Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2556
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
26 กุมภาพันธ์ 2556
 
All Blogs
 

Norway...in a nutshell

แอบรู้สึกว่าบล็อคนี้ควรจะย้ายไปอยู่กลุ่มย่อย "ท่องเที่ยวต่างประเทศ"

เพราะหลังๆ เรื่อง 'ชีวิต' มันไม่ค่อยจะมีอะไรให้อัพเดทแล้วอ่ะค่ะ มันเริ่มเข้าที่แระ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ...หาที่เที่ยว แหะๆ

เนื่องจากเรามีเวลาว่างเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ค่ะ โปรแกรมเที่ยวก็เลยต้องจำกัดจำเขี่ยอยู่ในที่ที่เป็น day trip หรือไม่ก็ weekend trip แค่นั้นเอง

และนี่คือโปรแกรม day trip ที่แอบตั้งใจมาตั้งแต่ตอนอยู่เมกาค่ะ

"Norway in a Nutshell"



ทัวร์นี้จะประกอบด้วยการนั่งรถไฟ ไปต่อรถบัส ต่อเรือชม fjord แล้วก็จบทีรถไฟอีกทีค่ะ จะมีให้เลือกหลายทริปจาก Oslo --> Bergen คือจะเริ่มจาก Oslo ไปจบที Bergen ก็ได้ หรือจะเลือกเป็น round trip ก็ได้จากทั้ง Olso และ Bergen (งงมะ)

ซึ่งแน่นอน เราต้องเลือก round trip จาก Bergen ค่ะ ราคาแต่ละทริปก็จะแตกต่างกันไป อันที่ซื้อนี่ 1090 NOK (แพงเน้ออ)

หลังจากซื้อตั๋วออนไลน์ไปแบบเฉียดฉิวมากกกกกก อิชั้นก็เดินต๊อกแต๊กไปเอาตั๋วก่อนวันเดินทางจริง 1 วันค่ะ (สถานทีรถไฟอยู่ใกล้บ้านได้อีก)

ตอนไปรับตั๋ว คุณพนักงานก็บอกให้รีบมาแต่เช้าในวันพรุ่งนี้ เพราะรถไฟที่มันเป็นแบบไม่ระบุที่นั่ง และวันเสาร์เช้า คนจะแห่กันไปเล่นสกีพอดี เพราะงั้นควรจะมาจับจองที่นั่งก่อนน

และนี่แหละค่ะ เป็นสาเหตุให้เราต้องพยายามแหกขี้ตาตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพื่อการนี้ (เวลานี้ ไม่ใช่เที่ยวทำไม่ได้หรอกนะ 55555)

ตามตาราง รถไฟจะออก 8:40 เราไปถึงสถานทีรถไฟ 7:45

ปรากฏว่า...ไม่มีมนุษย์ฟร่ะค่ะ

เจอแต่รถไฟเปล่าๆ จอดนิ่งๆ อยู่ที่ชานชลา ดูจากเวลา ดูจากปลายทางแล้วคิดว่าน่าจะใช่แล้วแหละ แต่ก็ไม่รู้ว่าไอ้ทัวร์นี้มันต้องระบุรึป่าวว่าต้องขึ้นโบกี้ไหน อ่านในเวป เค้าบอกว่าจะมีสต๊าฟของทัวร์มาคอยยืนบอก ก็ไม่เห็นจะมีเลย

มองๆไป เห็นพนักงานรถไฟเดินขึ้นเดินลงอยู่ด้านใน เราก็เลยสะกดรอยตามเค้าไปค่ะ

จนกระทั่งเค้ารู้ตัว และหันมามอง

สุดท้ายก็เลยได้คำตอบมาว่า นั่งตรงไหนก็ได้ เอริ๊กกกกกกกกกกกกกกก

รถไฟสาย Bergen - Oslo เค้าว่ากันว่า เป็นเส้นทางรถไฟที่สวยมากกกค่ะ

แต่ข้อเสียอย่างนึงเลยก็คือ กระจก!!!

ขุ่นได้อีก

พอใกล้เวลารถออก คนก็เริ่มทยอยกันขึ้นมาค่ะ เราก็พยายามมองหาคนที่ถือตั๋วแบบเดียวกัน เพราะหลังจากนี้จะต้องต่อรถ ต่อเรืออีกหลายต่อ เราควรจะมองหาพันธมิตรเอาไว้ แหะๆ (เป้าหมายคือการสะกดรอยตามอีกครั้ง )


รถไฟจาก Bergen ก่ะ (ยืนยันว่ามาคนแรกจริงๆ 555555)

นั่งรถไฟประมาณ 1 ชม. ก็มาถึงเมือง Voss ค่ะ ซึ่งไม่อยากจะบอกว่า นั่งรถไฟมาเราหลับตลอดทางเลยง่ะ แอบคิดในใจว่าซวยล่ะกรู ถ้ามัวแต่มานั่งหลับแบบนี้เห็นท่าไม่ดีแน่ Smiley

ถึง Voss ไม่ต้องกลัวจะพลาดค่ะ คนลงกันเยอะมากกกกกก เพราะเมืองนี้เป็นสกีรีสอร์ต คนมาเล่นสกีกันคึกๆ เลยทีเดียว (เดินกันทีเกือบโดนเอาสกีฟาดหัว T^T)

จากนั้นก็ต่อรถบัสอีก 1 ชม.ค่ะ โชคดีได้นั่งข้างหน้าต่างอีกแระ Smiley
สองข้างทางก็จะมีหิมะๆๆๆ และน้ำแข็งๆๆๆๆ เนื่องจากอยู่แคลิฟอร์เนียมาตลอด ไม่เคยได้พบพาหิมะ มาเห็นแบบนี้ก็แอบตื่นตาตื่นใจอยู่นะเนี่ยยยยยย

และก็มาถึงท่าเรือเฟอรี่ค่ะ จะต้องนั่งเรือชม fjord ไปอีก 2 ชม.
ซึ่งอารมณ์ตอนนั้น อิชั้นก็เหมือนเป็นปลาแช่แข็งไปแล้วฟร่ะค่ะ


อันนี้คือน้ำแข็งเป็นที่แตกแผ่นๆ บนผิวน้ำ Smiley

แอบรู้สึกเข้าใจคุณแจ็คแห่งไททานิคขึ้นก็ตอนนี้แหละ ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้ไปสัมผัสน้ำเลยอ่ะนะ แหะๆ

ทริปเฟอรี่ครั้งนี้หนาวมากกกกกค่ะ หนาวจริงๆ คือมันก็มีห้องให้นั่งข้างในอ่ะนะ แต่คนเค้าก็จับจองที่นั่งดีๆ ไปหมดแล้ว แล้วเราแอบคิดว่าตัวเองก็ทนความหนาวได้ในระดับนึงอ่ะค่ะ ก็เลยออกไปยืนท้าลมด้านนอก

ถ่ายรูปๆไป รู้สึกเหมือนมือจะหลุดออกจากตัวง่ะ มีจุดๆนึง อยู่ดีๆก็รู้สึกเค็มๆ ปรากฏว่าน้ำมูกไหลออกมาโดยที่ไม่รู้สึกตัว เป็นที่น่าอนาถใจยิ่งนัก  Smiley

สุดท้ายก็เลยวิ่งไปวิ่งมาค่ะ เข้าๆออกๆ เหมือนหนูติดจั่น อยากดูวิว อยากถ่ายรูปก็อยาก แต่พอออกไปด้านนอกไม่เท่าไหร่ก็แพ้ภัยตัวเอง วิ่งกลับเข้ามาด้านในอีก

เป็นอย่างนี้อยู่ 2 ชม. กรำเจรงงงงงงงงงงงงง 555555555


วิวนิดนุง ดูไม่ค่อยหนาวเนอะ แหะๆ

ระหว่างนั้นเราเจอนักท่องเที่ยวคนนึงค่ะ รุ่นราวคราวเดียวกัน (น่าจะนะ) แถมมาคนเดียวเหมือนกันอีก ที่สำคัญ เค้าหน้าเหมือนรุ่นพี่ที่รู้จักมากกกกกกกกกกก มากจนคิดว่าน่าจะใช่ (แต่ถ้าใช่พี่เค้าก็ต้องบอกเราใน fb แล้วดิ) เราก็เลยพยายามเอาหน้าไปให้เค้าเห็นค่ะ คิดว่าถ้าใช่คนรู้จัก เค้าคงทักเอง แต่สรุปว่าเค้าไม่ทัก แสดงว่าไม่ใช่ แป่ว 5555555555555555

สุดท้ายก็ไม่ได้คุยกะเค้าบนเรือค่ะ ไม่รู้เป็นงัย เรารู้สึกว่าการเริ่มต้นบทสนทนามันยากอ่ะ ไม่รู้เค้าจะอยากคุยกะเรารึป่าว ไม่รู้จะเริ่มยังงัยดี พอโอกาสผ่านไปแล้วมันก็ผ่านเลยไป...

เพ้อละกรู คือเค้าไม่ใช่ชายหนุ่มรูปหล่อนะคะ เค้าเป็นผู้หญิงเอเชียหน้าตาธรรมดาๆ นี่แหละ 55555555

ก่อนจะมานอร์เวย์ การเที่ยวคนเดียวเป็นความใฝ่ฝันของเราเลยอ่ะค่ะ ซึ่งแอบคิดว่ามาเริ่มที่นอร์เวย์ก็ค่อนข้างโอเค เพราะประเทศเค้าก็ปลอดภัยดี ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่ แต่พอมาทำจริงๆ แล้วก็รู้ซึ้งค่ะ

คือข้อดีของมันคือ เราได้ไปในที่ที่อยากไป ไม่ต้องรอใคร ไม่หิวก็ไม่ต้องกิน (งกก็บอกมาเถอะ แหะๆ) แต่มาคราวนี้ เรารับรู้ข้อเสียของมันได้ชัดๆเลยอ่ะค่ะ

เราว่ามันเงียบไปอ่ะ ไม่ได้คุยกะใครเลย เห็นอะไรสวยๆ ก็ไม่รู้จะชวนให้ใครดู หนาวจะแข็งตายก็ไม่รู้จะบ่นกะใคร ฯลฯ

ที่สำคัญเลย การหากิจกรรมให้ตัวเองนี่โคตรจะลำบาก 555555555555

กลับมาต่อเรื่องทริป แหะๆ

ผ่านไป 2 ชม. เรือก็มาเทียบท่าที่เมือง Flam ค่ะ (เหมือนเค้าออกเสียงกึ่งๆระหว่างแฟลมกะฟลอม?) เมืองนี้ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์รถไฟ (ซึ่งไม่ค่อยจะมีอะไรเท่าไหร่) และร้านขายของที่ระลึกใหญ่มว๊ากกกกกกกก

อยากได้ magnet สวยๆซักอันนึง แต่หาไม่ได้เลย

ที่สำคัญดันไปเจออิตัวเน้



ทำให้สงสัยในตัวตนของตัวเองไปแว๊บนึง นี่ตรูอยู่ที่ไหน แล้วจริงๆแล้วสิ่งที่เห็นมันคืออะไร Smiley

จากฟลอม (แฟลม?) เค้าก็จะพาเรานั่งรถไฟ Flåmbana ค่ะ ซึ่งเค้าบอกว่ามันคือ a master of engineering เชียวน้าาาาาาาา ส่วนที่ชันที่สุดคือประมาณ 55 องศา (อันนี้คือสิ่งเดียวที่จำได้ แหะๆ)

แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่ค่อยรู้สึกถึงความชันเท่าไหร่นะก๊ะ


หัวรถไฟ Flåmbana...กะหิมะๆๆๆ

รถไฟสายนี้เค้าจะจอดให้ลงไปชมน้ำตกแว่บนึงค่ะ

ครือ...น้ำมันไม่ตก

มันแข็งไปหมด Smiley


แอบนึกเสียดายนิดนึง ถ้ามาหน้าร้อนคงจะเห็นอะไรมากกว่านี้ แต่มาช่วงนี้คือทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นหิมะ+น้ำแข็งไปหมดเลยอ่ะค่ะ ซึ่งมันก็สวยงามตระการตาไปอีกแบบนึงอ่ะนะ แต่พอมันเยอะ....

มันก็คือหิมะ (แง่ว)

(แบบนี้)


จาก Flåmbana เค้าก็จะมาปล่อยเราลงที่เมือง Myrdal ค่ะ ซึ่งเราจะใช้เวลารอรถไฟขบวนถัดไปเพื่อกลับ Bergen ถึง 1.5hr เรยทีเดียวววว

ก่อนมาก็แอบอ่านมาก่อนแล้ว ว่าเมืองนี้มีร้านกิ๊ฟชอป มีคาเฟ่ มีอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด

แต่พอมาถึง.......

แป่วววววววววววว ทุกอย่างปิดหมดเลยค่ะ ร้านขายของ ร้านขายอาหาร ปิดเนื่องจากมันไม่ใช่ซีซั่น (จะเปิดอีกที 1 May แน่ะ) อากาศข้างนอกก็อย่างหนาว สรุปว่าคณะทัวร์ทั้งหมดก็เลยมานั่งจับเจ่ากันอยู่ในสถานี้เล็กๆนี่แหละค่ะ บางคนเก้าอี้ไม่พอ ก็ต้องนั่งพื้นมึนงงกันไป

ตอนนี้แหละค่ะ ที่เรากลับมานั่งติดกะคุณน้องคนนั้นอีกแล้ว 555555
(คุณน้องเอเชียที่มาคนเดียวเหมือนกัน)

สุดท้ายก็เลยได้คุยกันค่ะ เค้าเป็นคนฮ่องกง เป็น professional musician ด้วยยย (ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไร เจอใคร ก็มีอาชีพน่าสนใจกว่าเราไปหมด เฮ้ออออออ)
เค้าเดินทางมาเที่ยวสแกนดิเนเวียคนเดียว โดยจะใช้เวลาทั้งหมด 41 วันค่ะ Smiley

สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ไอ้ตัวเราเพิ่งมาได้ 2 อาทิตย์ก็ชักจะง่อนแง่นแระ 55555555555

สรุปคือเราใช้เวลาชม.กว่า คุยกะชาวฮ่องกงคนนี้ตลอดเลยค่ะ พยายามจะลอกทริปเค้าอีกแน่ะ เค้าก็เอารูปที่เค้าไปเที่ยวมาให้ดู ฯลฯ

พอรถไฟมา เราก็บอกลากัน เพิ่งนึกได้ว่าไม่ได้ถามชื่อเค้าด้วยแฮะ...
เหมือนเป็นเพื่อนร่วมทางคนนึง ที่โคจรมาพบกันในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วก็คงไม่ได้เจอกันอีก...
(ช่วงนี้รู้สึกแบบนี้บ่อยมากกก 555555)

จาก Myrdal นั่งรถไฟอีกประมาณ 2 ชม. ก็กลับมาถึง Bergen ค่ะ
ซึ่งอีกแล้ว อิชั้นนั่งหลับสัปหงกมาตลอดทาง Smiley

ทัวร์ Norway in a Nutshell จาก Bergen ใช้เวลารวมแล้วประมาณ 11 ชม.กว่าๆค่ะ
จริงๆ แล้วมันก็ไม่เชิงเป็นทัวร์ซะทีเดียว เราว่ามันเหมือนกับเป็นที่ที่ให้เราซื้อตั๋วหลายๆใบรวมกันทีเดียวอ่ะค่ะ ซึ่งมันสะดวกกว่า แต่ไม่จำเป็นว่าจะถูกกว่า
(น้องคนฮ่องคนคนนั้นเค้าไม่ได้ซื้อทัวร์นี้ แต่ซื้อเป็นทริปๆแยกกัน เค้าบอกว่าถูกกว่านิดนุง)

สรุปแล้วเราค่อนข้างจะประทับใจนะคะ แต่อย่างที่บอก แอบเสียดายนิดนึง ถ้ามาหน้าร้อนน่าจะเห็นอะไรมากกว่านี้ Smiley

ปล. ทริปเที่ยวคนเดียววีคเอนหน้า --> Stavanger เดี๋ยวก็รู้ว่าหมูหรือจ่า 5555555




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2556
1 comments
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2556 5:40:22 น.
Counter : 5251 Pageviews.

 

อยากกลับไปอีกครั้งจังเลยค่ะ

 

โดย: Noony IP: 180.183.140.169 26 กุมภาพันธ์ 2556 11:36:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Conglomerate
Location :
Stanford, CA United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Conglomerate's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.