จตุคามฯลามใจกับเรื่องการเข้าวัดของวัยรุ่นไทย จตุคามฯลามใจกับเรื่องการเข้าวัดของวัยรุ่นไทย วันนี้ผมนัดกับพรรคพวกไปเดินดูความเปลี่ยนแปลงของสถานที่ต่างๆในเขตพระนคร เรานัดหมายเจอกันที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ระหว่างรอให้มากันครบ เม็ดฝนตกลงมาอย่างไม่ขาดสายและไม่มีท่าทีว่าหยุดลงเสียง่ายๆ แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านมาชั่วขณะหนึ่ง ฝนที่ตกมาก่อนหน้านี้กลับหยุด ท้องฟ้าสว่างจ้าขึ้นอีกครั้ง หลังจากถูกหมู่เมฆบดบังอยู่นาน เมื่อมากันเกือบครบทุกคน เราก็ออกเดินทาง โดยใช้เส้นทางไปตามถนนท่าพระจันทร์ ผ่านร้านขายพระเครื่องที่มีอยู่เรียงรายเหลือคณานับตามทางเดิน แต่หลังจากกระแส “พระเทวราชโพธิสัตว์ จตุคามรามเทพ” ดังจนฉุดไม่อยู่ ทำให้เซียนพระทั้งหลายหันมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกันตามแหล่งต่างๆ ราคามีไล่ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักล้าน กดพิมพ์ออกมาไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น ก็เสาะหามาไว้ให้ครบทุกรุ่นเพื่อที่จะไว้คุยกับคนอื่นได้ว่าตนเองก็เล่นจตุคามฯเหมือนกัน หรือไม่ก็โหนไปตามกระแสนิยม ทั้งที่จริงๆแล้วบางคนยังไม่รู้ว่าตัวเองศรัทธาหรือเห็นคนอื่นมีเลยอยากมีตามเขา โดยปรากฏการณ์ครั้งนี้ ผมคิดว่าการนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะศาสนาใดก็ตาม ควรเคารพและศรัทธาต่อสิ่งนั้นด้วยจิตใจไม่ใช่ด้วยวัตถุ บางคนงมงายถึงขนาดกราบไหว้บูชาทั้งเช้าทั้งเย็นขอให้มีโชคมีลาภ ร่ำรวย แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง แต่ผมว่าต่อให้มีครบทุกรุ่น ครบทุกองค์ หรือกราบไหว้บูชาตลอดเวลา ถ้ามัวแต่นั่งรอคอยโชคลาภ หรือมัวแต่ขี้เกียจ ไม่ยอมลงมือทำมาหาเลี้ยงชีพ มีหรือจะได้มาดั่งใจหวัง กี่แสนกี่ล้านองค์จตุคามฯก็ช่วยไม่ได้หรอก ผมไม่ได้บอกว่าไม่ให้นับถือหรือไม่ให้เคารพศรัทธา แต่อย่าให้มันงมงายในวัตถุมากเกินไป จนลืมความเป็นจริงของชีวิต จตุคามฯนอกจากจะลามทุ่งขยายวงกว้างไปทั่วเมืองไทยแล้ว ยังลามเข้าไปสู่จิตใจของมนุษย์จนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนคือความจริง สิ่งไหนคือความเชื่อ หลังจากเดินทอดน่องมาเรื่อยๆจนมาถึง “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม” หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า “วัดโพธิ์” ก้าวแรกที่ผ่านเข้าไปเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมมากกว่าคนไทยเสียอีก อาจจะเป็นเพราะความสวยงามของวิหาร โบสถ์ ทำให้ดึงดูดความสนใจของชาวต่างชาติได้มาก เนื่องจากประเทศเขาไม่มีวัดที่สวยงามให้ชมในแบบที่เรามี ในเมื่อชาวต่างชาติเห็นว่าวัดในเมืองไทยสวยงาม แต่ทำไมเราคนไทยถึงได้ห่างเหินจากการเข้าวัด วัดเป็นสถานที่ทางศาสนาของศาสนาพุทธ มีโบสถ์ วิหาร ไว้ประกอบพิธีกรรมตามวาระต่างๆ โดยพุทธศาสนิกชนสามารถเข้ามาทำบุญ ตักบาตร กราบไหว้ สักการบูชาพระพุทธรูป คนรุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา เวลามีงานบุญงานวัดมักจะไปร่วมพิธีกันบ่อยครั้งตามวัดต่างๆที่มีการจัดงาน เช่น การทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน สวดมนต์ ฟังพระเทศน์ เวียนเทียน ฝังลูกนิมิต นั่งสมาธิ ฯลฯ พิธีต่างๆเหล่านี้คนรุ่นก่อนจะทำกันเป็นกิจวัตร แทบจะเรียกได้เป็นของคู่กัน แยกขาดจากกันไม่ได้ โดยคนรุ่นก่อนถือว่าการเข้าวัดเป็นการพักผ่อนทางกายและใจ เพื่อทำจิตใจให้สะอาด บริสุทธิ์ และต้องการความสงบควบคุมจิตใจไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน ถือได้ว่าวัดเป็นสถานที่พึ่งทางกายและใจได้ดีทีเดียวสำหรับคนรุ่นก่อน แต่ปัจจุบันหาเป็นเช่นนั้นไม่ ! เรื่องการเข้าวัดเป็นเรื่องที่ไกลตัวมากหรือแทบจะไม่คิดกันเลยสำหรับคนรุ่นผม ซึ่งแตกต่างกันมากจากคนรุ่นก่อน ส่วนใหญ่แล้วจะชวนไปเดินห้าง เที่ยวผับ ฯลฯ จนลืมไปแล้วว่าการเข้าวัดเป็นอย่างไร เข้าไปทำอะไร เคยมีบ้างไหมที่เพื่อนของคุณชวนคุณเข้าวัด ? สำหรับผมตอบได้เลยว่าน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย ที่จะมีคนมาชวนให้เข้าวัด และคนอื่นๆคงเป็นเหมือนกันกับผม ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมามันไม่เคยชวนไปวัดเลยนอกจากว่าเป็นวันเกิด วันนั้นไม่รู้นึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรของมัน โทรศัพท์มาชวนให้ไปวัดกับมัน เมื่อไปถึงผมเห็นรถมากมายหลายคันจอดเต็มลานวัด จนไม่มีทางให้เดิน ผมถามเพื่อนว่าวันนี้ที่วัดมีอะไรเห็นรถจอดเต็มไปหมด มันตอบกลับว่าอะไรรู้ไหมครับ “วันนี้ท่านเจ้าอาวาสทำพิธีกดพิมพ์จตุคามฯ” ผมได้ยินคำตอบจากปากมันเต็มสองรูหูถึงกับอึ้งในคำตอบของเพื่อนคนนี้ ผมบอกกลับไปว่า “ถ้าเขาไม่ทำจตุคาม มึงก็คงไม่เข้าวัดใช่มั้ย” มันพยักหน้าแทนคำตอบ เห็นหรือยังครับว่ากระแส “จตุคามฯ” แรงแค่ไหน แทนที่ว่าจะเข้าวัดไปทำบุญเพื่อให้จิตใจสงบ แต่กลับเป็นว่าเข้าวัดเพื่อหาเครื่องรางของขลังไว้ให้โชคให้ลาภ เรื่องการเข้าวัดของวัยรุ่นไทยในปัจจุบันดูช่างห่างเหินเหลือเกิน และน่าเป็นห่วงมากถ้ามันยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ผมคิดว่าถ้าใครก็ตามที่เข้าวัดไปเพื่อหวังโชคลาภ ไม่ได้เข้าไปเพื่อสงบกายสงบใจ สู้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นมันคงน่าจะดีกว่า...   Create Date : 25 กรกฎาคม 2550 8 comments Last Update : 25 กรกฎาคม 2550 22:28:29 น. Counter : 1324 Pageviews. Share Tweet

รวดเร็วจังเพื่อนเรา เหอๆ ว่าไปก็ขยันนะเรา อิอิอิ   โดย: อัศวินม้าไม้ (V18 ปุยฝ้าย) IP: 203.155.120.57 26 กรกฎาคม 2550 0:16:28 น.

เอาน่า....ถ้าเขาจะสะสมจตุคามก็ยังดีนะ ดีกว่าเอาเวลาไปทำเรื่องที่มันแย่กว่านี้ เราคนหนึ่งก็เป็นสาวยุคดิจิตอลสะสมจตุคามเหมือนกัน แต่ที่สะสมเป็นเพราะว่าชอบพุทธศิลป์ ความสวยงามของเหรียญจตุคาม เริ่มสะสมเมื่อต้นปี พอสะสมก็ทำให้เริ่มมองงานศิลป ของไทย พวกพระเครื่องเก่าๆ พระพุทธรูปบูชา และงานศิลปโบราณ ที่สวยงามมีมากมาย การสะสมจตุคามไม่ใช่เรื่องเสียหายเพราะอย่างน้อยที่สุดเราก็มีเรื่องสนทนากับคนที่เขาสนใจจตุคามเป็นการคุยกันได้อย่างไม่ขัดแย้ง ส่วนเรื่องปาฏิหาริย์ของจตุคามไม่ทราบ แต่ตั้งแต่เอามานี้ กิจการดีขึ้นจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนขี้เกียจก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้หรอก ตอนเด็กๆมีคนสอนเราว่าเราต้องช่วยตัวเองก่อนพระเจ้าจึงจะช่วยเรา การเข้าวัดผู้ใหญ่ต้องปลูกฝังเด็ก ลองสังเกตุดูสิ...มีกี่ครอบครัวที่พ่อแม่เคี่ยวเข็ญลูกให้สวดมนต์ไหว้พระ??? อย่าโทษที่ตัววัยรุ่น บางทีต้องมองย้อนไปถึงรุ่นพ่อแม่ด้วยแล้วจะมองเห็นว่ามันเป็นเพราะอะไร   โดย: justkitty (justkitty ) 26 กรกฎาคม 2550 0:19:43 น.

You are the first one in this game. Congratulation..... Tomorrow, I gonna comment. Cause "โคตรง่วงนอนนนนนนน" Good night....Good boy   โดย: คุณครูตัวกลม IP: 203.131.213.194 26 กรกฎาคม 2550 1:33:44 น.

คนจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่การกระทำ ศรัทธาอยู่ที่ใจ ส่วนวัตถุมงคลคือเครื่องเตือนสติ...ให้ทำความดี ส่วนจตุคาม รามเทพนั้น คือ ศาสนกระแส ที่เกิดขึ้นและดับไปตามวัฏสงสารของมัน ...แต่อย่างน้อยมนุษย์เราก็ยังได้รู้จักของคำว่าศรัทธา...ไม่ใช่งมงาย   โดย: ภูผาเดียวดาย (peanka ) 27 กรกฎาคม 2550 16:42:49 น.

การที่เราจะเชื่อมั่นในอะไรสักอย่างหนึ่ง อยากให้เกิดจากการได้สัมผัส เชื่อมั่น และศรัธาในสิ่งๆนั้น มิใช่เกิดจากกระแสหรือค่านิยม...เน้อ   โดย: junaka 27 กรกฎาคม 2550 22:31:33 น.

เป็นเพราะคนเข้าวัดกันน้อย จึงทำให้เกิดธรรมะดิลิเวอรี่   โดย: โรมรัน (zikou ) 31 กรกฎาคม 2550 1:34:48 น.

ขยันมากๆ สหาย เก่งมาก ตั้งใจทำ เขียนได้ดีด้วยแหละ ขยันๆ แบบนี้ตลอดไปนะเพื่อน   โดย: ก.กานต์ (photograph ) 1 สิงหาคม 2550 19:16:45 น.

สามารถเชื่อมโยง "ปรากฎการณ์ปัจจุบัน" กับ "สิ่งที่ตัวเองผมเจอ" ได้อย่างลงตัวค่ะ ตอนแรกพูดจตุคาม กลางเรื่องไหนไปเที่ยววัดโพธิ์ สุดท้ายกลับมาที่จตุคาม นายไม่ธรรมดา หรือความเงียบทำให้นายเกิดปัญญา เรากำลังใช้วิธีการเดียวกัน แต่เพื่อนดันสงสัยว่า.... "เราบ้า" 55555555   โดย: คุณครูตัวกลม (คุณครูตัวกลม ) 7 สิงหาคม 2550 14:07:12 น.