Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
16 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 

พ.ร.ฎ.อภัยโทษส่อ"โมฆะ"!





การหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (15 พ.ย.) ที่มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมวานนี้ มีรายงานข่าวออกมาว่าเห็นชอบพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษ อีกกระแสอ้างว่าต้องส่งตีความ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่กระจ่าง แต่หากเห็นชอบจริง จะมีปัญหาด้านกฎหมายตามมาอีกมาก และอาจจะเข้าข่าย"โมฆะ"ได้
ทั้งนี้ในการประชุมได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเป็นการลับ โดยมีการกำหนดเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ที่ระบุหลักเกณฑ์ของ "นักโทษ" ซึ่งจะได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวคือ 1.เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี


นอกจากนั้นยังมีการตัดคำแนบท้ายของ พ.ร.ฎ.อภัยโทษ พ.ศ.2553 ตราขึ้นสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีเนื้อหาระบุว่า "ผู้คนที่เข้าข่ายได้รับอภัยโทษจะต้องเป็นโทษที่ไม่เกี่ยวกับยาเสพติด และไม่เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่น" ออก


ทั้งนี้ ยังไม่มีการระบุถึงระยะเวลาการเข้ารับโทษ ซึ่งหากเป้นเช่นนั้นเท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเข้าข่ายได้รับการขอพระราชทานอภัยโทษ โดยที่ไม่ต้องเข้ารับการคุมขังแม้แต่วันเดียว ซึ่งเนื้อหาส่วนหนึ่งตรงกับที่ ร.ต.อ.เฉลิม เคยทำเอกสารแจกจ่ายให้กับสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ และเขายืนยันมาตลอดว่าสามารถทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศโดยถูกกฎหมายได้


อย่างไรก็ตาม หลักการ "ตรากฎหมาย" ของไทย นั้น จะต้องสอดคล้องกับกฎหมายที่มีความสำคัญตามลำดับคือ รัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) และพ.ร.ฎ.ตามลำดับ


ดังนั้น พ.ร.ฎ.อภัยโทษ หากออกโดยครม.วันที่ 15 พ.ย.แล้วนั้น จึงไปขัดกับพ.ร.บ.อภัยโทษ ที่ยกเว้น คดียาเสพติด และคดีคอร์รัปชั่น จะไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ


กรณีนี้ หากมีมติคณะรัฐมนตรี 15 พ.ย.จริง!ถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 ที่ว่า "รัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใด ของกฎหมาย กฎ หรือ ข้อบังคับ ขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญนี้ บทบัญญัตินั้น เป็นอันใช้บังคับ มิได้"


เมื่อมีการตรากฎหมายเล็กขัดกฎหมายใหญ่ก็สามารถฟ้องร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เพิกถอนพ.ร.ฎ. ดังกล่าว เพราะเห็นได้ชัดเจนว่าตรากฎหมายที่ขัดหรือแย้งกับพ.ร.บ.อภัยโทษ นั่นเอง


นอกจากนี้ การประชุมลับวันที่ 15 พ.ย. ยังแสดงให้เห็นว่ามีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า กล่าวคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนที่ จ.สิงห์บุรี พร้อมมอบแผนฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหลังน้ำลด และไม่สามารถเดินทางกลับ กทม.ได้ตามกำหนดการ ทำให้ต้องพักค้างคืนที่ จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 14 พ.ย. โดยอ้างว่าเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เอ็มไอ 17 ของประเทศรัสเซีย ที่ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางไม่สามารถบินตอนกลางคืนได้ เพราะไม่มีเรดาร์นำทางนั้น


แหล่งข่าวในกองทัพเปิดเผยโดยยืนยันว่า เฮลิคอปเตอร์รุ่นดังกล่าวมีสมรรถภาพเพียงพอ และมีเรดาร์สามารถบินช่วงกลางคืนได้ แต่หากเรดาร์ไม่สามารถใช้การได้จริง นายกฯ สามารถประสานขอเครื่องลำอื่นไปทดแทนได้ ซึ่งกองทัพพร้อมที่จะจัดให้อยู่แล้ว แต่กลับไม่มีการร้องขอมา จึงคิดว่า นายกฯ น่าจะมีเจตนาที่จะไม่กลับ กทม. เพราะดูจากกำหนดการที่คณะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ขึ้นเครื่องเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ช้ากว่ากำหนดเดิมถึงเกือบ 1 ชั่วโมง เหมือนเป็นการถ่วงเวลาให้เข้าสู่ช่วงกลางคืนแล้วอ้างเรดาร์ทำให้ไม่สามารถเดินทางได้


และเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 พ.ย.ว่า ทันทีที่คณะของนายกฯ และสื่อมวลชนเดินทางมาถึงกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ม.2 รอ.) ทุกคนในคณะต่างสวมเสื้อยืดสีขาว สกรีนข้อความและตราสัญลักษณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรีด้วยสีน้ำเงินชัดเจน แสดงให้เห็นว่ามีการเตรียมความพร้อมที่จะให้คณะพักค้างคืนที่ จ.สิงห์บุรี ไว้แล้ว


เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางมาถึงในเวลา 11.00 น. และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนประมาณ 20 นาที จากนั้นเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่คณะรัฐมนตรียังคงประชุมอยู่ แต่ปรากฏว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับไม่เข้าร่วมประชุม แต่ใช้เวลาช่วงดังกล่าวบันทึกเทปสัมภาษณ์พิเศษโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ก่อนเดินทางเข้าร่วมประชุมอาเซียน จากนั้นเมื่อเวลา 14.20 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงได้เดินทางเข้าร่วมประชุมรัฐสภา


กรณีนี้เองเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ครบองค์ประกอบการกระทำ จึงเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ "ละเว้นการกระทำที่มีผลเป็นการกระทำ" แม้ไม่เข้าร่วมประชุมครม.ก็ไม่อาจพ้นไปจากความรับผิดนี้ได้


เมื่อนักการเมืองกระทำความผิดทางอาญา จึงสามารถฟ้องร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ รวมถึงคณะรัฐมนตรี ที่อยู่ในห้องประชุมทั้งหมดก็จะปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ เพราะไม่ปรากฎว่ามีใครแสดงความเห็นแย้งต่อการออกพ.ร.ฎ. ดังกล่าว


ประการต่อมา ประชาชนยังสามารถฟ้องต่อศาลปกครอง ได้ ตามมาตรา 3 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง กรณีนี้มีคดีตัวอย่างที่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ เคยฟ้องเพิกถอนพ.ร.ฎ.แปรรูปรัฐวิสาหกิจ มาแล้ว


ประเด็นต่อมา ผู้มีส่วนได้เสีย ย่อมจะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะรัฐมนตรี "ส่อ" ว่ากระทำการหรือละเว้นการกระทำทุจริตต่อหน้าที่ ได้อีกทางหนึ่งด้วย


มติครม. 15 พ.ย. แสดงให้เห็นการกระทำผิดหลายกรรม หลายวาระ และตราพ.ร.ฎ.ที่เป็นโมฆะ ตั้งแต่แรกแล้ว



//www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/analysis/20111116/419679/news.html




 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2554
0 comments
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2554 20:32:15 น.
Counter : 507 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สุขใจเมื่อใกล้เธอ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




พยากรณ์อากาศ
Friends' blogs
[Add สุขใจเมื่อใกล้เธอ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.