.... เมื่อวันนี้ไม่มีเธอ ....
เมื่อวันที่ 10 เมษา สี่ปีที่แล้ว
ผู้ชายคนหนึ่งโทรปลุกฉัน ให้ตื่นเช้า
เตรียมตัวหนีจากวิกฤตทางการเมืองในเมืองหลวง กลับบ้านที่ต่างจังหวัด
นั่นเป็นสายโทรศัพท์แรกจาก ผู้ชายที่ฉันเรียกว่ารักแรก

วันที่ 28 มิถุนายน สี่ปีที่แล้ว
ฉันบอกชายคนนั้นว่าฉันชอบรุ่นพี่คนหนึ่งจะตองทำยังไง
ชายคนนั้นตอบน้ำเสียงซื่อ แล้วบอกฉันว่า
คบกับเขาไง...  ไม่ต้องจีบใครเลย
ไม่ได้เกินคาด ฉันตอบตกลงเสียงใส
ไอ้เรื่องรุ่นพี่ฉันโกหก อิอิ

ฉันเริ่มต้นพับดาวดวงเล็กๆ วันละดวง
ทุกๆวัน จนกลายเป็นกิจวัตร ฉันตั้งใจจะพับมันทุกๆวันที่เรายังรักกัน

ไม่มีวันไหนที่เขาจะได้หลับก่อนฉันซักวัน
ชายคนนั้นเฝ้ารอจนฉันหลับเขาจังตัดสายโทรศัพท์

ไม่มีวันที่ไหนชายคนนั้นจะลืมพูดทั้งสามคำ
ด้วยเสียงอ่อนนุ่มและแผ่วเบา
อ้วนรักไหมนะ วันนี้อ้วนคิดถึงไหมม๊ากกกเลย ฝันหวานนะที่รัก
อาจจะเป็นเพราะเราไม่ค่อยได้เจอกันจึง ทำให้เติมความเชื่อมั่นและความหวานให้กันทุกๆวัน

ไหมก็รักอ้วนครับ คิดถึงอ้วนด้วย ฝันหวานนะที่รัก
ผู้ชายที่แสนอ่อนโยนของฉัน
วันที่ฉันร้องไห้ฟูฟาย ชายคนนั้นโอบกอดฉันหลวมๆ
ตบหลังฉันเบาๆ ไม่เป็นไรนะที่รักอ้วนอยู่นี่แล้ว
ฉันไม่ใช่คนอ่อนไหว ไม่ใช่คนขี้แย
หากแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ ฉันจำต้องยอมรับความจริงที่หนีไม่พ้น
ฉันอ่อนไหว ขี้แงเกินกว่าที่ตัวเองคิดไว้มาก 

ก็รัก.. รักมากจนคิดว่าเขาจะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายในชีวิต
ตลอดเวลาที่รู้จักชายคนนี้ฉันแทบจะมองไม่เห็นข้อเสียของเขาแม้แต่น้อย
หรือมีเขาก็แก้ไขเสียจนหมด
หากฉันไม่ชอบ เพียงแค่เอ่ยปาก ชายคนนั้นก็จะไม่ทำอีก
ต่างจากฉันที่ถึงไม่ชอบก็ยังทำ อาจจะโดนดุบ้าง แต่สุดท้ายเขาเองต่างหาก
ที่สามารถรับพฤติกรรมขี้วีนเหวี่ยงของฉันได้ โดยไม่เคยให้ฉันปรับเปลี่ยนอะไรซักอย่างเพื่อเขา
มันเหมือนจะไม่มีช่องว่างระหว่างเราเสียด้วยซ้ำ
ไม่ไม่เคยโกหก ไม่เคยมีความลับ 
กระทั่งฉันมองผู้ชายคนหนึ่ง ฉันก็บอกว่าฉันมอง แต่ฉันก็บอกเขาเสมอว่า
แต่ไหมร๊ากกก อ้วนคนเดียว คนอื่นเอาไว้มองเฉยๆ เขาลูบหัวฉันโยกไปมาเบา แล้วยิ้มให้ 
........
ถึงเราจะไม่เจอกันบ่อยเหมือนคู่อื่น
แต่ฉันก็ไม่ได้คิดว่าเราห่างกันซักครั้ง ทุกครั้งที่ต้องการ
เขาอยู่ข้างๆฉันเสมอ


รักแท้เอาชนะทุกอย่างได้
เหมือนจะเป็นนิยายรักที่ถูกปลูกฝังและถ่ายทอดกันมาเนิ่นนาน
ชายคนนี้เป็นอิสลาม .... และฉันเป็นพุทธ
นั่นเป็นเรื่องเดียวที่เราทะเลาะกัน เรื่องเดียวจริงๆที่หาจุดบรรจบไม่ได้
ฉันตลกตัวเองที่ไม่เชื่อมั่นว่าความรักจะเอาชนะทุกอย่างได้
ฉันตลกตัวเองที่... ข้ามผ่านตรงนี้ไปไม่ได้เหมือนคนอื่นๆ 
ฉันเป็นไม่ได้จริงๆ
พ่อของฉันเป็นคนที่เคร่งในพระพุทธศาสนามากเช่นเดียวกับฉัน
ฉันที่เคร่งศาสนาพอกัน ฉันจำเป็นต้องเข้าวัด
ต้องสวดมนต์ก่อนนอน ฉันจำเป็นจะต้องตื่นมาใส่บาตร 

วันที่ 9 พฤษภา วันที่ขุ่นมัวที่สุดของฉัน ฉันนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น
ประเทศอินเดีย... ฉันจะไม่หวั่นไหวต่อคำพูดใดๆของเขาอีก
เหมือนเคยๆ เราไกลกันแล้ว...
ฉันตัดสินใจบอกเลิกอย่างเด็จขาด ผ่านเอ็มเอสเอ็น คุยกันในทุกๆประเด็นที่คาใจ
หัวใจเหมือนจะขาดตามไปด้วย... แต่มันก็มั่นคงและมุ่งมั่นเกินกว่าที่จะหันหลังเดินกลับ
ไม่มีหยาดน้ำตารินหล่นข้างแก้มฉัน ถึงจะเจ็บเพียงใด แต่ฉันรู้สึกต้องกลืนมันลงคอ
หากแต่ชายที่ฉันรัก ป่านนี้คงจะร้องไห้มากแค่ไหนก็ไม่รู้ แค่คิด
มันก็ปวดลึกลงไปในใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนทำร้ายตัวเอง
 แต่ฉันจะไม่หันหลังกลับ
เขากระหน่ำโทรเข้ามือถือ... ถ้าหากได้ยินเสียงฉันคงทำใจไม่ได้
ถ้าหากเห็นหน้าฉันคงโอบกอดชายคนนี้ได้ 
"ที่รักเค้าอยู่ตรงนี้แล้ว  อย่าร้องไห้นะ ไม่ไปไหนๆจะไม่ไปไหน"
ในที่สุด... ชายคนนั้นก็พูดขึ้นว่า อ้วนตั้งใจว่าจะไม่รั้งไหมไว้อีกแล้ว

ไม่รู้จะว่ายังไง....
แม้กระทั้งวันสุดท้าย ที่เป็นแฟนกันเขาก็ยังพูดว่า
ฝันดีนะ คิดถึงมากด้วย อ้วนรักไหมที่สุดนะ
..........
มันเจ็บอย่างบอกไม่ถูก จริงๆ 
เขารู้ว่าฉันไม่สามารถจะนอนหลับได้ถ้าเขาไม่เฝ้า และบอกสามคำนี้ก่อนนอน

ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปได้เหมือนกันเวลานอน
ตลอดเวลาที่คบกันไม่มีซักวันที่จะนอนได้โดยไม่มีผู้ชายคนนี้เฝ้า

ทันทีที่กลับมาไทย 
ฉันบอกกับตัวเองว่าจะไม่บอกชายคนนั้นเด็จขาดว่าฉันกลับมาถึงเมืองไทยแล้ว
เพราะฉันเองที่ยังไม่พร้อม 
เหมือนสวรรค์จะลงโทษกัน 

21 พฤษภา 
ฉันนั่งอยู่หน้าตึกคณะวิทยาศาสตร์ ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาฉัน
ทั้งๆที่เขาไม่เคยมามหาลัยฉันซักครั้ง ไม่เคยเลย 
แต่วันนี้ เรากลับเจอกันที่นี่
เจอกันแบบไม่ได้ตั้งใจ
ไม่คาดคิดมาก่อน เขาบอกกับฉันว่า
นั่งรออยู่นานแล้วคิดว่าน่าจะเจอ ในที่สุดก็เจอ จนได้
เราไม่ได้คุยอะไรมาก เพียงแค่ตกลงว่าเขาจะกลายเป็นพี่ชายที่แสนดีของฉัน
และเขาฝากให้เพื่อนฉันดูแลฉันดี
ฉันต่างหากที่ต้องบอกให้เขาดูแลตัวเองดีๆ
ดีเหมือนที่ฉันดูแลเขา กินข้าวให้เยอะๆ เยอะกว่่าเดิม
อย่าร้องไห้ เข็มแข็งเข้าไว้
ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง



ฉันไม่รู้ว่าทำไมคู่รักกันถึงต้องเรียกกันว่าตัวอ้วนๆ 
แต่เพราะฉันอยากให้เขาอ้วนกว่าที่เป็นอยู่จึงเรียกเขาตัวอ้วนๆ
จนเขาเองก็แทนตัวเองว่าอ้วนในที่สุด



ขอบคุณ    เหลือเกินเวลาเนิ่นนานที่เราใช้มาด้วยกันรักเหลือเกินผู้ชายคนนี้
ขอบคุณ    จริงๆที่ดูแลผู้หญิงเอาแต่ใจคนนี้มาโดยตลอด
ขอบคุณ    ที่สร้างรอยยิ้มให้ผู้หญิงคนนี้
ขอบคุณ    ที่เติมความรู้สึกให้เธอ 
ขอบคุณ    ที่สอนให้เธอรู้จักคำว่ารัก... คำที่เธอไม่เคยมีและไม่เคยใช้กับใครมาก่อนแม้กระทั่งคนที่ควรรัก
ขอบคุณ    ที่สอนให้รู้จักคำว่าดูแล เป็นห่วง คิดถึง
ขอบคุณ    เหลือเกินความอบอุ่นที่มอบให้ 


ก่อนหน้านี้ ฉันก็บอกไม่ถูกว่าตัวเองเป็นคนยังไง
เพียงแต่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความรู้สึกและค่อนข้างเย็นชากับคนรอบข้าง
ไม่ค่อยสนใจใคร อาจจะเป็นเพราะอะไรบางอย่าง
ฉันไม่เคยทุกข์ร้อนเพราะใครไม่เคยต้องร้องไห้เพราะใคร
และไม่คิดจะเสียใจเพราะใคร หากแต่ผู้ชายคนนั้น
เปลี่ยนฉันเป็นคนอีกคนที่รู้จักเห็นใจคนเป็น
ครั้งหนึ่งฉันเคยพูดกับเพื่อนคนหนึ่งว่า 
ไม่ต้องมาง้อเพราะไม่ชอบให้ใครง้อ และไม่ชอบง้อใคร
ฉันไม่ได้รู้สึกประทับใจเจ็บปวดหรือเสียใจซักเท่าไหร่
เมื่อใครคนหนึ่งต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ 
ไม่ได้รู้สึกว่าการกระทำของตัวเองทำให้ใครกี่คนต้องเสียหายทั้งด้านความรู้สึกหรือใดๆ



ฉันแค่รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้สอนให้ฉันมีความรู้สึก
ขอบคุณในทุกๆอย่างที่มอบให้


ขอโทษในทุกๆอย่างที่ทำไป  



ฉันหวังว่าจะค่อยๆลืมความรู้สึกนี้ไปในที่สุด
แต่คงไม่มีวันลืมผู้ชายคนนี้ ทุกๆอย่างที่เขามอบให้
ฉันหวังว่าจะหายดีในเร็วๆวัน(แต่ฉันก็ยังคงนอนกอดตุ๊กตาตัวแรกของเราอยู่ทุกๆวัน 555)
หวังว่านายจะดูแลตัวเองดีๆด้วย ตาอ้วน
ไว้หายดีเราคงเป็นพี่น้องกันได้จริงๆ 
ไหมเองก็จะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด

ขอโทษนะที่เห็นแก่ตัว ขอโทษจริงๆ ไม่มีคำอื่นแล้วจริงๆ ขอโทษ
ขอโทษที่ตัดช่องน้อยแต่พอตัว ขอโทษที่เอาแต่ใจ ทุกๆอย่าง
ทุกๆอย่างจริงๆ ขอโทษ



Create Date : 03 มิถุนายน 2555
Last Update : 3 มิถุนายน 2555 0:37:52 น.
Counter : 1017 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

lustig
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments
มิถุนายน 2555

 
 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
All Blog