วันนี้จะดีกว่าเมื่อวาน
 
กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
27 กรกฏาคม 2550

กรณีไทยคมกับความเป็นบริษัทไทย

1. บริษัท ชินแซทเทลไลท์เป็นบริษัทไทยแน่นอน เพราะมีคนไทยถือหุ้นมากที่สุดเกือบ 60% เป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ มีนักลงทุนรายย่อยคนไทยจำนวนมากกว่า 19,000 ราย ไม่ว่าสิงคโปร์จะมีหุ้นในชินคอร์ปเท่าไร ชินคอร์ปก็ถือหุ้นเพียง 41% ในบริษัท เป็นเพียงการถือหุ้นบางส่วน ไม่ใช่เป็นเจ้าของสัมปทานหรือตัวดาวเทียม หากชินคอร์ปจะมีปัญหาใดๆ ก็เป็นปัญหาในฐานะผู้ถือหุ้นเฉพาะส่วน 41% นั้นๆ ไม่ควรกลายเป็นปัญหาที่เทียบเท่ากับการลงโทษผู้ถือหุ้นคนไทยส่วนที่เหลือเกือบ 59% มากกว่า 19,000 ราย เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสามารถหลีกเลี่ยงการมีปัญหาของผู้ถือหุ้นอีกส่วน (คือชินคอร์ป) ได้


2. ตัวดาวเทียมไทยคมและวงโคจรเป็นของประเทศไทยอยู่แล้ว เพราะเป็นสัมปทานแบบ BTO (Build Transfer Operate) บริษัทชินแซท เป็นเพียงผู้ชนะประมูลสัมปทานและดำเนินการ บริษัทเป็นผู้ลงทุนหลายหมื่นล้านบาทและยกให้รัฐก่อน จึงนำไปหารายได้ และจ่ายค่าสัมปทานปีละหลายร้อยล้านบาท มีลูกค้าและรายได้เกือบ 80% มาจากต่างประเทศ เทียบเท่าส่งออกนำเงินเข้าประเทศปีละหลายพันล้านบาท

สรุปคือ ดาวเทียมเป็นของไทยอยู่แล้วโดยเอกชนเป็นผู้ลงทุน ไม่ใช่ทรัพยากรธรรมชาติเช่น ป่าไม้หรือเหมืองแร่ที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติแล้วให้สัมปทานเอกชนเพื่อทำประโยชน์


3. กรณีความเป็นบริษัทไทย ต้องแยกออกเป็น 3 ส่วน คือ เรื่องทุน บริษัท และผู้บริหาร

ส่วนที่หนึ่ง ส่วนทุน นอกจากมีส่วนผู้ถือหุ้น ยังมีส่วนหนี้เงินกู้ธนาคารด้วย

ไทยคมมีมูลค่าลงทุนหลายหมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นธนาคารต่างชาติให้กู้เพราะวงเงินสูง โดยไทยคมมีผู้ให้กู้หลักๆคือ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐ (US EXIM Bank) และของรัฐบาลฝรั่งเศส (Coface) ซึ่งก็มีสถานะเป็นเจ้าของบริษัททางอ้อม เพราะธนาคารสามารถฟ้องยึดบริษัทได้หากไม่ชำระหนี้ เป็นการคุ้มครองเงินกู้ทั่วไป

สรุปคือ

ส่วนหุ้น คนไทยเป็นเจ้าของมากที่สุดกว่า 60% เป็นรายย่อยกว่าหมื่นเก้าพันราย กว่าหมื่นล้านบาท

ส่วนหนี้ เป็นธนาคารเพื่อการส่งออกของรัฐบาลสหรัฐกับฝรั่งเศส กว่า2หมื่นล้านบาท มากกว่าส่วนหุ้น 2 เท่า


4. กรณีที่ชินคอร์ปถือหุ้นในบริษัทลดลงจาก 51% เหลือ 41% สืบเนื่องจากในปี 2548 ก่อนจะยิงดาวเทียมไทยคม-4 บริษัทจำเป็นต้องเพิ่มทุนเพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าประกันการยิงจรวดและอื่นๆอีกราว 3,000 ล้านบาท โดยขายให้นักลงทุนอื่นๆในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้สัดส่วนของชินคอร์ปเจือจางลงเหลือ 41% ไม่ใช่เป็นการปรับสัดส่วนหุ้นเพื่อเตรียมการหลีกเลี่ยงความเป็นต่างด้าวจากการขายหุ้นชินคอร์ป


5. ส่วนที่สองตัวบริษัท ชินแซทเทลไลท์เป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียนในไทยกว่า 15 ปี ได้รับสัมปทาน ประกอบกิจการ ดำเนินการภายใต้กฎหมายไทยของกระทรวงพาณิชย์ ตลาดหลักทรัพย์ กทช ไอซีที ควบคุมกำกับดูแล เป็นคนละนิติบุคคลกับผู้ถือหุ้น หากชินคอร์ปจะมีปัญหาใดๆ ก็เป็นปัญหาในฐานะผู้ถือหุ้นเฉพาะส่วน 41% นั้นๆ ไม่ควรกลายเป็นการลงโทษตัวบริษัทชินแซทโดยการยกเลิกสัมปทานของบริษัทหรือการกีดกันบริษัททำกิจการ เพราะบริษัทชินแซทไม่เกี่ยวข้องหรือสามารถหลีกเลี่ยงการมีปัญหาของผู้ถือหุ้นของตนไม่ว่าบางส่วนหรือภาพรวมได้ ว่าเป็นต่างด้าวหรือไม่


ทั้งนี้ บริษัทและผู้บริหารในฐานะบริษัทมหาชนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ได้ทำหน้าที่สร้างผลงานทางธุรกิจและผลกำไรต่อผู้ถือหุ้นโดยรวมมาตลอด โดยไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นเครื่องมือทางการเมือง ทำธุรกิจแบบมืออาชีพและธรรมาภิบาลมาตลอด 15 ปี ดำเนินการตามสัญญาและกฏหมายอย่างถูกต้องเคร่งครัดตลอดมากับหน่วยงานรัฐไทยทุกยุคสมัยและในต่างประเทศที่เข้าไปทำธุรกิจ เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติจนมีลูกค้าไทยและต่างชาติจำนวนมาก เชื่อมั่นได้ว่าไม่มีการทำผิดใดๆ


6. ส่วนที่สาม เรื่องกรรมการบริษัท ผู้บริหารและพนักงาน ก็เป็นคนไทยที่สร้างบริษัทมาเป็นเวลานานเป็นสิบกว่าปี ประธานบริษัทก็เป็นอดีตผู้บริหารสูงสุดของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของไทย ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใน ชินคอร์ป ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัท หรือผู้บริหารใดๆ ของบริษัท

ทั้งนี้ผู้บริหารก็เป็นคนไทยที่เป็นมืออาชีพ เป็นผู้เชี่ยวชาญดาวเทียมระดับโลก ต้องใช้ความสามารถทำงานแข่งขันกับต่างประเทศ จนไทยคมเป็นบริษัทดาวเทียมชั้นนำของโลก ลูกค้า นักลงทุนและเจ้าหนี้ ก็ให้ความเชื่อถือมาตลอด 15 ปี ไม่เกี่ยวข้องการเมืองของประเทศใดๆ




 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2550
0 comments
Last Update : 27 กรกฎาคม 2550 7:11:09 น.
Counter : 594 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


coucou
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นสมาชิกนานมากแล้ว แต่เข้ามาไม่บ่อยเท่าไร
ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนๆทุกคนครับ
[Add coucou's blog to your web]