|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
บันทึก(ไม่)ลับ ฉบับภูกระดึง 2
เช้าวันรุ่งขึ้น พวกเราตัดสินใจไปที่น้ำตกวังกวางเป็นจุดแรก หลังจากผิดหวังจากการไม่ได้ไปผานกแอ่นเพราะฟ้าปิด
ใช้เวลาเพียงไม่นานพวกเราก็มาถึงน้ำตกวังกวาง น้ำตกเวลานี้น้ำน้อยนัก แต่ก็ยังพอมีให้พวกเราได้เก็บรูปกลับไปบ้าง
หลังจากเก็บรูปน้ำตกแล้ว พวกเราย้อนกลับไปทางพระพุทธเมตตา เนื่องจากช่วงเวลานี้ของปี เส้นทางสายน้ำตกไม่สู้ปลอดภัยนัก
ระหว่างทางเราพบว่าดอกกระเจียวเริ่มแตกหน่อชูช่อออกมากันบ้างแล้ว แม้จะยังไม่มากนัก แต่ก็ทำให้การเดินทางดูมีสีสรรไม่น้อย
ที่ลานพระพุทธเมตตาเราแวะกราบพระ และเก็บภาพกันอย่างสบายใจ
บริเวณใกล้องค์พระมีระฆังและกระดิ่งแขวนไว้โดยรอบ
แม้เป็นเพียงช่วงเวลาไม่นาน เมฆบางส่วนก็เปิดออก แง้มให้พวกเราได้เห็นท้องฟ้ากัน
พวกเรามุ่งหน้ากันต่อไป ระหว่างทางก็แวะเก็บรูปกันไปเรื่อยๆ เพียงแค่หยุดเดิน ธรรมชาติของที่นี่ก็มีมุมสวยๆไว้รอให้เราเก็บภาพกลับไปเสมอ
เมื่อถึงทางแยก เราตัดสินใจที่จะเลี้ยวไปสายน้ำตกอีกครั้ง เพื่อไปชมน้ำผาน้ำผ่า
เส้นทางไปยังน้ำตกช่วงนี้ดูดิบ ชัน และชื้นอย่างมาก ป่าดูรกทึบ ทั้งยังมีทากค่อนข้างชุม พวกเราจึงแบ่งกลุ่มย่อยลงไป เพื่อเก็บภาพน้ำตกขึ้นมา
จากนั้นเราจึงมุ่งหน้าไปทางสระอโนดาด พวกเราจะไปกินข้าวกันที่นั่น
บนภูเราพบต้นไม้ต่างๆมากมายที่ดูแปลกตาออกไป เฟิร์นเป็นไม้ที่หาดูได้ไม่ยากเลยสำหรับที่นี่ แถมต้นไม่ใช่เล็กๆ เฟิร์นบางต้นที่พบ สูงกว่า 2 เมตรก็มี
ต้นไม้ใหญ่ที่เห็นได้บ่อยคงหนีไม่พ้นพืชตระกูลสน ลองดูดีๆ เปลือกของมันก็ดูสวยไม่ใช่น้อย
ดอกไม้ป่าดอกเล็กๆก็ผลิดอกออกมาชูช่ออวดกันอยู่ไม่น้อย สำหรับคนชอบดอกไม้เล็กๆเหล่านี้แล้ว ที่นี่ราวกับสวรรค์ทีเดียว
เราเดินกันต่อไปเรื่อยๆ ทว่า..เมฆฝนก็เริ่มตั้งเค้าอีกครั้ง
สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมา การเดินทางในบางช่วงเริ่มยากลำบากขึ้น
กว่าจะถึงสระอโนดาด ก็ทำเอาทั้งเหนื่อยทั้งหิว แต่ก็เหมือนฟ้าจะเห็นใจ เมื่อเราถึงสระอโนดาดแล้ว ฝนก็หยุดตก ให้พวกเราได้พักกินข้าวกัน
หลังจากอิ่มกันแล้ว เราจึงออกเดินกันต่อ จุดหมายต่อไปของเราอยู่ที่ผาแดง กับระยะทางเกือบ 4.5 กิโลเมตร
หลังจากสระอโนดาดลับสายตาไปไม่นาน เสียงฟ้าร้องก็ดังมาไกลๆราวกับข่มขู่ สายฝนที่จางไประหว่างกินข้าวก็กลับมาอีกครั้ง พวกเราได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดิน เพื่อให้ถึงที่ผาแดงโดยเร็ว เพราะอย่างน้อย ที่นั่นเราก็มีที่หลบฝน...
สายฝนโปรยปรายมาไม่หยุด จนพวกเรามาถึงผาแดง เราอาศัยเพิงที่เคยเป็นที่พักซื้อของระหว่างทางซึ่งบัดนี้ร้างแล้ว คอยคุ้มกันเราจากสายฝนภายนอก
สายลมพัดมาแรงขึ้นๆ พร้อมกับฝนที่เทลงมาอย่างหนัก เราตัดสินใจที่จะรอ..รอจนกว่าฝนจะซาลงกว่านี้ แล้วเราจะมุ่งหน้าต่อไปยังผาหล่มสัก ซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้าย
พวกเราหลบฝนที่ผาแดงกันอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งฝนเริ่มเบาบางลง
แม้ฝนจะซาลงมาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆเลย
เราตัดสินใจกันที่จะออกเดินทางต่อแม้ฝนจะยังคงโปรยปรายอยู่ เราไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าฝนจะหยุด..เจ้าตั๊กแตนน้อยก็เหมือนกัน
เราฝ่าฝนไปจนถึงผาหล่มสัก และได้พบกับเจ้าหน้าที่ของทางอุทยาน 2 คน ซึ่งมารอพวกเราอยู่นานแล้ว ด้วยเกรงว่าพวกเราจะหลงทาง
พวกเราหยุดพักกินอาหารกันอีกครั้งที่ร้านค้าริมผาหล่มสัก ซึ่งเป็นร้านเดียวที่ยังคงเปิดให้บริการอยู่ในเส้นทางริมผา
หลังจากพักผ่อนกันพักใหญ่ๆ ฝนก็หยุดอีกครั้งราวกับเอื้อให้เรา ไม่พลาดโอกาสที่จะเก็บรูป ณ สถานที่ยอดนิยมแห่งนี้
จากผาหล่มสัก กลุ่มของเราฝ่าฝนเป็นระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตรเพื่อกลับที่พัก โดยใช้เส้นทางริมผาและตัดเข้าสู่ที่พักที่ผาหมากดูก...
เราถึงที่พักกันตอน 19.00น. พิดิบพอดีกับฟ้ามืด สภาพที่ทั้งเหนื่อยและหนาว ทำให้คืนนั้นเราหลับกันสนิทจนรุ่งเช้าทีเดียว
to be continue...
Create Date : 08 มิถุนายน 2548 |
Last Update : 28 มิถุนายน 2548 12:41:52 น. |
|
1 comments
|
Counter : 550 Pageviews. |
|
|
|
โดย: JC2002 วันที่: 9 มิถุนายน 2548 เวลา:8:13:36 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไม ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน รู้เพียงว่า..จะตั้งใจมุ่งมั่น เดินทางไปข้างหน้าเรื่อยๆ ด้วยหวัง... ว่าสักวัน จะพบกับใครสักคน ที่พร้อมจะก้าว..ไปด้วยกัน
ก็แค่คนธรรมดา.. ไม่น่าสนใจ
|
|
|
|
|
|
|
|