ให้ธรรมะนำชีวิต แล้วจะเดินไม่หลงทาง
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
คนพิเศษ

ชีวิตคนเรามีอะไรมากมายที่ผ่านเข้ามาให้ซึมซับรับรู้
ในชีวิตคนเรามีผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาให้รู้จักมักคุ้น แต่ในผู้คนมากมายเหล่านั้น
อย่างน้อยคงต้องมีใครบางคนที่ทำให้เรารู้สึก "ไม่ธรรมดา" ที่จะนึกถึง เรียกว่าเป็น "ความพิเศษ"
ที่เราจะยกเว้นเอาไว้จากความปกติทั่วไปของจิตใจ ก็ในเมื่อคำว่า "พิเศษ" หมายถึงความจำเพาะ ความแปลกแยก
ความดีงาม ความอบอุ่นในหัวใจ กระนั้นทำไมเราไม่ปฏิบัติต่อเขาให้ตรงกับที่ใจคิด ให้ "ความรู้สึกดีดี" จากจิตใจที่ดีดี ให้ "ความอาทรถึง" จากจิตใจที่นึกถึง ให้ "ความห่วง" จากจิตใจที่เป็นห่วง ให้ไปเถอะ ให้ไปอย่างดีดี แต่มี "สติ" ให้ไปเถอะ ให้ไปอย่างอบอุ่น แต่ไม่ "คุกกรุ่น" ให้ไปเลย ให้ไปเท่าไหร่ก็ได้ แต่เมื่อให้ไปแล้วต้อง "ไม่ร้อนรุ่มกลัดกลุ้ม" และหากเมื่อใดจิตใจอาจระส่ำระสาย สะดุดกับอะไรขึ้นมาบ้าง ก็จงหยุดพักตรึกตรอง อย่าปล่อยให้พายุอารมณ์โถมพัด "สิ่งดีดี" จนกระจัดกระจาย เพราะ "การให้ความหมาย" ไม่ใช่ "การตั้งความหวัง"
คนสองคนให้ความหมายซึ่งกันและกัน แต่คนสองคน "จะไม่ตั้งความหวังในกันและกัน" เพราะการตั้งความหวังมักนำพาซึ่ง "การเรียกร้อง" "ความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ" โดยที่ไม่รู้ตัว มันร้อนนัก หนาวนัก และไม่เป็นสุข
เราต้องไม่ลืมปรับอุณหภูมิจิตใจเอาไว้ที่องศาอุ่นๆ หากเริ่มรู้สึกตัวว่า ความร้อนเริ่มทวีขึ้น เราต้องค่อยๆ
เดินออกมาสูดอากาศเย็น หากตรงกันข้ามเราก็ต้องหลบเร้นจากความหนาวมาหาไอแดดเช่นกัน
และอย่าลืมว่า "ความพิเศษ" ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นพิเศษมากหรือพิเศษสุด หรือพิเศษอย่างยิ่งในคนคนเดียว

มีเด็กน้อยคนหนึ่งที่สีหน้าแสดงอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก พ่อของเขาจึงให้ตะปูกับเขาถุงหนึ่งและบอกกับเขาว่า
"ทุกครั้งที่เขารู้สึกโมโห หรือโกรธใครสักคน ให้ตอกตะปู 1 ตัวเข้าไปกับรั้วที่หลังบ้าน"
วันแรกผ่านไป เด็กน้อยคนนั้นตอกตะปูเขาไปที่รั้วหลังบ้านถึง 37 ตัวและก็ค่อยลดจำนวนลงเรื่อยๆ
ในแต่ละวันที่ผ่านไปอย่างน้อยก็คือการรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองให้สงบ ซึ่งง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะ และแล้วหลังจากที่เขาสามารถควบคุมตนเองได้ดีขึ้น ใจเย็นมากขึ้น เขาจึงเข้าไปพบพ่อและบอกพ่อว่า เขาสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้แล้ว ไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็น พ่อยิ้มและบอกกับลูกชายว่า"ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเจ้าต้องพิสูจน์ให้พ่อรู้โดยทุกครั้งที่เขาสามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวของตนเองได้ให้ถอน
ตะปูออกจากรั้วหลังบ้าน 1 ตัว"
วันแล้ววันเล่า เด็กน้อยคนนั้นก็ค่อยๆ ถอนตะปูออกทีละตัว จาก 1 เป็น 2...
จาก 2 เป็น 3 จนในที่สุดตะปูทั้งหมดก็ถูกถอนออกมาเด็กน้อยดีใจมากรีบวิ่งไปบอกกับพ่อเขาว่า
"ฉันทำได้ในที่สุดฉัน ก็ทำจนสำเร็จ!"
พ่อไม่ได้พูดอะไรแต่จูงมือลูกชายของเขาออกไปที่รั้วบ้านและบอกกับลูกว่า"ทำได้ดีมาก ลูกพ่อและเจ้าลองมองกลับไปที่รั้วเหล่านั้นสิ เห็นไหมว่ามันไม่เหมือนเดิมไม่เหมือน.... กับที่มันเคยเป็น "
"จำไว้นะลูก เมื่อใดก็ตามที่เจ้าทำอะไรลงไปโดยใช้อารมณ์ สิ่งนั้นมันจะเกิดเป็นรอยแผล เหมือนกับการเอามีดที่ แหลมคมไปแทงใครสักคน ต่อให้พูดคำขอโทษสักกี่หน ก็ไม่อาจลบความเจ็บปวด ไม่อาจลบรอยแผลที่เกิดขึ้นกับเขาคนนั้นได้ "
"ฉันใดก็ฉันนั้น กับเพื่อน.... เพื่อนเปรียบเสมือน อัญมณีมีค่าที่หายากเป็นคนที่ทำให้เรายิ้ม เป็นคนที่คอยให้กำลังใจและยินดีเมื่อเราพบกับความสำเร็จ เป็นคนที่คอยปลอบใจเราร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเราและจริงใจกับเราเสมอ.... แสดงให้เขาเห็นว่าเราห่วงใยเขามากแค่ไหนและระวังสิ่งที่เราทำไปไม่ว่าเป็นคำพูดหรือการกระทำและจงจำไว้เสมอว่าคำขอโทษไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เราหรือไม่ก็ตามแต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือรอยร้าวที่เขาคงไม่อาจลืมมันได้.... ตลอดไป"



Create Date : 01 ตุลาคม 2550
Last Update : 1 ตุลาคม 2550 12:59:08 น. 1 comments
Counter : 428 Pageviews.

 


โดย: kampanon วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:20:04:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ศาลาลอยน้ำ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ศาลาลอยน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.