Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
30 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
จอมใจเจ้าป่า ตอน 4 part 2

บ้านไม้หลังเล็กมีเพียงห้องโล่งห้องเดียวปิดประตูงับไว้แม้จะไม่ได้ลงกลอนแน่นหนาแต่คนข้างในก็ย้ำไม่ให้หล่อนเข้าไปรบกวนเด็กสาวจึงได้แต่ยืนชะเง้อชะแง้ดูจากภายนอกตาศักดิ์และนิกรผู้ช่วยหายเข้าไปในห้องเป็นนานสองนานแล้วการรักษาพยาบาลก็ยังไม่เสร็จเสียทีทำให้ลลินาที่รออยู่เฉยๆเบื่อเสียยิ่งกว่าอะไร แต่เป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นทำให้ป้วนเปี้ยนอยู่แถวบ้านเล็กหลังนี้ไม่ยอมไปไหน

นิกร เด็กรับใช้ของตาศักดิ์และยายพรมีบ้านพักเป็นสัดส่วนอยู่ในบริเวณบ้านของผู้ชราทั้งสองเพื่อจะได้เรียกหากันยามค่ำคืน ด้านหลังบ้านติดกับทางน้ำที่กระแสน้ำค่อนข้างเชี่ยวและแนวป่าเขียวชอุ่มตามปกติบริเวณนี้ค่อนข้างเป็นเขตปลอดคนจนแทบจะเป็นเปลี่ยวคนที่บ้านของหล่อนน้อยคนนักจะมาถึงที่นี่เพราะทางเดียวที่จะเข้ามาได้คือต้องเดินเท้าผ่านบ้านของตาศักดิ์จากนั้นจึงลัดเลาะเข้ามาด้านหลังโขดหิดและต้นไม้สูงใหญ่สถานที่นี้จึงเหมาะนักที่จะใช้เป็นที่รักษาอาการของคนแปลกหน้าโดยปกปิดไว้ไม่ให้คนอื่นรู้เห็น

ลลินาได้แต่จับเจ่าคอยพอเบื่อมากเข้าก็นั่งกอดเข่าจุมปุ๊กอยู่หน้าห้องง่วงจนจะหลับเสียให้ได้ไปหลายหนหล่อนก็ยังอดทนรอจนเวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงประตูห้องจึงเปิดออก นิกรถืออ่างน้ำและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลรวมทั้งเสื้อที่เปื้อนเลือดและสำลีเช็ดแผลหอบใหญ่ออกมาเด็กสาวจึงได้โอกาสเข้าไปดูด้านใน

ร่างใหญ่โตนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงดิตกับผนังห้องด้านหนึ่งซึ่งมีหน้าต่างเปิดโล่งโดยมีนายศักดิ์นั่งดูอาการอยู่ที่ปลายเตียง ชายชรากำลังล้างมือในชามอ่างขนาดใหญ่ข้างตัวเรียงรายด้วยขวดยาขวดเล็กขวดน้อยแอลกอฮอล์ล้างแผลและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลหลายอย่าง

“เป็นไงมั่งตา ตายไหม” เด็กสาวถามไถ่อย่างตื่นเต้นใจจดจ่ออยู่กับร่างที่นอนหมดสติบนเตียงไม้เห็นทรวงอกหนาสะท้อนขึ้นลงแผ่วเบาก็อุ่นใจอย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ตาย

“ไม่ตายหรอกครับแต่เสียเลือดไปมาก ร่างกายอ่อนเพลีย”

“โดนยิงมาเหรอจ้ะ”

“ไม่ใช่ครับถูกแทงรอยใหญ่ทีเดียว ดีไม่ถูกที่สำคัญ ไม่งั้นเห็นทีจะรอดยาก”

“งั้นก็แค่นักเลงหัวไม่ทะเลาะกันสิคะแหม...นึกว่าจะมีเบาะแสอะไรเสียอีก” หล่อนครางอย่างผิดหวังนึกว่าจะมีเรื่องสนุกๆให้ตื่นเต้นถ้าเป็นลูกน้องฝ่ายโน้นล่ะก็จะจับมัดไว้กับเตียงแล้วขู่เข็ญให้บอกความจริงเหมือนในหนังเกี่ยวกับเจ้าพ่อมาเฟียที่เคยดู

“ไม่แน่ครับดูจากขอบแผลและความลึกแล้วคนแทงชำนาญการใช้มีดอย่างดีทีเดียวมีดที่ใช้ก็คมกริบมีน้ำหนักดี น่าจะเป็นมีดอย่างที่เขาใช้เป็นอาวุธน่ะครับ ไม่ใช่มีดปอกผลไม้หรือที่ใช้ในห้องครัว” ชายชราวิเคราะห์ตามประสบการณ์ “ผมว่าน่าจะฝีมือของพวกมืออาชีพมากกว่า”

“แล้วเขาจะฟื้นเมื่อไรคะ” เสียงใสที่ถามบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวตื่นเต้นกับคนแปลกหน้าเพียงใด

“บอกไม่ได้ครับแล้วแต่สภาพร่างกายถ้าแข็งแรงดีก็ฟื้นตัวเร็ว แต่ที่แน่ๆคืนนี้คงไข้ขึ้นต้องคอยเช็ดตัวให้น้ำให้ยา”

“ลีน่าดูให้เอง”

“ให้เจ้ากรมันดูก็ได้ครับมันทำเป็น คุณหนูแหม่มรีบกลับไปรับหน้าคุณเมษดีกว่าเผื่อจะเรียกหา”

“เชอะใครจะไปสน นี่ก็บ่ายกว่าแล้วยังไม่เห็นโผล่หน้ามาเลย”หล่อนค้อนลมค้อนแล้งทำปากเชิด นาทีนี้พี่ชายไม่น่าสนใจเท่าคนบนเตียงนี่เสียแล้ว เด็กสาวชะโงกมองคนป่วยอย่างสนใจ“ขอลีน่าดูเขาหน่อยนะคะ”

“ได้ครับผมจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียหน่อย ถ้าอย่างนั้นจะไปรออยู่ที่บ้านก็แล้วกันเผื่อคุณเมษมาจะได้กันไว้ก่อน” ชายชราบอกก่อนออกจากห้องไป

เด็กสาวมองดูคนแปลกหน้าอย่างพินิจตาศักดิ์และนิกรช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาเป็นเสื้อคอกลมทำจากผ้าทอเนื้อหยาบสีน้ำเงินเข้มและกางเกงสีเดียวกันตัวโคร่งแบบผูกเชือกที่เอวซึ่งเป็นชุดประจำของนิกรดูเผินๆเขาก็แต่งกายเหมือนชาวบ้านทั่วไปแต่กลับมีรัศมีบางอย่างที่ทำให้น่าเกรงขาม ลลินาบอกไม่ถูกว่ามันคืออะไรรู้แต่ว่าแค่นอนนิ่งๆบนเตียงไม้เก่าคร่ำแบบนี้ยังไม่กล้าเข้าไปรบกวนดูเขาคล้ายหมียักษ์ตัวใหญ่ที่กำลังหลับไหลจนใครก็ไม่กล้ายุ่งด้วย

เขายังคงไม่ได้สติแต่หน้าตาดูมีสีเลือดขึ้นมากแล้วไม่ซีดเหมือนตอนช่วยกันลากขึ้นมาจากแอ่งน้ำใหม่ๆ ผมเผ้าที่ปิดหน้าปิดตานั่นก็ถูกปัดให้พ้นหน้าเค้าหน้าของเขาดูดีทีเดียวใบหน้าคมเข้มจมูกโด่งสวย ปากก็ได้รูป เสียอย่างเดียวมีหนวดเครารกไปนิดถ้าโกนหนวดและตัดผมเผ้าให้เข้าที่คงจะดูดีกว่านี้

หล่อนนั่งมองเขาอยู่อึดใจใหญ่ก่อนจะค่อยๆแนบหน้าลงกับทรวงอกข้างหนึ่งเสียงหัวใจของเขาได้ยินชัดเจนกว่าตอนที่เจอครั้งแรก เป็นสัญญาณที่ดีว่าเขาคงปลอดภัยแล้วจริงๆลลินายกมือใหญ่ขึ้นลองประกบทาบกับฝ่ามือของตนเองมือของหล่อนดูเล็กจิ๋วเป็นมือเด็กไปเมื่อเทียบกับเขา สีผิวก็ตัดกันจนเป็นคนละเรื่องระหว่างผิวขาวอมชมพูกับสีคล้ำแทนแบบคนตากแดดเป็นประจำ

“ตั้งชื่อว่าอะไรดีน๊า” เด็กสาวทำหน้าครุ่นคิด “ชื่อเจ้ายักษ์ก็แล้วกันตัวใหญ่ยังกะยักษ์” เด็กสาวพยักหน้าพูดกับตัวเองก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบที่ข้างหู

“จำไว้นะเจ้ายักษ์นับตั้งแต่วันนี้ไปแกเป็นของฉัน เข้าใจไหม” เด็กสาวบอกราวกับคนที่หมดสติอยู่จะรับรู้ได้ใบหน้าเล็กกระจ่างตาด้วยรอยยิ้มพราย นัยน์ตามีแววซุกซน

“ฉันเป็นเจ้านายใครเจอก่อนก็ต้องเป็นของคนนั้น”

********************

วีรสิงห์คิดว่าเขาหลับสนิทแต่มีหลายครั้งที่รู้สึกเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นและทุกครั้งที่พอจะมีสติเป็นต้องร้อนรุ่มไปทั้งเนื้อตัวราวกับนอนอยู่บนกองไฟ ไฟนั้นสุมให้ร้อนผ่าวไม่สบายตัวจนเขาต้องดิ้นรนร้องครางอย่างทุรนทุรายเพื่อหวังจะหนีจากความทรมานนี้แต่เพียงไม่นานนักสิ่งนุ่มๆเย็นๆอย่างหนึ่งจะทาบทับไปทั่วใบหน้าไล่เรื่อยไปตามซอกคอละช่วงแขน

“อย่าดิ้นสิตัวใหญ่ยังกะยักษ์ใครจะไปจับไหว” เสียงใสที่ไม่คุ้นเคยจะร้องอยู่ข้างหูหากเขาไม่เชื่อฟังยังดื้อรั้นดิ้นรนต่อ ผิวเนื้อตามท่อนแขนเป็นต้องแสบๆคันๆไม่ก็ถูกจิกด้วยปลายเล็บแหลม

“คุณหนูแหม่มทำอะไร” ตาศักดิ์เข้ามาเห็นคาตาว่าเจ้านายคนเล็กกำลังฟาดมือใส่คนป่วยเพี้ยะเข้าให้

“ดื้อนักพูดไม่รู้เรื่อง” พยาบาลมือใหม่หน้าง้ำ แม้จะถูกจับได้ก็ยังทำไม่รู้ไม่ชี้

“เขาป่วยอยู่นะ” ชายชราร้องครางส่ายหัวระอาใจ “ทำไม่ไหวก็ให้นิกรมันทำ”

“ลีน่าจะทำเอง” หล่อนบิดผ้าขนหนูในมือจนหมาดพับทบเป็นสองชั้นลูบไปตามเนื้อตัวของคนป่วย

“ไข้ลดบ้างหรือยังครับ”

“ดีขึ้นแล้วค่ะดิ้นน้อยกว่าวันแรก ตอนนั้นนะลีน่าแทบไม่ได้นอน”

“ให้นิกรมันทำเถอะครับคุณหนูแหม่มจะสู้แรงยังไงไหว แขนเล็กเท่านี้”

“เปลี่ยนเวรกันค่ะนิกรต้องช่วยยายทำงานด้วย ลีน่าดูแทนเอง”

“กลับบ้านบ้างหรือเปล่าหายหน้ามาสองคืนติดกันแล้วคุณเมษไม่ถามหาหรือ”

“ยังไม่กลับมาเลยค่ะหายเข้าป่าไปแล้ว” หล่อนยักไหล่ไม่สนใจ ข้างในนั้นคงมีเรื่องนับตั้งแต่วันที่เจอเจ้ายักษ์พี่ชายก็หายหน้าไม่กลับมานอนบ้านทั้งคนสนิทหมายเลขหนึ่งหมายเลขสองล้วนหายหน้าหายตาไปตามๆกัน แต่ก็ดีหล่อนก็ได้โอกาสมาขลุกอยู่ที่นี่แทน

“ดีไม่อยู่บ้านก็ดี ลีน่าจะได้ทางสะดวก” ลลินากลับไปบ้านขนเอาของใช้หลายอย่างมาที่นี่ทั้งผ้าปูเตียง ปลอกหมอน ผ้าห่มสะอาด ที่เตรียมไว้ต้อนรับแขกบนเรือนใหญ่ ถูกหล่อนเอามาจนหมดยังไม่นับของใช้ส่วนตัวของตนเองที่ขนมาปูเสื่อนั่งๆนอนๆเฝ้าคนป่วยอีกด้วย

“ไม่ต้องถึงขนาดมานอนเฝ้าก็ได้คุณหนูแหม่มเอาไว้เขาตื่นแล้วตาจะให้นิกรไปบอก มากินนอนอยู่แบบนี้ลำบากแย่”

“ลีน่าจะดูอยากรู้ว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะว่ายังไง เป็นใครที่ไหนคนร้ายหรือคนดี ถูกทำร้ายมาจากไหน” หล่อนแจงละเอียดยิบ ตื่นเต้นราวกับอ่านนิยายสืบสวนสอบสวนเล่มโปรด

“ว่าแต่เขาปลอดภัยแล้วแน่นะคะ” หล่อนมองคนป่วยอย่างกังวล เขานอนนิ่งบ้างสลับกับทุรนทุรายดิ้นรนบางครั้งก็พึมพำไม่ได้ศัพท์ไม่เห็นว่าจะคืนสติเสียที

“ไม่เป็นไรแล้วครับ”

“ลีน่าไม่ยักรู้ว่าตาเป็นหมอด้วย”เด็กสาวมองแผลของคนป่วยที่ผ่านการเย็บด้วยฝีเข็มอย่างหยาบๆขอบแผลนูนแดงแต่ก็แห้งสนิทไม่มีหนอง แสดงว่าไม่ติดเชื้อจนอักเสบ

“โอ้ยหมอ เหมอ อะไรคุณหนู วิชาโจรทั้งนั้น” ชายชราหัวเราะ “สมัยก่อนเวลาเข้าป่า โดนเสือตะปบแผลเหวอะยิ่งกว่านี้อีก”

“ใครสอนตาเหรอคะ”

“พวกฝรั่งน่ะคุณหนูอาสาสมัครที่เข้ามาทำงานแถบนี้หลายสิบปีก่อน เป็นพระฝรั่งก็มีครูสอนภาษาอังกฤษก็มีเขาสอนให้ชาวบ้านทำความสะอาดบ้านเรือน ต้มน้ำกิน รักษาโรคง่ายๆ ตาก็จำๆเขามาแต่ก็ใช่ว่าจะเก่งกาจอะไรหรอก บาดแผลพวกนี้ที่สำคัญคือการทำความสะอาดถ้าเอาไม่อยู่จริงๆตาก็คงต้องบอกคุณเมษให้พาไปโรงพยาบาลเหมือนกัน” ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นเรื่องคงยุ่งยากกว่านี้มาก

“ถ้าเย็บแผลแล้วผ่านคืนแรกมาได้ก็น่าจะ...รอด”

“โชคดีนะเจ้ายักษ์” เด็กสาวจิ้มนิ้วแรงๆไปที่อกคนป่วยราวกับจะสั่งสอน

“ถ้าฉันไม่เจอแกมีหวังกลายเป็นผีเฝ้าป่า” หล่อนทวงบุญคุณ จ้องหน้าที่พริ้มหลับหมายมั่นไว้ในใจ“ตื่นเมื่อไรจะจับโกนหนวดเคราให้เกลี้ยงเลย” หน้าเข้มดูเหมือนจะรับรู้แผงขนตาดกหนาเป็นแพขยับน้อยๆ ในที่สุดก็กะพริบ หล่อนลองเอานิ้วจิ้มคางที่เต็มไปด้วยหนวดเครานั้นอีกสองสามครั้งคนป่วยก็เบือนหน้าหนีเล็กน้อย

“ตาจ๋า ตาเจ้ายักษ์รู้ตัวแล้ว ลลินาร้องขึ้นอย่างตื่นเต้น

********************




Create Date : 30 ธันวาคม 2555
Last Update : 30 ธันวาคม 2555 7:48:38 น. 0 comments
Counter : 1080 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาวกันยา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ

Friends' blogs
[Add ดาวกันยา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.