รู้จัก PIM ได้อย่างไร? คำถามนี้ทำให้ผมต้องนึกย้อนไปสมัย ม.ปลาย ซึ่งผมยังไม่รู้เลยว่ามหาลัยที่ผมจะเรียนต่อคือมหาลัยอะไร ตัวผมเองก็ยังไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่ เลยปล่อยมาจนถึงช่วงเทอม 2 ของ ม.6 ช่วงนั้นผมเริ่มเครียดและเริ่มคิดแล้วว่าจะไปมหาลัยไหนดี มหาลัยในดวงใจก็ยังไม่มี ที่ไหนดีก็ยังไม่รู้ จนมีวันนึง พี่แบงค์จาก PIM ได้เข้ามาแนะแนวถึงโรงเรียนของผม พี่เขาได้แนะนำถึงหลักสูตรการเรียนแบบ Workbase Education ที่เราเข้าใจกันว่าต้องเรียนไปทำงานไป ตอนแรกผมคิดว่า เห้ย มนดีนะ ได้ตังด้วยระหว่างเรียน ได้เรียนไปทำงานไปน่าสนุกดีออก แต่พี่แบงค์ยังได้บอกอีกว่า ถ้าหากเราไม่อดถึกทนจริงๆไม่ต้องมาเรียนนะ ถึงตอนนั้นผมก็เริ่มชั่งใจแล้วว่าจะไปดีรึเปล่านะ จนถึงวันที่สอบคัดเลือกชิงทุน ตอนนั้นผมก็คิดไว้ในใจว่าถ้าไม่ได้ก็คงไม่เอาที่นี่หรอก แต่เมื่อผลสอบออกมาผมดันได้ทุนคณะนิเทศซะงั้น ผมเลยตัดสินใจแล้วว่าเอาที่นี่แหละ เป็นไงเป็นกัน!!!

    วันแรกที่เข้ามารั้วมหาวิทยาลัย วันนั้นถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นวัน First Impression ที่ทางคณะนิเทศศาสตร์ได้จัดขึ้น เข้ามาวันแรกผมได้เจอกับพี่ๆ คณะอาจารย์ที่มาต้อนรับอย่างอบอุ่น พี่ๆทำเหมือนเราเป็นพี่น้องแท้ๆดูแลอย่างอบอุ่นทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย ผมไม่แน่ใจว่ามหาลัยที่อื่นจะเป็นแบบนี้มั้ยนะ แต่ที่นี่ดีเพราะดูแลกันอย่างคอรบครัว โดยเฉพาะคณะนิเทศศาสตร์อาจจะดูว่าเป็นคณะที่คนน้อยก็จริง แต่บางทีผมว่าคณะที่คนน้อยๆมันจะดูอบอุ่นกว่าคณะที่คนเยอะๆซะอีก มันดูคล้ายๆกับการปกครองในอดีตที่ว่า พ่อปกครองลูก แต่นี่ พี่ปกครองน้อง ฮ่าๆ 
    มาในเรื่องของการเรียน การเรียนที่นี่ค่อนข้างที่จะหนักหน่วงเอาการนะครับสำหรับในความคิดของผม แต่มันก็ดีนะถ้าเทียบกับมหาลัยอื่นๆ มีอาจารย์บางคนแอบกระซิบมาว่า หลักสูตรที่สอนปี 1 บางวิชาเป็นวิชาเรียนของปี 4 นะ ผมนี่อ้าปากค้างเลย เรียนไปได้ยังไงวิชาของปี 4 เหมือนเป็นการเรียนที่ให้นักศึกษาเรียนไปไวกว่าที่อื่นเพื่อที่จะได้เอาเวลาที่เหลือมาฝึกงาน ระหว่างเรียนไปเพื่อนๆในห้องก็ดีนะ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ยิ่งเวลาสอบเนี่ยจะเกาะกลุ่มพากันอ่านหนังสือ ผมชอบตรงนี้นะ เพื่อนที่สามารถพึ่งพากันได้ เวลาเล่นก็เล่น แต่เวลาเรียนนี่จริงจังกันสุดๆ เป็นที่มาของสโลแกนที่ว่า Work Hard Play Hardder แต่การึกงานของที่นี่ไม่ได้ฝึกเซเว่นตลอด 4 ปีทุกคณะนะครับ หลายๆคนอาจจะเข้าใจผิดมาตลอด แต่ละคณะก็ล้วนที่จะฝึกงานตามสายด้วยกันทั้งนั้น แต่จะมีการลงเซเว่นทุกคณะ 1 ครั้งเพื่อฝึกตัวเอง ใครบอกว่าไม่ดีก็ช่างแต่ผมว่าดีนะ ได้ฝึกหลายๆอย่าเลยแหละ ไม่ว่าจะเป็นวินัยในการทำงาน ความซื่อสัตย์ ความอดทนและอีกมากมาย เป็นด่านทดสอบด่านแรกก่อนที่เราจะเข้าไปฝึกปฏิบัติงานจริงๆตามสายคณะที่เราเรียน แต่ยอมรับว่าดการเรียนหนักจริง ถ้าใครใจไม่ได้ ไม่อึดถึกทนแลเวล่ะก็อยู่ยากนะครับ คณะนิเทศศาสตร์นี่ถือเป็นคคณะที่ดูแลกันอย่างครอบครัวมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการหาที่ฝึกงาน อาจารย์ก็จะเลือกที่ฝึกงานให้เหมาะกับตัวเราเองซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ อาจารย์ทุกคนจะรู้จักตัวนักศึกษาเองเป็นอย่างดี และถ้ามีปัญหาอะไรกก็จะดูแลกันอย่างใกล้ชิดเป็นกันเองมากๆ นอกจากนี้ยังมีโครงการลมใต้ปีกที่จะช่วยเหลือนักศึกษาที่เกรดน้อยๆ ให้เพื่อนๆที่เกรดสูงๆช่วยติวและช่วยเหลือให้เพื่อนที่เกรดน้อยๆให้มีเกรดที่สูงขึ้น เรียน CA ที่นี่ไม่แพ้ที่อื่นนะครับบอกเลย ใครที่อยากเข้านิเทศมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับเราดีกว่าครับแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน มีพี่ๆรอเทคอยู่น้าาา

     สุดท้ายนี้ก็อยากจะแนะนำใครที่กำลังมองหามหาลัยในฝัน เพิ่ม PIM อยู่ในลิสรายชื่อมหาลัยที่จะเข้าซะ นิเทศอาจจะไม่ได้โด่งดังเท่า BU RSU บลาๆ แต่คุณภาพเปี่ยมล้นพอๆกันนะครับ อีกอย่างที่นี่แจกทุนเยอะ ถ้าได้เข้ามารับรองจะไม่ผิดหวังแน่นอนรับประกัน อิอิ