ให้ธรรมะนำชีวิต แล้วจะเดินไม่หลงทาง
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
3 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

ความหมายของคำว่า บุญ

ความหมายของคำว่า บุญ ชาวพุทธเราส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องของ "บุญ" โดยคิดว่า การทำบุญก็คือ การตักบาตร การถวายทรัพย์ ถวายปัจจัย ถวายสังฆทาน เป็นต้น ให้กับพระสงฆ์หรือให้กับวัดเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว คำว่า "บุญ" มาจากภาษาบาลีว่า “ปุญญ” ซึ่งแปลว่า "เครื่องชำระสันดาน" (พจนานุกรม พุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ โดยพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)) หมายถึง การชำระกาย วาจา และใจ ให้หมดจดจากมลทิน หรือเครื่องเศร้าหมอง อันได้แก่ โลภะ โทสะ และโมหะ
ตามพระ ไตรปิฎกแล้ว เรายังสามารถทำ "บุญ" ได้อีกหลายหนทาง มากกว่าที่เราคุ้นชินกันในชีวิตประจำวัน ซึ่งเรื่องที่จัดเป็นการทำบุญในทางพระพุทธศาสนาเราเรียกกันว่า "บุญกิริยาวัตถุ" แบ่งออกเป็น 2 หมวด คือ หมวด 3 ซึ่งเป็นหมวดใหญ่ กับหมวด 10 ซึ่งแยก รายละเอียดปลีกย่อย ดังนี้
หมวด 3 มี 3 ข้อ คือ
1. "ทานมัย" เป็นการทำบุญด้วยการให้ อันนี้เราคุ้นเคยกันดี เช่น การตักบาตร การถวายสังฆทาน การถวายเงินสร้างวัด เหล่านี้คือ การให้สิ่งที่เรามี นอกจากจะได้บุญแล้วยังสอนให้เรารู้จักการเสียสละไปด้วยในตัว แต่มีการให้บางประการ ที่ไม่นับเป็นการทำบุญ เช่น การให้สุรา การให้สิ่งเพื่อกามคุณ เป็นต้น
2. "สีลมัย" เป็นการทำบุญด้วยการรักษาศีลหรือประพฤติดี ถือเป็นการทำบุญที่ไม่ต้องมีต้นทุนใดๆ ทั้งสิ้น ขอเพียงมีใจที่ตั้งมั่นและลงมือทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น หรือจะรักษาศีล 5, ศีล 8 เพียงเท่านี้ก็ได้ทำบุญแล้ว และที่สำคัญอานิสงส์ของการทำบุญด้วยการรักษาศีล ยังมากกว่าอานิสงส์ของการทำบุญด้วยการให้มากมายนัก
3. "ภาวนามัย" เป็นการทำบุญด้วยการเจริญภาวนา เช่น การนั่งสมาธิ ปฏิบัติกรรมฐาน หรือการเจริญวิปัสสนา นี่ก็เป็นการทำบุญที่ไม่มีต้นทุนอีกเช่นกัน และยังเป็นการทำบุญขั้นที่สูงขึ้นจาก "สีลมัย" มีอานิสงส์ของการทำบุญที่มากกว่าการทำบุญแบบ "สีลมัย" ด้วย
หมวด 10 มี 10 ข้อ คือ
1. "ทานมัย"
2. "สีลมัย"
3. "ภาวนามัย" (ตามที่อธิบายไปแล้วข้างต้น)
4. “อปจายนมัย” เป็นการทำบุญด้วย การประพฤติอ่อนน้อม เป็นผู้นอบน้อม ต่อผู้ที่ควรนอบน้อม เช่น เด็กที่เคารพนบนอบต่อผู้ใหญ่ ก็เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง
5. "เวยยาวัจจมัย" เป็นการทำบุญด้วยการขวนขวายในกิจการหรืองานที่ควรกระทำ พูดง่ายๆ ก็คือ เพียงแค่เราขวนขวายตั้งใจทำงานของเรา ก็ถือเป็นการทำบุญอย่างหนึ่งแล้ว
6. "ปัตติทานมัย" เป็น การทำบุญด้วยการแบ่งส่วนบุญ ที่เราได้ทำแล้วให้กับผู้อื่น เช่น เมื่อเราทำบุญตักบาตรแล้ว เราตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้อื่น หรือเมื่อเราถวายสังฆทานแล้ว กรวดน้ำให้กับเจ้ากรรมนายเวร นั่นก็คือการทำบุญอย่างหนึ่ง และถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าเป็นบุญซ้อนกัน คือการตักบาตรหรือถวายสังฆทานเสร็จแล้ว เราก็ได้ทำบุญด้วยการให้ เรียกว่า "ทานมัย" จากนั้นเมื่อเราแบ่งส่วนบุญนั้นให้กับผู้อื่น เราก็ได้ทำบุญอีกครั้ง เรียกว่า "ปัตติทานมัย"
7. "ปัตตานุโมทนามัย" เป็นการทำบุญด้วยการยินดีในบุญ ที่ผู้อื่นได้ทำแล้ว ถือเป็นการทำบุญที่ง่ายมากที่สุด เช่น เพื่อนไปทำบุญตักบาตรมา แล้วเราปลื้มใจที่เห็นเพื่อนทำบุญ เราอนุโมทนาบุญนั้นด้วยการยกมือพนมพูดว่า "สาธุ" เพียงแค่นี้เราก็ได้ทำบุญอย่างหนึ่งแล้ว
8. "ธัมมัสสวนมัย" เป็นการทำบุญด้วยการฟังธรรม ไม่ว่าจะฟังธรรมโดยตรงจากพระสงฆ์ ฟังหรืออ่านจากสื่อวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือ อินเตอร์เน็ต ก็ถือเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง
9. "ธัมมเทสนามัย" เป็นการทำบุญด้วยการแสดงธรรม ไม่จำเป็นว่าเราต้องเป็นพระสงฆ์ แต่เป็นประชาชนธรรมดาเราก็สามารถทำบุญด้วยวิธีนี้ได้ เช่น เราอ่านหนังสือธรรมะแล้วรู้ว่าสิ่งไหนดีสิ่งไหนเลว เมื่อเห็นคนทำสิ่งเลว เรานำธรรมะที่ได้อ่านนั้นไปอธิบายให้เขารู้ นั่นก็ถือว่าเราได้ทำบุญอย่างหนึ่ง
10. “ทิฏฐุชุกัมม์” เป็นการทำบุญด้วยการทำความเห็นให้ตรงกับความเป็นจริง ให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม หรือ "สัมมาทิฐิ" ในอริยมรรคมีองค์ 8 นั่นเอง
จะเห็นได้ว่าการทำบุญทั้ง 10 วิธี ที่กล่าวมานั้น มีเพียงวิธีแรก คือ "ทานมัย" เท่านั้น ที่ต้องมีต้นทุนหรือมีค่าใช้จ่าย ส่วนวิธีอื่นๆ ที่เหลือ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเลยสักบาท ก็สามารถทำได้ และที่สำคัญอานิสงส์ ของการทำบุญด้วยวิธี "ทานมัย" ยังน้อยที่สุดในบรรดา "บุญกิริยาวัตถุ หมวด 3" ด้วย อย่างไรก็ตาม ชาวพุทธเราทุกวันนี้ กลับติดกับดัก ของการทำบุญ อยู่เพียงแค่วิธีแรก ถ้านึกจะทำบุญ ก็นึกกันได้แต่เพียง การตักบาตร ถวายสังฆทาน ถวายปัจจัยให้พระ ถวายเงินให้วัด เป็นต้น โดยไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า การตั้งใจถือศีล 5 ให้ครบ สมบูรณ์เพียงหนึ่งวัน หรือตั้งใจนั่งสมาธิ ด้วยจิตสงบเพียงหนึ่งชั่วโมง นั้นมีอานิสงส์ของบุญ ที่มากกว่าเป็นไหนๆ แต่จะโทษพุทธศาสนิกชน ไปทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะวัดหรือพระสงฆ์ บางส่วนที่โลภ อยากได้ทรัพย์ ก็พยายามมุ่งเน้นให้คนทำบุญด้วย "ทานมัย" ดังเช่น คำพูดที่ว่า "ยิ่งบริจาคมาก ยิ่งขึ้นสวรรค์ชั้นสูง" โดยละเลย ที่จะอบรมสั่งสอนใ ห้พุทธศาสนิกชน รู้ว่ายังมีวิธีการทำบุญวิธีอื่น ที่ดีกว่าอยู่ ดังนั้นเมื่ออ่านมาจนจบแล้ว เชื่อว่าพุทธศาสนิกชน ที่ดีทุกท่าน คงจะหลุดจากกับดัก และรู้กันแล้วว่า การทำบุญแบบไหนที่เหมาะสมกับเรา หรือเราสามารถทำได้มากที่สุด
ที่มาข้อมูล : //www.thumboon.com
//th.wikipedia.org
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ โดยพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

//www.tungsaan.com/index.php?mo=3&art=417585




 

Create Date : 03 สิงหาคม 2553
0 comments
Last Update : 3 สิงหาคม 2553 14:52:47 น.
Counter : 782 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ศาลาลอยน้ำ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ศาลาลอยน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.