แก้ง่วงระหว่างอ่านหนังสืออย่างไรดี ที่ไม่ทำลายสุขภาพ?

เคยเป็นมั้ยครับ เวลาอ่านแล้วหลับคาหนังสือไปเลย แต่ไม่ใช่แค่นั้นน่ะครับ บางทีมันก็มาในรูปของ “การหลับใน” ไม่ใช่เป็นกันได้เฉพาะเวลาขับรถนะครับ สำหรับการอ่านหนังสือคือเราจะสามารถอ่านต่อไปได้ แต่ไม่รู้ตัวว่ากำลังอ่านอะไรอยู่ -*- เหมือนกับละเมอไปน่ะครับ 55+ อันนี้ผมเป็นบ่อย เอิ้กๆ อ่านๆไปเอาแต่ให้จบ แต่ถ้าถามว่าเราอ่านอะไรไปก็ตอบไม่ได้ เพราะฉะนั้นเวลาอ่านๆไปก็พยายามถามตัวเองดูด้วยนะครับว่าเราอ่านอะไรอยู่ -*-





วิธีการหลีกเลี่ยง “มารความง่วง”



  1. หลีกเลี่ยงสถานที่ที่จะนำเราไปสู่การหลับฝันครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนอนอ่านหนังสือหรือนั่งอ่านบนเตียงเนี่ยแหล่ะ 55+ เคยเป็นมั้ยครับนั่งอ่านอยู่แล้วไถลไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นท่านอน แล้วก็หลับคาหนังสือไปในที่สุด 55+ เพราะฉะนั้นเป็นไปได้อยู่ห่างจาก เตียง หมอน โซฟา อะไรที่ให้ความรู้สึกนุ่มๆ เคลิ้มๆ หรือสร้างบรรยากาศถึงการหลับนอนอ่ะครับ ทิ้งไปให้หมด



  2. อ่านในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ เคยเห็นในหนังมั้ยครับที่แบบปิดไฟมืดๆ แล้วเรามานั่งบนโต๊ะ เปิดไฟเหลืองๆ สลัวๆอ่านหนังสือ บางคนคงแบบอย่างนี้อ่ะดีจัดบรรยากาศการอ่านหนังสือให้โรแมนติก 55+ รับรองว่าเราจะได้โรแมนติกกันถึงในฝันแน่นอนครับ เพราะว่าในการอ่านตาของเราต้องการแสงสว่างที่เพียงพอครับ ถ้าอ่านในที่สลัวๆตาของเราจะต้องทำงานหนัก เมื่ออ่านได้สักพักก็จะเกิดอาการเมื่อยล้าของดวงตา จนต้องหลับเพื่อพักสายตาในที่สุด ดังนั้นถ้าอยากอ่านหนังสือได้นานๆ ต้องอ่านในที่สว่างไว้ครับ



  3. step by step ครับ เวลาอ่านหนังสือไปทีละเรื่องอย่าข้ามเรื่องครับ สังเกตุได้จากเวลาเรียนเช่นกันครับ เวลาเราขาดเรียนไปนานๆ พอเข้ามาเรียนแล้วเรียนไม่รู้เรื่องเราก็จะง่วงและหลับลงในที่สุด เพราะงั้นการเรียนและการอ่านเราต้องไปทีละขั้นนะครับ ตามเนื้อหาของมัน จำไว้ครับ ความงงเป็นบ่อเกิดของความง่วงครับ งงมากก็ง่วงมาก งงน้อยก็ง่วงน้อย ไม่งงเลยก็จะไม่ง่วงเลยครับ ^^



  4. กินแต่พอดีครับ การกินอาหารก่อนการเรียนหรืออ่านหนังสือนี่ก็เกี่ยวนะครับ เราควรกินพอดีๆ ไม่ให้อิ่มมากเกินไป ตามคำกล่าวที่ว่า “หนังท้องตึง หนังตาหย่อนครับ” ถ้าอิ่มมากๆจะทำให้เราง่วงครับ



  5. พักผ่อนให้เพียงพอด้วยล่ะ เคยรู้สึกมั้ยครับวันไหนที่เรานอนมาเต็มที่ทั้งวันและ จะพยายามนอนอีกเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับเพราะร่างกายเรามันพักผ่อนเต็มที่ไปแล้ว เพราะงั้นการพักผ่อนให้เต็มที่ก็เป็นวิธีป้องกันที่ดีอีกทางหนึ่งครับ



  6. อย่าหักโหมให้มากเกินไปครับ ความพอดีอีกแล้วครับ การอ่านหนังสือเนี่ยเราจะต้องใช้สมองไปด้วย แน่นอนว่ายิ่งใช้มากก็จะเหนื่อยล้า เพราะฉะนั้นเราก็ควรมีช่วงเวลาพักครึ่งในการอ่านหนังสือบ้าง แล้วค่อยกลับมาอ่านต่อ วิธีการผ่อนคลายสมองไว้จะมาเล่าในโอกาสหน้านะครับ



จบไปแล้วนะครับสำหรับการป้องกันความง่วงต่อไปในกรณีที่เราป้องกันไม่ทันแล้วล่ะจำทำยังไง??



การแก้ไขอาการง่วงนอนขณะอ่านหนังสือหรือเรียน



  1. นั่งหลังตรงครับ เมื่อไหร่ที่เริ่มงอและเริ่มคลานนั่นคืออาการของความง่วงแล้วครับ



  2. หยุดพักสายตาจากการอ่านหนังสือสักพักครับ เงยหน้าขึ้นมามองวิวทิวทัศน์ซักหน่อย



  3. ล้างหน้าล้างตากันสักนิด ออกเดินทางไปห้องน้ำสักหน่อย เป็นไปได้ก็ไปโปเตโต้กันในห้องน้ำนะครับ -*- “ลืมตาในน้ำ” ลาวกันไป 55+ อื้อช่วยได้ลองดู หลังจากเป็นโปเตโต้กันแล้วเราจะกลายเป็นโมเดินด๊อกกันต่อเลย “ตาสว่าง” 55+ พอๆ ขอโทษครับ อย่าเพิ่งปิดครับ อ่านต่อเถอะ ผมจาไม่เล่นมุขอีกแล้วค๊าบบ เอิ้กๆ



  4. ชวเลขแก้เซง งงอ่าดิ 55+ มันก็คือการ Short note นั่นแหล่ะครับ มันจะช่วยให้เราคิดในสิ่งที่ได้ฟังได้รับและถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ ทำให้เรามีสติในการเรียนการอ่านมากยิ่งขึ้นครับ นอกจากทำให้หายง่วงแล้ว ยังเป็นการทบทวนความรู้ไปในตัวด้วยครับ



  5. ยืดเส้นยืดสายกันดีกว่า ลองวางหนังสือและลุกขึ้นมาเต้นท่าบ้าๆบอๆหน้ากระจกสัก 1 นาทีครับเอาให้เตลิดสุดๆไปเลย หรือไม่จะกระโดดตบหรืออะไรก็ได้ครับ มันจะทำให้ร่างกายของเราหลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งออกมา แล้วทำให้เราไม่ง่วง ทดลองดูได้ครับ ก่อนนอนไปวิ่งๆๆๆๆๆ สักหลายๆรอบแล้วมานอนดู เราจะนอนไม่หลับ หรือถ้าจะหลับก็ใช้เวลานานมากๆ



  6. จ้างวานคนแถวนั้น ถ้าเป็นที่โรงเรียนก็เพื่อนๆ ถ้าเป็นบ้านก็พ่อแม่พี่น้อง ให้เค้าคอยดูคอยเรียกด้วยถ้าหลับ ของพวกผมที่อยู่ในห้องเรียนเวลาใครหลับจะตกลงกันเลยให้รุมกัน “อั๊ก” (ทุบหลัง) ได้เลย 55+ ช่วยได้มากครับ มันจะไม่มีใครกล้าหลับเลย เพราะทุกคนในห้องมันจ้องอยู่ แนวว่า “หลับเมื่อไหร่เมิงตาย”



  7. นกหวีดช่วยชีวิต อันนี้ก็ง่ายๆครับ ลุกขึ้นมาเป่านกหวีดปี๊ดดดดด.... ~ ดังๆ เอาให้สุดลมหายใจ และให้แสบแก้วหูสุดๆไปเลย ช่วยได้เหมือนกัน



  8. ตะโกนให้กำลังใจตัวเองไปเลยครับ ประกาศให้คนทั่วบริเวณนั้นได้รับรู้ 55+ “กุเก่งว้อยยย!!” “กุไม่ง่วงหรอกเว้ยยย ” “อีกนิดเดียวจะเสร็จแล้ววู้ยยย ” “สู้เค้าโว้ยย ” อะไรก็แล้วแต่อ่ะ คิดๆกานขึ้นมา 55+



  9. รับบทนางเอกเจ้าน้ำตาครับ หลังจากวิธีธรรมดามันเอาไม่อยู่ -*- ซาดิสกันขึ้นมาอีกระดับ อันนี้ผมไม่แนะนำให้ทำกันนะครับ แต่บางครั้งสถานการณ์เลวร้าย สอบพรุ่งนี้เรายังไม่ได้อ่านสักตัวเลย วิธีนี้ก็ช่วยได้ ทาถูๆตรงโหนกแก้วต้าอ่ะครับ สักพักจะเกิดอาการเศร้าซึ้ง น้ำตาพรากกันเลยทีเดียว ไม่หลับชัวครับ



  10. แก้ง่วง 5 บาท อันนี้ต้องขอบคุณบทความในเด็กดีครับผมเคยอ่านเจอ เค้าบอกให้ไปซื้อน้ำแข็งถุงละ 5 บาทมาใส่กะละมังแล้วเอาเท้าแช่น้ำเย็นๆในนั้นอ่ะครับ ผมเองก็ยังไม่เคยลองเหมือนกันแต่เห้นเค้าว่ามาแบบนี้ใครลองแล้วว่าไงก็มาบอกกันบ้างแล้วกันครับ



  11. ถ้าทั้งหมดนี่ช่วยไม่ได้จริงๆก็ไปนอนสะเถอะครับ ให้เต็มที่ พอมีกำลังวังชาแล้วค่อยมาลุยกันต่อ


ขอบคุณข้อมูลจาก //www.vcharkarn.com/vcafe/146616



สำหรับผมนั้น ผมเลือกอาหารทานเล่นที่ไม่ให้สารที่มีผลเสียอย่างร่างกายเช่นกาแฟอีน หรือสารที่มีผลต่อหัวใจ อย่างเช่น กาแฟ หรือ เครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ ผมจึงชอบทานลูกอมยี่ห้ออย่างเช่น Ice Breakers ที่แก้ง่วงได้ดี และไม่มีผลเสียต่อร่างกายใดๆทั้งสิ้น ลองไปหาทานดูนะครับ อิอิ






Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2557 19:44:48 น.
Counter : 829 Pageviews.

3 comments
  
วิธีง่ายๆ ของผม เข้า 7-11 หาซื้อลูกอมเปรี้ยวๆ อย่างที่ออกใหม่ Ice Breaker ที่เป้นกล่องกลมๆ อร่อยเหาะจริงๆ แก้ง่วงได้เป็นอย่างดี
โดย: Genius IP: 183.89.148.76 วันที่: 5 มีนาคม 2557 เวลา:10:08:10 น.
  
เราเคยยกินสีม่วงอ่ะ อร่อยดีนะ เปรี้ยวๆ ชุ่มคอดี แล้วมันมีรสอื่นนอีกไหมมค่ะ???????
โดย: taoty555 (สมาชิกหมายเลข 1269820 ) วันที่: 16 มีนาคม 2557 เวลา:11:24:48 น.
  
สีแดง มันคือแตงโม ใช่ป่าว??
โดย: ifototo (สมาชิกหมายเลข 1076404 ) วันที่: 16 มีนาคม 2557 เวลา:12:58:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

CruelMoon
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กุมภาพันธ์ 2557

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
25
26
27
28
 
 
All Blog