Welcome to my blog…………..http://cookie-nim.bloggang.com
Be my guest I baked I churned I cooked I quilted I made I traveled

Shangri La มนต์เสน่ห์...ดินแดนสุดขอบฟ้า 5



20 ต.ค. วันที่สี่ ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเป็นปกติหลังจากการนอนหลับไปเพราะฤทธิ์พี่พาราฯ หลังอาหารเช้าเราออกเดินทางไป อุทยานธารขาวหรือไป๋สุ่ยไถ ใช้เวลาเดินทางไป 3 ชั่วโมง ลัดเลาะไต่ข้ามสันเขาสู่เขตแดนเทือกเขาหิมะมังกรหยกแห่งลี่เจียง ที่นี่คือเขตภูเขาหิมะฮาปาที่มีความสูงถึง 5,396 เมตร ตลอดเส้นทางอันสูงชันลัดเลาะโค้งนับพัน ไต่หน้าผานับร้อยที่ทยอยผ่านเข้ามาให้เราอิ่มตา อิ่มใจ ผ่านหมู่บ้านทิเบตที่สงบงามอยู่กลางหุบเขาและทุ่งหญ้ามีภูเขาหิมะตระหง่านง้ำอยู่เบื้องหลัง ระหว่างทางตัองหยุดรถให้ฝูงจามรีเดินตัดถนนไปหาและเล็มหญ้าเป็นระยะๆ คล้ายกับเวลาเราขับรถไปแถบชนบทของไทย


วิวบริเวณเชิงเขาทางเดินขึ้นธารน้ำขาว




จากที่จอดรถเราต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 1 กิโล ตามทางเดินขึ้นเขาที่ทางการสร้างไว้ ที่นี่เดินได้อย่างสบายๆเพราะไม่สูงชัน เดินไปชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางกันไป แวะถ่ายภาพกันไปตลอดทาง มีดอกหญ้าสวยๆให้ชม ถ้าใครคิดว่าจะเดินไม่ไหวสามารถใช้บริการม้าของชาวทิเบตที่มารอให้บริการที่เชิงเขาก็ได้


ม้าที่รอให้บริการสำหรับคนที่คิดว่าเดินขึ้นไม่ไหว





ดอกหญ้าข้างทางที่เดินขึ้นไป











ไป๋สุ่ยไถเป็นธารน้ำตกสีขาวที่ไหลลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ เนื่องจากเกิดการละลายและสะสมตัวของหินปูน
สายน้ำที่ไหลผ่านใสเป็นสีเขียวสวยในวันที่มีแดดจัด วันที่เราไปมีฝนตกปรอยๆระหว่างทางเดินขึ้นไป แต่ยังโชคดีอยู่หน่อยเมื่อเราเดินถึงฝนได้หยุดตกและพอมีแสงให้พวกเราได้ถ่ายภาพกัน








ที่นี่เราค่อนข้างมีเวลาชื่นชมความงามของวิวทิวทัศน์กันได้อย่างสบายๆไม่ต้องรีบเร่งมากนัก ถ่ายภาพกันได้อย่างเต็มอิ่ม ตอนเดินลงก็ถ่ายภาพกันไปตลอดทาง ลงมาถึงก็ได้เวลาอาหารกลางวันซึ่งร้านที่จะทานกันมื้อนี้ก็อยู่ตรงเชิงเขานั่นเอง มื้อนี้ทานกันไม่ค่อยเต็มอิ่มเท่าไหร่เพราะรสชาติอาหารไม่ค่อยถูกปากหนักไปทางจืดและเลี่ยน


วิวมองจากด้านบน





หลังอาหารกลางวันเราก็เดินทางกลับตามเส้นทางเดิมเข้าสู่เมืองจงเตี้ยน ใช้เวลาในการเดินทางไปกลับกว่า 6 ชั่วโมง กลับเข้าเมืองจงเตี้ยนเพื่อไปเที่ยวชมวัดซงจ้านหลิน อันเลื่องชื่อของจงเตี้ยน

วัดซงจ้านหลินหรือวัดกุ้ยหัว เป็นวัดลามะที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี ตั้งอยู่บนเชิงเขา(ตามมาตรฐานของวัดทิเบต) ห่างจากจงเตี้ยนประมาณ 5 กิโลเมตรไปทางด้านเหนือ วัดนี้สร้างขึ้นโดยดาไลลามะองค์ที่ 5 เมื่อ พ.ศ. 2222 ใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึง 18 ปี โดยจำลองรูปแบบมาจากพระราชวังโปตาลา แห่งเมืองลาซาเมืองหลวงของทิเบต





ประตูทางเข้าด้านนอกสุด





กุฏิระหว่างทางเดิน





จากลานจอดรถเราจะมองเห็นตัววัดตั้งอยู่บนเนินเขาสูงขึ้นไปโดยมีหมู่บ้านของชาวทิเบตตั้งรายล้อมวัดอยู่ ระหว่างทางเดินเพื่อขึ้นไปยังวัดจะพบเห็นหญิงและเด็กๆชาวทิเบตแต่งกายในชุดประจำชาติยืนรอให้บริการถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวโดยคิดค่าบริการประมาณ 5 ถึง 10 หยวน ต่อการถ่ายภาพประมาณ 2-3 นาที








จากนั้นเราต้องเดินขึ้นบันไดที่ทำจากหินอีกประมาณ 150 ขั้นจึงจะขึ้นไปถึงตัววัด ใครมาเที่ยวที่นี่ต้องหายใจลึกๆ ไม่ต้องแปลกใจที่รู้สึกเหนื่อยง่าย เพราะวัดตั้งอยู่บนเชิงเขา ระหว่างทางขึ้นบันไดจะพบกับหญิงชาวทิเบตแต่งตัวสวยงามยืนจูงหมาทิเบตตัวใหญ่ที่มีขนฟูและสวมปลอกคอหลากสีรอคอยให้บริการถ่ายภาพร่วมกับผู้สนใจ (คิดค่าบริการด้วยนะจ๊ะ)


หญิงชาวทิเบตจูงหมาขนฟูตัวใหญ่มาก แต่ถ่ายไม่ทันค่ะ








เมื่อขี้นไปถึงวัดจะเป็นลานกว้างมีวิหารขนาดใหญ่ 3 หลัง แต่ละหลังมีขนาดใหญ่และตกแต่งอย่างสวยงามตามแบบสถาปัตยกรรมทิเบต รูปทรงและสีสันทำให้รู้สึกถึงความงามที่มีสไตล์รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนเร้นใต้หลังคาโลก ภายในวิหารแต่ละหลังมีภาพวาดเขียนสีที่มีความสวยงามและดูยิ่งใหญ่มาก แต่น่าเสียดายที่ภายในวิหารทุกแห่งของวัดทิเเบตห้ามถ่ายภาพ เราเลยได้แต่เก็บภาพความสวยงามและประทับใจไว้ในความทรงจำ การเข้าไปในวิหารของวัดทิเบตนั้นมีธรรมเนียมปฏิบัติว่าตอนเข้าให้ก้าวเท้าซ้ายข้ามธรณีประตู จากนั้นจึงเดินชมภายในด้วยการวนซ้ายรอบวิหาร ตอนออกให้ก้าวเท้าขวาข้ามธรณีประตู ห้ามสวมหมวกและแว่นตาดำในระหว่างที่อยู่ภายในวิหาร














กลับจากวัดซงจ้านหลินไกด์พาเรากลับเข้าเมืองและแวะที่ร้านขายหินทิเบต(ตามธรรมเนียม) ที่มีใบรับประกันว่าเป็นนของแท้แน่นอน มีทั้งหินเก่าและใหม่ เราติดใจหินทิเบตของเก่าเพราะสวยคลาสสิคดีพอสอบถามราคาแล้วก็ตกใจ 1,800 หยวน ใช้เวลาที่นี่พอสมควรโดยการเดินชม ต่อราคา สุดท้ายเลยฝากหินทิเบตชิ้นที่เราชอบไว้ที่ร้านก่อนแล้วกัน ถ้ามีโอกาสมาคราวหน้าค่อยกลับมาเอา จากนั้นเดินทางกลับโรงแรมเพื่อนทานอาหารเย็น




 

Create Date : 30 ตุลาคม 2550
11 comments
Last Update : 30 ตุลาคม 2550 21:58:36 น.
Counter : 1809 Pageviews.

 

สวัสดีจขบ.คร่า .. ลงชื่ออ่านไว้หน้านี้นะคะ อ่านมาตั้งแต่บล๊อกแรก ขอบคุณที่เล่าให้ฟัง สวยมากๆ ค่ะ อยากไปด้วย แต่ไม่รู้จะได้ไปป่าว เพราะต้องพาป๊ะป๋าอายุ 70 ไปด้วย แกจะไหวมั๊ยเนี่ยะ (แต่แกแข็งแรงดีอยู่)

ขอถามหลายๆ คำถามหน่อยได้ป่าวคะ อยากได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจอะคะว่า

- ที่ จขบ. ไปมา คุณลุง 60 ท่านนั้นเป็นไงบ้างคะ มีอาการแพ้ความสูงรึปล่าว .. ที่ไปมา เห็นคนแก่ๆ ไปเยอะป่าว
- ส่วนคนที่มีอาการแพ้ความสูง อาการเค้าหายโดยเร็วมั๊ยคะ
- เส้นทางเป็นยังไง สะดวกปลอดภัยขนาดใหนคะ
- ระยะเวลานั่งรถยาวนานที่สุดคือประมาณแค่ใหนคะ เคยไปจิ่ว นั่งตั้งแต่ประมาณ 8.30 ถึง 19.30 น. (หยุดพักเป็นจุดๆ) เห็นมีคนบอกว่านั่งนานน้อยกว่าจิ่ว แต่ทางเค้งไปโค้งมามากกว่า จริงป่าว
- เขาว่ากันว่าห้องน้ำงี้สุดๆ แต่เท่าที่อ่านๆ มา ไม่เห็นมีใครบ่น (คือถ้ามันเป็นมาตรฐานจีน ก็โอเคนะ ทำใจไว้อยู่แล้ว แต่เห็นเขาว่าบางทีก็ต้อง "ริมทาง" กันเลย จริงป่าวอะคะ
- ช่วงเวลาที่ไปโอเคป่าวคะ หรือตอนไปมีใครแนะนำว่าไปช่วงใหนดีที่สุดบ้างรึปล่าว

แหะๆ ถามเยอะหน่อยคงไม่ว่ากันนะคะ อยากไปจริงๆ ค่ะ แต่อย่างที่บอก เป็นห่วงป๊ะป๋าว่าจะสู้ไหวป่าวเท่านั้น

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ แล้วจะมาถามอีก ถ้าคิดได้ 555

ปล. จขบ.คงแอบบ่นในใจ เอาเบอร์ชั้นไปเลยมั๊ย จะได้ถามตอบกันให้จุใจ .. ฮี่ฮี่ฮี่

 

โดย: ขอโทษนะคร้าบ ขอแจมด้วยคน 30 ตุลาคม 2550 22:21:17 น.  

 

แวะมาทักทายคะ ^^

 

โดย: แค่ฟ้ามีดาว ^^ 30 ตุลาคม 2550 22:52:56 น.  

 

วัดธิเบต สีสัน สวยงามมาก ตรงซุ้มประตูทางเข้า ทำด้วยไม้แล้วทาสี ใช่หรือปล่าวคะ

เครื่องแต่งกายของหญิงชาวธิเบตก็สีสันไม่น้อยหน้าเลย

อยากไปเที่ยวธิเบตเหมือนกันแต่ยังไม่มีโอกาสเลยค่ะ

 

โดย: นางฟ้าของชาลี 30 ตุลาคม 2550 23:33:29 น.  

 

สวยงามมากค่ะ วินนี่ชอบ ธารน้ำตกสีขาว มากเลยค่ะพี่ตุ๊ก สวยจริงๆ
แหมอิจฉาคนได้ไปเที่ยวเนอะ เหอๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลและรูปสวยๆค่ะ
ยังมีอีกมั้ยคะ

 

โดย: วินนี่ IP: 82.95.206.21 31 ตุลาคม 2550 19:56:12 น.  

 

คุณขอโทษฯ(ขอเรียกสั้นๆนะคะ ชื่อยาวจัง อิอิ)

- คุณป้าที่ไปด้วยกัน เท่าที่ดูและคุยกันไม่ค่อยมีอาการของเรื่องแพ้ความสูงเลยค่ะ มีตอนที่ขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยกเท่านั้นที่บ่นๆว่าปวดหัวแต่ก็ไม่เป็นอะไรมาก แต่ปัญหาคือเรื่องการเดินขึ้นตามสถานที่ต่างๆค่ะ เพราะแต่ละที่ที่เข้าชมจะอยู่บนเขาต้องเดินขึ้นลงไกล คุณป้าก็จะนั่งรอแต่ในรถค่ะเพราะปวดขาเดินไม่ไหว แต่คุณป้าก็เคยไปจิ่วฯมาแล้วนะคะ

เรื่องแพ้ความสูงน่าจะแล้วแต่บุคคลค่ะ ไกด์เล่าว่าเคยมีลุงอายุ 70 กว่าเดินขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของภูเขาหิมะมังกรหยกมาแล้ว แต่ก็มีอีกเช่นชายหนุ่มแพ้ความสูงอย่างหนักจนต้องส่งเข้าโรงพยาบาลค่ะ

- ตอนขึ้นเขาหิมะมังกรหยกก็เป็นเพียงช่วงที่อยู่ในสถานีเคเบิ้ลด้านบนน่ะคะ พอลงมาก็หาย อีกวันที่จงเตี้ยคราวนี้มากหน่อยปวดนาน แต่พอกินยานอน เช้าขึ้นมาก็หายค่ะ

- เส้นทางเป็นการถนนไต่เขาขึ้นลงหุบ(ที่สูงมากกกกก)ตลอดการเดินทางค่ะ ถนนก็แคบนิดเดียวแค่พอสวนกัน ถ้าคนขับรถเร็วหรือใจร้อนก้น่ากลัวสุดๆ แต่โชคดีที่ได้คนขับรถใจเย็นค่ะ พื้นถนนบางช่วงจะเป็นพื้นหินก้อนโตๆ รถก็จะเขย่าไปตลอดทางค่ะ แต่พี่ที่ไปด้วยบอกว่าระยะเวลาการนั่งรถยังน้อยกว่าจิ่วฯค่ะ

- ห้องน้ำเท่าที่เจอ ก็น่าจะมาตรฐานจีนแหละค่ะ เรื่องเข้าข้างทางมีแน่นอนค่ะ เพราะพวกเราสมัครใจเข้าป่าข้างทางได้ชมนกชมไม้ ดมกลิ่นป่า ดีกว่าไปเข้าส้วมลางที่มีทั้งภาพและกลิ่น

-ความสวยแต่ละช่วงไม่เหมือนกันค่ะ ช่วงนี้ป่าเริ่มเปลี่ยนสี ความหนาวไม่มากเท่าเมษา(แต่หนาวมากสำหรับเรา) แต่ถ้าไปเมษาจะได้เห็นกุหลาบพันปีเต็มหุบเขาเลยค่ะ แต่ก็เสี่ยงกับหิมะถล่มบางที่อาจไปเที่ยวไม่ได้ อย่างที่ไปนี่ยังพลาดไปหนึ่งรายการเพราะดินถล่มค่ะ


 

โดย: Cookie Nim 31 ตุลาคม 2550 20:22:11 น.  

 

คุณแค่ฟ้ามีแต่ดาว ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยม

คุณนางฟ้าฯ ตรงซุ้มประตูเป็นไม้ค่ะ ทาสีสันสดใส มีโอกาสไปเที่ยนะคะ สวยมากๆค่ะ

วินนี่ ยังมีอีกจ้ะ สวยกว่านี้อีกนะ รอชมล่ะ

 

โดย: Cookie Nim 31 ตุลาคม 2550 20:26:23 น.  

 

ขอบคุณมากๆ สำหรับคำตอบค่า .. สร้างความมั่นใจในการพาพ่อไปด้วยให้มากขึ้นจริงๆ (แต่รู้สึกตัวเองจะไม่อยากไปแล้วถ้าต้อง ข้างทาง .. 555)

รอดูต่อนะคะ

 

โดย: ขอโทษนะคร้าบฯ IP: 125.24.107.0 31 ตุลาคม 2550 21:26:28 น.  

 

โอ้ว....อยากตามไปน้ำตกด้วยอ่ะ เปิ้ลเพิ่งรู้ว่ามันอยู่ที่นี่ค่ะ เคยเห็นแต่ใน fw mail ค่ะ

 

โดย: เปิ้ล IP: 58.64.61.253 31 ตุลาคม 2550 21:47:46 น.  

 

น่าไปเที่ยวมาก ๆ เลยครับ......

 

โดย: kunchit 1 พฤศจิกายน 2550 23:00:51 น.  

 

คุณขอโทษฯ ยินดีค่ะ เข้าใจค่ะเพราะตอนจะไปก็พยายามหาข้อมูลมากที่สุด กลัวตัวเองจะไหวหรือป่าว หลายคนพูดไว้ก็น่ากลัวเหมือนกัน

เปิ้ล แบบนี้รู้สึกจะมีหลายที่ ที่จิ่วฯก็มีใหญ่กว่านี้ด้วยมั้ง

คุณkunchit มีโอกาสก็สักครั้งในชีวิตนะคะ ไปเห็นด้วยตาตัวเอง

 

โดย: Cookie Nim 3 พฤศจิกายน 2550 8:09:58 น.  

 

นานานนา

 

โดย: 155 IP: 118.172.106.71 24 กุมภาพันธ์ 2551 12:01:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Cookie Nim
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 71 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์ภาพถ่ายทุกภาพในบล็อคนี้

มีหลายๆคนสงสัยว่าทำไมต้อง Cookie Nim (คุกกี้นิ่ม)
ที่มาของชื่อนี้มาจากชอบกิน soft cookie มาก หัดทำขนมใหม่ๆก็เริ่มจากเจ้านี่แหละ พอมาเล่นเนทนึกชื่อไม่ออก ก็เลยใช้ คุกกี้นิ่ม ตั้งแต่นั้น

หลุดพ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำให้มีเวลาว่างทำอะไรๆที่ชอบมากขึ้น ทำขนม ทำสบู่ และทำงานฝีมือ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ชอบนั้นจะไม่ก่อให้เกิดรายได้เท่ากับเงินเดือนที่เคยได้ แต่ก็มีความสุขที่ได้ทำ
ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณคนเดียวของเรา ซึ่งก็คือ"คุณพ่อบ้าน" นั่นเอง

สำหรับเพื่อนๆที่อยากได้ภาพ หรือบทความในบล็อกนี้ไปใช้ในทางบริสุทธิ์ใจ เช่น อยากนำไปตกแต่งบล็อคของคุณ หรือสูตรขนมไปทำแล้วเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้หาผลประโยชน์ส่วนตน จขบ.ยินดีค่ะ รบกวนแค่อ้างอิงแหล่งที่มาสักหน่อยเท่านั้น
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
30 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Cookie Nim's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.