Bloggang.com : คูลิโกะจัง : "นิ้วกล๊ม นิ้วกลม :p"

"นิ้วกล๊ม นิ้วกลม :p"

ห่างหายไปจากการเขียนบล๊อกเรื่องราวของหนังสือที่ซื้อมาค่อนข้างนาน ด้วยสาเหตุเดิมๆ ..... "ขี้เกียจ" นั่นเอง ฮี่ฮี่

เป็นปกติของทุกปี ที่พอเริ่มเดือนมกราคมปุ๊บ เราและผองเพื่อนจะต้องทำการวางแผน...

เปล่า ๆ เราไม่ได้วางแผนการใช้ชีวิต(ให้ดีขึ้น) ไม่ได้วางแผนเก็บเงิน หรือวางแผนทั้งหลายที่คนทั่วๆไปเค้าทำกัน

แต่ที่เราวางแผน และค่อนข้างซีเรียส เครียด กดดัน ก็คือ

"วางแผนเที่ยว" ................ อิอิ

.......................................................................

"นิ้วกลม" --- ที่มาและที่ไป

เคยได้ยินชื่อ แต่ก็ยังเฉยๆอยู่ ตามประสาคนที่ไม่มีจุดยืนในการอ่านของประเภทหนังสือ (อ่านได้ทุกแนว ยกเว้นเรื่องรัก เพราะอ่านแล้วต่อมอยากมีแฟนจะกำเริบเสิบสาน

)

วันนึง ก็นั่ง search ลุงกูเล่นๆ เพื่อหาที่เที่ยว แล้วชื่อของ "นิ้วกลม" ก็เข้ามาปรากฏชู๊วแว๊งงงงง ในหมวดหมู่หนังสือที่เราหา จากนั้นก็ search ลึกเข้าไปเรื่อยๆ

อ๊ะ....เจอแล้ว ข้อมูลนิ้วกลม ออกหนังสือมา 4 เล่ม ในส่วนที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว แต่เล่มแรกที่ search เจอ ก็คือเรื่อง

"โตเกียวไม่มีขา"

เชื่อว่าคอหนังสือหลายคนต้องรู้จักแน่ๆ ในใจนับจากตอนนั้น จนถึงตอนนี้ ไม่เค๊ยไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มีวาสนาไปเที่ยวญี่ปุ่นเลย (ถ้าหากไม่ถูกหวยหนักๆ ก็คงไม่มีโอกาส

)

แต่ที่ซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะ อยากรู้ว่าเค้าทำยังงัยถึงสามารถใช้เงินจำนวนไม่เท่าไหร่ แต่สามารถไปเที่ยวญี่ปุ่นได้นี่ซิ กระตุ้นต่อมอยากเรามากๆ เพราะเราก็เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ --- "ท่องเที่ยวเชิงอัตคัต" --- นั่นคือ เน้นการจ่ายน้อยที่สุด ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

อย่ากระนั้นเลย เย็นนั้นเราจึงออกตามล่าหาหนังสือ แล้วก็ได้มันมาไว้ในครอบครอง ณ ร้านหนังสือเจ้าประจำ --- นายอินทร์ เมเจอร์ปากเกร็ด

ได้มาคืนนั้น อ่านคืนนั้นเลย อ่านรวดเดียว แต่ไม่จบ ยังเอามาแอบอ่านที่ทำงานอีกจิ๊ดนึง 55555

ชอบค่ะชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

คือในใจตอนนั้นคิดเลยว่า เฮ้ยยยย นี่เค้าเที่ยวแบบกรูเรยยยยยยยยย อารมณ์ประมาณว่าเสมือนหนึ่งเจอคนเข้าใจ หรือหัวอกเดียวกัน 555555 (ทั้งที่จริงๆ เค้าคงมีเงินเที่ยวมากกว่าเราอ่ะนะ )

หลังจากผ่านเล่มแรกไป มันก็เหมือนกับอะไรล่ะ อย่างที่เค้าชอบพูดว่า "คอเดียวกัน" ไรงี้มั๊ง (ต๊ายยยยยยยยย นี่อิชั้นเผลอตัวไปนับคงนับคออะไรกับเค้าเนี่ย

)

แต่แพลนที่จะซื้อหนังสือเล่ม 2 ของเค้าก็ยังไม่มี จนกระทั้งได้คุยกับไอปอนด์ว่า ปีนี้ทริปช่วงที่เพื่อนกลับเมืองไทย เราจะไปไหนดี

ก็คุยกันว่า เออ ไปบาหลีกันดีกว่า (หลังจากไปตะลุยเวียตนามด้วยกันแล้ว ค้นพบว่าเป็นขาลุยเหมือนกัน) ก็ตกลง โอเชว่า บาหลีก็บาหลี แล้วยังงัยไม่รู้ เราเกิดคิดว่า เออ เนปาลก็น่าไปเหมือนกันนี่หว่า (จริงๆอยากไปมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว) แต่ก็ยังไม่ได้บอกเพื่อน แค่มาแอบๆหาข้อมูลเสริม

แล้ว "นิ้วกลม" ก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อเราจำได้ว่า เค้าเขียนหนังสือเกี่ยวกับที่เค้าไปเที่ยว"เนปาล" ด้วย.............เอาละเว๊ยยยยยยย

"เนปาล - ประมาณสะดือ" เป็นหนังสือเล่มที่ 2 ที่เราจะซื้อ แต่คราวนี้โชคไม่ดี เพราะร้านหน้งสือใกล้บ้าน ดันไม่มีขาย ก็หาๆ รอๆ จนรู้สึกว่า เออ ไม่อ่านก็ได้วะ

แต่.....

เพราะเรานั้นเกิดมาคู่กัน อ๊ะๆ ไม่ใช่ๆ มั่วล่ะ 5555

ก็ดวงคนมันจะเสียตังค์อ่ะนะ .... เราไปเจอหนังสือเล่มนี้ตอนไปดู "เดี่ยวไมโครโฟน 7" ของคุณโน๊ต
โอ๊วววววววววว ป๊ะเจ้าจ๊อดดดด นี่ล่ะฮ่า คุณค่าที่เดี๊ยนคู่ควร เจอหนังสือเล่มนี้วางขายอยู่หน้างาน แถมได้ลดด้วย 30 หรือ 35 บาทนี่ล่ะ โหะๆๆๆๆๆ

ซื้อเลยๆๆๆ ไม่คิดอะไรแล้ว หน้าปกสีเหลืองอี๊เชียว

(เป็นคนไม่ชอบสีเหลืองค่ะ)

พออ่านเล่มนี้จบปุ๊บ เปลี่ยนใจจาก บาหลี ปั๊บเลย (คิดในใจ กรูจะไปเนปาลลลลลล 555555 )

รีบกระเด้ง ออนเอ็มไปบอกไอปอนด์ทันที

เรา - เฮ้ย แกๆ เปลี่ยนแผนไปเที่ยว เนปาล กันดีไม๊

เพื่อน - เออ ...เอาดิ ชั้นก็ว่าจะบอกแกเหมือนกันว่าอยากไป

เรา - เนี่ยๆ อ่านหนังสือ เค้าไปแบบลุยๆอ่ะแก เจ๋งดีหว่ะ

เพื่อน - เออ ก็ต้องไปแบบนั้นล่ะ มันส์ดี ชั้นว่าจะเทรคกิ้งด้วยนะ

เรา -

เอางั้นเลยเหรอเพื่อน

เพื่อน - เออดิแก ไหนๆก็ไปแล้ว อีกอย่าง เดี๋ยวแก่กว่านี้จะเดินไม่ไหว 5555
แล้วชั้นก็มีรองเท้าปีนเขาแล้วด้วย มันแถมให้ตอนซื้อรถ

เรา - กรรม งี้ตูก็ต้องรีบฟิตซ้อมร่างกายซิฟะ

เพื่อน - เออ ด่วนเลยแก

..................................................................

จริงๆแล้ว เราไม่ได้ตะพึดตะพือ อยากเที่ยวในทุกๆที่ที่เค้าไปกันแล้วเอามาเขียนหรอกนะ (แอบแก้ตัว กร๊ากกก) อย่างญี่ปุ่นเนี่ย เราก็เฉยๆ (คือรู้สึกว่า เราคงหมดตัวตั้งแต่เห็นร้านกิฟชอปร้านแรกแล้วน่ะ 5555)

หรืออย่างประเทศที่เค้าว่า ยังตายไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ไป อะไรงี้ (แบบนี้เราจะรู้สึกแอนตี้เล็กน้อยว่า ทำไม ถ้ากรูจะตายแล้วไม่เห็นไอ่เนี่ย มันจะทำให้กรูตกนรกหรืองัย .....)

แต่ด้วยความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ มันบอกกับเราว่า หนังสือบางเล่ม มันเขียนออกมาเหมือนมานั่งอยู่กลางใจเรา

เคยไม๊คะ ที่อ่านหนังสือแล้ว มันจะมีบางช่วง บางอารมณ์ ที่รู้สึกว่า เฮ้ยยย แม่มคิดเหมือนกันเลยนี่หว่า ( เอ๊ะ หรือเดี๊ยนจะบ้าไปคนเดียวคะเนี่ย

)

ตอนนี้ก็เลยฟิตซ้อมร่างกายรอคุณเพื่อน เนื่องจาก ช่วงนี้มันโดนคุมประพฤติ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศก่อนได้ซิติเซ่น

แต่ล่าสุดเห็นว่าตม. เค้าให้ออกได้ แต่ก็ต้องยืดเวลาการได้ซิติเซ่นออกไปอีก

ไม่ว่าจะยังงัย เราก็จะซ้อมๆเดินทนไว้ก่อน ดีที่สุด อิอิ

................................................................................

ปล. ตอนนี้ตามหาหนังสือเล่มนี้อ่ะค่ะ "โลกนี้ ไม่เหงาแล้ว" ของ นาธาน โอมาน คือ search แล้ว ไม่เห็นมีมือ 2 ขายเลย เลยไม่รู้ว่าจะพอหาที่ไหนได้บ้าง ถ้าหากใครมีข้อมูล รบกวนแจ้งทางหลังไมค์ด้วยนะคะ

ปลล. สงสารคนหลงเข้ามาบล๊อคนี้จังเลย ไร้สาระเหลือเกิ๊นนนน

Create Date : 07 มีนาคม 2551

Last Update : 7 มีนาคม 2551 14:54:28 น.

0 comments

Counter : 533 Pageviews.