Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
16 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 

ละครเพลงหุ่นสาย ดอนและมะขวิด ผู้พิชิต ที่ โรงละครชุมชนมันตา Art Space ซอยวิภาวดี 58





เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา ย่าได้รับการชักชวนจากหนูมิ้นท์ให้ไปชม

ละครเพลงหุ่นสาย ดอนและมะขวิด ผู้พิชิต โดยแจ้งว่า คุณอะหนึ่งผู้หลงไหลในศิลปการแสดง

จะตามมาภายหลัง จากปากซอยวิภาวดี 58 นั่งมอเตอร์ไซด์ ไปยังโรงละครได้โดยไม่ยาก

เพราะชุมชนแห่งนี้รู้จักโรงละครแห่งนี้เป็นอย่างดี





ที่แห่งนี้ก็คือบ้านคุณแม่ของ คุณ นิมิตร พิพิธกุล ซึ่งได้มอบให้เป็นพื้นที่โรงละครชุมชน

จากชื่อมันตา จะเปลี่ยนเป็น โรงละครชุมชนหุ่นสายเสมา ซึ่งขณะนี้ได้เป็นโรงละครถาวร

โรงละครสามารถบรรจุได้ 50 ที่นั่งต่อรอบ

สำหรับผู้ที่สนใจชมเป็นหมู่คณะ ตั้งแต่ 15 ท่าน ขึ้นไป ในวันอื่นๆนอกเหนือวันแสดง

สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่คณะหุ่นสาย

เพื่อนัดหมายวันแสดง





หุ่นที่จุดลงทะเบียน





หุ่นผีตาโขน





ชมบรรดาหุ่น ยังจำได้เป็นตัวหุ่นชุดที่แสดง เรื่อง ศึกพรหมาสตร์ ที่ย่าเคย

นำเสนอคราวที่หุ่นสายเสมาได้รางวัลกลับมา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2552


//www.oknation.net/blog/freesoultofly/2009/06/30/entry-1




หรือติดตามอ่านรายละเอียดย้อนหลังได้ที่ลิงค์ด้านล่างค่ะ


//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=dada&month=06-2009&date=30&group=1&gblog=148




ส่วนหุ่นนี้จากเรื่อง สุดสาคร

ซึ่งจะมีการแสดงในวัน เสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2554

เวลา 14.00/ 16.00 น.

ณ โรงละครหุ่นสายมันตา ซอยวิภาวดี 58 (โรงละครหุ่นสายแห่งแรกของกรุงเทพมหานคร)

จุ 50 ที่นั่งต่อรอบ





ชีเปลือย





ม้านิลมังกร พาหนะของสุดสาคร

แค่ได้เห็นหุ่นของตัวละครเรื่องนี้แล้ว ความสนุกสนานก็วิ่งเข้ามาในมโนภาพเสียแล้ว





หลากหลายตัวหุ่น ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ





หุ่นจากต่างประเทศ ซึ่งได้มาจากการไปประกวดที่กรุงปราค และตัวล่าสุด หุ่นสิงโต

ซึ่งมาจากสิงค์โปร์ ทีมงานเรียกชื่อว่าน้องลอดช่อง น่ารักจริงๆ





หุ่นเจ้าแกละ ตัวละครยุคแรกๆ





หน้ากากผีตาโขน





นิมิตร พิพิธกุล ศิลปินศิลปาธร สาขาศิลปะการแสดง ปี 2550 ที่ปรึกษา - เขียนบท

เรื่อง ดอนและมะขวิด ผู้พิชิต ซึ่งเค้าโครงเรื่องได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่อง Man of La Mancha





ย่าไปถึงรอบแรกกำลังใกล้จบ แอบเข้าไปชมซะหน่อย

แสดงเป็นภาษาไทย แต่มีบรรยายภาษาอังกฤษ กำกับที่ม่านด้านบน

ไอเดียดีจัง





หลังจากนั้นก็มีเสวนา แนะนำตัวละครในเรื่อง ดอนและมะขวิด ผู้พิชิต

ส้มซ่า และซังโง่





ผู้แสดงเรื่อง Man of La Mancha ร่วมชมและร่วมพูดคุย





อีกหนึ่งผู้ร่วมสนทนา





สวัสดีคร้าบ





ผู้ชมที่อายุน้อยที่สุด





น่ารักทั้งคู่เชียว





กลุ่มผู้ชมถ่ายภาพกับหุ่น





TNN สัมภาษณ์คุณหนืด นิมิตร พิพิธกุล





ระหว่างรอรอบการแสดง คุณอะหนึ่ง ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก





และถ่ายภาพกับ คุณ ผิวน้ำ เฉลิมญาติ ( นักเชิดหุ่น,ประชาสัมพันธ์ ) และผู้สัมภาษณ์จาก TNN





มีข่าวดีมาบอก





เนื่องด้วย คณะหุ่นสายเสมา คณะหุ่นสายส่งเสริมคุณธรรมและการดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

ซึ่งจัดกิจกรรมเพื่อประโยชน์ทางสังคม ต่อกลุ่มเยาวชน และครอบครัวเสมอมา ได้เล็งเห็นประโยชน์ในการสร้าง

จิตสำนึกต่อการเห็นคุณค่าชาวนาไทย และ ข้าวไทย ด้วยในกระแสสังคมปัจจุบันเยาวชน ขาดการให้ความรู้และ

ความสำคัญเรื่องการบริโภคข้าวอย่างรู้คุณ ความกตัญญูต่อชาวนาดังที่เคยเป็นมาในอดีต


จึงได้จัดทำการแสดงละครหุ่นสาย เรื่อง ดอนและมะขวิด ผู้พิชิต (Don and Makhwid the

conqueror)โดยมีเนื้อหาเพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในเชิง

บูรณาการ ผ่านเรื่องราวที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ในรูปแบบละครเพลงหุ่นสาย


โดยการนำบทเพลงไทยในอดีต เพลงพื้นบ้าน เพลงลูกกรุง และเพลงลูกทุ่ง ที่มีเนื้อหาอันเกี่ยวกับชาวนา

ไทย อาทิ เพลงเกี่ยวข้าว, เพลงข้างขึ้นเดือนหงาย ของครูเอื้อ สุนทรสนาน และครูแก้วอัจฉริยะกุล เพลง

กลิ่นโคลานสาบควาย ของครูไพบูลย์ บุญขัน, เพลงเดือนดวงเดียว ของคุณจรัล มโนเพ็ชร และบทเพลง

พระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด บรรเลงขลุ่ย ของอาจารย์ ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี เป็นต้น มาใช้ประกอบใน การ

แสดงละครหุ่นสายส่งเสริมกิจกรรมเพื่อประโยชน์ทางสังคมต่อเยาวชน


เรื่อง ดอนและมะขวิด ผู้พิชิต เพื่อให้ลูกหลานได้สัมผัสถึงอัจฉริยะภาพ และความหมายที่จะกระตุ้นเตือน

ให้เยาวชนและครอบครัวรุ่นใหม่ ใส่ใจต่อการบริโภคข้าวไทย และรู้คุณค่าของชาวนาไทย

----


ได้เวลาเริ่มแสดง

ดอนชายหนุ่ม​ผู้​เปี่ยมด้วย​ความ​ใฝ่ฝัน





เขามักจะจินตนา​การ​ถึงวันที่​โลกจะ​เต็ม​ไปด้วยสิ่งดีงาม





ในทุกๆวัน ​เขามักจะออก​ไปตามท้องทุ่งสมมุติตน​เอง​เป็นอัศวิน​ผู้ปราบอธรรม จน​ใครๆพากันกล่าวว่า

ดอน​เป็นคนสติ​ไม่ดี





วันหนึ่ง​เขา​ได้พบกับมะขวิด ควายตัว​ใหญ่ที่​ไม่มี​โอกาส​ได้​ไถนา ​เพราะ​เทค​โน​โลยีสมัย​ใหม่​เข้ามา​แทน

ที่​การ​ทำ​ไร่นา​ใน​แบบพอ​เพียง​เลี้ยงตน​เอง​แบบดั้ง​เดิม





ควายมะขวิด​เสีย​ใจต่อ​การ​เปลี่ยน​แปลงครั้งนี้ ที่​ทำ​ให้​เจ้าของ​เดิม​เป็นหนี้สิน จน​ไม่อาจ​เลี้ยงดู​และคิด

จะขายมะขวิด มะขวิด​จึงหนีออกมา ดอน​เข้า​ใจมะขวิด​จึงออกผจญภัย​ไปด้วยกัน

--------

ที่ร้านกาแฟ





เพื่อ​แสวงหาคำตอบของ​ความพอ​เพียง​โดยมี อา​แป๊ะ พ่อค้า​เร่​ซึ่ง​เป็นคน​ไทย​เชื้อสายจีนอารมณ์ดีร่วม

​เดินทาง สู่ฝันอันยิ่ง​ใหญ่​และหาหนทางร่วมกัน​แก้​ไขปัญหา ท้าทายอธรรม ตามที่ดอน​ได้​ใฝ่ฝัน​ไว้





เพื่อแสวงหาคำตอบของความพอเพียงโดยมี โก๊ะเด็กน้อยที่ฝันอยากเป็นชาวนา แต่กลับถูก

ผู้ใหญ่หาว่าเขาโง่ที่คิดเช่นนั้น





การออกเดินทางสู่ฝันอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ก็เพื่อหาหนทางร่วมกันแก้ไขปัญหา ท้าทายอธรรม

ตามที่เขาใฝ่ฝันไว้





***





ส้มซ่า มะขวิด โก๊ะ และเจ้าหมาน้อย





เนื่องจากที่มาของบทเพลงแต่ละเพลงมีประวัติที่น่าสนใจ ย่าจึงของนำมาลงเพื่อ

เป็นข้อมูลให้กับทุกท่าน และขอขอบคุณ คณะหุ่นสายเสมาสำหรับข้อมูลค่ะ

-------


บทเพลงอันทรงคุณค่า

เพลงพระราชนิพนธ์"ความฝันอันสูงสุด"บรรเลงขลุ่ย โดย คุณ ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี

ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค ประพันธ์บทกลอน ความฝันอันสูงสุด โดยถอดความมาจากเพลง

The impossible Dream ซึ่งเป็นเพลงละครบรอดเวย์ มาจากเรื่อง Man of

La Mancha แสดงระหว่างปี 2508-2514 บทละครเขียนโดย Dale Wasserman

เพลงนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงกราบบังคมทูลขอให้พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระราชทานทำนองเพลงความฝันอันสูงสุด จึงเป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกที่มีการเขียนคำร้อง

ก่อนแล้วทรงใส่ทำนองภายหลัง


-------

เพลง "ข้างขึ้นเดือนหงาย"

คำร้องโดย ครูแก้ว อัจฉริยะกุล ทำนองโดย สุนทราภรณ์

ที่มาของเพลง ข้างขึ้นเดือนหงาย ครูแก้ว อัฉริยะกุล เคยเล่าไว้ว่า ได้แรงบันดาลใจจากเมื่อครั้งที่

หลบภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปอยู่ที่ต่างจังหวัด แล้วได้เห็นเด็กเลี้ยงควายมีความสุขตามประสา

เด็กบ้านนอก ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวความเดือดร้อนยามสงคราม อะไรกับเขา ท่านจึงได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมา

------------


เพลง กลิ่นโคลนสาบควาย

โดย ครูไพบูลย์ บุตรขัน

สำหรับชีวิตและผลงานของครูไพบูลย์ บุตรขัน นั้นยิ่งใหญ่นักด้วยเพลงที่ท่านแต่งมีความไพเราะ

สอดแทรกคุณค่าสาระแห่งชีวิต บอกเล่าสังคมความเป็นไทยในสังคมเกษตรกรรม และการดำรงอยู่ของ

เพลงอย่างข้ามยุคข้ามสมัย ดังจะเห็นว่าหลายเพลงได้กลาย เป็นเพลงอมตะที่นักร้องรุ่นแล้วรุ่นเล่าต่าง

นำมาขับร้องใหม่ อย่างเพลงกลิ่นโคลนสาบควาย ค่าน้ำนม โลกนี้คือละคร เป็นต้น

------------


เพลงควายหาย และเพลงเขมรไล่ควาย

โดย ครูสุรพล สมบัติเจริญ

ครูสุรพล สมบัติเจริญ ได้ทำให้เพลงลูงทุ่งอยู่ในความนิยม ด้วยเอกลักษณ์ ลีลา และรูปแบบเฉพาะตัว

อีกทั้งยังแต่งเพลงร้องเองเป็นส่วนใหญ่ ชอบใช้เพลงจังหวะรำวงในเพลงที่ท่านแต่ง ผลงานเพลงของท่าน

จึงมีลีลาสนุกสนานครึกครื้นเป็นส่วนใหญ่ ดังเช่น ทั้งสองเพลงนี้ สำหรับเพลงเขมรไล่ควาย คำร้องโดย

ครูร้อยแก้ว รักไทย ทำนองโดย ครูมงคล อมาตยกุล บันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกโดย ครูสุรพล สมบัติเจริญ

เมื่อปี พ.ศ.2500


------------


เพลง เดือนดวงเดียว โดย คุณ จรัล มโนเพ็ชร

เบื้องหลังความเป็นมาของเพลงนี้ คุณมานิด อัชวงศ์ ได้เขียนเล่าว่า เกิดจากการที่ครอบครัวคุณ จรัล

มโนเพ็ชร พากันไปเที่ยวเขา เขียว ย่านหนองมน ชลบุรี วันนั้นน้องไม้ บุตรชายวัย 3-4 ขวบ หลัง

จากวิ่งเล่นจนเหนื่อย ได้วิ่งมานอนหนุนตักพ่อจรัล แล้วชี้ ไปที่ดวงจันทร์ที่กำลังขึ้นส่องฟ้า วันรุ่งขึ้นคุณจรัล

มโนเพ็ชร ก็แต่งเพลงนี้เสร็จ คุณมานิดเข้าใจว่าคุณจรัลคงแต่งทำนองไว้แล้ว พอน้องไม้ชี้ไปที่ดวงจันทร์

จึงได้แต่งเพลงนี้ขั้นมา

------------

บทเพลงประกอบละคร

เพลงพระราชนิพนธ์"ความฝันอันสูงสุด" บรรเลงขลุ่ย ของอาจารย์ ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี

เพลง ข้างขึ้นเดือนหงาย ของ สุนทราภรณ์

เพลง กลิ่นโคลนสาบควาย ของครูไพบูลย์ บุตรขัน

เพลง ควายหายและเขมรไล่ควาย ของ ครูสุรพล สมบัติเจริญ

เพลง เดือนดวงเดียว ของ คุณจรัล มโนเพ็ชร


------------





ปราบอธรรม





จบด้วยความประทับใจ หุ่นออกมาลาท่านผู้ชม





จบแล้วเดินชมหุ่นต่อ หุ่นแฝดนี้ไม่ใช่แฝดอินจันตามที่ย่าเข้าใจตั้งแต่แรก

แต่เป็นความดีความชั่ว (ขาว,ดำ) อืมลึกซึ้งๆๆ

จบด้วยความประทับใจ หุ่นออกมาลาท่านผู้ชม





หน้ากากที่ทำจากโฟม ใช้ในการแสดงเช่นกัน




โรงละคร มันตา อารต์ สเปช

ซอยวิภาวดี 58 ใกล้กับสโมสรตำรวจและโรงแรมรามาการ์เด้นท์

บัตรราคา ผู้ใหญ่ 150 บาท นักเรียน/นักศึกษา 120 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบชมฟรี

สำรองที่นั่งที่ โทร 02-956-4180 หรือ 089-222-9974

รายได้เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางด้านพัฒนาสังคมเพื่อเยาวชนและครอบครัว

สอบถามเพิ่มเติมที่ tel/Fax:(02) 956-4180 Mobile(089)222-9974

Email:semathai@live.com

//www.semathai.com

สนับสนุนโดย accenture (High performance.Delivered)




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2554
6 comments
Last Update : 16 มิถุนายน 2554 20:14:05 น.
Counter : 3859 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะย่าดา...

หุ่นกระบอก เวลาแขวนอยู่ด้วยกัน น่ากลัวนะค่ะ

ยิ่งตอนกลางคืน กลัวว่าหุ่นจะลุกมาคุยกันตอนกลางคืนง่ะ..

เคยดูหุ่นกระบอกหน้าหวานที่อจ.ศิลปินแห่งชาติชักนานมาแล้วค่ะ

ประทับใจมากๆ..เข้าใจทำนะค่ะ

และเคยดูหุ่นละครน้ำของเวียดนามด้วย

แต่ของไทย เจ๋งกว่าอยู่แล้วค่ะ

เย็นนี้ ย่าดาจะไปMeetiingที่ร้านนาทองหรือเปล่าค่ะ..?

ถ้าไป ก็คงจะเจอกันค่ะ..คิดถึงอยู่นะค่ะ

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 16 มิถุนายน 2554 14:50:48 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
สวัสดียามเที่ยง หลังจากหาทานข้าวกลางวันกันแล้วอย่าลืมแวะไปชมเพลงอีแซวกันนะคะ ขอให้เป็นวันที่สดใสนะคะคุณดา

 

โดย: เกศสุริยง 17 มิถุนายน 2554 12:15:18 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับย่าดา






 

โดย: กะว่าก๋า 19 มิถุนายน 2554 6:56:24 น.  

 



สวัสดีค่ะย่าดา..

วันนี้อ้อมแอ้มแวะมาชวนทำความดีกันค่ะ

ถ้าความดีของใครถูกใจอ้อมแอ้ม

จะมีเสื้อยืด "เพื่อน เป็นแล้วรักษาไม่หาย"แจกค่ะ

ลองส่งมาร่วมสนุกนะค่ะ

จะไม่รับของรางวัลก็ได้ แค่ร่วมสนุกกัน


 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 21 มิถุนายน 2554 16:22:56 น.  

 


ขอบคุณเรื่องดีๆ ค่ะย่าดา

เต็มอิ่มเลยค่ะ




 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 21 มิถุนายน 2554 17:38:49 น.  

 

สวัสดีค่ะย่าดา ละครหุ่นน่าสนใจมาก ย่าดาถ่ายรูปสวยด้วยค่ะ

 

โดย: โมโม่ (4leafwonder ) 22 มิถุนายน 2554 8:49:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดา ดา
Location :
1 Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดา ดา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.