เพื่อนๆ หลายคนน่าจะเกิดคำถามขึ้นในหัวก่อนเลยว่า ทำไมเราถึงต้องเลือกใช้แท๊บเล็ตมาทำงานแทน PC หรือ Notebook ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันด้วยล่ะ? อันที่จริงแล้ว คำตอบของคำถามนี้ไม่มีผิดหรือว่าถูกครับ เพียงแต่มันขึ้นอยู่กับความสะดวกของเรา ว่าต้องการเลือกใช้อุปกรณ์ใด ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้นมากที่สุดครับ

ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการเพียงแค่ใช้ฟีเจอร์พื้นฐานของชุดโปรแกรม Office ในการทำงาน และต้องการความคล่องตัวด้วยสไตล์Mobility Workspace ที่สามารถทำงานได้ทุกที่ โดยไม่ต้องมีโต๊ะทำงานประจำของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น สำหรับคนทำงานที่อาจจะต้องประชุมงานบ่อย หรือต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงานตลอดเวลา ทำให้การเลือกใช้แท๊บเล็ตที่บางๆ แบตอึดๆ และใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากกว่านั่นเอง

เนื่องจากแท๊บเล็ตเป็นอุปกรณ์เอนกประสงค์ และสามารถป้อน (Input) ข้อมูลได้หลากหลายวิธีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานพื้นฐานด้วยการทัชแล้ว ยังสามารถใช้งานได้ด้วยปากกา S-Pen และยังเชื่อมต่อกับเมาส์และคีย์บอรด์แบบไร้สายได้อีกด้วย

ซึ่งแน่นอนว่า ทางเลือกในการป้อนข้อมูลเหล่านี้ ต่างก็มีประโยชน์แตกต่างกันไป คีย์บอร์ดเหมาะสำหรับไว้ทำงานเอกสาร พิมพ์บทความ รายงาน ฯลฯ แบบยาวๆ ได้ หรือการทัชหน้าจอ ก็เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันที่ต้องการความเรียบง่าย เมาส์ เหมาะสำหรับการทำงานกราฟฟิคที่ต้องการความรวดเร็ว หรือการทำงานกับตาราง Excel ที่ซับซ้อน ส่วน S-Pen ก็เหมาะมากสำหรับทำงานสร้างสรรค์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจดไอเดีย การวาดกราฟฟิค เป็นต้น

แต่ที่แจ๋วก็คือ แท๊บเล็ตนั้น สามารถรองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบที่กล่าวมาข้างต้นเลยล่ะครับ นอกจากนั้นเม้าส์และคีย์บอร์ดแบบไร้สาย ยังสามารถทำการเชื่อมต่อกับ Note 10.1 ด้วยระบบ Bluetooth ที่ฉับไว ด้วยวิธีง่ายๆ โดยการเปิดใช้ระบบ Bluetooth ในตัวเครื่องเพื่อค้นหาคีย์บอร์ดที่เปิด Bluetooth อยู่ เมื่อ แท๊บเล็ตค้นหาคีย์บอร์ดเจอ จะปรากฏรหัสให้เรากรอกลงบนแป้นพิมพ์ จะเป็นการจับคู่อุปกรณ์เข้าด้วยกัน ซึ่งเสียเวลาตั้งค่าครั้งแรกแค่เล็กน้อยเท่านั้น พอครั้งถัดๆ ไป แต่เปิดคีย์บอร์ดหรือเมาส์ ก็ใช้งานร่วมกับแท๊บเล็ตได้ทันทีครับ

ด้วยการที่ Tablet รุ่นใหม่ๆ นั้น มีพลังการประมวลผลที่รวดเร็ว (Note 10.1 2014 ความเร็วซีพียู Big Core 1.9GHz Quad + Little core 1.3 GHz Quad) ทำให้คนทำงานอย่างเรา มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์เครื่องนี้ จะช่วยให้เราทำงานเสร็จไวขึ้น ไม่ชักช้าอืดอาดให้เสียเวลานอกจากนั้นหน้าจอความละเอียดสูงมาก (2560 x 1600 พิกเซล) ก็จะยิ่งทำให้ตัวอักษรและกราฟฟิคต่างๆ ที่ปรากฏมีความคมชัด สบายตา ให้สีสันที่สดใสสุดๆ ไม่ว่าจะยกไปนำเสนองานกับใคร ก็มั่นใจว่าคนอื่นจะเห็นผลงานบนหน้าจอ Tablet ของเราได้ชัดเจนครับ

สำหรับ Note 10.1 (2014) นั้น ภายในจะมีการติดตั้ง App POLARIS Office 5 มาให้ในตัว ครับ ซึ่งขอบอกได้เลยว่า App นี้ สามารถรองรับการทำงานกับ MS Office ได้เกือบ 100% เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเปิดไฟล์ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ที่ซับซ้อนแค่ไหน หน้าตาของเอกสารก็แทบจะไม่มีผิดเพี้ยนไปจากเดิมเลย เรียกได้ว่าทำงานได้อย่างต่อเนื่องและสบายใจแน่นอน

หนึ่งในคำถามสำหรับคนทำงานก็คือ แท๊บเล็ต จะสามารถจัดการระบบไฟล์ได้ง่ายเหมือน PC หรือเปล่า? คำตอบก็คือ "ง่ายครับ" เพราะระบบปฏิบัติการ Android มาพร้อมความสามารถในการจัดการไฟล์ประเภทต่างๆ นั้น มีความยืดหยุ่นอยู่แล้ว นอกจากนั้นตัว App POLARIS Office 5 เองก็ยังมีระบบ File Browser ที่ใช้งานง่ายแถมมาให้อีกต่างหาก ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเลือกไฟล์ที่ต้องการและเลือก Copy Paste หรือ Delete ไฟล์ได้ทันทีบางครั้งก็รู้สึกว่า สะดวกกว่าการใช้งานบน PC เสียอีกครับ

ปัจจุบัน เทคโนโลยีการเก็บไฟล์บนกลุ่มเมฆ (Cloud Storage) ก็ทำให้ชีวิตการทำงานของเราสะดวกยิ่งขึ้น โดยตัว POLARIS Office 5 เองนั้น ก็ได้รองรับการ Save ไฟล์ เอาไว้บน Cloud Service หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Box.net, Dropbox, Google Drive และ Sugarsync ที่สามารถนำไปเปิดบน Device อื่นๆ เพื่อความสะดวกในการแก้ไขงาน และสามารถเข้าหาไฟล์ได้ทุกที่ในกรณีที่ไม่ได้พกพาTablet กับตัวตลอดเวลาครับ

นอกจากฟีเจอร์การทำงานที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว หากเราต้องการนำเสนองานในที่ประชุม และในสถานที่นั้น มีทีวีซัมซุงที่รองรับฟีเจอร์ All Share เราก็สามารถ Clone หน้าจอของแท๊บเล็ตให้แสดงผลบนหน้าจอทีวีได้ทันที โดยเลือกโหมด Screen Mirroring ครับ

โดยสรุปแล้ว การเลือกใช้งานแท๊บเล็ตสำหรับชีวิตของหนุ่มสาวออฟฟิศอย่างเราๆ นั้น เรียกได้ว่าสามารถตอบโจทย์การทำงานได้เป็นอย่างดี ตอบสนองความต้องการพื้นฐานด้านการทำงานได้แทบจะเรียกได้ว่าครบครัน ยังไงครั้งหน้า หากเพื่อนๆ ต้องการมองหาอุปกรณ์เด็ดๆ เพื่อมาเป็นผู้ช่วยให้การทำงานลื่นไหลมากขึ้น ก็อย่าลืมพิจารณาแท๊บเล็ตดีๆ ไว้คู่กายสักเครื่องนะครับ