นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาดว่า ที่ประชุมได้หาแนวทางแก้ปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำ และปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ส่วนเกินที่ปีนี้มีจำนวน 600,000 ตัน รวมกับปริมาณการสำรองปกติอีกปีละ 250,000 ตัน โดยจะเสนอมาตรการแก้ปัญหาระยะสั้นและระยะยาวให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) พิจารณาในวันที่ 11 พ.ค.นี้ โดยมาตรการระยะสั้น เช่น ให้กระทรวงอุตสาหกรรม กำหนดให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเกรดเอ ต้องรับซื้อผลปาล์มสด เปอร์เซ็นต์น้ำมันไม่ต่ำกว่า 18% ขึ้นไป เพื่อบังคับให้เกษตรกรต้องผลิตปาล์มให้มีคุณภาพ และขายได้ในราคาดี, ส่งเสริมการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ โดยรัฐช่วยเหลือลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งให้ผู้ส่งออก, ให้กรมการค้าต่างประเทศ เข้มงวดตรวจสอบการขนส่งน้ำมันปาล์มผ่านแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ที่กำหนดให้ขนผ่านแดนได้ไม่เกิน 40,000 ตันต่อปี

ขณะเดียวกัน จะขอให้กระทรวงพลังงานส่งเสริมการผลิตและใช้ไบโอดีเซล บี 20 สำหรับรถบรรทุก เพื่อดูดซับน้ำมันปาล์มดิบออกจากตลาดปีละ 250,000 ตัน และในระยะยาว จะส่งเสริมให้เกษตรกรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อให้ผลิตผลปาล์มดี มีคุณภาพ มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันไม่ต่ำกว่า 18% และศึกษาการวางตำแหน่งของไทยในตลาดโลก ในอุตสาหกรรมปาล์มทั้งระบบ ตั้งแต่การเพาะปลูกไปจนถึงการผลิตสินค้าแปรรูป ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เช่น ใช้ในอุตสาหกรรมโอลีโอเคมี

“ผมต้องการเห็นราคาผลปาล์มสดไม่ต่ำกว่ากิโลกรัม (กก.) ละ 3 บาท ซึ่งมาตรการเหล่านี้ จะผลักดันให้ราคามีเสถียรภาพ แก้ปัญหาผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินได้ แต่ในอนาคตอยากเห็นการพัฒนาไปจนถึงขั้นผลิตสินค้าแปรรูปจากปาล์มได้มากขึ้น”.

'); background-size: 1px 1px; background-position: 0px calc(1em + 1px);">www.cyto.biz (ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยมูลค้างคาว ปุ๋ยไซโต)

'); background-size: 1px 1px; background-position: 0px calc(1em + 1px);">#ปุ๋ยอินทรีย์ '); background-size: 1px 1px; background-position: 0px calc(1em + 1px);">#ปุ๋ยมูลค้างคาว '); background-size: 1px 1px; background-position: 0px calc(1em + 1px);">#ปุ๋ยไซโต