เมื่อใครๆก็บินได้ "ใครๆ"ที่ว่าเลยเป็นแบบนี้......
12 OCT 11 [21:32]


วันนี้สามีไปทำงานวันแรก (กะกลางคืน) + เจ้าตัวยุ่งเข้านอนไปแล้ว (หวังว่าคงนอนยาวๆซักทีน้า) เลยมีเวลามานั่งอัพเดทบล็อก หลังจากคิดอยู่นานประมาณ 5 นาที (นานมากก) ว่าจะเลือกอัพกรุ๊ปไหนดี เลยมาจบลงที่กรุ๊ปนี้เพราะติดไว้ว่าจะมาอัพให้ตั้งนานแล้วต่อจากคราวที่แล้ว อิอิ


สถานการณ์ตอนนี้ อิฮั้นว่างงานฮ่ะ อย่างที่บอกว่าเพิ่งย้ายมาอยู่ต่างแดน แถมต้องมาเริ่มตั้งตัวใหม่ที่นี่ เราคนใดคนหนึ่งเลยต้องทำงาน อีกคนอยู่บ้านเลี้ยงลูกไปก่อน เพราะค่า Day Care ที่นี่แพง เราเลยต้องกลายเป็นแม่บ๊าน แม่บ้านไปโดยปริยาย ไว้ตั้งตัวได้เมื่อไหร่ค่อยออกไปหางานทำ แหะๆ

กลับมาที่เรื่องที่จะอัพคราวนี้ จากคราวที่แล้วบอกว่าเพิ่งผ่านการสัมภาษณ์งานกับ Air Asia ตำแหน่ง Ticket Sales Agent ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน และได้รับการขู่ไว้ว่า "ทำเซลล์ที่เคาท์เตอร์น่ะ ทำงานเป็นเวลาก็จริงแต่เรื่องเยอะกว่า Check-in เยอะเลยนะ"

บ๊ะ! มันจะเยอะซักแค่ไหนเชียว อิฮั้นผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้ประมาณ 2 ปี เจอผู้โดย งงๆ นิสัยแย่มาก็เยอะ แค่นี้บ่ยั่นหรอกค่ะ อิอิ ด้วยความที่เราเป็นคนมีความอดทนสูงกว่าชาวบ้านนิดหน่อย ใจเย็นกว่าคนอื่นนิดนึง เราน่าจะรับไหวน่า มันคงไม่ขนาดนั้นหรอก......


นั่นเป็น คหสต ล้วนๆ โดยที่ยังไม่ได้ผ่านการทำงานกับ Air Asia ค่ะ !!!!!!
แต่พอมาเจอเข้าจริงแทบปรี๊ดแตกไปซะหลายที ดีว่าฝึกการทำหน้านิ่ง ไร้ความรู้สึกและการปั้นหน้าฝืนยิ้ม มาได้พักใหญ่ จากการทำงานบริษัทที่แล้ว เราเลยได้ใช้ความสามารถนั้นมาประยุกต์กับงานนี้ได้อย่างดี เป็นยังไงอ่ะหรอคะ ใจเย็นๆ น่า หยิบขนมปังมานั่งอ่านพร้อมจิบกาแฟไปด้วยมะ อิอิ


อย่างที่ทุกท่านทราบ Air Asia เป็น สายการบินต้นทุนต่ำ หรือที่ Low Cost Airline ดังนั้นอะไรที่เรียกว่าเป็น Option เสริมได้ เค้าตัดค่าใช้จ่ายตรงนี้ทิ้งหมด เงื่อนไขเลยจะเยอะ แต่นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงสามารถขายตั๋วราคาถูกได้ ดังนั้นถ้าคุณบินแต่ตัวพร้อมกระเป๋าขึ้นเครื่องหนักไม่เกิน 7 kg 1 ใบ แถมจองตั๋วล่วงหน้ามาประมาณชาติกว่า เดินทางตรงเวลา เช็คอินก่อนล่วงหน้าอย่างน้อยสองชั่วโมง ไปถึงเกทพอดิบพอดี คุณจะได้บินในราคาที่คุ้มค่าสบายกระเป๋า แต่อย่าได้มีปัญหาขึ้นมานะ เพราะค่าใช้จ่ายจะตามมาจุกจิกเยอะแยะเลยอ่ะ


เราก็พูดในฐานะคนเป็น Sales นะคะ ยอมรับว่าเงื่อนไขเยอะจริง แต่กฎก็ต้องเป็นกฎ ในการวางแผนการเดินทางแต่ละครั้ง ผู้โดยสารย่อมต้องมีหน้าที่ในการหาข้อมูล และวางแผนการเดินทางก่อนทุกครั้ง เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของตัวคุณเอง อย่างนึงที่เราว่ามันเกินไปคือค่ากระเป๋าและค่าชาร์จน้ำหนักเกิน เกินไปจริงๆ และต้องขอบอกว่าพนักงานที่ทำงานอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่ว่าจะเห็นด้วย ที่ขึ้นราคามาเป็นแพงมหาโหดแบบนั้น

แต่อยากให้เข้าใจว่า คนกำหนดไม่ใช่คนไทยเรานะคะ อิเจ๊ ชื่ออะไรซักอย่างที่อยู่มาเลย์เป็นคนกำหนด และชื่ออิเจ๊คนเนี๊ยแหละ เป็นกล่าวขานเลื่องลือและเกลียดชังของพนักงาน BKK Station เช่นกัน เพราะออกกฎอะไรออกมาแต่ละทีนี่ แต่ละคนเบือนหน้าหนี พร้อมกับบ่นดังๆว่า "โดนผู้โดยสารด่าเละแน่กรู" ขอให้เห็นใจพนักงานด้วยนะคะ เราก็ต้องทำตามหน้าทีอ่ะ

กลับมาที่เรื่องของ "ใครๆ" ที่เกริ่นไว้ เหอะ เหอะ...
ทำงานสายการบินมาก็หลายสาย ไม่เคยนึกว่าฝันว่าจะมาเจออะไรแบบนี้เล๊ยยย มาทั้งมึนๆ งงๆ และไม่สุภาพ เริ่มจากไหนก่อนดีล่ะ เอาพี่ไทยก่อนดีกว่า เพราะเจอบ่อยสุด

FD เป็นโลว์คอสค่ะ ดังนั้นคนที่ไม่เคยขึ้นเครื่องก็จะได้ขึ้นคราวนี้ ผู้โดยสารหลายคนทำให้เราขำ บางคนทำเราน้ำตาซึม บางคนทำให้เราโกรธจัด เฮ้อมากมาย มาที่เคสแรกดีกว่าค่ะ


1. ไม่รอหรอน้อง (ผู้โดยแบบ งงๆ)

วันนั้นเรานั่งเคาท์เตอร์เก็บเงินค่ากระเป๋าเกินอยู่ที่ E23-24 เวลาประมาณ 8.15 น. ก็มี ผดส ชาย คนหนึ่งเดินมาหาเราแล้วมาถามว่า เครื่องที่จะไปหาดใหญ่ออกไปรึยังครับ? (สมมติว่าหาดใหญ่นะคะ จำไม่ได้จริงๆว่าไฟลท์ไหน) เราก็มองนาฬิกา แล้วบอกว่า "เครื่องออกไปตั้งแต่ 7.15 แล้วค่ะ" แล้วเค้าก็ขอบคุณแล้วเดินไป เราก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ นึกว่าคนมาส่งเพื่อน

พอซักประมาณ 9 โมง เราย้ายกลับไปนั่งที่เคาท์เตอร์เซลล์ แล้ว พอเรียกคิวมาก็เจอพี่คนนี้อีก ปรากฎว่าทางเคาท์เตอร์ส่งมาจ่ายค่าเปลี่ยนไฟลท์+ Diff fare (ใครที่เคยบินจะรู้เนาะว่าไฟลท์ FD จะมีกฎว่าเปลี่ยนไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ถ้ามาขอ ทาง Supervisor ก็จะยอมให้เปลี่ยนตลอดแหละค่ะ ถือว่าช่วยผู้โดยสาร)

ระหว่างรอทำตั๋วก็บ่นกับเรา
ผดส : "เนี่ยทำไมเค้าไม่รออ่ะน้อง ปกติเค้าก็รอไม่ใช่หรอ พี่มาช้าไปนิดเดียวเองนะ"
เรา : "เอ่อ...พี่คะ เครื่องเราออกตรงเวลา 7.15 พี่มาตอน 8 โมงนะคะ"
ผดส : "ก็นั่นแหละน้อง ปกติเค้าก็รอไม่ใช่หรอ????"
เรา : "(ยิ้มสยาม)....." พร้อมกับนั่งทำตั๋วต่อไป
: (ในใจ) พี่คะ พี่มาสายตั้งชั่วโมงนึง แมวที่ไหนจะรอล่ะคะ ขนาดรถเมล์หนูว่าเค้ายังไม่รอเลย ไม่ใช่เครื่องบินส่วนตัวเพื่อนพี่นะจะได้รออ่ะ เง้อออ


2. ผู้โดยขาวีน

แบบที่ 2 นี่เจอบ่อยมากกกกกก โดยเฉพาะคนไทย เพราะเรื่องมาสายนี่เป็นกิจวัตร ทำอะไรไม่รอบคอบแล้วโทษคนอื่นนี่ก็เยอะ ไปอ่านกันเลยค่ะ


วันนั้นนั่งเคาท์เตอร์เซลล์ ทางCheck-in บอกมาแล้วว่าเดี๋ยวจะส่งคนมาเปลี่ยนตั๋วไฟลท์สิงคโปร์นะ เราก็รับทราบ อาจจะไม่เข้าที่เราก็ได้ แต่พอเรียกคิวมา คุณเธอมาเจ๊อะกะเราพอดี งานเข้า มาถึงก็เหวี่ยงก่อนเลย

ผดส : "เค้าให้มาเปลี่ยนตั๋วอ่ะ แค่นี้ก็ไม่ยอมให้เช็คอิน แย่มาก แย่ที่สุด"

เรา : แอบดูข้อมูล อ๊ะ เจ๊นี่เกิดปีเดียวกับเรา อายุเท่ากันนี่หว่า ก็อธิบายไป "ไม่ใช่เราไม่ยอมเช็คอินให้นะคะ แต่คุณมาถึงเคาท์เตอร์ตอน 6.40 ไฟลท์เราออกตอน 7 โมง เช็คอินต่างประเทศปิดก่อนเวลาเครื่องออก 45 นาที ก็ปิดไปตั้งแต่ 6.15 แล้วค่ะ ถึงเช็คให้คุณตอนนี้ยังไงคุณก็ไปไม่ทัน เพราะว่าตอนเช้า ตม คิวยาวมากเลยนะคะ ต้องขอโทษด้วยค่ะ" (ชีมาที่เคาท์เตอร์เราตอน 6.45 ค่ะ) "ค่าเปลี่ยนไฟลท์ไปไฟลท์ถัดไป+ค่าส่วนต่างทั้งหมด xxxx บาทค่ะ แพงหน่อยนะคะ เพราะไฟลท์เต็ม"

ผดส : "โห ทำไมแพงอย่างนี้ล่ะ เปลี่ยนฟรีไม่ได้หรอ แล้วมีอย่างที่ไหนไม่เช็คอินให้ ที่ไหนเค้าก็เช็คอินให้ทั้งนั้นแหละ แม่ง บินมาตั้งหลายทีแล้ว มาสายเค้าก็ให้ทั้งแหละ แม่ง แย่ที่สุด "

เรา : (ในใจ: พูดจาไม่สุภาพนะเธอ เราอุตส่าห์พูดดีๆ ตัวเองมาสายแล้วยังมาโทษคนอื่น สายการบินไหนยอมเช็คอินให้เธอไม่ทราบยะ ไฟลท์ ตปท ส่วนใหญ่ปิดเคาท์เตอร์ 1 ชั่วโมงก่อนเครื่องออกด้วยซ้ำ อย่ามามั่วนิ่ม อย่ามาวีน ชั้นทำงานมาหลายสายการบินแล้ว ไม่มีที่ไหนเค้าให้เธอไปหรอกย่ะ)
(ความเป็นจริง) " ต้องขอโทษด้วยนะคะ เราลดให้ไม่ได้จริงๆ ปกติเราไม่ได้ให้เปลี่ยนไฟลท์นะคะ แต่กรณีนี้ทาง Supervisor อนุโลมให้คุณทำได้ เราช่วยได้แค่นี้จริงๆค่ะ" ยังปั้นหน้ายิ้มกลับไป

ผดส : "แม่ง แย่ แม่งเอาเปรียบ คอยดูนะ จะไปโพสท์ลงอินเตอร์เนตให้ทั่วเลย แม่งแค่นี้ก็ไม่ยอมเช็คอินให้ แม่ง ฯลฯ

เรา :

แล้วชีก็เดินจากไป แต่สุดท้ายเราก็เห็นเธอกลับมาเปลี่ยนไฟลท์กับคนอื่นอยู่ดี สรุปแล้วพูด "แม่ง" ไปหลายสิบคำระหว่างพูดกับเรา นี่เธอพูดจาให้มันดีๆได้มั้ยเนี่ย คนแบบนี้ไม่น่าช่วยเลยเนอะ

อีกเคสนึงเกิดตอนเรานั่งเก็บเงินค่ากระเป๋า เธอคนนี้เดินเข้ามาวางใบเสร็จปึง! พร้อมกับพูดว่า "มาเสียค่าโง่ค่ะ" (อะไรฟะ คนนะไม่ใช่กระโถนจะได้มาระบายอารมณ์ใส่กันน่ะ เราก็นั่งทำงานของเราดีๆนา)

เราก็แจ้งราคาไปพร้อมกับบอกว่า คราวหลังเสียค่าน้ำหนักตั้งแต่ตอนจองตั๋วดีกว่าค่ะ หรือย่างน้อยซื้อน้ำหนักกระเป๋าล่วงหน้าอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนเครื่องออกนะคะ จะได้ไม่ต้องเสียแพง

คุณเธอตอบกลับมาว่า "ขอบคุณค่ะที่บอก วันหลังจะได้ไม่โง่ขึ้นสายการบินนี้อีก" อ้าว เป็นงั้นไป บอกดีๆ ทำไมต้องใช้อารมณ์ล่ะเจ้

ผดส ดีๆก็มีเยอะค่ะ บางคนที่ไม่รู้จริงๆ มาจ่ายค่าน้ำหนักเค้าก็ถามเราว่าทำไมต้องเก็บ เราก็บอกไป เค้าก็อ๋อ โอเค มันมีค่าใช้จ่ายตัวนี้นะ งั้นขากลับจ่ายล่วงหน้าเลยได้มั้ย จะได้เสียน้อยหน่อย เราก็แนะนำทุกครั้งถ้าเห็นใครไม่มีกระเป๋าก็ถามตลอด ว่าแน่ใจนะคะว่าไม่มีกระเป๋า ไปจ่ายหน้าเคาท์เตอร์ที่สนามบินมันแพงกว่าเกือบเท่าตัวเลยนะคะ คิดดีๆก่อนนะ

เวลาผดส มาซื้อตั๋วที่เคาท์เตอร์เราก็บอกให้เอากระเป๋าไปชั่งก่อนทุกครั้ง เสียเวลานิดหน่อย ดีกว่าเสียเงินหลายเท่าตัวนะคะ

ก่อนเดินทางรบกวนศึกษาเงื่อนไขต่างๆให้ดีเถอะค่ะ จะได้ไม่มาหงุดหงิดภายหลังอ่ะ

3. ผู้โดยเรื่องเยอะ

อันนี้มีประมาณ 3 เคสหลักๆที่จำได้ เรื่องเยอะจริงๆอ่ะ

อันแรกเป็นของป้ามืด ขอเรียกป้ามืดเพราะแกมืดจริงๆ เป็นฝรั่งผิวดำตัวใหญ่ๆ วันนั้นเรานั่งเคาท์เตอร์เก็บเงินค่ากระเป๋า จู่ๆก็ได้ยินเสียงคนโวยวายที่หน้าเคาท์เตอร์ เราก็หันไปดู ปรากฎว่าเป็นป้ามืดกำลังโวยวายพร้อมกับทุบตีพี่คนขับแท็กซี่อยู่ สอบถามเพื่อนๆก็ได้ความว่า เกิดการเข้าใจผิดกัน พี่ Taxi พาป้าไปดอนเมือง พอไปถึง รู้ว่าผิดที่ แกก็รีบบึ่งมาที่สุวรรณภูมิทันที พร้อมลงจากรถมาช่วยขอร้องเจ้าหน้าที่ที่เคาท์เตอร์ว่าเป็นความผิดแกเอง ช่วยป้าหน่อยนะ ช่วยเช็คอินให้ป้าอีกคน

ปรากฎว่ายังดีที่เคาท์เตอร์เพิ่งปิดไปเมื่อประมาณ 2 นาที ที่แล้ว เลยยังเช็คอินได้อยู่ แถมมันเป็นไฟลท์ในประเทศ ไม่ต้องผ่าน ตม ให้วุ่นวาย ป้ายังวิ่งไปเกทได้ เราว่าพี่ Taxi แกก็มีความรับผิดชอบดีออก อุตส่าห์จอดรถลงมาช่วยป้าเชียวนะ ยังไปทุบตีเค้าอยู่ได้ ไหนๆก็ยังทันน่า ป้า เอาเหอะ

ปรากฎว่านอกจากมาช้า กระเป๋ายังน้ำหนักเกิน ป้าก็มาจ่ายตังค์กับเรา ทำหน้าสะอึกสะอื้น จ่ายเสร็จเราก็บอกว่ารีบไปเลยนะคะ เดี๋ยวไปไม่ทันเครื่องนะป้า แกก็พยักหน้าหงึกๆ แล้วก็เดินไปคนละทางกับที่จะไปเกท อย่างต้วมเตี้ยมๆ เราก็อ้าว ไปไหนฟะ สงสัยไปห้องน้ำอย่างรวดเร็วละมั้ง โอเค ขอให้ไปทันเป็นพอ

เวลาผ่านไป เรากลับมานั่งที่เคาท์เตอร์เซลล์ หันไปมองเคาท์เตอร์ข้างๆ อ้าววววว ป้ามืด!!! ป้ามาทำไมที่นี่ล่ะเนี่ย ป้าต้องบินไปแล้วไม่ใช่เรอะ?????

ถามไปถามว่าได้ความว่า หลังจากเช็คอินเสร็จแล้ว ป้ายังไม่สาแก่ใจค่ะ....ป้าไปแจ้งตำรวจค่ะ จะเอาเรื่องพี่ Taxi !! แน่นอนว่าป้าเลยตกเครื่องไปตามระเบียบ...ป้าคะ สุดท้ายต้องมานั่งเสียค่าเปลี่ยนไฟท์เนี่ย คุ้มมั้ยล่ะคะ ป้าเอ๊ย เวิ่นเว้อที่สุด!!

เคสที่สอง เรานั่งเซลล์ตอนกลางคืนเกือบปิดเคาท์เตอร์อยู่แล้ว ก็มี ผดส กลุ่มใหญ่เข้ามา ไม่ได้จะซื้อตั๋วหรืออะไรแต่จะมาคอมเพลน นำทีมโดยผู้ชายคนอินเดีย สำเนียงอเมริกันมาก จริงๆไม่ได้เข้าเคาท์เตอร์เราหรอก เข้าที่พี่อีกคน แต่เค้าเห็นละว่าท่าทางจะพูดยาวเรื่องเยอะ เลยโบ้ยมาให้เรา แล้วเค้ารับคนอื่นต่อ งานเข้าเลยคับพี่น้อง เค้าก็ร่ายเป็นชุดเลยคร๊าบบบ ภาษาอังกฤษมารัวๆเลย ดีนะว่าสำเนียงอเมริกัน เราเลยเข้าใจได้เกือบหมด ถ้ามาเป็นสำเนียงอินเดียนีมีหวังแย่แน่ๆ
เริ่มตั้งแต่ตอนเช็คอินยันไปเกท เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้รับความประทับใจเลย แถมคนที่เกทยังพูดจาไม่ดีใส่กลุ่มเค้าอีก

- เค้าบอกว่าตอนเช็คอิน คนเช็คอินก็ให้เค้าเอาของจากกระเป๋าใบนู้นมาใส่ใบนี้ เพราะน้ำหนักกระเป๋าใบนั้นมันเกิน ทำไมต้องทำให้มันยุ่งยาก ในเมื่อเอาไปรวมบนเครื่องน้ำหนักมันก็เท่ากันน่ะแหละ! เบ๊อะ...ข้อนี้ขี้เกียจอธิบายสุดๆ พ่อคู๊ณณ เค้ามีจำกัดน้ำหนักกระเป๋าไม่ให้เกินเท่านั้นเท่านี้ ทำไมไม่ทำตาม มันก็ดีกว่าโดนปรับเงินไม่ใช่รึไง เค้าช่วยนะนั่นน่ะ

- เค้าเสียเวลาที่เคาท์เตอร์ทำให้ไปถึงเกทช้า พอไปถึงเกท เจ้าหน้าที่ก็ดันมาพูดจาไม่ดีใส่ (กรุ๊ปเค้ามี 9 คน เป็นฝรั่งหลายคน มีคนไทยในนั้นด้วย ส่วนเค้าเป็นอินเดียคนเดียว) เป็นภาษาไทย เพื่อนที่เป็นคนไทยแปลให้ฟังว่า "should I make these nine people miss the flight?"

อันนี้เราคิดว่าคนที่เกทคงพูดประมาณว่า "เดี๋ยวก็ให้ตกเครื่องซะหรอก มาช้าขนาดนี้" ประมาณนี้อะค่ะ ด้วยอารมณ์ที่น่าจะมาช้า ประตูเครื่องเกือบปิดแล้วอะไรประมาณนั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่พูดหรอก ถ้า ผดส คนอื่นยังนั่งอยู่เต็มเกท แต่เราว่ายังไงก็ไม่ควรพูดอยู่ดีแหละค่ะ เราก็ขอโทษแทนเค้าไป

ยังไม่จบเด้อ....

พอขึ้นไปบนเครื่อง เค้าก็บอกว่าเพื่อนฝรั่งเค้าตรงไปนั่งที่ Hot seat ทันที ส่วนตัวเค้ายังไม่กล้า (มั้ง) เค้าเลยไปนั่งที่ตัวเองก่อน ทีนี้พอเครื่องขึ้นแล้วเค้าเลยจะเดินนั่ง Hot seat กับเพื่อนฝรั่ง ปรากฎว่าเจอคุณแอร์มาเชิญ บอกให้กลับไปนั่งที่เดิม พ่อคุณเลยโวยใส่เราเลยทีนี้ว่า ทำไมเพื่อนเค้าไม่โดน เพราะเค้าเป็นคนอินเดียใช่มั้ย เราเลยเลือกปฏิบัติกับเค้าแบบนี้ ทำไมไม่ไปว่าเพื่อนฝรั่งเค้าเลยล่ะ นี่มันเป็นการเหยียดสัญชาตินะ!!!!

เอ่อ....ไปนู่น เราคิดว่ากรณีนี้ แอร์คงคิดไปว่าเพื่อนฝรั่งเค้าก็นั่งที่ตัวเองนั่นแหละ แต่เค้าจะเปลี่ยนมานั่งทีหลัง เราว่าเค้าคงไม่รู้อ่ะ

ยังไงก็แล้วแต่หลังจากฟังเรื่องทั้งหมดรวดเดียวจบ เราก็ขอโทษเค้าแทนทุกๆคน แต่เค้าบอกไม่ได้อยากฟังคำขอโทษ (แล้วจะเอาอะไรอ่ะ) สุดท้ายเราเลยต้องจดทุกอย่างลงกระดาษ จดชื่อแอร์ จดเลขไฟลท์ จดข้อมูลทุกอย่าง ตามที่เค้าบอกให้เราจด แล้วเขียนอีเมล์ทำเรื่องไปยังหัวหน้า เค้าก็ขอชื่อนามสกุลเราไปด้วย เพื่อที่จะไม่ให้เรื่องนี้เงียบ เค้าบอกว่าอยากให้แน่ใจว่าเรื่องจะไปถึงผู้มีอำนาจ (โอเคค่ะ คุณ ผดส ตามนั้น อิฮั้นจัดให้)

ก็จัดไปตามนั้น วันนั้นเราก็เลยมึนตึ๊บไปเลยฮับ

ยังเหลืออีกหนึ่งเคส เดี๋ยวไว้กลับมาเล่าให้ฟัง ขออนุญาตไปล้างหน้าล้างตา แปรงฟันก่อนนอนก่อนนะคร้า ไม่น่าเชื่อว่าเล่ามาสองชั่วโมงแว้ววว




Create Date : 13 ตุลาคม 2554
Last Update : 13 ตุลาคม 2554 13:17:48 น.
Counter : 3026 Pageviews.

7 comments
  
เคยอ่านเจอในห้องพันทิฟเรื่องพี่สาวเค้าท้องห้าหรือหกเดือนนี่แหละคะ มีปัญหาเรื่องใบรับรองแพทย์ เถียงกันอยู่ตั้งนานเหมือนทางสายการบินจะไม่ให้เปลี่ยนรอบบินแต่จะให้ซื้อใหม่แทน
โดย: niyai_waan วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:12:30:42 น.
  
อันนี้ ตามประสบการณ์จริงของเรา
คือถ้าผู้โดยสารคนไหนพูดจาดีๆ ขอร้อง ขอความช่วยเหลืออย่างมีมารยาทเค้าจะช่วยทุกครั้งค่ะ

แต่ถ้าใครที่โวยวาย พูดจาหยาบคาย ไม่สุภาพก้าวร้าวตั้งแต่ตอนไปติดต่อที่เคาท์เตอร์เช็คอินแล้ว ทาง Supervisor ที่่เคาท์เตอร์จะโทรมาแจ้งทางเซลล์เลยว่า เคสนี้ไม่ให้เปลี่ยนนะ ซื้อใหม่อย่างเดียว เพราะถือว่าไม่ให้เกียรติเจ้าหน้าที่ ก็ไม่สมควรได้รับความช่วยเหลืออ่ะค่ะ

ซึ่งเราก็คิดว่า นะ ถ้าอยากให้เค้าช่วย ก็พูดกับเค้าดีๆ ไม่ใช่ไปด่า ใครเค้าจะอยากช่วยละเนี่ย ประมาณนี้อ่ะค่ะ คหสต น้าา
โดย: I'm in awe วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:13:17:19 น.
  
คนไร้มารยาท ไม่พลาดเจอกันทุกมุมโลก
โดย: NWzephyr วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:14:37:58 น.
  
แวะมาเที่ยวนะคะ ได้ความรู้เพียบ
โดย: ไหมสีตอง วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:16:29:06 น.
  
เห็นด้วยกับคุณ NWzephyr ค่ะ
โดย: ใบเตยลายจุด วันที่: 14 ตุลาคม 2554 เวลา:11:24:45 น.
  
Seems that you're very good at putting up with crazy passengers.
โดย: sleepless night IP: 124.120.242.205 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:15:58:36 น.
  
@Sleepless night

Thanks! I actually surprized that I can be that patient to them lol
โดย: I'm in awe วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:0:00:37 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I'm in awe
Location :
Castro Valley,CA  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]



บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเป็นคนไกลบ้านแล้ว ก็ยังแต่งบล็อกไม่เป็นเหมือนเดิม อิอิ แวะมาแลกเปลี่ยนเรื่องราวด้วยกันบ่อยๆนะคะ ยินดีอย่างยิ่งหากเรื่องราวในบล็อกนี้เป็นประโยชน์ต่อคุณค่ะ :)
New Comments
ตุลาคม 2554

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog