Group Blog
 
 
มกราคม 2557
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
25 มกราคม 2557
 
All Blogs
 

เล่ห์รักรอยพิศวาสซาตาน ตอน 1-1



สภาพห้องพักบนอาคารสูงนั้นจัดว่าไม่แย่จนเกินไปนักแต่ก็ไม่ถือว่าอยู่ในระดับดี ระบบรักษาความปลอดภัยหละหลวมไปบ้างเนื่องจากพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ชั้นหนึ่งแอบหลับ กระทั่งพิรสาเดินลิ่วๆ ผ่านเข้ามาก็ยังไม่รู้ตัวเหมาะแล้วสำหรับเป็นที่พักของบรรดาหนุ่มโสดที่ไม่ใคร่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อย

พิรสาเดินขึ้นบันไดไปชั้นสามโดยไม่เสียเวลารอลิฟต์ด้วยความร้อนใจจนแทบบ้าถึงอย่างนั้นขณะซอยเท้าขึ้นบันไดก็อดมองซ้ายมองขวาด้วยความระแวงไม่ได้พงษ์วัฒน์เคยบอกกับเธอว่า ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องมาหาเขาที่นี่เพราะอาคารแห่งนี้เจ้าของบริษัทที่เขาทำงานอยู่เช่าไว้ทั้งห้าชั้น สำหรับเป็นที่พักของพนักงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายแถมเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นคนโสด

แต่เหตุการณ์ตอนนี้นับเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งแล้วพิรสาจึงต้องมาหาเขาถึงที่นี่

เธอถึงกับหอบเล็กน้อยเมื่อขึ้นมาถึงชั้นที่สามห้องของพงษ์วัฒน์อยู่ห้องแรกใกล้บันไดจึงไม่ต้องเสียเวลาเดินไกลพิรสาเคาะประตูห้องรัวๆ หลายครั้งแต่ก็ไร้เสียงตอบรับ

“พงษ์ พี่อยู่หรือเปล่าเปิดประตูให้รสาด้วย” เธอลองเรียกดูแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นเดิม

ผู้ชายที่อยู่ห้องตรงข้ามกระชากประตูเปิดออกมาอย่างหัวเสียเตรียมจะร้องด่าคนที่รบกวนการพักผ่อน แต่พอเห็นหน้าพิรสาก็ชะงักกึกปรับสีหน้าเป็นยิ้มแย้มและถามอย่างสุภาพ

“มาหาใครครับ”

“พี่ชายค่ะ เขาอยู่ห้องนี้”

“น้องไอ้พงษ์ เอ๊ย พงษ์หรือครับไม่ยักรู้...” เขาทำตาวาวอย่างประหลาดใจก่อนจะยิ้มอีก “...ว่ามีน้องสาวโตขนาดนี้”

พิรสาไม่ได้ต่อคำ ใครๆ ก็ประหลาดใจทั้งนั้นเมื่อรู้ว่าเธอเป็นน้องสาวของเขาพงษ์วัฒน์ผิวคล้ำแทนเหมือนพ่อซึ่งเป็นคนภาคกลาง ในขณะที่พิรสาได้ผิวของแม่ซึ่งพื้นเพเป็นคนทางภาคเหนือและมีเชื้อสายจีนจึงมีผิวขาวผ่องไปทั้งตัว สมัยเด็กเวลาที่เขาอุ้มพิรสาไปไหนมาไหนสีผิวจะตัดกันชัดราวขาวกับดำสร้างความขบขันให้คนที่พบเห็นและพงษ์วัฒน์ก็จะบ่นกะปอดกะแปดไปฟ้องแม่อ้างเป็นเหตุผลที่จะไม่อุ้มเธอไปไหนอีก

อีกอย่างคือพงษ์วัฒน์อายุยี่สิบแปดปีเข้าไปแล้วเป็นหนุ่มวัยใกล้สามสิบที่ใช้ร่างกายอย่างสมบุกสมบันทั้งทำงานกลางแจ้งเที่ยวกลางคืนและดื่มหนักทำให้เขาดูแก่กว่าวัย ในขณะที่พิรสาอ่อนกว่าเขาถึงเจ็ดปียังเป็นสาวน้อยวัยยี่สิบเอ็ดที่รูปร่างเพรียวบางใบหน้าเนียนใสไร้เครื่องสำอางราวกับเด็กมัธยมทั้งที่เธอใกล้จะจบปริญญาตรีในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว

“ผมเปิดให้ ลูกบิดห้องมันเสียมันไม่ยอมซ่อม”

เขากุลีกุจอเข้ามาช่วย ใช้อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆลักษณะคล้ายไขควงที่ติดกับพวงกุญแจสอดเข้าไปในช่องประตูพร้อมกับขยับลูกบิดไปมาครู่เดียวประตูห้องก็เปิดได้จริงๆ เธอเชื่อแล้วว่าพวกผู้ชายมักมีหัวทางการช่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแผนกวิศวกรและซ่อมบำรุงที่พงษ์วัฒน์ทำงานอยู่

“ขอบคุณนะคะ”พิรสาบอกไปแต่ในใจคิดว่าคงต้องบอกพี่ชายให้ซ่อมประตูเป็นการด่วนเสียแล้ว

“ยินดีฮะ คุณ...”

พิรสาปิดประตูเสียทันทีพี่ชายสั่งไว้ไม่ให้ยุ่งกับคนแถวนี้ เขาทำงานอยู่ที่นี่ย่อมรู้ดี พวกหนุ่มโสดนี่ก็ดูชีกอเหลือเกินแค่เจอหน้ากันครั้งแรกก็ทำก้อร่อก้อติก แม้จะช่วยเหลือเธอก็จริงอยู่แต่เชื่อคำพี่ชายไว้ก็น่าจะดีกว่าพิรสาปิดประตูลงกลอน แล้วก็หันมาสนใจสภาพภายในห้อง อย่างแรกที่สัมผัสได้คือมันเหม็นอับจนเธอแทบผงะและต้องใช้มือปิดจมูกกลิ่นอันน่าคลื่นเหียนลอยกระทบจมูก มันมีทั้งกลิ่นอาหารบูดเน่าจากกองจานชามมากมายในอ่างล้างจานถังขยะที่มีเศษถุงพลาสติกใส่อาหาร เสื้อผ้าที่ถอดทิ้งระเกะระกะ ห้องมืดทึบทึมนั้นสกปรกโสโครกราวกับกองขยะ

...ท้ายที่สุดคือร่างหนาของพี่ชายในชุดเสื้อผ้าที่ยับย่นพงษ์วัฒน์นอนไร้สติจมกองอาเจียนของตนเองอยู่กับพื้น ในสภาพที่ไม่ต่างจากสุนัขตัวหนึ่ง

“พี่พงษ์” พิรสากรีดร้องด้วยเสียงที่ดังอยู่แค่ลำคอน้ำตาคลอหน่วยตาใจจวนจะขาดอยู่รอนๆ เธอถลาเข้าไปหาจับต้องร่างเขาอย่างไม่นึกรังเกียจพลิกร่างที่นอนคว่ำหน้าขึ้นก็พบว่าใบหน้าของพี่ชายเต็มไปด้วยร่องรอยช้ำทั้งที่มุมปากโหนกแก้ม และเบ้าตา ดูเหมือนนอกจากจะเมาจนหมดสติเขายังถูกคนซ้อมอีกด้วย

พิรสามือสั่นใจสั่นขณะแนบหน้าลงกับแผ่นอกตรงตำแหน่งของหัวใจเธอดีใจแทบบ้าที่สัมผัสได้ว่ามันยังเต้นอยู่ จากนั้นจึงมองไปรอบตัวเพื่อหาผ้าสะอาดสักผืนชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดและปลุกเขาให้ฟื้นคืนสติ

**********

นับตั้งแต่พ่อจากไปพงษ์วัฒน์ก็รับหน้าที่เป็นเสาหลักของครอบครัวมาโดยตลอดแม้ว่ายังเรียนไม่จบก็ตาม พ่อของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเมื่อพิรสาอายุเพียงสิบสองปีและพงษ์วัฒน์ก็เริ่มหางานทำตั้งแต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่สองแม้ว่าการจากไปของพ่อจะทำให้ได้เงินประกันชีวิตมาก้อนหนึ่ง ซึ่งมากพอสำหรับครอบครัวที่เหลือกันเพียงสามคนแม่ลูกจะอยู่ได้อย่างไม่ขัดสนก็ตาม

“ผมจะทำงานพิเศษเพิ่มหาค่าใช้จ่ายส่วนตัวเองแม่ไม่ต้องห่วง”

พงษ์วัฒน์เป็นคนออกปากเองหลังสูญเสียเสาหลัก ครอบครัวอยู่ต่อไปได้ไม่ลำบากแต่ก็ไม่มีเงินเหลือเก็บภาระค่าใช้จ่ายในการเรียนของลูกสาวลูกชายที่กำลังอยู่ในวัยเรียนทั้งคู่เป็นภาระหนักสำหรับแม่ม่ายผัวตายที่ไม่มีอาชีพหลักรองรับ

วราพรแม่ของพิรสารับจ้างเย็บเสื้ออยู่กับบ้านเป็นเสื้อแบบชาวบ้านจำพวกผ้าถุงเสื้อคอกระเช้าหรือเสื้อสำหรับคนแก่ใส่ไปวัด จึงได้ค่าตัดเย็บแค่พอจ่ายค่ากับข้าวก่อนหน้านี้รายได้หลักของครอบครัวมาจากพ่อซึ่งเป็นนายช่างประจำของบริษัทเครื่องไฟฟ้าในตัวอำเภอฐานะของครอบครัวจึงไม่ได้ขัดสนแต่ก็ไม่ได้สะดวกสบายมากนัก

หลังจบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์พงษ์วัฒน์ได้งานในบริษัทและรับผิดชอบส่งให้พิรสาเรียนต่อกระทั่งใกล้จบการศึกษาปริญญาตรีในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว เทอมที่ผ่านมาเธอต้องไปฝึกงานในต่างจังหวัดไกลบ้านและไกลจากพี่ชายนานถึงสี่เดือนจึงไม่ใคร่ทราบข่าวคราวของเขามากนัก อีกทั้งแม่ก็ไม่เคยปริปากพูด

พิรสาเพิ่งทราบเรื่องเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ขณะที่กลับบ้านหลังจากไม่ได้กลับมาเสียนาน สิ่งที่รอเธออยู่ที่บ้านนั้นทำเอาแทบช๊อคแม่ที่แข็งแรงทำงานบ้านอย่างคล่องแคล่วกลับนอนซมอยู่บนเตียงในสภาพผ่ายผอมตรอมใจ ไม่น่าเชื่อว่าเวลาแค่สามถึงสี่เดือนจะเปลี่ยนแม่ไปได้ถึงเพียงนี้

“พงษ์กำลังจะถูกไล่ออกจากงาน”แม่เล่าพลางเช็ดน้ำตา มือบอบบางของแม่สั่นระริก “ชัยมาบอกข่าวกับแม่ เขาต้องแอบบอกเพราะพงษ์ไม่ให้บอกใคร”

สินชัยเป็นเพื่อนของพี่ชายเขาทำงานอีกบริษัทหนึ่งแต่อยู่ในเครือเดียวกันกับบริษัทของพงษ์วัฒน์ และคอยส่งข่าวของพงษ์วัฒน์ให้แม่รู้อยู่เสมอแต่โดยมากก็เป็นเรื่องทั่วไปเช่นพงษ์วัฒน์ทำงานเป็นอย่างไร เขาดื่มหนักหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเว้นเสียแต่อย่างเดียวคือความเป็นคนอารมณ์ร้อนของเขา พี่ชายของเธอมีรูปร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำแทน หน้าตาหรือก็กวนอารมณ์คน ทั้งยังพูดจาตรงๆโผงผางไม่ไว้หน้าใคร ไม่แปลกเลยที่มีคนไม่ชอบหน้าเขาอยู่มาก

“ชัยเล่าว่าพงษ์ทะเลาะชกต่อยกับผู้จัดการฝ่ายจนถึงขั้นถูกไล่ออก แต่บริษัทยังเมตตาให้พงษ์พักอยู่ที่เดิมไปก่อนและเคลียร์เรื่องค่าตอบแทนก็คงอีกสักหนึ่งเดือน” นับว่าบริษัทนี้ดูแลดีทีเดียว การถูกเลิกจ้างด้วยเหตุไล่ออกนี้โดยมากพนักงานมักเรียกร้องอะไรไม่ได้เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดขั้นร้ายแรง

“พงษ์ออกไปดื่มทุกคืนเพื่อนฝูงพากันห้ามปรามไม่มีใครไปด้วยเขาก็ไปคนเดียว บางวันก็เมาแอ๋กลับมา ชัยเคยไปเจอเขาเมากลิ้งอยู่หน้าตึกที่พักไม่รู้ใครเอามาทิ้งไว้ของมีค่าในตัวหายเกลี้ยง” แม่ยกผ้าขึ้นซับน้ำตาอีก พิรสาที่นั่งฟังอยู่ก็แทบใจขาดรอนตามไปด้วย

“ก่อนหน้านี้เขาก็บอกแต่ว่าไม่เป็นไร แต่สองสามวันมานี้แม่โทรติดต่อไปก็ไม่รับแม่ร้อนใจจะไปตามแต่ก็ไปไม่ถูกจะบอกรสาก็กลัวหนูกลุ้มใจ ทำอะไรก็ไม่ได้ได้แต่นั่งๆนอนๆ รอร้อนใจเหลือเกิน”

สภาพของพงษ์วัฒน์ที่เห็นในขณะนี้ย่ำแย่เกินทน และทำให้เธอเจ็บปวดกังวลไม่แพ้สภาพของแม่เขานอนกระสับกระส่ายพูดไม่ได้ศัพท์เหมือนคนละเมอร่างสูงใหญ่ของเขาซูบผอมจนแก้มตอบไม่รู้ว่าหลายวันมานี้เขากินข้าวบ้างหรือเปล่าหรือจะดื่มแต่เหล้าเสียก็ไม่รู้

พิรสากวาดของที่กองรกรุงรังบนเตียงลงปัดทำความสะอาดลวกๆลากเขาขึ้นไปนอนอย่างทุลักทุเล เธอเรียกหาเขาก็พอมีสติรับรู้อยู่บ้างจึงเปลี่ยนเสื้อและเช็ดตัวให้จากนั้นก็เก็บกวาดทำความสะอาดห้องซึ่งก็ทำให้เสียเวลาไปเกือบสองชั่วโมงกว่าจะเรียบร้อย เธอรวบผ้าม่านที่หัวเตียงเปิดให้แสงสว่างจากภายนอกสาดเข้ามาในห้อง

พงษ์วัฒน์ที่นอนอยู่บนเตียงมีสภาพบอบช้ำเขาซูบผอมไปมากหอบหายใจแรงและพร่ำเพ้อละเมอไม่ได้สติ อาการทางกายนั้นพอรักษาได้แต่ทางใจนี่สิเขาจะผ่านมันไปได้หรือไม่

เธอใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดเช็ดตามใบหน้าและซอกคอให้กับพี่ชายตัวเขารุมๆ คล้ายจะเป็นไข้รอให้เขามีแรงอีกนิดจะได้เอาข้าวและยาให้กินพงษ์วัฒน์พลิกตัวกระสับกระส่ายพิรสาจับมือเขาไว้เรียกชื่อเขาซ้ำไปมา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกตัวยังคงพึมพำเรียกชื่อคนรักพิรสาถอนหายใจหนักหน่วง ยังจำเรื่องที่แม่เล่าให้ฟังได้ดี

“วาว เขามีแฟนใหม่ไปแล้ว เขาขอเลิกกับพงษ์ คิดดูเถอะจะแต่งงานกันปีนี้ปีหน้าอยู่แล้วบ้านช่องก็ไปลงเงินดาวน์ไว้ด้วยกันพงษ์ถึงกับช็อคไปเลย อารมณ์ฉุนเฉียวจนมีเรื่องกับเขาไปทั่ว แม่จะทำยังไงดีรสาแม่จะอกแตกตายอยู่แล้ว”

แม่ป่วยหนักเต็มไปด้วยความทุกข์โศกพี่ชายคนเดียวหรือก็ผิดหวังเสียใจจนหมดสภาพทั้งยังมีปัญหาเรื่องงาน พิรสาจะทนอยู่เฉยไม่ทำอะไรเลยได้อย่างไรกัน

**********




 

Create Date : 25 มกราคม 2557
0 comments
Last Update : 25 มกราคม 2557 19:45:33 น.
Counter : 1069 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาวกันยา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ

Friends' blogs
[Add ดาวกันยา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.