|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
"ความขัดแย้ง"... ขุมทรัพย์ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม

**ความขัดแย้ง..ขุมทรัพย์ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม**
ในกระจก ฉันเห็น.... ฉัน.. สูงเท่าฉัน หน้าเหมือนฉัน.. แต่งตัวเหมือนฉัน ยิ้มพร้อมฉัน.. ร้องไห้พร้อมฉัน.... ...ดูเหมือนว่า เราเหมือนกันมาก แต่มือข้างขวาของฉัน... กลับไม่ใช่มือข้างขวาของเขา หัวใจข้างซ้ายของฉัน.... กลับอยู่ข้างขวาของเขา ฉัน กับ เขา..... เรายังไม่เหมือนกัน ทั้งๆ ที่เขาคือเงาของฉัน แล้วจะหวังอะไรกับคนอื่น ให้เหมือนเรา
คนเราเกิดมาย่อมต้องอยู่ในสังคมเริ่มตั้งแต่สังคมขนาดเล็กที่สุดคือครอบครัว และเมื่อเติบโตเราก็เริ่มได้สัมผัสกับสังคมที่ใหญ่ขึ้นในโรงเรียน ในวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเรามีเพื่อนนักเรียนนักศึกษา ในที่ทำงานก็มีเพื่อนร่วมงาน สังคมภายนอกที่ใหญ่ขึ้นกว้างขึ้นตามลำดับ การที่อยู่ในหมู่คนจากหลากหลายที่มา อย่างที่เรียกว่าร้อยพ่อพันแม่ กินไม่เหมือนกัน คิดไม่เหมือนกัน ชอบไม่เหมือนกัน ผลประโยชน์ต่างกัน ความขัดแย้งย่อมเกิดขึ้นได้ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ
จิตใจเอย.. จะสงบได้อย่างไร..! เรื่องใหญ่ของเราเป็นเรื่องเล็กของเขา เรื่องเล็กของเขา เป็นเรื่องใหญ่ของเรา สิ่งที่เขาคิดว่าถูก เรากลับคิดว่าผิด สิ่งที่เราคิดว่าผิด เขากลับคิดว่าถูก..! ไม่มีอะไรที่เหมือนกัน ความแตกต่างจึงเป็นเรื่องปกติของสังคมมนุษย์
การรังเกียจความขัดแย้งก็ไม่ต่างจากการรังเกียจคราบไคลของเราเอง สิ่งที่ควรทำคือดูว่าจะทำอย่างไรเราถึงจะสามารถใช้ความขัดแย้งนั้นอย่างสร้างสรร ไม่โกรธ ไม่เคือง ต้องใจกว้างยอมรับความจริง เคารพความคิดของทุกคน ภูมิหลังของคนเรา ต่างกัน การศึกษาต่างกัน สมองคนละก้อน แล้วจะให้ใคร ๆ มาคิดเห็นเหมือน ๆ กันได้อย่างไร เตือนตน เตือนใจ เสมอว่าความขัดแย้งเป็นเรื่องของการพัฒนาทางความคิด เป็นความก้าวหน้าขององค์กร.. ของชีวิตและความเป็นอยู่ของมนุษย์หากคิดได้เช่นนี้แล้วความอึดอัด ขัดเคืองจะจางลง ต่างคนต่างก็จะทำงานด้วยความสุข ทุกคนมีอิสรภาพในการพูดเสนอสิ่งที่ตัวเองเห็นและคิด การมองต่างมุมถือเป็นการร่วมมือกันในการทำงานหากทุกคนล้วนมีจุดหมายปลายทางเดียวกัน โดยต้องสละแล้วซึ่งผลประโยชน์ และทิฐิของตนเอง
ใจที่เปิดกว้าง ย่อมมีโอกาสเติมเอาประสบการณ์ใหม่ ๆ ใจที่คับแคบ ย่อมเป็นประดุจน้ำที่เต็มถ้วย ฉลาดหรือโง่ ตนเองเป็นคนลิขิต จริง ๆ "ความขัดแย้ง" ไม่ใช่ปัญหา ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย หากแต่เป็นธรรมชาติของมนุษย์เรา ถ้าเราไม่ถือสา ไม่ขุ่นเคือง แต่นำความคิดเห็นทั้งหลายมากลั่นกรองให้เป็นเอกภาพ เราก็จะได้ชื่อว่าเป็นคนฉลาด
คนอาภัพนั้นมิใช่คนจนหรือกระยาจก แต่ก็คือ คนที่ทำใจไม่ได้เมื่อมีใครไม่ เห็นด้วยกับความคิดเห็นของตัวเอง อย่าหลงคิดว่าความคิดเห็นของตัวเอง "ถูกต้องที่สุดโดยลืมไปว่าระหว่างสีดำและสีขาวยังมีสีเทาอยู่..! " มัวแต่หลงว่าเมื่อฉันชี้นิ้ว หมายถึงทุกคนต้องเดินตาม แล้วเราจะใหญ่ปานนั้นได้ตลอดไปหรือไม่ ? อย่างจริงจังกับ ความคิดของตัวเองจนเกินไปมิฉะนั้นวันหนึ่งคุณอาจจะกลายเป็น "สุนัขขี้เรื้อน" ที่เป็นแผลอยู่เต็มตัว
..! แม้เพียงแค่ลมพัดผ่านก็คันไปทั้งตัวแล้ว และก็คงไม่มีใครอยากอยู่ใกล้สุนัขขี้เรื้อน
เพื่อความสุขสงบและสุขภาพจิตของตนเอง เพื่อการทำงานอย่างมีความสุข ทั้งของตัวเองและเพื่อนร่วมงาน เพื่อปัญญาและปรีชาญาณที่จะติดตัวไปตลอดชีวิต ตลอดเวลา ขอบอกว่า "อย่ารังเกียจความขัดแย้ง" เลย... เพราะนี่คือ ขุมทรัพย์ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม เพียงแค่เปิดใจยอมรับ แล้วพากเพียร พยายามฝึกหัดทำใจให้กว้างเท่านั้นเอง..!
อีกสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลากับชิวิตของคนเราคือความสุขและความทุกข์ สุขเพราะได้ในสิ่งที่ต้องการได้ในสิ่งที่รัก และทุกข์เมื่อต้องพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก หรือประสบกับสิ่งที่ไม่รักไม่ชอบไม่ถูกใจก็เป็นทุกข์ คนเราย่อมต้องมีชีวิตทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไป เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน วันที่มีกลางวันและกลางคืน เพราะนั้นคือประสบการณ์ที่จะช่วยให้เรามีชีวิตที่แข็งแกร่ง
ประสบการณ์สร้างสมความฉลาด ประสบการณ์เป็นข้อมูลดิบของภาคปฏิบัติ ไร้ประสบการณ์ โอกาสฉลาดก็ย่อมหมดไป เพราะประสบการณ์ย่อมหมายถึง ความผิดหวัง ความสมหวัง หมายถึง...ความสุข และ ความทุกข์ หมายถึงการต่อสู้ที่มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา
น่าเสียดายคนที่มีชีวิตจมอยู่ในความสุขมักจะทำให้คนเหล่านั้นลุ่มหลง มัวเมา อ่อนแอ ไม่อดทน การที่คนเราคุ้นเคยและเคยชินกับความสุขจนเกินไป ไม่มีโอกาสเรียนรู้ หรือประสบกับความทุกข์อาจทำให้คนๆ นั้นไม่เข้มแข็ง ไม่อดทน และบ่อยครั้งที่ชีวิตของคนๆ นั้นอาจจะไปไม่รอดเพราะความอ่อนแอทำให้เขามัวแต่วิ่งหนี
คนที่มัวแต่วิ่งหนีจะไม่มีวันชนะ หากเราเหนื่อยก็จงหยุดพักแต่อย่าหนี การเผชิญหน้ากับปัญหานั่นแหละคือหนทางที่จะชนะ
Create Date : 06 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 6 กรกฎาคม 2550 17:00:07 น. |
|
25 comments
|
Counter : 937 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Sea Of Love วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:03:37 น. |
|
|
|
โดย: rainoflove วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:43:47 น. |
|
|
|
โดย: IceIcy (lcelcy ) วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:46:20 น. |
|
|
|
โดย: ปิงปอง IP: 202.44.7.68 วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:30:58 น. |
|
|
|
โดย: IceIcy (lcelcy ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:06:32 น. |
|
|
|
โดย: แสง สีรุ้ง (แสง สีรุ้ง ) วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:49:01 น. |
|
|
|
โดย: แสง สีรุ้ง (แสง สีรุ้ง ) วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:49:12 น. |
|
|
|
โดย: ปิงปอง IP: 202.44.7.67 วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:01:29 น. |
|
|
|
โดย: ปิงปอง IP: 202.44.7.66 วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:31:50 น. |
|
|
|
โดย: Happy birthday IP: 195.189.142.216 วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:0:47:30 น. |
|
|
|
โดย: Matt (everything on ) วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:10:40:29 น. |
|
|
|
โดย: Yasmin วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:0:09:04 น. |
|
|
|
โดย: IceIcy (lcelcy ) วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:1:16:41 น. |
|
|
|
โดย: niCe IP: 125.27.205.117 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:17:26:29 น. |
|
|
|
โดย: heer IP: 202.92.102.130 วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:10:31:59 น. |
|
|
|
โดย: HEER IP: 202.92.102.130 วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:10:33:56 น. |
|
|
|
โดย: For my Simran IP: 202.92.102.130 วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:10:37:45 น. |
|
|
|
โดย: For my Simran IP: 202.92.102.130 วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:10:48:25 น. |
|
|
|
โดย: your pretty old friend IP: 125.27.147.67 วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:14:27:23 น. |
|
|
|
โดย: Simran IP: 118.173.67.172 วันที่: 22 ตุลาคม 2559 เวลา:1:35:19 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ภูเก็ต Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
~~...We met, it was LUCK... We spoke, it was by CHANCE... We became lovers, it was DESTINY... We are still friends, it's DECISION... We will always be lovers, that's a PROMISE...~~
|
|
|
|
|
|
|