ตกรอบ Group Discussion EK เฮ้อ....เซ็ง

26 APR 2010


กลับมาเล่าเรื่องต่อจากคราวที่แล้ว หยุดไว้ถึงความตื่นเต้นตอนสอบผ่านข้อเขียน

คืนนั้นกลับบ้านไปก็นอนพักผ่อน โอยยย พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าอีกแล้ว


วันต่อมา (10 FEB 2010 มั้ง) อ่ะเช้าแล้ว ตื่น แต่งตัว แต่งหน้าทำผม เองเช่นเคย
วันนี้เปลี่ยนชุดเป็นสีน้ำตาล แทนสูทสีกรมเมื่อวานนี้
เฮ้อ...จะรอดมั้ยน้อ ทำกรุ๊ป ต้องมีแต่คนพูดเก่งๆแน่ๆเลยง่ะ




ไปถึงที่โรงแรม 8 โมง เด๊ะ วันนี้เค้านัด 8 โมงครึ่ง ไปถึงก็ เอ๊...หลายๆคนนี่ใส่ชุดเหมือนเมื่อวานเลยนะ สงสัยจะถือเคล็ดชุดนำโชคอะไรประมาณนั้น

กรุ๊ปเราเป็นกรุ๊ปที่สอง แต่ก็ทำกลุ่มพร้อมกันกับกรุ๊ปแรกนั่นแหละ แค่นั่งคนละฝั่งเท่านั้นเอง
ก่อนเข้าห้องก็ทักทายเพื่อนๆที่จะเข้าทำกรุ๊ปรอบเดียวกันซักเล็กน้อย อ๊ะ หลายคนมาครั้งแรก บางคนจบจุฬา บางคนมาจากเมกา ฮือ...profile ไฮโซกันทั้งนั้นเลยอ่ะ จะรอดมั้ยช้านนน

แถมยังสวยๆ กันมั้งน้าน ผิวพรรณผุดผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้ม ไหวมั้ยเนี่ยเรา

อ่ะ 8โมงครึ่ง เข้าห้องนั่งเรียงเป็นกลุ่ม เราก็มึนๆ เดินไปนั่งข้างพี่ที่จบโทมาจากเมกา อ่ะ ตรงนี้ก็ได้ ตอนแรกก็นึกว่าจะทำกรุ๊ปธรรมดาๆ คือสนทนากันทั้งกลุ่ม แต่กลายเป็นว่า ให้คุยกับคนข้างๆ ที่นั่งด้านซ้ายมือ คำถามคือ ชอบหนังเรื่องอะไร และใครเป็นดาราในดวงใจ

โอ้ย คำถามหมูๆ คงสนุกแน่
ว่าแล้วก็เปิดฉากถามกันเลย...ความยากของเรามันอยู่ตรงนี้

เพราะเราต้องถามคนที่มาจากเมกาคนนั้น เค้าเป็นคนดีแหละ แต่ทีนี้ เค้าอยู่เมกามาใช่มะ
คำศัพท์ที่เค้าใช้ก็จะเป็นศัพท์ที่เราไม่เข้าใจบ้าง (เยอะ) อะไรงี้ เป็นพวกแสลงบ้างอะไร อะไรบ้าง
นักแสดงที่เค้าชอบเราก็ไม่ค่อยคุ้นเคย T^T ฮือ....

เราก็ถามเค้ามึนๆ และจะพูดภาษาไทยก็ไม่ได้ กรรมการเดินวนไปเวียนมา เอาไงดีเนี่ย ความจำก็ไม่ค่อยดี ชื่อนักแสดงยังจำยาก เหตุผลที่ชอบหนังและนักแสดงยิ่งมึนกว่า และที่สำคัญ..."มันเป็นหนังที่เรายังไม่เคยดู!!!!!" (ก็ถ้าเคยดูก็ยังพอโม้ได้ เวลาลืม)เอิ้ก ตาย

และก็เป็นความผิดของเราที่จดจ่อแต่คำตอบที่เราจะบอกเพื่อนทางขวาของเรา มากกว่าจะสนใจจำทั้งหมดที่เพื่อนทางซ้ายของเราพูด.......


เราก็ตอบง่ายๆไป เราชอบหนังเรื่อง princess Diary เพราะเป็นหนังเรื่องแรกที่เราสามารถดูได้โดยไม่ต้องอ่านซับไตเติ้ลเลย เนื่องจากสำเนียงที่เค้าพูดนั้นชัดเจนมากกกกก และดาราที่เราก็แน่นอน แอน แฮทธาเวย์ คนแสดงนำนั่นแหละ เพราะเค้ายิ้มสวยและก็ลุคเหมือนเจ้าหญิงแถมยังน่ารักและแสดงเก่ง นักแสดงนำชายก็เบน สตีลเลอร์ ฮาดี อะไรประมาณนี้ คนทางขวาพอถึงเวลาต้องรายงานกรรมการ เค้าก็ใส่เต็มที่ตามที่เราบอกเลย


เอาล่ะสิ จบแล้ว ตาชั้นแล้ว....

ลุกขึ้น แนะนำตัวไป บอกเรื่องราวของเพื่อนทางซ้ายไป

อ๊ะ...ตายละสิ เหตุผลที่ชอบหนังเรื่องนั้นคืออะไรนะ นึกไม่ออก (คือมันเป็นคำที่เราเพิ่งได้ยินครั้งแรกในชีวิตอ่ะ เราต้องถามเค้าว่ามันหมายถึงอะไร).....ก็เลยพูดไป อ๋อ...เพราะเค้าชอบหนังที่เป็นพวก Super Hero......คำอธิบายอุบาทว์มาก อ่ะฮือๆ T_T หนังฮีโร่มันมีล้านแปด...ชั้นไม่ได้ให้เหตุผลที่ดีเลยอ่ะ ฮือ.... เสร็จแล้วเรา หมดอนาคตกันล่ะทีนี้


และแล้ว โอกาสดีๆ ก็ผ่านไป ....

จบจากการสอบถามเพื่อนข้างๆ กรรมการก็ให้เรา discuss กันว่า จะทำการตลาดให้เป็ปซี่ยังไงถึงจะโดนใจผู้ซื้อ อ่ะ คุยกันไป นู่น นั่น นี่
ก็มีไปเปิดบู๊ธ ตามที่ต่างๆ เป็นสปอนเซอร์คอนเสิร์ต แล้วก็โปรโมชั่นแบบ road show และทำการกุศล อะไรประมาณนี้ กรรมการก็เดินวนไปเรื่อยๆ


พอหมดเวลา ก็ต้องรายงานผล กรรมการฟิลิปปินส์คนเดิม ก็เลือกให้เราพูด เพื่อนที่อยู่ข้างๆเราด้านซ้าย และก็ อีกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรายงานคนละข้อ.....เราก็...ใจแป้วไปแล้วตั้งแต่ตอบโง่ๆไปตอนแรก พอรายงานก็ดันตอบไม่ดีอีก...ฮือ....

สุดท้าย พอทำเสร็จปุ๊บ เค้าก็เรียกทุกคนมานั่งเรียงเหมือนเดิม (2กลุ่มที่ทำกรุ๊ป)
คราวนี้ทุกคนจะได้รับกระดาษขาวคนละ 1 ใบ ประกาศผลเลยทันที
ใครได้ Congratulation ก็ให้กลับมาตอน 11 โมง ถ้าเป็น Unfortunately ก็ Sorry ด้วยนะ คุณไม่ผ่าน


และแน่นอน...ของเรา Unfortunately ......

เศร้าาาาาาาาาาาาาาา


ฮือ....อีก 6 เดือนถึงจะสมัครใหม่ได้



พอกลับมาถึงหอ ก็เล่าให้คุณฝรั่งเค้าฟัง....คำๆนั้นที่เราจำไม่ได้คือ..... "Marvel" (เค้าออกเสียงแบบอเมริกัน accent มันก็จะออกแบบ..มาโว่ล อะไรแบบนั้น)


มีใครรู้มั้ยคะว่าแปลว่าอะไร หรือ คืออะไร?


มันเป็นชื่อของสำนักพิมพ์ค่ะ ที่ Publish หนังสือการ์ตูน (Comic Book)ในอเมริกาค่ะ
เหตุผลที่เค้าชอบคือ หนังสือเรื่องนั้นมันเคยเป็นหนังสือการ์ตูนมาก่อน
เค้าชอบตั้งแต่มันเป็นหนังสือการ์ตูนแล้ว พอนำมาทำหนังก็เลยยิ่งชอบเป็นพิเศษ โดยเฉพาะนักแสดงนำที่ชื่อ Robert Downey Jr. แล้วเค้าก็ยกตัวอย่างหนังอีกเรื่องที่คนนี้แสดงขึ้นมา (เราไม่รู้จัก ไอ่เรื่องที่เรารู้จักคือ Sherlock Holmes)

หนังเรื่องที่ว่าคือ Iron Man..ฮือ...เราดันไม่เคยดู เชยเองอ่ะ มันก็เป็นหนังดังนะ เราผิดมั้ยที่ไม่เคยดูง่ะ ฮือ..ก็มันไม่ใช่แนวที่ชั้นชอบดูนี่นา แล้ว..เราก็ไม่เคยรู้จักว่าในอเมริกามันมีสำนักพิมพ์ชื่อดังอันนี้ โง่เจงๆ เสียโอกาสไปเลยโดยปริยาย แล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้เข้าไปถึงรอบนั้นอีกรึปล่าว เพราะครั้งนี้ไม่ต้องไปผ่านการคัดเลือกของ SASS คือ ได้เข้าสัมภาษณ์โดยตรงกับกรรมการจาก EK เลย ชีวิตมันก็เป็นเช่นนี้


ประสบการณ์ครั้งนี้สอนให้เรารู้ว่า...Focus ในสิ่งที่เราต้องสรุปและให้คำตอบกรรมการให้มากๆ อย่าคิดถึงว่าตัวเองจะบอกอะไรเพื่อน ตั้งใจฟังดีๆเวลาเพื่อนพูดและ......ดูหนังให้ครบทุกประเภท โฮ............

Create Date : 26 เมษายน 2553 Last Update : 26 เมษายน 2553 17:13:49 น. Counter : 3591 Pageviews.		5 comments
Share Tweet