ประวัติกองทัพไทย
ความเป็นมาของวันกองทัพไทย
ในสมัยอดีตประเทศไทยเป็นประเทศที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเป็นอย่างมากเนื่องจาก
พระมหากษัตริย์ไทยในอดีตทรงเป็นผู้นำทัพเพื่อต่อสู้เพื่อเอกราชของชาติไทยมา
นานหลายสมัย
จนกระทั่งถึงสมัยสมเด็จพระเนรศวรมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่
เป็นศูนย์รวมจิตใจ
กำลังใจและความภาคภูมิใจในการต่อสู้เพื่อเอกราชเพื่อประเทศไทยโดยเฉพาะ
เหตุการณ์ในครั้งที่พระองค์ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะแก่พระมหาอุปราชา
แห่งกรุงหงสาวดี
เมื่อวันจันทร์ แรม ๒ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง ณ ตำบลหนองสาหร่าย
จังหวัดสุพรรณบุรี
ซึ่งถือว่าเป็นชัยชนะที่สำคัญของไทยเลยก็ว่าได้เพราะพระองค์ทรงกล้าหาญ
มีไหวพริบในการทำศึกจนเป็นที่กล่าวขานแก่คนในชาติและประเทศที่อยู่ใกล้เคียง
เมื่อครั้งที่ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อ
พ.ศ.2523 ได้มีมติร่วมกับคณะรัฐมนตรีกำหนดให้วันที่ 25 มกราคม
ของทุกปีโดยเริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2524 เป็นวัน
กองทัพไทยซึ่งตรงกับวันกระทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเศวรมหาราช
เพื่อเป็นวันที่รำลึกถึงความภาคภูมิใจในความกล้าหาญของพระมหากษัตริย์ไทยใน
อดีตที่ทรงเสียสละชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อกอบกู้เอกราชชาติไทย
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548
คณะรัฐมนตรีได้ลงอนุมัติให้วันที่ 18 มกราคม
ของทุกปีเป็นวันยุทธหัตถี และเป็นวันรัฐพิธีแทนวันที่ 25
มกราคม
ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับหลักฐานที่ราชบัณฑิตยสถานและคณะกรรมการเอกลักษณ์
ของชาติเสนอ
ดังนั้นคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2549
เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอโดยให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทย
จากวันที่
25 มกราคม ของทุกปีเป็นวันที่ 18 มกราคม ของทุกปีและอนุมัติให้
เป็นวันหยุดราชการของกระทรวงกลาโหมเริ่มใช้ ครั้งแรกเมื่อ
พ.ศ.2550 เป็นต้นไป
ปัจจุบัน (รัชการที่ ๘ – ๙) กองทัพไทยได้พัฒนาเพิ่มขึ้นเป็นอันมาก
ประกอบด้วยกำลังครบทั้งสามเหล่า คือ กองทัพบก กองทัพเรือ
กองทัพอากาศ
การพัฒนาด้านต่างๆ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนมีศักยภาพสูง
และมีบทบาทเป็นที่ยอมรับในประชาคมโลก
บทบาทกองทัพไทย
การป้องกันประเทศ
กองทัพไทยมีหน้าที่สำคัญคือการป้องกันประเทศทั้งในยามสงบและยามที่เกิดภัย
โดยจัดให้มีการฝึกกำลังรบอยู่เป็นประจำ
ป้องกันภัยทั้งในประเทศและนอกประเทศ
รักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน
ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านให้มีความสงบไม่เกิดปัญหาซึ่งกันและกัน
จัดกำลังป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย
อบรมราษฎรในพื้นที่เพื่อสามารถป้องกันตนเองได้
ส่งเสริมการปกครอง
กองทัพไทยมีความสำคัญในการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนชาวไทยรักชาติ
รักษาความมั่นคงความสงบสุขของสังคม โดยช่วยกันสอดส่องดูแล
ให้ความรู้เรื่องการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ข่าวสารต่างๆแก่ประชาชน
ทั้งนี้กองทัพไทยยังป้องกันตามชายแดนเพื่อแก้ปัญหาการลำเลียงยาเสพติดที่
เป็นภัยต่อประเทศชาติอีกด้วย
การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่สูงสุดและสำคัญสำหรับประชาชนทั้งนี้ยัง
เป็นสถาบันที่สำคัญยิ่งแก่เหล่าทหารเพราะพระมหากษัตริย์ทรงเป็นมิ่งขวัญแก่
เหล่าทหารเทิดทูนไว้เหนือเกล้าฯ
กองทัพไทยจึงมีส่วนสำคัญในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยในโอกาสวันเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาของทุกปี
กองบัญชาการทหารสูดสุดได้จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน ณ
สวนสนามทหารรักษาพระองค์
การรักษาผลประโยชน์ของคนในชาติ
กองทัพไทยมีบทบาทสำคัญในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ
ทั้งทางบกและทางทะเล
ป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าแก้ปัญหาความขัดแย้งเรื่องการประมง
พื้นที่ทำมาหากิน บรรเทาสาธารณภัยเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ
ช่วยเหลือผู้ประสบภัย แก้ปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น
เช่นการเกิดภัยแล้งก็ปฏิบัติการฝนหลวงตามโครงการพระราชดำริ
ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
สอดส่องดูแล รักษา ปกป้อง ทรัพยากรทางธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย
พร้อมทั้งส่งเสริมจัดกิจกรรมต่างขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนมีสำนึกที่ดี
ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไว้
ทั้งนี้กองทัพยังมีหน้าที่ในการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญโดยพัฒนาทั้งทาง
ตรงและทางอ้อมอีกด้วย
กองทัพไทยในปัจจุบัน
กองทัพไทยได้กำหนดนโยบายเพื่อความมั่นคงแห่งชาติไว้ ดังนี้
(จาก //www.schq.mi.th/military_history.pdf สืบค้น 17
ม.ค. 2551 )
๑. เพื่อป้องปราม
ป้องกันและต่อสู้เอาชนะภัยคุกคามจากภายนอกประเทศ
๒.
เพื่อรักษาความมั่นคงภายในประเทศและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา
กษัตริย์ทรงเป็นประชุม
๓. เพื่อป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบภายในประเทศ
๔. เพื่อสนับสนุนและร่วมในการพัฒนาประเทศ การช่วยเหลือประชาชน
และการบรรเทาสาธารณภัย
๕. เพื่อคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของชาติ
๖.
เพื่อร่วมมือกับมิตรประเทศตามนโยบายของรัฐบาลในการรักษาสันติภาพและการ
ป้องกันร่วมกัน
กิจกรรมในวันกองทัพไทย
ในวันนี้เหล่ากองทัพได้ทำกิจกรรมคือ
พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล หรือที่นิยมเรียกว่า
"สวนสนามสาบานธง"
ซึ่งเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทหารทุกคน
และเพื่อเป็นการระลึกถึงวีรกรรมและเป็นการสักการะดวงวิญญาณนักรบไทย
จะมีพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์ทางทหาร เช่น
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อนุสาวรีย์ทหารอาสา
อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ฯลฯ
Create Date : 02 กรกฎาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 4 มกราคม 2554 20:14:00 น. |
Counter : 4102 Pageviews. |
|
|