|
...เรื่องสั้น...วันหยุด..สุดท้าย...ตอนที่ ๑...
วันหยุด....สุดท้าย
“ คุณคะ วันนี้ซักผ้าให้ด้วยนะ มีขยะอยู่หลังบ้าน รถเก็บขยะมาช่วยยกไปทิ้ง
ด้วยนะ ชั้นจะรีบไป นัดเพื่อนไว้ ”
....เสียงสุดท้ายที่เธอร้องสั่งผม ....
........... ผมลุกจากที่นอนทั้งที่ขณะนั้นเป็นเวลาเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ ซึ่ง
เป็นวันหยุด ขอบตาที่คล้ำและนัยน์ตาอันแดงกล่ำ บ่งบอกได้ว่าร่างกายของ
ผมพักผ่อนไม่เพียงพอ...อืมห์....ผมบิดขี้เกียจและสลัดไล่ความเมื่อยขบออกไป
จากร่างกาย...ผมทำงานหนักมาตลอดอาทิตย์ ตลอดเดือน หรือตลอดทั้งปี
แล้วนะ ..เอ..จำไม่ได้ หรือว่า สองปีมานี่ผมยังไม่ได้หยุดเลย...แต่จะทำอย่าง
ไรได้ล่ะ...ถ้าหากผมไม่ทำงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย ก็มีรายได้ทาง
เดียวจากผมนี่แหละ แต่ผมไม่เคยบ่นเลยนะ ไม่เคยแม้แต่จะแสดงความขี้
เกียจให้ใคร ๆ เห็น ผมแอบหวังว่าหัวหน้าคงจะเห็นในความขยันขันแข็งของ
ผม และคงจะมีเมตตาช่วยเหลือให้ผมได้ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน...แต่...ห้าปี
แล้วซินะที่ผมต้องจมปรักอยู่กับงานคัดแยกจำเจเก่า ๆ เงินเดือนก็ไม่เคยขึ้น
....แถมยังไม่เคยได้รับการเหลือบแลจากหัวหน้าของผมเลย...เอาเถอะ...ไม่
เป็นไรน่า...ผมได้แต่ปลุกปลอบใจตนเองเช่นนั้น....
............. ถ้วยกาแฟใบเก่า...ตั้งตรงที่เก่า...มีคราบกาแฟเก่า ๆ สีน้ำตาลเข้ม
เหนียวหนับติดที่ก้นถ้วย แสดงว่าไม่ได้ล้างมาหลายวันแล้ว..เฮ้อ...ภรรยาของ
ผมเธอคงจะไม่ว่าง...ไม่เป็นไรหรอกน่า...ไม่เป็นไร...
.........ผมฉีกกาแฟสำเร็จรูปเทใส่ถ้วย
.......... เอ๊ะ!..น้ำไม่ร้อนนี่...เธอคงลืมเสียบปลั๊ก....คิดได้ดังนั้นผมจึงจัดการ
ตรวจดูปลั๊กไฟ
........... ใช่จริง ๆ ...เธอลืมเสียบปลั๊กไฟ...ผมจึงจัดการเสียบปลั๊ก..รอเดี๋ยว
น้ำก็ร้อน ชั่วครู่นั้น... เสียงแตรจากรถขนขยะก็ดังขึ้นที่หน้าบ้าน
“ เดี๋ยว...รอเดี๋ยว..รอก่อน ”
........... ผมตะโกนลั่น แล้วรีบวิ่งไปในครัว คว้าถุงขยะได้ก็รีบวิ่งออกมา
...แต่ไม่ทันซะแล้ว รถขยะจากไปไกลแล้ว
“ มันจะรีบไปขนศพพ่อแม่มันรึไง ” ผมสบถและสาปแช่งอย่างหัวเสียพลางทิ้ง
ถุงบรรจุขยะไว้ที่รั้วหน้าบ้านนั่นเอง
........... เสียงกาต้มน้ำร้อนร้องหวีดหวิว...ส่งสัญญาณว่าน้ำกำลังเดือด
พล่าน... ผมเดินกลับเข้าบ้านแล้วจัดการฉีกกาแฟสำเร็จรูปเทลงแก้วอีกหนึ่งซอง
...ในถ้วย..มีกาแฟผงสำเร็จถึงสองซอง...ใช่.. ผมต้องการความเข้มข้นของคาเฟ
อีน เผื่อมันจะช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้น
........... ผมเทน้ำร้อนจากกาต้มลงสู่ถ้วยกาแฟ....ควันสีขาวขุ่นลอยกรุ่นขึ้น
มาพร้อมกับกลิ่นหอม
“ อ่าห์ ”
............ เพียงแค่กลิ่นที่ได้สูดดม ทำให้ผมรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาในทัน
ใดผมใช้ช้อนคนกาแฟอย่างแผ่วเบา ละมุลกับกลิ่นกรุ่นก่อน...แล้วค่อย ๆ
..จิบ...มันช่างวิเศษจริง ๆ
............ หลังดื่มกาแฟหมดถ้วยผมรู้สึกดีขึ้น คาเฟอีนคงทำหน้าที่ได้อย่าง
ดียิ่ง ผมรู้สึกกระปี้กระเป่าขึ้นจริงๆ
“ ต้องซักผ้าซินะ ”
............. ในความคิดกลับส่งผลให้สายตามองหาตะกร้าใส่ผ้า...นั่น!....มัน
วางอยู่ที่กองเสื้อผ้ากองใหญ่นั่นเอง....ผมไม่รีรอให้เสียเวลา รีบจัดการคัดแยก
เสื้อผ้าออกเป็นสามตระกร้า...ชุดชั้นใน กางเกงใน และซับในของภรรยาหนึ่ง
ตระกร้า...เสื้อหนึ่งตระกร้า กางเกงและกระโปรงอีกหนึ่งตระกร้า
........................................
............ เครื่องซักผ้าเก่า ๆ ทำงานอย่างเกียจคร้าน ผมนึกอยากจะเปลี่ยน
เครื่องใหม่หลายครั้ง แต่ติดตรงที่ว่ายังไม่มีเงิน ครั้นพอเก็บสะสมจนเกือบจะ
ซื้อได้ ภรรยาของผมรู้เข้าเธอก็ริบไปเสียหมด จึงได้แต่ทนใช้กันต่อไป โชค
ดีที่มันยังใช้ได้อยู่...ไม่เป็นไรน่า..
.......... ผมซักเสื้อผ้าเสร็จก็เกือบเที่ยง เสียงท้องร้องลั่น...ใช่สิ...ผมลืมไป
โดยสนิท เจ้าท้องของผมคงจะน้อยใจเพราะตั้งแต่เช้า ผมใส่กาแฟลงไป
เพียงถ้วยเดียว พอได้เวลามันจึงได้ร้องทักท้วงออกมา
........... ผมเดินเข้าไปในห้องครัว วันนี้เธอทำอะไรให้ผมทานนะ ในสมอง
ของผมคาดหวังถึงอาหารอันโอชะ..แต่..ไม่มี...เธอไม่ได้ทำอาหารไว้ มีแต่จาน
เก่า ๆที่ยังไม่ได้ล้างวางระเกะระกะ และในจานนั้นยังมีครอบครัวแมลงสาบที่คุ้น
หน้าคุ้นตาอีกหนึ่งฝูง ผมจำหน้าตาพวกมันได้ดี ตั้งแต่เจ้าสองตัวผัวเมียนั่น
เข้ามาหาเศษอาหารกิน จนถึงบัดนี้มันมีลูกหลาน เหลน โหลน มากมาย
หลายตัวจนอยากจะนับว่าพวกมันเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวของเราเลยที
เดียว
............ ผมเปิดตู้เย็น ในใจหวังว่าจะมีขนมปังหรือนมกล่องให้ผมได้รอง
ท้อง....และก็ไม่ผิดหวัง มีขนมปังที่เปิดกินแล้วอยู่สองสามชิ้น และนมเก่า ๆ
ที่เปิดแล้วอีกไม่ถึงครึ่งกล่อง...
........... แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับท้องน้อย ๆ ของผม...ผมจัดการกับของ
เหล่านั้นอย่างรวดเร็วและใช้เวลาอีกสามชั่วโมงในการทำความสะอาดห้องครัว
............ นาฬิกาที่ผนังบอกเวลาสี่โมงเย็นแล้ว ขณะที่ผมกำลังนั่งพับผ้าที่
ซักเมื่อตอนสายเข้าตู้ ภรรยาของผมก็กลับเข้าบ้าน เธอกระแทกปิดประตู
เสียงดังราวกับว่า บานประตูคือสิ่งสำหรับระบายอารมณ์อันขุ่นมัว พลางสะบัด
รองเท้าทิ้งอย่างไม่ใยดี สีหน้าแสดงอาการเครียดจัด และยิ่งเครียดจัดขึ้นไป
อีกเมื่อเธอเปิดตู้เย็นแล้วไม่พบนมกับขนมปังที่เหลือ
“ นี่...คุณกินไปหมดแล้วเหรอ ”
............. เธอถามผมด้วยน้ำเสียงแข็ง ๆ
“อืมห์ ”....
............ ผมรับคำเบา ๆ พลางเก็บรองเท้าที่เธอสลัดทิ้งวางบนชั้นวาง
รองเท้า
“ แล้วคุณทำอะไรไว้กินบ้าง ”
“ ผมพึ่งทำงานเสร็จคุณก็กลับมา จะมีเวลาที่ไหนไปซื้อของ ” ผมตอบเบา ๆ
......... เท่านั้นเอง...เสียงสบถด่าทออย่างหยาบคายก็พรั่งพรูออกมาจากปาก
น้อย ๆ ของเธอ...บัดนี้...ผมได้กลายเป็นเครื่องมือระบายโทสะของเธอแทนบาน
ประตูไปเสียแล้ว
............. ผมยืนฟังอย่างสงบ...ชั่วครู่...ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
อย่างช้า ๆ แล้วหยิบเงินที่เหลือติดตัวส่งให้เธอ...เมื่อเธอเห็นเงินก็คว้าหมับ
เหมือนกับปลาใหญ่ฉวยเหยื่อพร้อมกับเสียงด่าทอก็เงียบกริบ...เงิน...ยังใช้กับ
เธอได้เสมอมา....
“ ชั้นจะออกไปแก้มือ ตอนค่ำจะกลับ ทำอะไรไว้กินด้วยล่ะ ”
........ เธอสั่งแล้วสะบัดหน้าไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ..........เธอไปแก้มือครับ...ไพ่นกกระจอกที่บ้านเพื่อนของเธอหรือไม่ก็...ปาจิง
โกะ...ที่เดิมที่เธอเคยไป...ผมส่งสายตามองตามเงาหลังของเธออย่าชินชา..
............ ตลอดห้าปีที่เราอยู่ด้วยกันเธอเป็นแบบนี้แหละครับ ผมมีหน้าที่หา
เงิน เธอมีหน้าที่เล่นพนัน อ้อ! ผมลืมบอกไป เราไม่มีลูกด้วยกัน ทั้งเธอ
และผมมีความเห็นในสิ่งเดียวกันคือไม่อยากมีภาระ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
ครับ
.......... เมื่อแรกที่เราแต่งงานกัน ผมขอร้องให้เธอเป็นแม่บ้านส่วนผมจะทำ
งานหาเงินเอง ในปีแรกเธอเป็นแม่บ้านที่ดีมาก ๆ เลยครับ บ้านช่องเธอกวาด
- ถูสะอาดสอ้าน เสื้อผ้าเธอเก็บซักเรียบร้อย เลิกงานมาสามทุ่มหรือสี่ทุ่มผม
ก็ได้ทานข้าวฝีมือเธอทุกวัน ผมมีความสุขมากครับ เธอทำอาหารอร่อย
มาก ผมยังจำรสฝีมือนั้นได้เสมอ...แต่...
............ เมื่อสี่ปีก่อน...เธอไปเที่ยวบ้านเพื่อน...เพื่อน ๆ ชวนให้เธอเล่นไพ่
นกกระจอก ในระยะแรก ๆ เธอได้เงินเยอะมากครับ เล่นได้ครั้งละหลาย
หมื่นเยน...พอถึงตอนเย็นเธอก็จะรีบกลับบ้านและซื้ออาหารมารอผมอยู่เสมอ
เธอมักจะเอาเงินที่เล่นได้ออกมาอวดผม....ผมดีใจครับที่เห็นเธอมีความสุข...ก็
ผมรักเธอนี่ครับ...แต่...หลังจากนั้นไม่นาน...เธอก็เริ่มเปลี่ยนไป...
............................................................
........... หกโมงเย็นแล้ว ผมต้องออกไปซื้ออาหาร...ไม่ไกลหรอกครับเดิน
เท้าไปสิบนาทีก็ถึง ผมเลือกซื้ออาหารเสร็จแล้วก็ไม่ลืมแวะคลีนิคหมอโซ
....หมอประจำตัวของผม....ผมเป็นโรคนอนไม่หลับครับ จึงต้องใช้ยานอนหลับ
เป็นประจำและนี่ก็ใกล้หมดแล้วต้องแวะขอยาจากคุณหมอเพิ่ม
........... หลังจากเสร็จธุระผมก็กลับถึงบ้าน...ผมจัดการนำอาหารออกมาอุ่น
รอภรรยาของผม ผมเลือกซื้อแต่อาหารที่เธอชอบทานทั้งนั้นเลยครับ ขาหมู
รมควันส่งกลิ่นหอมกรุ่น ยากิโซบะ เทมปุระ...อ้าว!...ผมลืมเสียสนิท...น้ำซุป
ร้อน ๆ...ผมต้องปรุงน้ำซุปหนึ่งชามครับ...แค่นี้ก็เรียบร้อย..
........... เมื่อผมปรุงน้ำซุปเสร็จเธอก็กลับมาพอดี...เหมือนเดิมครับคงจะเสีย
พนันหมดอีกตามเคย เธอกระแทกนั่งลง ผมรีบตักข้าวสวยร้อน ๆ ส่งให้เธอ
เธอรับไปวางลงอย่างไม่ใส่ใจ สีหน้าบูดบึ้ง...ผมจะทำอย่างไรดีที่จะประจบ
เอาใจเธอ...อ้อ..ไม่ยากครับ...
............. ผมหยิบเงินจากในกระเป๋ากางเกงจำนวนสุดท้ายที่มีอยู่ส่งให้เธอ
“ พรุ่งนี้ค่อยไปแก้มือใหม่นะ ”
............ แค่นี้เธอก็ยิ้มออกมาได้...เฮ้อ
“ ช่วงนี้ชั้นดวงไม่ดีแต่พรุ่งนี้อาจเป็นวันของชั้นก็ได้นะ”
......... เธอพูดพลางหยิบชามข้าว
“ โอ้โฮ..คุณนี่รู้ใจชั้นจริงๆเลยมีแต่ของโปรดของชั้นทั้งนั้น ลงมือทานกันเลย
นะ ”
........... พูดจบเธอก็ลงมือทานอย่างไม่รีรอ ผมมองเธอทานข้าวอย่างมี
ความสุข...ก็...ผมรักเธอนี่ครับ
“ ทานเยอะ ๆ นะคุณ พรุ่งนี้จะได้มีแรงไปแก้มือ ”
......... เธอยิ้มหน้าระรื่น... สักพักอาหารกว่าครึ่งก็ถูกเธอลำเรียงลงท้อง
ผมส่งแก้วน้ำให้เธอดื่ม และหลังจากเธออิ่มข้าว
“ คุณไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะนะ เดี๋ยวผมเก็บทำความสะอาดเอง ”
“ ก็ดีค่ะ ”
........... เธอรับคำอย่างว่าง่ายแล้วผุดลุกขึ้นโดยไม่ลืมหยิบเงินที่วางอยู่บน
โต๊ะไปด้วย
............ ผมเก็บล้างถ้วยชามและอาบน้ำเสร็จก็ปาเข้าไปสามทุ่มกว่า
“ ป่านนี้เธอคงหลับไปแล้วหละ ”...ผมคิดในใจ
( อ่านต่อพรุ่งนี้ครับ )
Create Date : 18 มกราคม 2553 |
Last Update : 18 มกราคม 2553 9:08:46 น. |
|
0 comments
|
Counter : 553 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
cumpreram |
|
|
|
|