โอ้เวลาป่านฉะนี้เจ้าพี่เอ๋ย จะทำสิ่งใดเลยให้สงสัย จะรู้ซึ้งถึงคนที่ห่างไกล ฤามิได้คิดคำนึงถึงคนคอย การรอคอย ความรู้สึกว่าหัวใจของเรานั้นคอยใครอยู่สักคนและรับรู้ถึงว่ามีใครคนนั้นคอยเราอยู่ หัวใจที่ต่างเฝ้าคอยกันและกัน คือความถวิลหาที่แสนหวาน คือความงามของหัวใจดวงที่เปี่ยมสุขและหอมหวนอยู่กับวันเวลาแห่งความหวัง วันและเวลาที่เราทั้งสองจะได้พบกัน เพื่อรักกันให้เต็มหัวใจที่เฝ้าคอย เนิ่นนาน ช่วงเวลาของมณีจันทร์ ก้าวผ่านกระจกบานนั้น บานที่เปิดเป็นช่องทางให้ ทวิภพ เชื่อมโยงเข้าหากัน ณ ที่ที่เธอเดินทางไป ณ เวลาที่เธอไปดำรงอยู่ แม้จะเสมือนว่าคนละภพ เสมือนเดินทางจากภพหนึ่งสู่ภพหนึ่ง แต่ทั้งสองภพต่างก็เป็นเวลาแห่ง ปัจจุบัน ณ เวลาที่ผ่านมาก่อน มณีจันทร์คือ แม่มณี ของ เจ้าคุณอัครเทพวรากร ทูตไทยคนแรกประจำสหรัฐอเมริกา นักการทูตไทยผู้มีบทบาทอย่างยิ่งยวดต่อกรณีการแก้ปัญหาการรุกคืบ เพื่อยึดแผ่นดินไทยของนักล่าอาณานิคม ทมยันตีแสดงความพราวในเชิงงานเขียนและบทบาทแห่งข้อมูล ด้วยการสอดแทรกประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งของสมัยรัชกาลที่ 5 ช่วงเวลาที่คนไทยทำหน้าที่สุดความสามารถเพื่อรักษา เอกราช แห่งผืนดินไทยไว้ด้วยชั้นเชิงทางการทูต เอาการเมืองการทูตนำ การทหารซึ่งแทบจะไม่มีแสนยานุภาพใดเลยในสายตาของนักล่าอาณานิคม นี่คือเสน่ห์หนึ่งของนวนิยายเรื่องนี้ ความรักสิเน่หาที่ดำเนินไปบนวิถีแห่งความรับผิดชอบเพื่อแผ่นดิน การก้าวผ่านมิติเพื่อพบ เพื่อรัก และเพื่อร่วมหัวใจกัน ยอมแม้ละทิ้งชีวิตอีกภพหนึ่งไว้เพียง เพราะรักเธอ ประการเดียว! โซ่ตรวนผูกรัดสักร้อยหุน ใจมั่นมุ่งหักทลายได้ แต่ใยรักบางเบาสักเท่าใด ผูกพันไว้แนบสนิทนิจนิรันดร์* จากคำโปรยที่เว็บของสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม (แอบเจอคำผิด แก้ไขเองอย่างละลาบละล้วงค่ะ)
ทวิภพ หลังจากห่างหายไปนานมาก วันนี้พวงแสดกลับมาพร้อมรีวิวนิยายของคุณทมยันตีอีกเรื่องค่ะ เพิ่งสอยมาจากงานสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมานี่เอง (มีของป้าเก็บเป็นเรื่องที่ 2 ละ อิอิ) เรื่องนี้ยังคงฮอตฮิตติดใจนักอ่านมายาวนาน และเชื่อว่าจะยังมีนักอ่านรุ่นใหม่ที่ตามเก็บเรื่องนี้ไว้สะสมอีกหลายๆ รุ่นเลยล่ะค่ะ ทั้งละครเวที ทั้งละครรีเมค มีมาให้ชมแบบเรื่อยๆ เรียกว่าไม่มีทางลืมลงแน่นอน พวงแสดก็เป็นหนึ่งในนักอ่านที่ถูกกระแสความนิยมเหล่านี้พัดพาไป (อย่างง่ายดาย) สุดท้ายก็อ่านจบละ เรื่องนี้เป็นนิยายย้อนอดีตที่น่าสนใจมากค่ะ ตัวนางเอกมณีจันทร์เป็นลูกสาวท่านทูตในยุคปัจจุบัน (เป็นปัจจุบันที่นานมากแล้ว พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2530 ค่ะ เล่มที่อยู่ในมือของพวงแสดพิมพ์ครั้งที่ 13 แล้ว) มณีจันทร์ย้อนอดีตกลับไปพบคุณหลวงอัครเทพวรากร (สมัยนั้นพระเอกละอ่อนยังเป็นคุณหลวงอยู่ค่ะ) ซึ่งเป็นพระเอกของเรื่อง แล้วทั้งคู่ก็รักและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตามสเต็ปค่ะ เรื่องนี้ต่างนิยายหรือละครย้อนอดีตที่พวงแสดเคยอ่านหรือดูมาตรงที่นางเอกสามารถกลับมาอยู่ในช่วงเวลาปัจจุบันได้เมื่อมีสัญญาณเรียก เช่นเดียวกับเวลาที่จะไปสู่ช่วงของอดีตกาลโดยผ่านกระจกโบราณที่ซื้อมาด้วยความบังเอิญ (เป็นความบังเอิญที่ไม่บังเอิญ ประมาณว่าชะตานี้มีผู้ลิขิตไว้แล้ว) กระจกบานนี้มีรอยแตกตั้งแต่ซื้อมา เมื่อใดที่มีการเดินทางรอยแตกนั้นก็จะยาวขึ้นเรื่อยๆ ด้วย จนในที่สุดเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น กระจกที่บ้านของมณีจันทร์ก็แตก ทำให้มณีจันทร์ไม่สามารถกลับสู่ช่วงเวลาปัจจุบันได้อีกค่ะ ภารกิจที่ว่านั้นยังเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจที่สุดของนิยายเรื่องนี้ด้วยค่ะ มณีจันทร์ไม่ใช่แค่ย้อนกลับไปอดีตเพื่อพบและรักกับคุณหลวงเท่านั้น แต่เธอกลับไปเพื่อ เปลี่ยนแปลง และ มีส่วนร่วม ในประวัติศาสตร์ชาติไทยเมื่อสมัยรัชกาลที่ ๕ (หรืออีกนัยหนึ่ง...มณีจันทร์กลับไปเพื่อทำให้ประวัติศาสตร์ชาติไทยมีบทสรุปออกมาอย่างที่ถูกบันทึกไว้ ณ ปัจจุบันนี้ นั่นหมายถึง...หากมณีจันทร์ไม่ได้ย้อนอดีตกลับไป ไทยอาจเสียเปรียบชาวต่างชาติมากกว่านี้ค่ะ อันนี้คือความเข้าใจของพวงแสดนะคะ) ตัวมณีจันทร์เป็นสาวสมัยใหม่ นางเอกเป็นสไตล์ปกติของป้าอี๊ดคือฉลาดและมีความรู้ ออกจะนิ่งๆ แต่ก็มีความอยากรู้อยากเห็นเมื่อย้อนเวลาสู่อดีตได้ (ไม่รู้เรียกย้อนเวลาจะถูกไหม เพราะอ่านแล้วรู้สึกเหมือนเวลามันเหลื่อมซ้อนกัน ทั้งอดีตและปัจจุบันที่มณีจันทร์ดำรงอยู่ ณ เวลานั้นก็คือเวลาปัจจุบันของแต่ละที่) มณีจันทร์เคยใช้ชีวิตอยู่ในหลายประเทศเพราะต้องเดินทางตามพ่อที่เป็นท่านทูต มีความสามารถและเชี่ยวชาญเรื่องภาษาต่างประเทศหลายภาษา ส่วนคุณหลวงก็เป็นพระเอกสไตล์ป้าอี๊ดเหมือนกันค่ะ นิ่งๆ พูดน้อย (ต่อยหนัก) ฉลาด และมีความรู้ เนื่องจากไปร่ำเรียนที่ต่างประเทศมาและทำงานเกี่ยวกับการทูตด้วย ต่อมาภายหลังได้กลายเป็นทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกาคนแรก (ไม่ได้ค้นข้อมูลนะคะ แต่ในนิยายว่าไว้อย่างนี้ พวงแสดเองชอบแนวพีเรียดเป็นทุนเดิม แต่ความรู้รอบตัวเรื่องนี้น้อยนิดยิ่งกว่าขี้มดค่ะ) ด้วยความที่มณีจันทร์เป็นสาวสมัยใหม่และอยู่ต่างประเทศเป็นส่วนมากจึงเหมือนเด็กหัดเดินเมื่อกลับไปอยู่ในอดีตซึ่งมีวิถีชีวิตต่างกับเธออย่างมาก ช่วงที่ต้องปรับตัวและเรียนรู้วิถีชีวิตของคนไทยในอดีตเพื่อให้ตัวเองกลมกลืนและเป็นส่วนนึงของคนที่นั่น นี่แหละค่ะคือเสน่ห์ของทวิภพที่พวงแสดชอบมากที่สุด ถ้าถามความรู้สึกหลังอ่านจบ เรื่องนี้เป็นพล็อตที่แปลกและเริ่ดมากๆ ค่ะ ด้วยเนื้อหาที่มีสาระความรู้สอดแทรกไว้ตลอด กับข้อมูลที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิถีชีวิตคนไทยในสมัยก่อนอย่างเห็นภาพได้ชัดเจน เรียกว่าเป็นนิยายที่มีครบทั้งสาระ ความรู้ และคุณค่าพร้อมสรรพในเรื่องเดียวค่ะ ไม่เสียดายทั้งเงินที่จ่ายไปและเวลาที่นั่งอ่านนิยายเรื่องนี้อยู่หลายวัน (คิดดูนะคะ พล็อตเริ่ดขนาดนี้ เขียนเมื่อประมาณยี่สิบกว่าปีที่แล้ว พวงแสดนับถือป้าอี๊ดจริงๆ ค่ะ ^^) แต่พวงแสดขออนุญาตหักลบคะแนนคุณหลวงหน่อยนะคะ มีช่วงนึงที่มณีจันทร์จะกลับไปตามเสียงเรียกของสัญญาณ คือจะกลับไปหาแม่ซึ่งอยู่อีกช่วงเวลาหนึ่ง คือตอนนั้นแม่ของมณีจันทร์รู้แล้วว่าลูกหายตัวไป เหมือนมีสายใยระหว่างแม่กับลูกที่ทำให้มณีจันทร์รู้ว่าแม่กำลังเรียกหา ตอนนั้นคุณหลวงไม่ยอมให้นางเอกกลับค่ะ ดึงนางเอกไว้แต่นางเอกก็พยายามสลัดแขนออก ด้วยความรีบทำให้นางเอกวิ่งไปสะดุดธรณีประตูแล้วหมดสติไป คุณหลวงก็ตามมากอดไว้แล้วรีบพาไปให้ห่างกระจกบานนั้นเพื่อไม่ให้กระจกดูดนางเอกกลับไปค่ะ พวงแสดเข้าใจนะคะว่าเป็นเพราะรักมาก กลัวว่านางเอกกลับไปแล้วจะไม่ยอมกลับมาอีก แต่พวงแสดรู้สึกเสียใจแทนมณีจันทร์มากค่ะ ถึงกับโกรธคุณหลวงเลย ถ้าพวงแสดเป็นมณีจันทร์ ตื่นขึ้นมาจะไม่พูดกับคุณหลวงเลย แค้ดจัด! (โชคดีที่พวงแสดไม่ใช่นางเอก ไม่งั้นพล็อตป่วนแน่นอน 55+) พอมณีจันทร์ไม่ได้กลับตามเสียงเรียกของสัญญาณก็ทำให้ร่างกายอ่อนแอค่ะ ป่วยจนนอนซม มีสัญญาณเรียกอีกในระหว่างนั้นพระเอกก็เฝ้าตลอด แบบไม่ยอมปล่อยท่าเดียว จะเป็นจะตายฉันจะรั้งเธอไว้กับฉันให้ได้ ตรงนี้พวงแสดคิดว่าคุณหลวงไม่นึกถึงจิตใจมณีจันทร์เลย คิดถึงแต่ความรู้สึกของตัวเองท่าเดียว นางเอกคิดถึงแม่จะแย่อยู่แล้วก็รั้งไว้จนกลับไม่ได้ ทั้งที่นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่มณีจันทร์จะได้กอดแม่ ได้อธิบายทุกอย่างให้เข้าใจ ซีนนี้คุณหลวงติดลบอย่างแรงงงงค่ะ เท่านั้นไม่พอ เมื่อนางเอกหายป่วย คุณหลวงให้ย้ายห้อง ไม่ยอมให้อยู่ในห้องที่มีกระจกทวิภพค่ะ ปิดห้องใส่กุญแจไว้เสียด้วย มณีจันทร์จะแอบเข้าไปก็ไม่ได้ คุณหลวงดักไว้หมด โอย...อยากจะกรี๊ดดังๆ ให้หายบ้า ดีที่คุณหลวงเอาเรื่องงานมาล่อเบนความสนใจของนางเอกค่ะ ทำให้นางเอกยอมเชื่อฟัง (นี่ถ้าไม่มีข้ออ้างเรื่องงานแล้วมณีจันทร์ไม่โกรธคุณหลวงเลยที่ทำให้ตนไม่ได้กลับไปหาแม่ งานนี้นางเอกจะติดลบด้วยอีกคนค่ะ โชคดีที่เรื่องนี้สาระสำคัญอยู่ที่ประเทศสำคัญกว่าเรื่องส่วนตัว มณีจันทร์เลยรอดตัวไปค่ะ อิอิ) สรุปว่าเรื่องนี้พวงแสดชอบพล็อตหลักที่เก๋ เริ่ด ต่างจากนิยายหรือละครย้อนยุคทั่วไปที่พวงแสดเคยเจอมาค่ะ แล้วก็ชอบอ่านเรื่องวิถีชีวิตคนไทยในสมัยก่อนด้วย ทั้งความเป็นอยู่แบบดั้งเดิม เกร็ดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และพล็อตที่เริ่ดยากจะหาใครเสมอเหมือนนี่แหละค่ะ ได้ใจพวงแสดไปเต็มๆ ^^ พวงแสด...