Bloggang.com : เลโอนิดาส : ~ กระดูกพรุน แก้ง่าย เพียงเติมแคลเซียมจริงหรือ ? ~

~ กระดูกพรุน แก้ง่าย เพียงเติมแคลเซียมจริงหรือ ? ~

ยังมีหลายคนเชื่อว่า เมื่อกระดูกพรุนมีวิธีแก้ง่าย ๆ ด้วยการดื่มนมหรือรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมให้มากเข้าไว้จะไปซ่อมแซมกระดูกได้ แต่ความจริงแล้วร่างกายต้องการแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในการสร้างกระดูกและฟันในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น ดังนั้นการคิดเพียงว่าเติมแคลเซียมเข้าร่างกายมาก ๆ เมื่อกระดูกพรุน จึงไม่ใช่วิธีที่ถูกนัก โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคไต ซึ่งไม่สามารถขับแคลเซียมส่วนเกินออกได้

อะไรคือกระดูกพรุน ?
ก่อนอื่นต้องรู้ว่า กระดูกแข็งแรงมีประโยชน์อย่างไร ที่เห็นได้ชัด คือ ไม่หักง่ายเมื่อกระทบกับแรงกระแทก หรือหกล้มเพียงเล็กน้อย ไม่เกิดความพิการของโครงสร้างร่างกาย เช่น ตัวเตี้ยลง หลังค่อมจนเงยไม่ขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเห็นได้ชัดในวัยสูงอายุ ประโยชน์กว่านั้นคือ ไม่เกิดอาการแทรกซ้อนจากกระดูกหักตามมา เช่น ปอดบวม แผลกดทับ ติดเชื้อ แขนขาใช้งานไม่ได้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิตในผู้สูงอายุ แต่ถ้ายังอยู่ในวัยเจริญเติบโต การที่กระดูกแข็งแรงจะทำให้ร่างกายสูงใหญ่

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า กระดูก เป็นอวัยวะที่มีการสร้างและถูกทำลายตลอดเวลาในเนื้อของมันเอง คือ มีการละลายกระดูกในรูปแคลเซียมออกมาสู่เลือด ขณะเดียวกันมีการสร้างกระดูกใหม่ทดแทน โดยใช้แคลเซียมจากอาหารที่รับประทานเข้าไปปะปนอยู่ในเลือดมาสร้าง ทำให้ได้เนื้อกระดูกใหม่เกิดขึ้น เนื้อกระดูกเก่า (แคลเซียม) จะถูกขับถ่ายออกมาทางปัสสาวะวันละ 200 มิลลิกรัม และทางอุจจาระวันละ 800-900 มิลลิกรัม รวมแล้วร่างกายจะเสียแคลเซียมวันละ 800 -1000 มิลลิกรัม ซึ่งจะต้องจัดหาเข้ามาเพิ่มเติมทางอาหารให้อยู่ในภาวะสมดุล มิฉะนั้นร่างกายจะดึงแคลเซียมจากกระดูกออกมาใช้ บ่อย ๆ เข้า กระดูกจะถูกทำลายเพิ่มมากกว่าการสร้าง เนื้อกระดูกจะบางลงถึงขั้นเป็นโรคกระดูกพรุน ทำให้เสี่ยงต่อภาวะกระดูกหักหรือยุบตัวได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก และกระดูกข้อมือ พบมากในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะสตรีที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน
สูบบุหรี่ เพราะแคลเซียมมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสมดุลระหว่างค่าความเป็นกรด - ด่างของเลือด หากสูบบุหรี่ร่างกายจะมีภาวะเป็นกรด แคลเซียมจะเข้ามามีบทบาทในการสะเทินฤทธิ์กรดจากบุหรี่ ดังนั้นบุหรี่ทุก ๆ มวนจึงเป็นตัวการทำให้แคลเซียมละลายจากกระดูก

แอลกอฮอล์ ขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมในระบบทางเดินอาหาร และยังส่งผลกระทบต่อตับในการกระตุ้นวิตามินดี ที่มีบทบาทสำคัญในการดูดซึมแคลเซียม

เครื่องดื่มที่มีสารกาเฟอีน ชา กาแฟ ช็อกโกแลต ทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมากเกินไป

น้ำอัดลม แม้รสชาติน่าดื่มแต่เชื่อหรือไม่ว่าส่วนผสมที่ชื่อ "กรดฟอสฟอริก" เพื่อให้เกิดฟองฟู่นั้น เกิดจากการผสมของกรดฟอสฟอรัสและกำมะถัน ( โดยปกติแคลเซียมในร่างกายจะต้องทำงานร่วมกับเกลือแร่อื่นโดยเฉพาะฟอสฟอรัส ในภาวะปกติ ร่างกายจะต้องพยายามรักษาสัดส่วนของแคลเซียมและฟอสฟอรัสให้เท่ากับ 2:1 หากฟอสฟอรัสมากเกินไป ร่างกายก็จำเป็นต้องสลายแคลเซียมออกจากคลังกระดูกมาทำสะเทินฟอสฟอรัสในเลือด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟอสฟอรัสสูงเกินไปจนเป็นอันตรายต่อชีวิต )

เกลือ ต้องบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม หากมากเกินไปจะทำให้แคลเซียมสลายตัว

ยาเคลือบกระเพาะ โดยทั่วไปยาชนิดนี้มีส่วนผสมของอะลูมิเนียม ซึ่งเร่งให้ร่างกายขับแคลเซียม ดังนั้นหากจำเป็นต้องรับประทานเป็นเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

ขาดการออกกำลังกาย ท่านคงรู้ถึงข้อดีของการออกกำลังกาย แต่รู้หรือไม่ หากออกกำลังกายที่มีแรงโน้มถ่วงของโลกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น วิ่งอย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลให้มวลของกระดูกเพิ่มปริมาณขึ้นได้

ขาดการกระตุ้นวิตามินดีจากแสงอาทิตย์ วิตามินดี ช่วยระบบในการดูดซึมของแคลเซียมจากทางเดินอาหาร กระดูกจึงไม่พรุนก่อนวัยอันควร

รับประทานโปรตีนมากเกินไป ร่างกายจำเป็นต้องขับออกโดยสลายกรดอะมิโนในตับให้กลายเป็นสารยูเรียแล้วออกมาพร้อมปัสสาวะ ซึ่งการขับยูเรีย ร่างกายต้องสูญเสียเกลือแร่ไปมาก รวมทั้งแคลเซียมด้วย จึงเป็นอีกสาเหตุที่กระดูกพรุนได้

การป้องกันโรคกระดูกพรุน
การทำให้กระดูกแข็งแรง ห่างไกลจากโรคกระดูกพรุนนั้นควรเริ่มตั้งแต่เด็ก และวัยรุ่น ( น้อยกว่า 25 - 30 ปี ) โดยธรรมชาติร่างกายจะพยายามเก็บเนื้อกระดูกให้มากที่สุด หากเพิ่มเนื้อกระดูกได้ในวัยนี้จะเป็นผู้ที่มีเนื้อกระดูกมาก และเป็นการป้องกันกระดูกพรุนในวัยสูงอายุได้อย่างดี หากพ้นวัยนี้แล้วโอกาสเพิ่มเนื้อกระดูกเพื่อการสะสมจะหมดลง มีแต่การรักษาเนื้อกระดูกไม่ให้ลดน้อยไปจากเดิมเท่านั้น

กระดูกแข็งแรงจะต้องคงสภาพเนื้อกระดูกให้อยู่ในอัตราส่วนที่เหมาะสมระหว่างแคลเซียมกับองค์ประกอบอื่นๆ ของกระดูก

1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จำเป็นอย่างยิ่ง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ๆ ละประมาณ 30 นาที วัยเด็ก หนุ่มสาวออกกำลังกายได้ทุกประเภท แต่ที่ดีที่สุด คือ การออกกำลังกายที่มีแรงโน้มถ่วงของโลกเข้ามาเกี่ยวข้องเช่น วิ่ง บาสเกตบอล ฟุตบอล แต่พอเข้าสู่วัยสูงอายุต้องเลือกให้เหมาะสม อาจเป็น เดิน รำมวยจีน เต้นรำ ยืนพร้อมแกว่งแขน เป็นต้น

2. อาหาร จำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะมีอายุเท่าใด ร่างกายต้องการสารอาหารชนิดเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันไปตามเพศ วัย ขนาดรูปร่าง รวมถึงกิจกรรมที่ทำในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานอาหารหลักให้ครบห้าหมู่ดังนี้

• หมู่ 1 เนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่ว • หมู่ 2 แป้ง น้ำตาล เผือก มัน • หมู่ 3 พืชและผัก • หมู่ 4 ผลไม้ต่าง ๆ • หมู่ 5 ไขมันจากพืชและสัตว์

โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลเซียมสูงเช่นผักใบเขียว ปลาเล็กปลาน้อย ที่สำคัญ ควรดื่มนมอย่างน้อยวันละ 1 แก้ว ( 250 ซีซี ) ซึ่งจะมีแคลเซียมประมาณ 200 มิลลิกรัม ในวัยเด็กต้องการแคลเซียมประมาณ 800 มิลลิกรัม/วัน ในขณะที่คนทั่วไป สตรีวัยหมดประจำเดือนและผู้สูงอายุต้องการแคลเซียมวันละ 1,000 - 1,500 มิลลิกรัม แต่ในรายที่ไม่สามารถรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมในปริมาณที่ร่างกายต้องการ ก็อาจรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียมได้

3. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ในปริมาณมากๆ อาหารเค็มจัด สุรา กาแฟ การรับประทานยาบางชนิดเป็นเวลานานๆ เช่น ยากล่อมประสาท ยาที่มีสารสเตียรอยด์ ยาสารกัมมันตภาพรังสี ยารักษาโรคไทรอยด์ ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ รวมทั้งควบคุมรักษาโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน รูห์มาตอยด์ โรคไทรอยด์ โรคไต ให้ดี และเมื่อถึงวัยสูงอายุหากเคยกระดูกหักมาก่อน ยิ่งควรป้องกันให้ดีเพราะอาจเกิดซ้ำได้

การป้องกันการเกิดภาวะกระดูกพรุนที่ถูกต้อง จึงควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม งดเว้นปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ และหากสงสัยหรือมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์กระดูกเพื่อการป้องกันและรักษาที่ถูกต้องต่อไป ...

บทความ : ผศ.นพ.พัชรพล อุดมเกียรติ
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 13 เมษายน 2549

เฮ้อ อ่านแล้วรู้สึกว่าร่างกายคนเรานี่บอบบางจริงๆเนาะ แล้วก็เห็นบทความนี้มีประโยชน์มาก เลยเอามาฝากเพื่อนๆ

อ้อ ... อย่าอ่านอย่างเดียวล่ะ ต้องทำตามด้วยนะครับ ...

Create Date : 20 เมษายน 2549

Last Update : 20 เมษายน 2549 8:31:38 น.

12 comments

Counter : 396 Pageviews.

เสี่ยงอย่าแรงค่ะ

โดย: ZAZaSassY

วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:9:08:35 น.

บทความนี้มีประโยชน์จริง ๆ อยากให้คนไทยได้อ่าน และนำไปปฏิบัติ
โรคกระดูกพรุนไม่น่ากลัวย่างที่คิด ถ้าเราปฏิบัติตัวถูกต้อง
แต่จะน่ากลัว ถ้าเราไม่ปฏิบัติตาม
ขอบคุณค่ะสำหรับสิ่งดี ๆ ที่นำมาเสนอ

โดย: ซออู้

วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:9:49:01 น.

โอววว์ ชอบทานกาแฟเย็นที่สุดเลยอ่ะค่ะ

โดย: อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ

วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:10:21:55 น.

ขอบคุณที่นำข้อมูลดีดีมาให้อ่านนะคะ

โดย: ทูน่าค่ะ

วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:11:03:38 น.

โดย: erol

วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:12:16:29 น.

อ่านปัจจัยเสี่ยงนี่โดนเกือบทุกข้อ ยกเว้น บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ ...

โดย: JewNid

วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:14:40:04 น.

พยายามออกกำลังและตากแดดตอนเช้าทุกวันเลย

โดย: ป้ามด

วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:15:13:38 น.

ไปตามกาลเวลาอะนะ คนเรา

โดย: อินทรีทองคำ

วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:15:32:35 น.

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
แป๋มพยายามจะกินแคนเซียมให้มากขึ้นเหมือนกันค่ะ

โดย: หยิ๋งแป๋ม

วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:15:53:34 น.

พุงพรุน กินเท่าไหร่ก้อไม่อิ่ม

โดย: ไ่่ก่ย่างคุกกี้กรอบหมีชอบหมด

วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:16:58:30 น.

มาตามเก็บค่าจุ๊บลูกชายเค้า

10 บาท

แม่หนิงยังนั่งทำงานอยู่เลยพ่อน้องบัว ปวด ๆ หลัง จะเกี่ยวกะกระดูกมัยเนี๊ยะ แต่ตั้งแต่คลอดน้องนับมีความรู้สึกว่า ปวดกระดูกบ่อย เค้าว่าตอนท้องลูกดูดแคลเซียมไปสร้างกระดูกมาก

แม่หนิงก็พยายามทานทดแทนนะ แต่ไม่รู้มันจะได้ผลอะป่าว

ปล.มีเรื่องไม่สบายใจด้วยแหละ ( ไม่รู้ไปบอกใคร ...แฮ่ แฮ่ )

โดย: run to me IP: 125.24.68.3 วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:17:29:06 น.

อ้าว แบบนี้ก็แย่เรย คุงย่าชอบกินกาแฟอ่า

โดย: คุณย่า

วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:6:31:09 น.