► ►► ..ถนนสายนี้ ..มีตะพาบ..( สโนว์วุ้น ..กับคนเลี้ยงแพะทั้งเจ็ด )◄ ◄◄
มาอีกแล้ว กับโครงการ " ถนนสายนี้ มีตะพาบ "
ของเป็ดน้อและผองเพื่อนนะครับ
งานนี้ มีโจทย์สุดหิน ก็คือประโยคนี้ครับ
"ปีบ หูดชะลูดหลังเขาเงาของเราก่ายกอดกันและกัน"
มาอ่านดูกันนะจ๊ะ
-------------------------
ย้อนไปในอดีตกาล นานแสนนานมาแล้วล่ะ..
ยังมีพระราชาพระองค์หนึ่ง พระนามว่า “ เฮียกวง “
ทรงปกครองอาณาจักรอันรุ่งเรื่อง นามว่า “ ตุ๊ “
พระราชาทรงมีพระราชีนีคู่บุญ ทรงพระนามว่า “ เจ๊ก้อย “
สองคนนี้ ไม่ได้มีบทบาทมากนัก รู้จักแค่นี้ก็พอ
วันหนึ่ง พระราชินี เจ๊ก้อย
ทรงพระดำเนินไปขุดจิ้งหรีดกลางทุ่งนากับเหล่าข้าราชบริพาร
วันนั้นเป็นวันหิมะตก ท้องทุ่งนาขาวโพลนไปด้วยหิมะ
ดูงดงามราวกับมีใครมาโปรยแป้งข้าวโพดเอาไว้
นางจึงอธิษฐานในใจว่า
“ถ้าแม้นว่าเรามีลูก ขอให้ลูกเราผิวขาวบริสุทธิ์ ดุจดังสีของหิมะนี้ “
จากนั้น พระนางทรงเหลือบพระเนตรไปเห็นลิงกังตัวหนึ่ง ซึ่งมีก้นที่แดงมาก
พระนางก็ทรงอธิษฐานอีกว่า “ ต่อจากข้อแรกนะ ขอให้ลูกเรา มีริมฝีปากแดง
ดุจก้นของลิงกังนี้ด้วยเถิด “
. .
.
หลังจากนั้น พระนางก็ไปทำอิท่าไหนก็ไม่รู้ แต่พระราชา เฮียกวงนั้น
ดูเหลืองลงไปถนัดตาทีเดียว
ส่วนพระนางก็ทรงพระครรภ์ และก็ทรงตกลูก เป็นพระราชธิดา
ท่ามกลางความโล่งพระทัยกับคำขอของตัวเอง
เพราะถ้าออกมาเป็นผู้ชายล่ะก็แม่เอ๋ย
ผิวขาวปากแดง คงไม่พ้นเป็นเก้งแน่ๆ
เห็นดังนั้น พระนางจึงทรงตั้งชื่อพระราชธิดาว่า
“ สโนว์วุ้น “ ซึ่งแปลว่า “ หิมะที่เป็นวุ้นๆ “
นั่นก็เป็นเพราะพระนาง ทรงโปรดการดื่มเบียร์ที่เป็นเกล็ดน้ำแข็งเอามากๆนั่นเอง
.
.
.
อยู่มาวันหนึ่ง ไม่นานหลังจากพระประสูติการของเจ้าหญิงน้อย
พระราชินีเจ๊ก้อย ก็ได้ไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้าหลังจากโคม่าอยู่หลายวัน
หลายคนอาจจะสงสัย ว่าพระนางเป็นอะไรตาย?
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า วันหนึ่ง ขณะที่พระนางยืนชมวิวข้างหน้าต่างอยู่ดีๆ
ก็มีลิงกังตัวหนึ่ง คาดว่าจะเป็นลิงกังตัวที่พระนางเห็นตอนไปขุดจิ้งหรีดตอนนั้น
นั่นแหละ
มันกระโดดขึ้นมาเกาะบนกิ่งไม้นอกหน้าต่าง
ก้นของมันแดงมาก พระนางเลยตกพระทัยก้นลิง อาการโคม่า
จนสิ้นพระชนม์ไปในที่สุด
.
.
.
.
จากนั้นไม่นาน พระราชา เฮียกวง ก็ทรงเกรงว่าลูกน้อยของตนจะมีปมด้อย
พระองค์จึงทรงมีเมียใหม่ซะเลย หน้าตาของนางผู้นี้ สะสวยผิดมนุษย์มนา
ใช่แล้ว นางหาใช่มนุษย์ปรกติไม่ หากแต่เป็น “ แม่มด “
ใช่...นางมีลูกสาวอยู่แล้ว ชื่อมด
บางคนสงสัยว่าใช่เหรอ?
เอาเป็นว่า นางคนนี้ ได้ปลูกว่านต้องห้าม เล่นคุณไสยมนต์ดำ
แถมยังชอบเล่นตุ๊กตาบลายธ์
ด้วยว่านางนั้น เป็นผู้หลงไหลในรูปโฉมมาก
สุดท้าย ก็ถูกพลังมืดเข้าครอบงำ
นางถึงกับสังหารลูกตัวเองเพราะเกรงว่าโตขึ้นมาแล้วจะสวยกว่าตน
จนสุดท้าย ก็กลายเป็นแม่มดที่มีเวทย์มนต์ชั่วร้าย
ด้วยประการฉะนี้
โหดชะมัด
.
.
.
นางนั้นมีกระจกวิเศษอยู่บานนึง
ตลอดเวลานางก็จะถามว่า
“ ใครนะ งามขนาดกว่าผู้ใดในโลกนี้ “
กระจกบานนั้น ก็มักจะตอบว่า “ หล่อนนั่นแหละย่ะ “ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
จนเมื่อวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันที่ สโนว์วุ้น มีเม็นเป็นครั้งแรก
กระจกบานนั้น ก็ตอบคำถามที่ทำให้ยัยราชินีใจร้ายช็อคแทบฟันโยก
“ ยัยหน้าวอกนั่น สวยกว่าหล่อนย่ะ “ คือคำตอบที่ว่า
มันช่างเป็นกระจกที่ดูดัดจริตและท่าทางจะปากจัดมาก
นังราชินีใจร้าย มีรึจะยอมให้ใครมาแย่งตำแหน่ง
ภายในสมองอันชั่วร้ายของนางนั้น ปรากฎแผนชั่วร้ายออกมาทันที
นางวางแผนที่จะให้นายพราน ลอบสังหาร สโนว์วุ้น
ขณะที่เธอไปเล่นกับแมวในป่า
แล้วให้นายพรานโหด ควักหัวใจเธอมาด้วย
.
.
.
แต่เดชะบุญ ขณะที่นายพรานจะลงมือนั่นเอง
แกดันเหลือบไปเห็นปานแดงที่จั๊กแร้ของเจ้าหญิงน้อยพอดี
แกมีกฎอยู่ว่า “ จะไม่สังหารอะไร ที่มีปานแดงอยู่อย่างเด็ดขาด “
เจ้าหญิงน้อยก็เลยรอด
นายพรานยังบอกว่า อย่าได้กลับมายังเมืองนี้อีกเป็นอันขาด
จากนั้น แกก็ฆ่าอีเห็นตัวนึง
แล้วเอาหัวใจไปหลอกราชินีว่าเป็นหัวใจของเจ้าหญิง
นังราชินีใจร้ายก็เชื่อ....
.
.
.
เจ้าหญิงสโนว์วุ้นผู้บอบบาง เดินโซซัดโซเซไปในราวป่า
ทั้งหิว ทั้งเหนื่อย ทั้งท้อแท้ เธอเป็นเพียงเจ้าหญิงตัวเล็กๆ
ป่านี้ทั้งรก ทั้งน่ากลัว เธอจะเอาตัวรอดได้เช่นไรกัน
ควายป่าตัวเบิ้มตัวหนึ่ง เดินผ่านหน้าเธอไป
ด้วยความหิว
เธอจึงพุ่งตรงไปยังควายแล้วพุ่งหมัดอะบะคัตเข้าที่ท้องน้อยของมันอย่างจัง
ควายโชคร้ายล้มฟุบลงกับพื้น ขาดใจตายทันที
เธอลากร่างของมันครืดๆๆ ไปบนพื้นหญ้า
ก่อไฟขึ้นหนึ่งกอง หมายจะปิ้งควายตัวนี้กินซะให้หายอยาก
แต่ปัญหาก็คือ เธอจะแร่เนื้อควายตัวนี้อย่างไร?
.
.
.
เจ้าหญิงผู้บอบบาง จึงออกเดินไปรอบๆบริเวณนั้น
เผื่อจะมีบ้านคน ให้พอหยิบยืมมีดพร้าได้บ้าง
ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงแพะร้อง
“ อุแว้ ๆๆ “
แพะป่าน่ะ มีเสียงร้องที่แปลกมากนะขอบอก
เธอรีบซ่อนกายในพุ่มไม้แถวนั้น เพราะคิดว่าเป็นเสียงช้างป่า
เอาเข้าไป
พอรู้ว่าไม่ใช่ เจาหญิงจึงตัดสินใจ เดินไปตามเสียงนั้น
ข้างหน้าของเธอ ปรากฎบ้านน้อยหลังหนึ่ง
“ ย้าฮู!! “ เธอส่งเสียงเรียก
ไม่มีใครตอบมา
ก็เลยถือวิสาสะเข้าไปในบ้านซะเลย
.
.
.
ทุกอย่างในบ้านนั้น ดูเล็กกว่าขนาดทั่วไปเสียหมด
เจ้าหญิงน้อย เดินสำรวจจนทั่วบ้าน
แอบจัดนู่นิดนี่หน่อย พยายามรื้อหาหนังสือโป๊ใต้ที่นอนทั้งเจ็ดอัน
ก็ไม่เห็นจะมี เธอผิดหวังนิดๆ
และด้วยความเหนื่อยอ่อนล้าลุ่ย
เธอจึงเผลอหลับไปขณะที่หัวพาดอยู่ขอบหน้าต่างนั่นเอง
หลับง่ายมากๆ
น่ารักมั๊ย?
.
.
.
ไม่นาน เจ้าของบ้านตัวจิ๋วทั้งเจ็ดก็กลับมาจากเลี้ยงแพะ
เห็นสาวน้อยคอพาดขอบหน้าต่างอยู่อย่างนั้น
ก็เลยแอบถักเปียให้เธอซะเลย วู้วๆๆ
ไม่นาน เธอก็ตื่นขึ้นมา
ทั้งสองฝ่ายต่างประหม่าเขินอาย
แต่สุดท้าย ทั้งหมดก็คุยกันจนทราบว่า
เจ้าหญิงผู้บอบบาง เป็นคนที่ฆ่าควายป่าตัวนั้น
ควายป่าที่คอยมากัดกินแพะของพวกเขาบ่อยๆ
ทั้งหมดจึงตกลงใจ ที่จะให้เจ้าหญิงน้อยอาศัยอยู่ด้วย
แลกกับการทำลาบลู่ควายให้กินเป็นมื้อเย็น
ทั้งสองฝ่าย ต่างมีมิตรภาพให้แก่กัน
.
.
.
ฝ่ายนังราชินีใจร้าย ได้รู้ว่าเจ้าหญิงยังไม่ตาย
ก็ชักดิ้นชักงอเข้า ดิ้นพล่าน กระทืบเท้าตึงตัง
ทำตัวซึนเดเร๊ะ
นางจึงออกอุบาย ทำเนื้อแดดเดียวเอาไว้
ในวันต่อมา
นางก็แปลงกายเป็นพ่อค้ากับข้าวหาบ
ขายอาหารอีสานทั่วไป
เดินท่อมๆ ไปยังกระท่อมอุ่นรักแห่งนั้น
เจ้าหญิงน้อยได้เห็นเนื้อแดดเดียว ก็อดที่จะน้ำลายสอไม่ได้
เธอจับมันเข้าปากในบัดดล
จากนั้นก็ล้มตึงหงายเงิบลงกับพื้นทันที
นังราชินีดีใจ รำเซิ้งอยู่บริเวณนั้นตั้งนานสองนาน
.
.
.
เมื่อคนเลี้ยงแพะตัวแคระกลับมา ก็พบว่า
เจ้าหญิงน้อยของพวกเขา ไม่หายใจเสียแล้ว
บางคนก็ว่าตายแล้ว บางคนก็ว่ายังไม่ตาย
ด้วยความที่เธอขาว และตัวยังอุ่นๆอยู่
เลยดูไม่ค่อยออก
บางคนก็บ่นเสียดาย ว่าคงอดกินลาบอร่อยๆเสียแล้ว
ทั้งหมด จึงนำร่างของเธอไปวางที่ลานกว้าง
บนแท่นหินที่ประดับด้วยดอกไม้สวยงาม
หัวแท่น ประดับด้วย เขา ของควายตัวนั้น
ข้างแท่น มีต้นดอกปีบ ที่ดอกของมันกำลังร่วงหล่น
จนสีขาวของมันเกลื่อนเต็มพื้น
. .
.
วันรุ่งขึ้นนั่นเอง
เจ้าชายรูปงาม หุ่นสูงชะลูด
แต่มีหูดเล็กๆ อยู่ตรงนิ้วโ้ป้งพระบาทซ้าย
ก็ออกมาตามหางูเหลือมของพระองค์ที่เลื้อยหายเข้ามาในป่านี้
ทรงขี่ควายเผือกมาอย่างสง่างาม
ใครเห็นเป็นต้องตะลึงเชียวล่ะ
พลันสายพระเนตรอันแวววาวของพระองค์
กระเหลือบไปเห็นร่างของเจ้าหญิงสโนว์วุ้น
นอนแอ้งแม้งอยู่บนแท่นบุพชาตินั่น
พระองค์ปรี่เข้าไป
ถึงเหล่าคนเลี้ยงแพะจะ บอกว่านางตายแล้ว
พระองค์ก็ไม่ฟัง
“ ก็กูชอบของกูนี่ “ พระองค์ทรงบ่นงึมงำ
พระองค์ทรงกอดก่ายกับศพของสโนว์วุ้น
ฉับพลันทันใดนางก็ฟื้นขึ้นมา
แต่ก็เคลิ้มๆ เพราะรสจูบอันหวานละมุน
ทั้งคู่ก็เลยกอดก่ายกันและกันอยู่อย่างนั้น
หลังเขาควาย ใต้ต้นดอกปีบ กับเจ้าชายผู้สูงชะลูด
และมีหูดแต่พองาม
และก่อนที่มันจะอีโรติคมากกว่านี้
คนเลี้ยงแพะตัวแคระๆ ก็พากันจับเขาควาย
กระหน่ำฟาดเจ้าชายบ้ากามทันที บ้างก็ตบบ้องหู
บ้างก็ด่าพ่อล่อแม่ ตามแต่กำลัง
. .
.
ส่วนนังราชินีนั้น
ระหว่างทางดันเกิดหิวข้าว
และเผลอหลับไปด้วยความเพลีย
เวรกรรมตามทัน นางจึงละเมอ
หยิบเนื้อแดดเดียวที่มีพิษเข้าปากตัวเอง
ตายจ้อย
. .
.
จบบริบูรณ์
ปล.ถามว่าทั้งเจ้าชาย และเจ้าหญิง ได้กันหรือเปล่า?
ได้ครับ
เพราะเจ้าชาย โดนฟาดซะความจำเสื่อม
เจ้าหญิงก็ดูแลเอาใจใส่
เจ้าชาย กลับตัวเป็นคนดี
สุดท้าย ก็ได้กันจ้อย
-------------------
.
.
.
เพื่อนบล็อกที่รักครับ บล็อกนี้ อาจจะมีคำราชาศัพท์ที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้างนะครับ
มีลูกบอกลูก มีหลาน บอกหลาน มีเมียน้อยบอกเมียน้อยนะครับ
อย่าเอาเยี่ยงอย่างเชียว
ต่อไปเป็นโจทย์กิโลเมตรที่เจ็ด
ไม่ยากเลยครับ โจทย์นั้นก็คือ
ให้ทุกคน เขียนเกี่ยวกับ
“ ดาวลูกไก่ บ้านบนเนินเขา และ บทสนทนาในค่ำคืนหนึ่งระหว่าง
บารัค โอบาม่า กับมนุษย์ต่างดาว “
อัพบล็อกกันอีกที วันพืชมงคลที่ 13 พฤษภาคมนี้ นะครับ
คิกๆๆ
ลองดูเด้อ
-------------------
มีใครร่วมแทะหินบ้าง มาดูกัน
ตะพาบ กะว่าก๋า
ตะพาบ JewNid
ตะพาบ peeamp
ตะพาบ ลายมือยุ่งๆของคนไม่มีเวลา
ตะพาบ ซองขาวเบอร์ 9
ตะพาบ mastana
เพิ่มเติมกันมาเรื่อยๆนะจ๊ะ
Create Date : 28 เมษายน 2553 |
|
116 comments |
Last Update : 19 กรกฎาคม 2553 22:58:02 น. |
Counter : 2940 Pageviews. |
|
|
|
มาเจิม