รอยตราพิศวาส ตอนที่ 4 part 4 จบตอน
เมื่อสิริญไปถึงโรงแรมที่จัดงานนั้นงานได้เริ่มไปได้พักใหญ่แล้วแต่ผู้คนยังไม่หนาตาอาจเนื่องจากยังเร็วไปสำหรับผู้บริหารระดับสูงหรือบุคคลชั้นนำในวงสังคมที่จะมาปรากฏตัวสิริญเคยได้ยินว่างานเลี้ยงแบบนี้คนดังหรือแขกผู้มีเกียรติจะมาถึงงานหลังจากงานเริ่มไปแล้วพักใหญ่เพื่อรอให้มีผู้คนมาร่วมงานจำนวนมากจะได้ตกเป็นเป้าสายตาทำให้เป็นจุดเด่นและเป็นที่กล่าวขวัญถึงมากกว่าที่จะมากันตั้งแต่งานเริ่ม แม้คนจะไม่มากแต่หลายคนก็มองมาที่เธออย่างสนใจทำเอาสิริญยิ่งเก้อเขินหนักเธอพยายามมองหาสรวงสุดาและแก้วเก้าอย่างน้อยก็ต้องเกาะสองสาวเอาไว้ก่อน แม้ว่าจะถูกปฏิเสธก็ตามแต่สิริญยังต้องพึ่งพาพวกหล่อนด้วยไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไรบ้างอีกทั้งแขกของบริษัทที่ชื่อนายนครนั้นก็ยังไม่เคยพบหน้าสิริญได้แต่ละล้าละลังเมื่อบริกรหนุ่มยกถาดเครื่องดื่มเข้ามาถาม เธอจึงเลือกเครื่องดื่มมาถือไว้เพื่อแก้อาการขัดเขินแต่ยืนอยู่เป็นนานก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของสรวงสุดาและแก้วเก้า สุดท้ายสิริญจึงมองหาสถานที่สำหรับหลบมุมอย่างที่ทำมาตลอดชีวิต ประตูห้องโถงจัดงานนั้นมีอยู่ราวๆห้าถึงหกประตูสิริญกวาดตามองนึกเดาเอาว่าประตูเล็กๆด้านขวาสุดของห้องน่าจะเปิดไปสู่ระเบียงด้านนอกเธอเดินก้าวฉับๆออกไปทันทีขอให้เป็นที่ปลอดภัยซึ่งไม่มีใครสนใจ จะได้หลบไปทำใจและลดอาการตื่นคนโชคดีเหลือเกินประตูที่เธอเลือกนั้นนำออกไปสู่มุมเล็กๆด้านในสุดของระเบียงกว้างที่ต่อกับห้องโถงจัดงานที่มุมนั้นวางกระถางต้นไม้และเก้าอี้นั่งพักผ่อนชุดหนึ่งสิริญผวาไปที่ขอบกั้นของแนวระเบียงที่หล่อเป็นรูปเสาแบบโบราณความสูงแค่ช่วงเอวของเธอสูดหายใจเข้าเต็มปอดและค่อยผ่อนระบายออกมา โอ้โห ลงทุนไม่เบาเหมือนกันนี่ เสียงคุ้นหูทำเอาหญิงสาวสะดุ้งขึ้นทั้งตัวก่อนจะหันขวับไปหาต้นเสียง ผู้ชายคนหนึ่งลุกจากเก้าอี้ที่สิริญไม่ทันได้ใส่ใจมองเธอเบิกตาโตมองดูเขาอย่างคาดไม่ถึง จอมทัพมาถึงงานแล้วเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีอ่อนพับแขนขึ้นมาเกือบถึงข้อศอก เสื้อสูทสีเดียวกับกางเกงถูกพาดไว้กับพนักพิงของเก้าอี้ดูท่าเขาคงนั่งอยู่ที่นี่นานพอควรแล้วเพราะมีแก้วเครื่องดื่มที่พร่องไปวางบนโต๊ะเล็กด้านข้าง ชายหนุ่มยืดตัวยืนขึ้นเต็มความสูง กวาดตามองสิริญด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกบางอย่างซึ่งสิริญไม่ชอบเอาเสียเลย มันดูสำรวจอย่างจาบจ้วงจนเหมือนจะจับเธอถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นทั้งประกายตาดูหมิ่นดูแคลนไหนจะประโยคที่เขาทักทายล้วนส่อความหมายไปในเชิงเหยียดหยามทั้งสิ้น ฉัน...เพิ่งมาถึงค่ะ เจอเขาเข้าจังๆแบบนี้สิริญกลับไม่รู้จะพูดอะไรดี เสื้อผ้านี่ก็เป็นของทางร้านจัดให้ดิฉันไม่ได้ซื้อใหม่ รับรองไม่เบิกงบประมาณของบริษัทแน่นอนเธอจำได้ดีว่าเขาเคยสบประมาทไว้อย่างไรบ้าง ก็ไม่ได้ว่าอะไรบางทีกำไรของเธออาจจะไม่อยู่ที่เงินค่าเสื้อผ้าที่ประหยัดไปนี่ก็ได้ เขายังทำเสียงเล็กเสียงน้อย เอาล่ะไหนๆก็ลงทุนเสียตั้งขนาดนี้แล้ว จะแนะนำ ลูกค้า ให้ก็แล้วกันนะ จะได้ไม่เสียเที่ยว คุณหมายถึงอะไร ดิฉันไม่เข้าใจ สิริญทั้งโกรธทั้งไม่เข้าใจนัยของคำพูดประโยคนั้น ก็คุณเองไม่ใช่หรือที่บังคับให้ดิฉันมางานนี้ทั้งที่ดิฉันไม่สมัครใจบอกให้แต่งตัวออกงานแต่ห้ามไม่ให้ใช้งบของบริษัทเกินความจำเป็น ดิฉันทำตามคำสั่งทุกอย่างแล้วนี่คะ ก็ไม่ได้มีอะไรเข้าใจยากนี่ฉันก็แค่จะช่วยเธอให้เจอลูกค้าดีๆให้การรับรองอย่างเต็มที่ไม่แน่ว่าจากที่ไม่สมัครใจในตอนแรกเธออาจจะขอบคุณฉันที่ช่วยหาลูกค้าให้ก็ได้ เสียงเขาบอกเจือแววเยาะเหยียด สิริญไม่ได้คิดไปเองว่าเขามีเจตนาร้ายและรู้สึกขัดหูกับการย้ำคำว่าลูกค้าซ้ำไปมาหลายครั้ง เสียงสัญญาณโทรศัพท์มือถือขัดจังหวะการสนทนาที่แสนอึดอัดขึ้นก่อนที่สิริญจะโกรธจนสะบัดหน้าหนีเขาไปเสียก่อนจอมทัพหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าเสื้อด้านในของสูทกดรับสายและกรอกเสียงลงไป มาถึงแล้วหรือครับคุณนครผมกำลังคุยกับพนักงานถึงคุณอยู่พอดีเขาเน้นเสียงที่คำว่าพนักงานจนสิริญอดขุ่นใจไม่ได้ ใช่ครับสาวสวยคัดมาอย่างดีเพื่อมาดูแลคุณโดยเฉพาะเธอชื่อสิริญครับ เราอยู่ในงานแล้วอีกสักพักเธอจะไปต้อนรับคุณอย่างดีทีเดียวครับจอมทัพพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะมีนัยประหลาดท้ายที่สุดเขาหันมาบอกสิริญ ลูกค้าของเธอมาแล้วไปต้อนรับให้ถึงอกถึงใจ คงไม่ยากอะไรมันเป็นงานที่เธอถนัดอยู่แล้ว สิริญสะบัดหน้าหนีพึมพำขอตัวเธอรู้ด้วยสัญชาติญาณว่าจอมทัพยังคงจับตามองเธออยู่ตลอดเวลาเธอผละจากเขาเดินเข้ามายังห้องโถงจัดงานเดชะบุญที่กวาดตาไปพบกับแก้วเก้าและสรวงสุดาเข้าพอดิบพอดี แก้วสิริญร้องเรียกอย่างดีใจ ทั้งสองสาวหันมามองเธออย่างไม่เชื่อสายตาโดยเฉพาะสรวงสุดานั้นกวาดตามองสิริญตั้งแต่หัวจรดเท้าสองถึงสามรอบก่อนจะเบ้ปากอย่างไม่พอใจ โบว์ โอ้โหสวยจริง แก้วเก้าห่อปากทำตาโต เธอไม่ใช่คนที่จะเก็บความรู้สึกอะไรไว้ได้จึงแสดงความประหลาดใจระคนชื่นชมออกมาอย่างชัดเจนเปลี่ยนโฉมจนจำไม่ได้ เพิ่งมากันเหรอโบว์มาถึงได้สักพักแล้ว ไปทำผมแต่งหน้าที่ร้านประจำของสรวงน่ะเลยมาช้า เสียงแก้วเก้าฟังดูแปลกๆสิริญสังเกตเห็นว่าสรวงสุดานั้นทั้งทรงผมและใบหน้านั้นถูกจัดแต่งอย่างประณีตในขณะที่แก้วเก้านั้นกลับดูธรรมดาไม่ต่างจากตอนที่ออกจากร้านเสื้อแต่สิริญก็ไม่ได้หลุดปากทักออกไป แล้วนี่เจอใครบ้างหรือยัง เจอท่านประธานคุณจอมทัพบอกให้โบว์มารับรองคุณนคร สิริญสังเกตว่าแก้วเก้าทำหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ไม่พูดอะไรในขณะที่สรวงสุดานั้นหันขวับมาทันที ท่านประธานอยู่ที่ไหนนะ ที่ระเบียงด้านข้างค่ะ สิริญชี้มือไป นึกไม่ถึงว่าสรวงสุดาจะเปลี่ยนท่าทีรวดเร็ว หล่อนปรับสีหน้าเป็นปกติไม่บูดบึ้งเหมือนเมื่อห้านาทีก่อนจัดแต่งเสื้อผ้าโดยการดึงให้คอต่ำลึกมาอีกเล็กน้อยเผยให้เห็นทรวงอกอิ่มรำไรหล่อนยังเรียกหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างอ่อนมาสองแก้วก่อนจะก้าวฉับไปตามทางที่สิริญบอก ยายสรวงน่ะเขามาเพื่อจับท่านประธานโดยเฉพาะเธอไม่รู้เหรอลงทุนแต่งหน้าทำผมเสียขนาดนั้น แก้วเก้ากระซิบแต่สิริญไม่อยากสนใจอะไรอีกแล้วแค่อยากทำหน้าที่ให้มันจบๆไป โบว์ต้องหาคุณนครแก้วรู้จักเขามั้ย รู้จักสิ รู้จักดีทีเดียว คราวนี้หล่อนถึงกับทำหน้าง้ำ จะพาไปหาแต่บอกก่อนนะแก้วไม่อยู่ด้วยเคยเจอเมื่อตอนที่เขามาคุยงานกับบริษัทเราครั้งแรก รับไม่ได้อย่างแรง โบว์ก็ช่วยตัวเองแล้วกันนะ สิริญไม่เข้าใจความนัยนั้นตราบจนกระทั่งได้พบกับลูกค้าคนที่ว่าเมื่อแก้วเก้าเดินนำเธอไปยังบริเวณทางเข้าห้องจัดเลี้ยงก่อนจะพนมมือไหว้ชายคนหนึ่งอย่างอ่อนน้อมและแนะนำสิริญให้เขารู้จัก สิริญค่ะจะคอยเทคแคร์คุณนครในงานนี้ ชายตรงหน้าทำให้สิริญถึงกับสะดุ้งน้อยๆเมื่อสบตาเขาเป็นชายร่างผอมสูงผิวคล้ำแดดวัยราวสี่สิบเศษหน้าตาธรรมดา แต่งกายในชุดสูทที่มีเครื่องประดับเป็นทองคำแพรวพราวทั้งสายสร้อยคอเส้นโตสร้อยข้อมือ แม้แต่นาฬิกาก็เป็นเรือนทอง สิ่งที่ทำให้สิริญผวาคือเขาก้าวเข้ามาหาสิริญอย่างถือวิสาสะใช้มือกอบกุมมือของสิริญที่กำลังพนมไหว้ไว้หลวมๆก่อนจะออกแรงบีบกระชับราวกับจะเกาะกุมเอาไว้แนบอกแววตาเล็กยิบหยีของเขานั้นส่อแววหื่นกระหายจนปิดไม่มิดเมื่อกวาดตามมองผ่านร่องอกอวบใต้ผ้าเนื้อบางของสิริญ สวัสดีจ้ะหนูไหว้พระเถอะนะมีชื่อเล่นมั้ยจะได้เรียกเพื่อความสนิทสนม ชะ...ชื่อ โบว์ค่ะ สิริญถึงกับเสียงสั่นค่อยดึงมือออกจากการเกาะกุมเธอส่งสายตาวิงวอนไปยังแก้วเก้าแต่ฝ่ายนั้นกับสั่นหน้ารัวพร้อมกับก้าวถอยหลังเพื่อปลีกตัวออกไป ชื่อน่ารักมากหนูโบว์ช่วยพาผมเข้างานทีเราหาที่คุยกันเงียบๆดื่มอะไรเล่นๆกันสักครู่ก่อนงานเริ่ม ดีมั้ยจ้ะ เขาพูดด้วยจังหวะเนิบช้าราวกับพยายามอย่างยิ่งที่จะออกเสียงภาษาไทยกลางให้ชัดเจนแต่น้ำเสียงนั้นกลับแหบพร่าอยู่ในคอแถมยังแทบจะเข้ามาประคองสิริญเดิน แต่เธอขืนตัวและขยับออกห่างเสียก่อนสิริญไม่โง่จนไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรผู้ชายคนนี้แสดงท่าทีชัดเจนที่จะขบเคี้ยวหญิงสาวเป็นอาหารว่าง มือไม้เขาอยู่ไม่สุขคอยแตะไหล่แตะเอวแม้แต่วางแปะบนสะโพกเสียเฉยๆอย่างนั้นสิริญพยายามบิดตัวหนีอย่างอึดอัดอยากจะร้องไห้ออกมาเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่เกรงว่าการทำแบบนั้นยิ่งต้องอับอายคนไปทั่ว ผู้คนเริ่มหนาตาแล้วแต่ไม่มีใครสนใจใครบ้างทีเจอเพื่อนคุยก็หยุดพูดคุยกัน นายนครดูท่าไม่อยากจะคุยกับใครสักคนเดียวในที่สุดหลังจากทั้งผลักทั้งดันเขาก็ต้อนสิริญออกมาที่ระเบียงลับหูลับตาคนจนได้ ดื่มเสียหน่อยนะหนูโบว์ดื่มให้กับการพบกันครั้งแรกของเราเขาส่งแก้วเครื่องดื่มให้สิริญพร้อมทั้งถือโอกาสกุมมือเธออีกครั้ง หญิงสาวพลิ้วกายออกห่างรับแก้วเครื่องดื่มยกขึ้นจิบตามมารยาท หนูโบว์ทำงานอยู่บริษัทเครือวัชรเกียรตินานหรือยังทำไมผมไม่เคยเห็นหน้าเลย ทำมาได้สองปีแล้วค่ะโบว์ทำพวกงานเอกสารไม่ค่อยได้รับแขก เพิ่งมางานนี้เป็นครั้งแรก นั่นสินะเขาร้องเสียงดังเป็นเชิงเห็นด้วย ไม่น่าคลาดสายตาผมไปได้หนูโบว์ออกจะ...เตะตาเสียขนาดนี้ เมื่อเขาพูดคำว่า เตะตา สายตาก็ตวัดมองไปที่ทรวงอกของเธอจ้องเอาจ้องเอาราวกับไม่เคยเห็นสิริญเห็นสายตาเช่นนั้นแล้วก็ขนลุกซู่ด้วยความรังเกียจนายนครคนนี้ทำตัวไม่น่านับถือเลยสักนิดทั้งที่เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ผู้คนออกมากมายเขายังทำกิริยาต่ำทรามแบบนี้กับเธอได้คงนึกว่าเป็นเพียงพนักงานต่ำต้อยจึงไม่เสียเวลาเกรงใจ สวัสดีครับคุณนครเสียงร้องทักจากประตูห้องจัดงานเป็นเหมือนเสียงสวรรค์ที่มาช่วยสิริญไว้ได้อย่างทันเวลาแต่ครั้นหันไปมองก็ไม่แน่ใจว่าเขายินดีจะช่วยหรือมาซ้ำเติมกันแน่ จอมทัพมีสีหน้ายิ้มแย้มขณะพูดคุยทักทายกับนายนคร แหมหลบมาอยู่ตรงนี้เองผมตามหาเสียแทบแย่ แถวนี้มีอะไรดีๆหรือครับ ดีสิคุณจอมทัพ ดีเอามากๆเลยล่ะ อากาศดีบริสุทธิ์หอมหวานจริงๆ นายนครหัวเราะเสียงดังอย่างที่สิริญได้ยินแล้วขนลุกขนพองไปทั้งตัวเธอยิ้มแหยให้กับสรวงสุดาที่ยืนเคียงข้างจอมทัพ แต่ฝ่ายนั้นกลับส่งรอยยิ้มที่คล้ายจะสมใจหรือไม่ก็ถึงขั้นสะใจตอบกลับมาให้ทำเอาสิริญงงงันไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิดจึงถอยออกมาเสียปล่อยให้นายนครพูดคุยกับจอมทัพตัวเธอเองเข้าไปกระซิบกระซาบกับสรวงสุดา สรวง คือว่าโบว์... เธอตั้งใจจะขอให้สรวงสุดาช่วยอยู่เป็นเพื่อนรับรองนายนครให้เพราะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับงานของบริษัทอีกทั้งไม่ไว้ใจลูกค้าชีกอคนนี้ที่ดูท่าพร้อมจะขย้ำสิริญได้ทุกเมื่อสรวงสุดากลับขัดขึ้นมาเสียก่อน เธออยู่กับไอ้แก่นี่ไปก็แล้วกันนะยายโบว์ฉันจะตามคุณจอมไปคุยกับแขกในงานคำบอกเล่าของหล่อนทำเอาสิริญถึงกับหมดคำพูด ไอ้บ้านี่มันหื่น คราวก่อนก็ทำก้อร่อก้อติกกับฉันทีละรำคาญ เธอก็ยอมๆมันไปก็แล้วกันจะได้ไม่มีเรื่อง สรวงสุดาบอกง่ายๆแต่ปรายตามองนายนครอย่างแค้นจัด แต่ว่าโบว์ไม่รู้เรื่องงานของบริษัทถ้าเกิดเขาถามขึ้นมา โอ้ย มันไม่ถามหรอกเรื่องธุรกิจอะไรน่ะ มันก็แค่เศรษฐีใหม่อยากชุบตัวเข้าวงสังคมอีกอย่างมันจ้องนมเธอตาแทบถลนเสียขนาดนั้นจะเอาสมองมาคิดงานคิดการอะไรเล่านี่ล่ะน้ายายโบว์แต่งตัวไม่รู้จักกาลเทศะอวดนมต้มล้นหลามขนาดนี้ผู้ชายที่ไหนมันก็ตาลุกเทสแย่จริงๆหาเสื้อน่าเกลียดแบบนี้มาใส่ได้ยังไงไม่มีหัวคิดเอาเสียเลย สิริญแทบร้องไห้กลายเป็นว่าเธอเป็นคนหาเรื่องใส่ตัวเสียอย่างนั้น ตะ...แต่ว่า โบว์กลัว เขาจะ... จะไปกงไปกลัวอะไรล่ะหน้าที่หล่อนก็คือรับรองแขกของบริษัท จะพูดคุยดื่มกินกันในงานหรือออกไปกินกันต่อที่ไหนก็เป็นสิทธิ์ของหล่อนแล้วจะว่าไปท่านประธานนี่ก็ตาแหลมนะเลือกของได้ถูกใจลูกค้าดีเหลือเกิน ซื่อๆอย่างหล่อนนี่นายนครนั่นมันโปรดนักล่ะสรวงสุดาบีบเสียงแหลมที่กรีดเข้าไปในใจของสิริญยิ่งกว่ามีดคมๆนับร้อยเล่ม ตามสบายเถอะ หล่อนก็ให้ไอ้แก่นั่นพาไปส่งบ้านเสียซิมันน่ะมีเงินนะอยากได้อะไรเป็นทุ่มไม่อั้นดีไม่ดีเธอจะได้ไม่ต้องมาเป็นพนักงานต๊อกต๋อยเงินเดือนแค่ไม่กี่พันอยู่แบบนี้ สรวงสุดาปิดปากหัวเราะตาวาวแววตานั้นทั้งเยาะหยันทั้งสะใจ สิริญเข้าใจความหมายของหล่อนชัดเจนก็ตอนนี้พลอยเข้าใจความหมายในคำพูดแปลกๆของจอมทัพด้วยเขารู้ดีว่านายนครมีรสนิยมอย่างไรเขาจงใจส่งสิริญเป็นอาหารให้ลูกค้าของบริษัทขบเคี้ยวเล่นเขาทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเองโดยไม่สนใจความทุกข์ยากของคนอื่น สิริญไม่เคยรู้สึกเกลียดเขาจับใจขนาดนี้มาก่อนแม้เมื่อเขาทิ้งเธอไปเมื่อหลายปีก่อนนั้นก็ยังไม่เกลียดมากถึงเพียงนี้ ในตอนที่เกิดเรื่องครั้งนั้นเธอเสียใจและน้อยใจในโชคชะตาเสียมากกว่าอาจมีความโกรธผสมอยู่บ้างแต่ไม่เคยนึกเกลียดเขา แต่ ณ ขณะนี้สิริญรู้แล้วว่าพี่จอมของเธอเปลี่ยนไปแล้ว เวลาที่ห่างกันไปทำให้เขากลับกลายเป็นชายหนุ่มที่เลือดเย็นและเห็นแก่ตัวอย่างที่สุดอย่างที่สิริญเองก็คาดไม่ถึง ยาวไปมั้ยคะ จะตัดก็ไม่รู้จะตัดตรงไหน บีลงไว้ให้เท่านี้นะคะ ตอนที่ 5 ลงที่นี่ไม่ได้ ลองตามอ่านที่เว็บธัญวลัยค่ะ บียังไม่ได้ลบ ขอบคุณที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้กันนะคะ ตอนนี้กำลังลงเรื่องใหม่ที่เว็บห้องสมุด ไว้สักพักจะเอามาลงที่นี่ คงอัพทีละเว็บค่ะ อัพทุกเว็บไม่ไหวเพราะใช้เวลาพอควรกว่าจะแก้ font จัดย่อหน้า นิยายทุกเรื่องที่ลงมีวางแผงตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ ถ้าสนใจหรือหาซื้อไม่ได้สอบถามมาได้ที่เมล์ (nuntineebook@gmail.com) และ facebook (https://www.facebook.com/nuntinee.novel) ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
Create Date : 15 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 15 พฤษภาคม 2556 9:00:10 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3564 Pageviews. |
|
|