หยุดเห็นแก่ตัวเสียที

ปัจจุบัน มีการกล่าวอ้างถึงคำว่า ประชาธิปไตย กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะช่วงหลังคดีการตัดสินยุบพรรคการเมือง และการทยอยอายัดทรัพย์อดีตนายกฯ และเครือญาติ ก็ยิ่งมีปรากฏการณ์ “คลั่งประชาธิปไตย” ของคนบางพวกขึ้นมา อย่างปัจจุบันทันด่วน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยที่จะสนใจอะไร นอกจากความอยู่ดีมีสุขของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น

หลักการประชาธิปไตยนั้น เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เท่านั้น ไม่ใช่เอามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ เหมือนกับน้ำอมฤต ซึ่งถือเป็นของมงคล เป็นประโยชน์อเนกอนันต์ ถ้าอยู่ในมือเทวดา หรือ ผู้ทรงศีล แต่ถ้าตกไปอยู่ในมือผู้ไร้คุณธรรม ก็จะกลายเป็นโทษมหันต์ทันที สามารถเปรียบเทียบจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ตอนที่ยักษ์นนทุกข์ ซึ่งมีหน้าที่ล้างเท้าเหล่าเทวดา และนางฟ้าที่ไปเข้าเฝ้าพระอิศวร เกิดความคับแค้นใจที่ถูกบรรดาเหล่านางฟ้า เทวดาเหล่านั้น หยอกล้อดึงผมจนศีรษะล้าน เลยไปขอพรวิเศษจากพระอิศวรขอให้มีนิ้วเพชรศักดิ์สิทธิ์ ชี้ไปที่ใคร คนนั้นต้องตาย และด้วยแรงแค้นของผู้มีภูมิปัญญาอันตื้นเขินเช่นยักษ์นนทุกข์ เมื่อได้รับพรเช่นนั้น ก็เที่ยวไปชี้นิ้วใส่บรรดา นางฟ้าเทวดาทั้งหลายจนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก เดือดร้อนถึงพระนารายณ์ ที่ต้องอวตารลงมาปราบ เป็นเรื่องเป็นราวอีกยาวนาน

ลองคิดดูว่า ถ้าระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นระบอบการปกครองที่ดี ตกเป็น “เครื่องมือ”ของนักการเมืองที่ไร้คุณธรรม คือ ถูกหยิบยกเอาประเด็น หรือ แง่มุมเฉพาะในส่วนที่จะเอื้อประโยชน์ให้ตนเอง มาป่าวร้องชวนเชื่อ เพื่อจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็จะสร้างความเสียหายไม่เฉพาะต่อบ้านเมืองเท่านั้น แต่ต่อระบอบประชาธิปไตยเองด้วย เพราะแทนที่หลักการประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีจะได้พัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง กลับต้องมาถูกบิดเบือน ลากไปในวงจรอุบาทว์ “ซื้อเสียง- ผูกขาดเป็นรัฐบาล -ไม่ยอมถูกตรวจสอบ – แทรกแซงอำนาจองค์กรอิสระ - กอบโกยอยู่ในหมู่เครือญาติ” อยู่อย่างไม่มีวันสิ้นสุดโดยนักการเมืองที่ก่อความเสียหายนั้น มักจะทิ้งความเลวร้ายของตนไว้เบื้องหลัง แล้วตัดช่องน้อยแต่พอตัวหนีไปเมื่อความเลวทั้งหลายของตนถูกเปิดโปง

ดังนั้น ถ้าจะชูธงคำว่าประชาธิปไตย บรรดาพรรคการเมือง และนักการเมืองทั้งหลายจะ ต้อง กระทำทุกอย่าง ตามวิถีทางประชาธิปไตยจริงๆ โดย เริ่มจาก รัฐบาลเข้ามาจะต้อง
1. ไม่อาศัยความได้เปรียบในการเป็นรัฐบาลปกปิดข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน สร้างความร่ำรวยให้พวกตน และพวกพ้อง
2. ไม่เอาพรรคการเมือง ซึ่งถือเป็น สัญลักษณ์หนึ่งของระบอบประชาธิปไตย มาสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง และพวกพ้อง เพราะพรรคการเมืองในประเทศประชาธิปไตยที่เจริญแล้ว ล้วนเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ได้เป็นของคนใดคนหนึ่ง หรือ ตระกูลใดตระกูลหนึ่ง
3. ยินยอมให้ภาคประชาชนตรวจสอบการทำงานของรัฐตลอดเวลา การตัดสินใจทำอะไรของรัฐบาล ต้องอธิบายที่มาที่ไปได้ และข้อสุดท้ายคือ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ จะต้องไม่ถูกแทรกแซง ถ้าพรรคการเมือง และ นักการเมืองสามารถทำได้เช่นนี้ จึงสมควรที่จะเสนอตัวเป็นผู้ถือและรักษาประชาธิปไตย

เน้นย้ำตรงนี้อีกทีว่า หลักการที่ดี ถ้าตกอยู่ในมือคนชั่ว หรือ คนไร้คุณธรรม หลักการนั้นก็จะกลายเป็นโทษทันที เพราะจะถูกนำมาฉ้อฉล บิดเบือนจนประเทศชาติ และสังคมเสียหาย ถ้านักการเมืองทั้งหลายรักประเทศชาติจริงก็ต้อง ลด ละ เลิก การเห็นแก่ตัว เลิกเอาหลักการที่ดีมาอ้างเพื่อทำความชั่ว แล้วมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ประชาธิปไตยที่แท้จริง ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

Create Date : 23 กรกฎาคม 2550		1 comments
Last Update : 23 กรกฎาคม 2550 10:29:29 น.
Counter : 793 Pageviews.
Share Tweet