาสภาพตัวเองอย่างยอดเยี่ยม” แต่อย่างนั้นจะก็เชยไป ฮ่าฮ่า เราแปรนี่นาไม่ได้แปล เอาบันเทิงไว้แล้วกัน) ที่จริงแล้วคำว่า ไม่เปลี่ยนแปลงเลยน่าจะเหมาะสมกับกรณีมากกว่า

บางคราว ไม่ใครก็ใครจะส่ายหัว เมื่อคิดว่าบิลโบชักจะโชคดีมากเกินไปเสียแล้ว มันช่างๆไม่ยุติธรรมต่อคนอื่น ๆที่คนคนหนึ่งจะครองความหนุ่มแน่นตลอดกาล แถมยังมีทรัพย์สมบัติพะเนินเทินทึก ใช้ยังไงก็ไม่พร่องลงไป



“ของอย่างนี้มันจะดีไปหมดอย่างนี้ได้ยังไง” พวกว่า “มันไม่เป็นไปตามธรรมชาติ คอยดูอีกหน่อยความยุ่งยากจะต้องถามหาแน่นอน”

แต่จนแล้วจนรอดความยุ่งยากก็ไม่เคยเยี่ยมกรายมา คุณแบกกินส์ก็ช่างน้ำใจกว้างขวางเหลือหลาย โดยเฉพาะเรื่องการใช้จ่ายเงิน ข้อนี้เองทำให้ฮอบบิทจำนวนมากอภัยให้ความแปลกประหลาดและความโชคดีอย่างสาหัสของเขา

บิลโบมักมีญาติเปลี่ยนหน้ากันมาเยี่ยมเยือนอยู่เนือง ๆ (แน่นอนที่จะต้องยกเว้นพวก แซควิลล์-แบกกิ้นเซส) และเขาก็เป็นที่รักในหมู่ฮ้อบบิทที่ยากจนหรือตระกูลไม่ค่อยสำคัญนัก อย่างไรก็ตาม ไม่ปรากฏว่าเขามีเพื่อนสนิทแม้แต่คนเดียวมานาน จนเมื่อญาติรุ่นเยาว์ของเขาเติบโตขึ้นมา

ผู้ที่มาอายุมากที่สุดในญาติรุ่นเยาว์ และเป็นผู้ที่บิลโบรักมากที่สุดก็คือ หนุ่มน้อย โฟรโด้ แบกกินส์ เมื่ออายุได้ 95 บิลโบก็รับโฟรโด้มาเป็นทายาท และให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่แบก เอนด์ ซึ่งก็ทำให้ความหวังของพวกแซควิลล์ แบกกิ้นเซสพังทลายลงไป

ทั้งบิลโบและโฟรโด้เกิดวันเดียวกันคือ 22 กันยายน “ย้ายมาอยู่ด้วยกันเสียที่นี่เลยซิ พ่อหนุ่ม” บิลโบบอก “จะได้สะดวกหน่อย จัดงานฉลองวันเกิดงานเดียวกันไปเลย”

ตอนนั้นโฟรโด้อยู่ใน “วัยรื่น” (Tween) ซึ่งเป็นคำที่ฮ้อบบิทใช้เรียกพวกที่อายุ 20 กว่า ๆที่อยู่ระหว่างความเป็นเด็กกับความเป็นผู้ใหญ่เต็มที่เมื่ออายุได้ 33

เวลาสิบสองก็ผ่านไป แต่ละปีนั้น ทั้งสองคนก็ได้ฉลองวันเกิดอย่างสนุกสนานที่แบก เอนด์ แต่ในปีนี้ก็เป็นที่เข้าใจกันดีว่าจะมีความพิเศษยิ่งเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงนี้ เพราะว่าบิลโบจะมีอายุครบสิบเอ็ด-หนึ่ง, 111, ซึ่งเป็นวาระที่ดี และเป็นอายุที่ฮ้อบบิทถือว่าสำคัญมาก (เพราะแม้แต่เฒ่าทุคก็ยังอายุแค่ 130) และโฟรโด้ก็จะอายุครบ 33 ที่นับว่าจะก้าวไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว……..







Create Date : 30 กันยายน 2548
Last Update : 30 กันยายน 2548 18:31:06 น. 1 comments
Counter : 1060 Pageviews.

 
ปากต่อปากบอกกันไป ข่าวก็แพร่ไปในฮอบบิทตันและบาย วอเตอร์ ในที่สุดข่าวลือเรื่องงานฉลองก็กระจายไปทั่วทั้งไชร์ ประวัติและนิสัยส่วนตัวของคุณแบกกินส์กลายเป็นหัวข้อหลักในการสนทนา บรรดาผู้อาวุโสก็พบว่าการรำลึกถึงความหลังครั้งเก่าก่อนกลับกลายเป็นเรื่องราวที่ใคร ๆก็ต้องการได้ยิน

ไม่มีใครที่จะมีผู้ฟังเยอะเท่ากับแฮม แกมกี ผู้ชรา หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า หัวหน้า (The Gaffer แปลอย่างนี้ใช่เป่าคะ) พ่อเฒ่าจะประจำการอยู่ที่โรงเตี๊ยมเล็กชื่อว่า “พุ่มไอวี่” (Ivy Bush -เรื่องแปลชื่อหรือไม่แปลชื่อนี่ ปรึกษานิดหนึ่ง ไม่อยากให้มีชื่อภาษาอังกฤษมากเกินไป มันจะอ่านไม่ใคร่สนุก เลยคิดว่าถ้าพอแปลได้ และแปลแล้วน่ารักก็คิดจะทำอยู่ แต่ก็กลัวว่าจะลักลั่นกัน อันนึงแปลอันนึงไม่แปล คิดอย่างไรกันบ้างคะ ) อยู่บนถนนบายวอเตอร์ พ่อเฒ่าดูเหมือนกับว่าจะเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจโดยตรงจากเจ้าของเรื่องให้มาเล่าเรื่องต่าง ๆได้ เพราะว่าทำงานเป็นหัวหน้าคนดูแลสวนที่แบก เอนด์มานานถึง 40 ปีและก่อนหน้านั้นก็เป็นผู้ช่วยตาเฒ่าโฮลแมน หัวหน้าคนก่อน มาบัดนี้แฮม แกมกีก็ต้องพ่ายให้กับความชรา บรรดาข้อต่อต่าง ๆยึดหมดแล้ว หน้าที่ของเขาส่วนใหญ่จึงตกแก่แซม แกมกี ลูกชายคนสุดท้อง

ทั้งพ่อและลูกต่างก็สนิทสนามกับบิลโบและโฟรโด้มาก บ้านของพวกเขาอยู่บนเนินลูกเดียวกับแบกเอนด์ที่อยู่บนยอดเนิน แค่อยู่ถัดลงมาไม่เท่าไร

“ก็อย่างที่บอกเสมอแหละนะว่า ในบรรดาฮอบบิทที่สุภาพและพูดจาดี ไม่มีใครเกินคุณบิลโบ,” หัวหน้าคุยฟุ้ง และมันก็เป็นความจริงอย่างยิ่งสำหรับเขาเอง บิลโบมักเรียกเขาอย่างยกย่องว่า “หัวหน้าแฮมฟาสต์”เสมอ (Master อ่ะ แปลยังงี้ได้เป่า หรือว่าจะใช้ท่านดี หรือจะเป็นนาย มันดูเหมือนคำนำหน้าชื่อพิกล แต่ในเพชรพระอุมา ตาบุญคำยังเรียกใครต่อใครว่านายเลย นาย(รพินทร์) , นายใหญ่, นายหญิง) และเวลาจะปลูกพืชผักใด ๆก็คอยมาถามไถ่ปรึกษาเสมอ โดยเฉพาะเรื่องพืชหัวใต้ดิน อย่างเช่น มันเทศ เพราะว่าหัวหน้าได้รับการยอมรับว่าเชี่ยวชาญที่สุดในบรรดาเพื่อนบ้านทั้งหมด (กรณีนี้รวมบิลโบด้วย)

“เจ้าหนุ่มที่ชื่อโฟรโด้ ที่มาอยู่ด้วยล่ะ” เฒ่าโนกส์ (Noakes) จากบายวอเตอร์ถาม “แม้ว่าเขาจะมีนามสกุลแบกกินส์ แต่ก็มีเลือดของแบรนดี้บัคส์มากกว่าครึ่ง นี่พูดตามที่ฟังมานะ ข้าไม่ค่อยชอบใจเท่าไรเล้ย ทำไมพวกแบกกินส์จะต้องไปหาเมียแถวบั๊คแลนด์ด้วย พวกที่อยู่พิลึกพิลั่นทั้งนั้น.”

“ไม่ต้องสงสัยในข้อนั้นเลย” แด๊ดดี้ ทูฟุต เพื่อนบ้านรั้วติดกันของหัวหน้าเสริม “ก็ดันไปอยู่ผิดที่นี่นา ฝั่งแม่น้ำแบรนดี้ ไวน์ข้างที่ดี ๆก็มัน กลับเลือกไปอยู่ข้างที่ติดกับป่าดึกดำบรรพ์นั่น ถ้าเราเชื่อเรื่องเล่าตำนานเกี่ยวกับมันแค่เพียงครึ่ง ก็จะลงความเห็นได้ว่ามันเป็นที่ที่มีแต่ความชั่วร้ายสิงสู่อยู่”

“แกพูดถูก” หัวหน้าลงความเห็น “แล้วมันก็ไม่ใช่แค่ที่อยู่นา พวกแบรนดี้บั๊คน่ะประหลาดในสายเลือดอยู่แล้ว พวกนี้หลงไหลเรือ การล่องเรือในแม่น้ำใหญ่ ซึ่งมันผิดปกติของพวกเราฮ้อบบิทอย่างแรง”

“ไม่ต้องสงสัยเลยเชียวล่ะ ว่าความพิลึกกึกกือของพวกนี้ก็เกิดจากเรื่องนี้เองล่ะ, แต่คุณโฟรโด้ไม่ได้พิลึกอะไรเลยนะ เป็นฮ้อบบิทหนุ่มที่น่าคบหา แล้วก็เหมือนคุณบิลโบทุกอย่าง มิพักจะต้องพูดถึงเรื่องรูปร่างหน้าตาที่ใคร ๆก็เห็นกันอยู่ สำคัญที่สุดก็คือพ่อของคุณโฟรโด้ก็เป็นพวกแบกกินส์, คุณโดรโก้ แบกกินส์เป็นฮ้อบบิทที่น่านับถือ และไม่ค่อยมีเรื่องเสียหายให้คนอื่นเอามาพูดลับหลังได้เลย…..เอ้อ จนกระทั่งเขาจมน้ำตาย”

“จมน้ำ?” หลายเสียงประสานกัน ความจริงผู้ฟังทั้งหลายก็ได้เคยรับฟังเรื่องนี้มาแล้ว แม้กระทั่งภาคที่ร้ายกว่านี้ก็เป็นที่เล่ากันแพร่หลาย แต่ก็นั่นละ ฮอบบิททั้งหลายก็มักกระหายใคร่ฟังประวัติความเป็นมาของครอบครัวอื่น ๆอยู่เสมอ และยิ่งเป็นเรื่องของสองแบกกินส์ที่อยู่ในแบก เอนด์แล้ว พวกเขาก็กระตือรือล้นที่จะได้ฟังมันอีกครั้งหนึ่ง

“เขาเล่ากันว่าอย่างนี้นะ” พ่อใหญ่ขยายความต่อไป “คุณโดรโก้นั้นแต่งงานกับคุณพริมูล่า แบรนดีบั๊ค ซึ่งเป็นญาติสนิทของคุณบิลโบ (แม่ของเธอเป็นลูกสาวคนสุดท้องของทุค ผู้มีวัยวุฒิสูงสุด ส่วนคุณโดรโกเป็นญาติชั้นที่สอง คุณโฟรโด้ก็เลยเป็นญาติหลายชั้นกับคุณบิลโบ้ ก็อย่างที่เขาว่ากันว่าจะนับทางไหนก็สนิททั้งนั้น นั่นแหละ (ตรงนี้ขี้โกงแล้ว เพราะยังนึกไม่ออกว่า once removed either way แปลว่าอะไร ) มีคราวหนึ่งคุณโดรโก้ได้ไปอยู่ที่แบรนดี้ ฮอลล์บ้านเฒ่า กอร์บาดอค ซึ่งเป็นพ่อตา อันเป็นสิ่งที่เขาทำบ่อย ๆหลังแต่งงาน (มาถึงตรงนี้ แฮม แกมกีก็พูดไม่ได้เต็มปากนัก มันค่อนข้างจะแปลกอยู่หน่อย ๆ(วงเล็บซ้อนวงเล็บน่อ vittles แปลว่าอะไรค้า ดิคฯที่บ้านเล็กไปหน่อยเลยไม่มี เดาเอาว่าเกี่ยวกับการเจริญอาหารหรือเปล่าคะ) เพราะตัวกอร์บาดอคนั้นใจกว้างเรื่องอาหารการกินมาก จะตั้งโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารนานาเหมือนกับงานเลี้ยงอยู่เสมอ) และเขาออกไปนั่งเรือเล่นที่แม่น้ำแบรนดี้ไวน์พร้อมภรรยา และทั้งคู่ก็จมน้ำตาย ทิ้งคุณโฟรโด้ ลูกชายคนเดียวไว้ข้างหลัง เรื่องราวก็มีเท่านี้แหละ”

“ข้าได้ยินมาว่าทั้งคู่ออกที่แม่น้ำหลังจากอาหารเย็น มันเป็นคืนที่แสงจันทร์ส่องสว่าง” เฒ่าโนกส์เสริม “และน้ำหนักตัวของโดรโก้นั่นแหละทำให้เรือจม”

“แต่ข้าได้ยินมาว่าเมียผลักผัวตกน้ำไปก่อน แล้วหล่อนก็ถูกผัวดึงให้ตกน้ำตามไปด้วยกัน” แซนดีแมน เจ้าของโรงสีทะลุกลางปล้อง
“แกไม่ควรเก็บเอาเรื่องที่ได้ยินมาพูดโดยที่ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน แซนดี้แมน” พ่อใหญ่เสียงแข็ง เพราะความชังน้ำหน้าเจ้าของโรงสี “ไม่มีใครที่อยากให้แกเล่าเรื่องผลักผลักดึงดึงอะไรนั่นหรอก ลงไปนั่งในเรือเฉยๆก็เสี่ยงพอแล้ว โดยที่ไม่ต้องแส่หาความยุ่งยากใส่ตัวเองอย่างอื่น ๆ. มาฟังกันต่อดีกว่า คุณโฟรโด้ก็เลยเป็นกำพร้า …

...คุณโฟรโด้ก็เลยเป็นกำพร้า ต้องอยู่ท่ามกลางพวกตัวประหลาดที่บั๊คแลนด์ และเติบโตขึ้นมาที่แบรนดี้ ฮอลล์ ที่นั่นเป็นโพรงกระต่ายโดยแท้ กอร์บาดอค นายผู้เฒ่าของแบรนดี้ ฮอลล์น่ะนั้นมักพัวพันกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ นับร้อย ๆครั้งเชียวนะ นับว่าเป็นความกรุณายิ่งของคุณบิลโยที่ไปเอาตัวเจ้าหนุ่มนั่นมาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีได้น่ะ”

“แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่าพวกแซ็ควิลล์ แบกกินเซสต้องหัวเสียอย่างหนัก เพราะพวกเขาหมายมาดครอบครองแบก เอนด์มาเนิ่นนาน และก็สมประสงค์เมื่อคราวที่คุณบิลโบออกไปผจญภัยและไม่กลับมา จนใคร ๆก็นึกว่าตายไปแล้ว แต่แล้วคุณบิลโบก็โผล่มา และก็บอกให้พวกนั้นออกไปจากบ้านนั้น นับตั้งแต่นั้นมาคุณบิลโบ้ก็อยู่ดีมีสุขมาเรื่อย แถมยังดูไม่แก่ขึ้นเลยแม้แต่วันเดียว แถมจู่ ๆเขาก็แต่งตั้งทายาท โดยมีเอกสารรับรองเป็นเรื่องเป็นราว พวกแซควิลล์ แบกกินเซสเห็นทีก็ไม่ได้ย่างเหยียบเข้าไปในแบก เอนด์อีกเป็นแน่ ความหวังหลุดลอยไปจริง ๆก็คราวนี้”

“ข้าได้ยินมาว่าที่โน่นเต็มไปด้วยเงิน” ฮอบบิทแปลกหน้ากล่าวขึ้น เขามาทำธุระที่ฮอบบิทตันนี้ โดยเดินทางมาจากมเชล ไดรฟ์ในเวสต์ ฟาร์ธิง “บนเนินนั้นมีอุโมงค์มากมายที่อัดแน่นไปด้วยหีบใส่ทองและเงิน และjools (แหะแหะ เอาดื้อ ๆอย่างนี้เลยแล้วกัน ไม่รู้จริง ๆจ้า), นี่คือที่ข้าได้ยินมา,”

“อย่างนั้นเจ้าก็ได้ยินมามากเกินกว่าที่ข้าจะบอกได้ว่าจริงหรือไม่” พ่อใหญ่ตอบ “ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับjoolsเลย แน่นอนว่าคุณบิลโยมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่มีข้อจำกัด และคิดว่าคงจะไม่ขาดมือด้วยซ้ำ แต่ข้าก็ไม่เคยได้ยินว่ามีการขุดอุโมงค์แม้แต่น้อย ข้าเห็นคุณบิลโบเมื่อตอนกลับมา นั้นก็เมื่อ 60 ปีก่อนโน้น เมื่อข้ายังเป็นแค่หนุ่มน้อยพึ่งมาทำงานกับเฒ่าโฮลแมนได้ไม่เท่าไร (แกเป็นญาติของพ่อข้า) แกเอาข้ามาช่วยกันพวกที่ชอบเข้าเหยียบย่ำสวนในตอนที่มีการเลหลังของต่าง ๆในแบกเอนด์ ตอนนั้นเองที่คุณบิลโบปรากฏตัวขึ้นบนเนินนั่น กับลาที่บรรทุกถุงใหญ่หลายถุง และก็มีหีบอีกสองสามใบ ข้าเข้าใจว่าทรัพย์สมบัติจากดินแดนไกลคงอยู่ในนั้น ถิ่นที่ท่านไปมาอาจมีภูเขาทำด้วยทองคำทั้งลูกก็ได้ แม้ว่าที่ข้าเห็นมันจะเป็นทรัพย์มากโขอยู่ แต่มันคงไม่ได้มากขนาดอัดแน่นเต็มอุโมงค์ที่ขุดกันจนพรุนไปทั้งเนินหยั่งเจ้าว่าหรอก เออ บางทีแซม ลูกชายข้าอาจจะรู้ดีกว่า เพราะว่ามันเข้าออกแบก เอนด์เป็นประจำ เจ้านี่มันบ้าเรื่องตำนานโบร่ำโบราณ และก็ชอบฟังเรื่องเล่าต่าง ๆที่เกี่ยวกับคุณบิลโบเสียด้วย, ท่านเป็นคนสอนให้มันอ่านออกเขียนได้ ซึ่งคงเป็นเจตนาดีของท่าน และข้าก็หวังว่าจะไม่เกิดผลร้ายอะไรกับมัน,”

“เอลฟ์ กับ มังกร!!! ข้ามักกรอกหูมัน กะหล่ำปลีกับหัวมันต่างหากที่เจ้ากับข้าควรเอาใจใส่ ทางที่ดีควรเลิกยุ่งกับเรื่องพวกนั้นได้แล้ว เพราะมันจะนำความซวยใหญ่มาให้ล่ะไม่ว่า นี่คือสิ่งที่ข้าเตือนลูกชาย และก็อาจจะใช้เตือนคนอื่น ๆอีกด้วย,” พ่อใหญ่พูดพลางเขม้นมองทั้งฮ้อบบิทแปลกหน้าและเจ้าของโรงสี

แต่คราวนี้พ่อใหญ่จะทำให้ผู้ฟังเชื่อไม่ได้เสียแล้ว ตำนานอุโมงค์แห่งความมั่งคั่งของบิลโบฝังลึกลงไปในจิตใจของฮ้อบบิทรุ่นหลัง ๆ
“เอ แต่ว่าเขาอาจจะเพิ่มสมบัติทีหลังจากที่เอามาทีแรกก็ได้นี่นา” เจ้าของโรงสีแย้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฮ้อบบิททั่วไปคิดกัน “เขาเดินทางไปแดนไกลบ่อย ๆ แถมยังมีเพื่อนประหลาดที่ผลัดกันมาเยี่ยมเยือนไม่น้อย อย่างเช่นคนแคระที่ชอบมายามดึกดื่น แล้วก็ยังมีเฒ่าแกนดาล์ฟ นักมายากลที่ไม่มีหลักแหล่งนั่นอีก พ่อใหญ่จะอธิบายยังไงก็ได้ แต่ข้าว่าแบกเอนด์นี่พิลึกเหลือล่ะ พวกที่อยู่ที่นั่นยิ่งพิลึกเข้าไปใหญ่”

“คุณก็สามารถพูดอะไรอย่างที่ชอบได้เสมอแหละ แต่สิ่งที่คุณรู้มานั้นก็ไม่ได้มากกว่าความรู้เรื่องการพายเรือที่มีอยู่แม้แต่น้อย, คุณแซนดี้แมน” พ่อใหญ่ย้อนให้อย่างข่มอารมณ์ เพราะรู้สึกชังเจ้าของโรงสีมากกว่าปกติหลายเท่า “ถ้าเรื่องแค่นี้เห็นว่าประหลาดพิลึกหรือแปลกแล้วล่ะก้อ ข้าก็จะเพิ่มความรู้สึกเข้าไปอีก มีบางฮอบบิทแถวนี้ไม่เคยเลี้ยงเบียร์เพื่อนสักกะเหยือก แม้ว่าเขาจะอยู่ในรูหรูหราล้อมด้วยกำแพงทองคำก็ตาม แต่พวกประหลาดที่แบกเอนด์ดูเหมือนจะมีน้ำใจมากกว่าเยอะ เจ้าแซมบอกว่าทุกฮอบบิทจะได้รับเชิญเข้าไปในงานเลี้ยงใหญ่ที่มาจะถึงนี้ และก็จะมีของขวัญเตรียมไว้ให้กับทุกฮอบบิท ฟังไว้นะ ทุกฮอบบิทเชียว ในเดือนอันสำคัญยิ่งนี้แหละ…”.

เดือนสำคัญยิ่งนั้นก็คือกันยายน เดือนที่อากาศดีเสียเหลือเกิน หลังจากนั้นอีกหนึ่งหรือสองวัน ข่าวลือ (ที่น่าจะมาจากกาคาบข่าวที่ชื่อแซม” ก็แพร่ออกไปว่าในงานจะมีการยิงพลุเฉลิมฉลองกันอย่างขนานใหญ่ งานที่มีพลุสวยงามจุดเล่นกันนั้น ฮอบบิทที่ไชร์คงไม่ได้เห็นมาเป็นศตวรรษแล้วกระมัง ครั้งสุดท้ายนั้นก็เมื่อ ทุค ผู้ชราที่มีอายุยืนยาวที่สุดได้ตายลง







โดย: ดาหาชาดา วันที่: 30 กันยายน 2548 เวลา:18:34:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาหาชาดา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาหาชาดา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.