Let's talk about your favorite Drink!
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
1 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
เจาะเวลาหากาแฟ


ตั้งชื่อซะอย่างกับหนังแอคชั่น แต่ไม่มีอะไรมาก แค่อยากพาเพื่อนๆ ที่ชอบดื่มกาแฟ ไปทำความรู้จักกับที่มาของกาแฟก็เท่านั้นเอง บางคนอาจจะรู้ บางคนอาจจะไม่รู้ ถือซะว่ามาล้อมวงนั่งฟังนิทานก็แล้วกัน...

เรื่องเล่าเกี่ยวกับที่มาของกาแฟมีหลายเรื่องแต่ที่เล่าตรงกันนั้นก็คือตำนานกาแฟที่เกี่ยวกับคนเลี้ยงแกะ ว่ากันว่าคนเลี้ยงแกะชาวเอธิโอเปียที่ชื่อกาลดี้ (Kaldi) เป็นคนแรกที่ค้นพบกาแฟ โดยเขาบังเอิญสังเกตเห็นแกะที่เขาเลี้ยงมีท่าทีประหลาดหลังจากที่กินผลไม้ชนิดหนึ่งเข้าไป แกะที่กินผลไม้เข้าไปจะกระโดดโลดเต้นและกระปรี้กระเปร่ากว่าแกะที่ไม่ได้กินผลไม้ นายกาลดี้ก็เลยลองนำผลไม้สีแดงที่แกะกินมาทานดู แล้วนายกาลดี้ก็โดนของเข้าให้!...จากคนเลี้ยงแกะที่เลี้ยงแกะอย่างเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ก็กลายเป็นคนเลี้ยงแกะที่คึกคัก กระชุ่มกระชวยทุกครั้งเมื่อได้ทานผลไม้ที่ว่า...ซึ่งก็คือผลกาแฟนั่นเอง...(แกะก็คึก คนเลี้ยงก็คึก ท่าทางจะสนุกน่าดู)

ต่อมานักบวชในศาสนาอิสลามรู้ข่าวเข้า จึงพยายามขนผลกาแฟกลับไปกินขณะประกอบพิธีกรรมทางศาสนาบ้าง แต่ระยะทางไกลจึงต้องตากแห้งก่อน เวลาจะกินก็เอาผลใส่น้ำ แล้วกินทั้งเนื้อและน้ำพร้อมกัน ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็สามารถสวดมนต์ตอนกลางคืนได้โดยไม่ง่วงเหงาหาวนอนอีกต่อไป (นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....ถ้าเห็นคนดื่มกาแฟแล้วกระโดดโลดเต้นผิดปกติ ก็อย่าแปลกใจเพราะเป็นสรรพคุณพื้นฐานของกาแฟนั่นเอง...เอิ๊กๆ)



อีกเรื่องต่อมาเล่าว่ามีชาวอาหรับคนหนึ่งทำผิดกฎของหมู่บ้าน เขาและบริวารเลยถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านให้ไปผจญภัยในทะเลทราย โชคดีที่เจอต้นกาแฟก็เลยเก็บมาต้มกิน นอกจากจะไม่อดตายแล้ว ยังมีกำลังวังชาเพิ่มขึ้น ชาวเมืองมอคคาในละแวกใกล้เคียงรู้ข่าวเข้า จึงตั้งชื่อผลไม้ที่เขานำมาต้มกินว่า “มอคคา” ตามชื่อเมือง

การเดินทางของกาแฟแบ่งเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงแรกที่ได้รับความนิยมในหมู่นักบวช กาแฟจะแพร่กระจายไปในระยะทางใกล้ๆ โดยผ่านการบอกต่อในหมู่นักบวช ช่วงที่สองกาแฟจะแพร่กระจายไปตามที่ต่างๆ ทั่วโลกด้วยอิทธิพลของการล่าอาณานิคม โดยกาแฟกลายเป็นสินค้าหนึ่งที่ประเทศเจ้าของอาณานิคมจะขอจากประเทศที่ตัวเองปกครอง กาแฟจึงได้เดินทางไปตามที่ต่างๆ ทั่วโลก โดยเริ่มจากในเอเชีย ไปยุโรป ไปอเมริกาใต้ และสุดท้ายก็มีอยู่ทุกที่ทั่วโลก โดยบราซิลเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีผลผลิตของกาแฟมากที่สุดในโลก



พาไปรู้จักเส้นทางของของกาแฟรอบโลกแล้ว คราวหน้าเรามาดูกันว่าแล้วกาแฟมาถึงเมืองไทยได้อย่างไร อดใจรอแค่ชั่วเมล็ดกาแฟสุก แล้วมาล้อมวงกันใหม่...




Create Date : 01 กันยายน 2551
Last Update : 9 กันยายน 2551 15:16:46 น. 28 comments
Counter : 673 Pageviews.

 
มาล้อมวงรอตอนต่อไปแล้วค่ะ อยากรู้ๆ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:23:28:34 น.  

 
ชอบ..บบบบบบบ มาก..กกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: ตุ๊ดตู่ (tudtu_tidtee ) วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:5:36:15 น.  

 
ร้านกาแฟร้านนี้ทั้งสวยและมีลีลาการเสริฟต์ที่น่าสนใจ
ข้าน้อยขอชม...


โดย: เส้าหลินน้อย IP: 58.147.70.130 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:13:07:19 น.  

 

ขอบคุณที่นำเกร็ดข้อมูลเกี่ยวกับกาแฟมาให้อ่านครับผม

:-)


โดย: being IP: 222.123.65.81 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:16:19:54 น.  

 
มารอต่ออยู่ค่ะ อิอิ


โดย: petite lilliput วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:17:53:46 น.  

 
รออ่านด้วยคนจ้า


โดย: เชอรี่ (cherydnk ) วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:18:49:09 น.  

 

เพิ่งรู้นะเนี่ยะ


โดย: Civikky IP: 203.170.255.222 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:19:27:50 น.  

 
อืมมมม...
น่าสนใจ
น่าติดตาม
สร้างสรรค์ กว่า การเมืองตอนนี้

ขอ ลาเต้ นุ่ม ๆ แก้เครียดถ้วยนึงฮะ


โดย: NaNa IP: 117.47.75.163 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:21:51:22 น.  

 
มารอตั้งแต่หัวค่ำเลย

ตอนนี้เป็นโรคผีกาแฟสิงแล้วอ่ะ ยี่ห้อไหน ใครว่าดี ซื้อมาเต็มเลย


โดย: Febie วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:2:18:03 น.  

 
มาฟังนิทาน อิอิ
ไม่ใช่ๆ มาฟังเรื่องสาระน่ารู้ต่างหาก
รออ่านตอนต่อไปนะจ๊ะ


โดย: unsa วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:11:46:29 น.  

 
เข้ามาแล้วชอบบล็อกนี้จังค่ะ..
ชอบสี..ชอบสไตล์การแต่งบล็อก..
อาจจะเถียงว่าไม่ได้แต่งมากมาย..
ไม่มากมาย..แต่โดนค่ะ..


โดย: AB_PAE วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:14:09:18 น.  

 
อ้าวลืม..

ยังไม่ได้บอกเลยว่าก้อชอบกาแฟหอม-หอมเหมือนกัน

ก้อเลยขอเป็นส่วนหนึ่งของชมรมคนรักบล็อกนี้ด้วยค่ะ


โดย: AB_PAE วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:14:11:15 น.  

 
อ่าน ทีไร เป็นต้อง นึกถึงตอน นั่งกินกาแฟ ตอนเช้าที่ปาย กับสายหมอก เย็น ๆๆๆๆๆ ทุกที บรรยาศ และ กรุ่นกลิ่นหอม ของกาแฟ ยังคงฝั่งในความทรงจำ


โดย: ดอกบัว IP: 203.155.159.7 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:14:43:08 น.  

 
มีกาแฟสุดยอด ไว้เป็นเพื่อน..
เหมือนมิตรดี มาเยือนให้กำลังใจ..


โดย: I_sabai วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:20:07:44 น.  

 
ใครเป็นเหมือนผมไม๊ กินกาแฟทีไรนึกถึงแม่ทุกที อิอิ กลิ่นมันหอมหวล ไม่รู้ทำไมต้องชอบแต่รู้ว่าชอบน่ะนะคับ รอตอนต่อไปด้วยครับ


โดย: kujang IP: 203.144.139.228 วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:10:56:12 น.  

 
แฟนประจำคับเข้ามาครั้งแรกเพราะชอบบล็อกสวยดีได้ความรู้เกี่ยวกับกาแฟด้วยและชื่นชอบกาแฟที่สุด ดื่มทุกวันคับ จึงอยากรู้ว่ากาแฟมีโทษหรือประโยชน์อย่างไรบ้างคับใครรู้ช่วยตอบด้วยนะคับเด๋วแวะมาใหม่ ขอบคุณคร้าบ


โดย: mk_ple IP: 202.28.124.35 วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:11:32:59 น.  

 
"อิทธิพลของการล่าอาณานิคม โดยกาแฟ" ..

ฟังดูแล้วหอมหวานจังเลยอ่ะคะ เพราะการล่าอาณานิคมนี้แหละ
เลยทำให้เราได้รู้จักรสชาติและความหอมอร่อยของกาแฟ
มาถึงทุกวันนี้อ่ะนะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:12:11:18 น.  

 
รอให้กาแฟสุดใจจดใจจ่อเลยค่ะ


โดย: อันติกา วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:22:33:05 น.  

 
สมัยก่อน...กาแฟเป็นของต้องห้ามด้วยครับ มีแต่คนชั้นสูงเท่านั้นที่ได้กิน..อ่าไม่เชิงต้องห้ามหรอก แต่มันแพงมากจนคนธรรมดาซื้อไม่ได้ตะหาก


โดย: เจฟ IP: 87.194.121.22 วันที่: 6 กันยายน 2551 เวลา:20:41:26 น.  

 
อยากรู้จัง...กาแฟแถวไหนอร่อยที่สุดช่วยแนะนำหน่อย?


โดย: เจตะ IP: 117.47.159.78 วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:9:15:07 น.  

 
เราไม่ได้ชอบรสชาติกาแฟ แต่นิยมในบรรยากาศของการชงกาแฟตะหาก

- โกวเล้ง เอ๊ย โกวเอกสิ


โดย: เอกเอง IP: 58.8.180.67 วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:17:01:36 น.  

 
กาแฟถ้วยในภาพเป็นแผนที่โลกสวยจัง

จำไม่ได้ว่าเคยทานกาแฟตุรกีที่ร้านไหนในเมืองไทย
โอ้ ถ้วยเล็ก ๆ แต่มันช่างข้นคลั่กลองดื่มชิมรสชาติ แค่อึกเดียวพอ ไม่สามารถดื่มแบบเข้ม ๆ อย่างนั้นได้เลย ต้องหานม หาน้ำเชื่อมเติม

แต่มันหอมดีนะ ไม่รู้ว่ากาแฟอะไร

เมือ่ก่อนอยู่กันหลายคน ต้มกาแฟเป็นที่สนุกสนาน

หลัง ๆ ประหยัดไฟ เลยดื่มแบบง่าย
กาแฟสำเร็จรุปใส่ถ้วย เติมน้ำใส่เข้าไมโครเวฟ
ง่ายดี เร็วดี ได้คาเฟอีนสมใจ

เพราะบล็อก Coffee Talk นี่นา ว่าจะรื้อหม้อกาแฟสรรหากาแฟแปลก ๆ มาต้มกินล่ะ
เขียนแล้วอ่านเหมือนหม้อกาแฟต้มแบบพวกคาวบายจัง เอิ๊ก
ของเราเป็นกาแก้ว ใส่กาแฟผงลงที่กรอง กับน้ำข้าง ๆ แล้วรอมันหยดลงมาในกา แบบสามัญน่ะ (เรียกไม่ถูกอีกนั่นแหละ ดูภาพแล้วกันนะ)



ยืมภาพจาก amazon ประมาณนี้ล่ะ

อยากให้เขามีขายกาแฟแบบน้อย ๆ จัง
เราอยู่คนเดียว ดื่มคนเดียว
ขนาดว่าดื่มวันละหลายแก้วแล้ว
แต่กว่าจะหมดกล่อง หมดซอง
ให้ซื้อมาตุนไว้ กาแฟก็รสเปลี่ยนไปสะอีก

หวังว่าคงจะมีคำแนะนำสำหรับการเก็บกาแฟผงด้วยนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:21:38:54 น.  

 
ชอบตำนานของกาแฟค่ะ .. แต่ติดตรงที่ว่า.. อ่านจบแล้วก็เกิดความสงสัยว่า .. ตกลงมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง หรือว่าเป็นแค่นิทานกันนะ เพราะมันเป็นนิทานที่ฟังเหมือนเรื่องจริงเหมือนกันนะคะ

ปล. ชอบการออกแบบบล๊อกมากๆ เลยค่ะ .. โชว์ให้สามีดู เค้าบอกว่าบล๊อกดู professional ดูดีดูเท่ห์มากๆ

อีกปล. จริงๆ แวะมาอ่านบล๊อกแรกเมื่อประมาณอาทิตย์สองอาทิตย์ที่แล้ว แล้วฝากคุยไว้ที่บล๊อกนั้นด้วย แต่เผื่อว่าคุณยังไม่ได้ไปเห็น ก็เลยอยากบอกตรงนี้อีกครั้งว่า .. เป็นคนรักการดื่มกาแฟเหมือนกันค่ะ


โดย: Chini วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:9:24:01 น.  

 
ขอบคุณคุณ Chini มากๆ ครับ สำหรับคำชม...
แวะไปทักทายที่ Blog มาเรียบร้อยแล้ว...
ส่วนที่พรายทรายถามถึงวิธีการเก็บกาแฟมา เทคนิคง่ายๆ เค้าก็ว่า เก็บในที่แห้งและอากาศเข้าไม่ถึงครับ..ส่วนใหญ่จะเก็บไว้ในขวดโหลสุญญากาศ แต่เก็บได้เต็มที่ก็แค่เดือนเดียว หลังจากนั้นกลิ่นและรสชาติมันก็จะเปลี่ยน มีปัญหากับการซื้อกาแฟทีละมากๆ เหมือนกันครับ กินไม่ค่อยทัน...แต่ยังไงก็ตามห้ามเก็ยไว้ในตูเย็นนะครับ..กาแฟจะดูกกลิ่นข้าวของในตู้เย็นจะเสียกาแฟไปเลย..


โดย: coffeetalk วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:11:51:38 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ

สนุกดีนะคะ

ชอบดื่มกาแฟ โดยเฉพาะกาแฟดำ



โดย: เช้านี้ยังมีเธอ วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:14:06:04 น.  

 
เวลากาแฟ เป็นเวลาที่อบอุ่นและเป็นสุข
เป็นเวลาที่ความขมมาเจอกับความหวาน และความหอม
ซึ่งรสชาดไม่เคยเหมือนกันเลยสักถ้วยเดียวค่ะ


โดย: บอนหวาน วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:0:19:51 น.  

 
ไม่ได้เข้ามาอ่านซะนาน ยังมีสาระดีๆเหมือนเดิม

กาแฟถ้วยสุดท้ายน่ากินมั๊ก


โดย: ขนมปังกะปิ วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:9:33:36 น.  

 
ตาหลกดี... น้องแกะเต้นได้ อิอิ


โดย: Im Tee IP: 82.196.56.194 วันที่: 18 ตุลาคม 2551 เวลา:19:39:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

coffeetalk
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add coffeetalk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.