Enjoy your life today because yesterday has gone and tomorrow may never come.
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

RIN ... บทที่ 10 ...

“น่านะ ถือว่าช่วยเด็กตาดำๆ เอ๊ย ตาเขียวๆคนนี้สักครั้งเถอะ” รินอ้อนเสียงหวาน พลางยึดชายเสื้อของคนตัวใหญ่กว่าไม่ให้หนีไปไหน

“เจ้าอย่าตามข้าแบบนี้ได้ไหม ข้าทำงานไม่ได้” อเล็กซ์กล่าวอย่างหงุดหงิด พยายามสะบัดแขนเสื้อออกแต่แม่คนมือกาวก็จับแน่น ไม่ยอมปล่อย

ภาพเด็กสาวร่างบางวิ่งตามกษัตริย์แห่งออสเทียร์ต้อยๆ เป็นภาพที่ทุกคนเห็นแล้วต้องกลั้นหัวเราะ แม้ว่ากษัตริย์จะมีท่าทีรำคาญแต่เด็กสาวก็สู้ไม่ยอมถอย วิ่งตามกษัตริย์ไปทุกที่ไม่เว้นแม้แต่ห้องน้ำ

“นายเข้าไปนานจัง” รินหน้ามุ่ย “อึเหรอ”

คำถามห้วนๆของผู้หญิงที่ทำตัวไม่สมกับเป็นผู้หญิงทำเอาอเล็กซ์เกือบตกลงมาจากหน้าต่าง โชคยังดีที่คว้าขอบหน้าต่างไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นพระราชาแห่งออสเทียร์คงได้ตกเป็นหัวข้อสนทนาไปทั่วเมือง ในฐานะ ‘พระราชาตกส้วม’

“อึนานจัง หรือว่าท้องผูก” เสียงใสๆยังคงถามต่อไป

อเล็กซ์หน้าแดงระเรื่อ นึกอยากออกไปดึงแก้มนิ่มๆของคนพูดให้หายหมันเขี้ยว เขาปีนขึ้นไปเหนือโถส้วม รอยยิ้มผุดขึ้นตรงมุมปากอย่างนึกขำ

ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีวันนี้...วันที่กษัตริย์แห่งออสเทียร์ต้องปีนห้องน้ำหนีเด็กสาวตัวเล็กๆ!

มือทั้งสองข้างค่อยๆผลักบานหน้าต่างออก ก่อนจะโผล่ศีรษะไปดูซ้ายขวา เมื่อเห็นทางสะดวก อเล็กซ์จึงลอดตัวผ่านช่องแคบ หวังจะหนีเด็กสาวที่ตามติดเป็นตังเม

“ฉันว่าฉันเข้าไปช่วยนายดีกว่า ท้องผูกนานๆเดี๋ยวจะเป็นริดสีดวงทวาร เอาล่ะ! ฉันจะเข้าไปแล้วนะ หนึ่ง สอง...”

“เฮ้ย!!” อเล็กซ์หันหน้ากลับมามองประตูตาเหลือก อ้าปากจะตะโกนห้าม แต่ช้าไปเสียแล้ว...

“สาม!”

รินรวบรวมพลัง ปลดปล่อยลมกรรโชกแรงจนบานประตูปลิวไปปะทะกับร่างสูงที่ยืนอยู่บนฝาโถส้วม เสียงดังพลั่กปะปนกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของผู้เคราะห์ร้าย ร่างใหญ่ลอยละลิ่วลงมาสู่พื้นเสียงดังสนั่น

“อึออกรึยัง” รินตะโกนถาม โผล่หน้าเข้าไปในห้องพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง หากเมื่อกวาดสายตามองไปรอบห้อง รอยยิ้มก็เลือนหายไปจากใบหน้า คิ้วเรียวงามขมวดมุ่นเมื่อพบว่าภายในห้องน้ำนั้นกลับว่างเปล่า เด็กสาวมีสีหน้าฉงนกับร่างสูงที่หายไปอย่างน่าอัศจรรย์

“ช่วย...ด้วย...”

เสียงอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นใกล้ๆ รินขมวดคิ้วมุ่นไปกว่าเดิม พยายามมองหาต้นเสียง พลันก็เห็นมือยื่นออกมาจากใต้บานประตูที่เธอกำลังยืนอยู่ รินมีสีหน้าลังเล ค่อยๆเดินถอยหลังไปสามก้าว สายตาจับจ้องไปที่บานประตูปริศนาก่อนจะกลั้นใจยกบานประตูขึ้น

ชายร่างใหญ่ในชุดที่เคยหรูหราหากบัดนี้กลับยับยู่ยี่ซ้ำยังมีรอยฉีกขาดกำลังนอนนิ่วหน้าอยู่ใต้บานประตู เสียงร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดดังออกมาไม่หยุดจากริมฝีปากหนาที่มีรอยหนวดรำไร

ภาพของชายเคราะห์ร้ายทำเอาเด็กสาวยืนตะลึงไปห้าวินาที ก่อนจะได้สติเมื่อเห็นลำแขนแข็งแรงบิดเบี้ยวอย่างผิดที่ผิดทาง นัยน์ตาโตเบิกกว้างอย่างตกใจตามมาด้วยเสียงร้องตะโกนดังลั่น

“อเล็กซ์!!!”


+ + +


“เพล้ง!”

บรรยากาศอันน่าอึดอัดภายในห้องเพิ่มความร้อนขึ้นอีกดีกรีเมื่อเด็กสาวปัดแจกันดอกไม้ตกแตก รินหน้าจ๋อยอย่างไร้ซึ่งการเสแสร้งใดๆ ค่อยๆก้มลงเก็บเศษกระเบื้องอย่างระมัดระวัง

ไคที่ยืนนิ่งระงับอารมณ์เดือดปุดๆชายตามองรินก่อนจะถอนหายใจยาว เดินเข้าไปช่วยเด็กสาวเก็บเศษกระเบื้อง

คนหน้าจ๋อยชะงัก เงยหน้าขึ้นไปส่งยิ้มแป้น แต่ทว่า...สิ่งที่ได้กลับมาคือนัยน์ตาเข้มที่วันนี้เพิ่มรอยดุขึ้นเป็นสองเท่า ทำเอาสาวน้อยคนเก่งรีบหันกลับมาสนใจงานในมือต่อแทบไม่ทัน

มีร่ายืนมองนายหญิงของตนด้วยแววตาสงสาร ส่วนฟีอุสนั้นยังคงยิ้มแย้มตามปกติจนรินนึกเคือง

ยิ้มอยู่ได้! บ้ารึเปล่า!

แอ๊ด...

เสียงเปิดประตูทำเอารินสะดุ้ง ทุกคนในห้องหันไปมองคนเข้ามาใหม่เป็นตาเดียว รินกลั้นใจฟังคำพิพากษาจากศาลชั้นต้นที่เดินเข้ามาด้วยท่าทางอิดโรย

“กษัตริย์ทรงปลอดภัยแล้ว” สิ้นคำพูดของเดคารัส รินก็แทบจะกระโดดตัวลอยหากไม่เกรงใจนัยน์ตาสีฟ้าขุ่นที่จ้องมาอย่างไม่พอใจ

“แต่ยังทรงต้องเข้าเฝือกที่พระกรอีกหนึ่งเดือน” ประโยคถัดมาทำเอาคนที่กำลังยิ้มระรื่นถึงกับหน้าเสีย

ไคเผยยิ้มเยาะ “ไม่ต้องถึงกำหนด เพียงแค่หนึ่งวันเจ้าก็ทำงานล่ม”

รินหน้ามุ่ย ...ไม่ต้องมาตอกย้ำกันได้ไหม!

“รู้แล้วน่า! รับรองว่าอีกสองวันที่เหลือ สัญญาพันธมิตรจะมากองอยู่ตรงหน้านายแน่!!”

ไคหัวเราะเบาๆ “หึๆ แล้วข้าจะคอยดู”

ทั้งคู่ยืนประสานสายตากันเปรี๊ยะๆ รินเป็นฝ่ายสะบัดหน้าหนีก่อนจะเดินตึงตังออกไปจากห้องพร้อมกับ
ปิดประตูเสียงดังลั่น

ปัง!!

มีร่าส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ “ท่านไม่น่าไปกดดันท่านรินแบบนั้น”

น้ำเสียงตำหนิจากมีร่ากลับทำให้ไคเผยยิ้ม พูดด้วยท่วงทางสบายๆ ผิดกับเมื่อครู่

“ท่านรินของเจ้าไม่ใช่คนไร้ความรับผิดชอบ ข้ารู้ดี”

มีร่าเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าบ่งบอกความข้องใจ คนที่บัดนี้กำลังใช้พลังประสานรอยร้าวให้แจกันที่แตกกลับเป็นดังเดิมกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงเจือแววขบขัน

“แต่ท่านรินของเจ้าเป็นพวกนิยมแรงกระตุ้น ยิ่งกระตุ้นมากเท่าไหร่ เครื่องก็ยิ่งเดินดีมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะเชื้อเพลิงที่ชื่อว่ายั่วยุนี่ ท่านรินของเจ้าชอบนัก” พูดพลางจัดแต่งดอกไม้ให้เข้าที่ นัยน์ตาสีฟ้าใสทอประกายอ่อนโยนยามเมื่อเอ่ยชื่อเด็กสาว

มีร่ามองกิริยาที่ผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือของบุรุษชุดขาวแล้วก็สั่นศีรษะอย่างอ่อนใจ

คนหนึ่งก็ยั่วขึ้น อีกคนก็ช่างยั่ว พอมาเจอกันก็เลยกลายเป็นยุ่งยกกำลังสอง แล้วคนซวยจะเป็นใครถ้าไม่ใช่ราษฎรตาดำๆอย่างพวกเธอ


+ + +


รินเดินหน้าบึ้งไปตลอดทาง รังสีอำมหิตแผ่รอบตัวจนคนรอบข้างไม่กล้าเข้าใกล้ จะมีก็แต่ชายชุดดำที่มองตามไปด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย เขาวิ่งไปตัดหน้าพร้อมส่งยิ้มให้สาวน้อยที่กำลังตีหน้ายักษ์

“จะรีบไปไหน”

“ไม่ใช่เรื่องของนาย ถอยไปนะ” รินพูดเสียงแข็ง นึกเสียใจอยู่วูบหนึ่งที่อารมณ์เสียจนไปลงกับเซน แต่ร่างบางยังคงมีทิฐิ เชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี

“เจ้าจะไปเยี่ยมท่านอเล็กซ์ใช่ไหม” น้ำเสียงเจือแววอ่อนโยนของคนพูดทำให้รินมีท่าทีอ่อนลง

“อือ จะไปขอโทษ...” เสียงแผ่วลงอย่างสำนึกผิด “ที่ทำให้เจ็บตัว”

เซนพยักหน้าเข้าใจ ลอบมองใบหน้าด้านข้างของเด็กสาว นัยน์ตาคู่สวยที่ปกติเจือแววขี้เล่นอยู่เป็นนิจ หากวันนี้กลับดูหมองเศร้าจนคนมองใจหาย ใบหน้าที่แต่งแต้มเป็นอย่างดีนั้นไม่สามารถกลบรอยช้ำใต้ตาของเจ้าตัวได้สนิท เจ้าชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบเส้นผมนุ่มหนาเป็นมันเงาของคนข้างๆอย่างปลอบประโลม

“ข้ากำลังจะไปทางนั้นพอดี ถ้าข้าจะขอเดินไปด้วย จะได้ไหม” คำเปรยเบาๆทำให้คนกำลังใจแป้วเงยหน้าขึ้นมองอย่างยินดี แต่แล้วก็ต้องรีบหลบเมื่อสบนัยน์ตาสีดำสนิทที่บัดนี้แลดูอ่อนหวานจนคนเก่งหัวใจเต้นตึกตักขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

ร่างสูงที่ยืนอยู่ใกล้กอปรกับบรรยากาศรอบข้างที่เงียบสงบ ทำให้ได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงของสาวน้อยชัด เซนเผยยิ้มน้อยๆ พูดปลอบด้วยนึกเข้าใจว่าเจ้าตัวกำลังตื่นเต้นกับการเข้าเฝ้ากษัตริย์

“มีข้าอยู่ทั้งคน เจ้าไม่ต้องกลัว”

รินสะดุ้งโหยงเมื่อเซนโน้มตัวลงมากระซิบเบาๆที่ข้างหู เด็กสาวขนลุกซู่จนต้องรีบยกมือขึ้นลูบต้นคอและต้นแขน รินหันไปส่งยิ้มแหยพร้อมกับกระเถิบตัวออกห่างโดยอัตโนมัติ

เซนเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ

“เป็นอะไร”

“ฉัน...” รินพูดตะกุกตะกัก ก่อนจะโพล่งออกไป “ไม่ได้สระผม”

พูดจบก็กัดริมฝีปาก ก่นด่าตัวเองในใจที่หาเหตุผลดีกว่านี้ไม่ได้

“ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือ” เซนหัวเราะเบาๆอย่างขบขัน มองคนยืนกระสับกระส่ายด้วยนัยน์ตาอ่อนเชื่อมที่มีรอยพราวระยับ “จะว่าไปตัวเจ้ามักจะมีกลิ่นหอมประหลาด เจ้าใส่น้ำหอมหรือ”

คนตัวหอมโดยธรรมชาติถึงกับเดินสะดุด เสียงสบถเบาๆหลุดออกจากริมฝีปากบางอย่างโมโห ดวงหน้างามแดงระเรื่อให้คนข้างๆรู้ทันว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไร

เซนลอบยิ้ม

เด็กดื้อที่กำลังจะกลายเป็นหญิงสาว เขินได้น่าเอ็นดูจริงๆ

มือใหญ่เอื้อมไปคว้าเอวบางของเด็กสาวให้เข้ามาใกล้ พร้อมกับโอบแน่นไม่ยอมปล่อย รอยยิ้มเอ็นดูระคนขบขันปรากฏขึ้นตรงมุมปากเมื่อเห็นคนในอ้อมแขนยืนตัวเกร็งเป็นท่อนไม้ และก่อนที่ร่างบางจะได้สติออกฤทธิ์อาละวาด เซนก็ถือวิสาสะก้มลงจนจมูกชนกับเส้นผมสีดำขลับ สูดกลิ่นหอมสดชื่นพลางยิ้มอย่างพอใจ

“เจ้าโกหก ข้าไม่เคยได้กลิ่นอะไรที่หอมเท่าตัวเจ้ามาก่อน”

รินยืนอึ้งเมื่อสุภาพบุรุษกลายร่างเป็นหนวดปลาหมึก คำคาดโทษที่เอ่ยออกมาอย่างยั่วเย้าทำเอาใบหน้าซีดพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงแปร๊ด พูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

“วันนี้...นายไปกินอะไรผิดสำแดงมา”

ถึงได้ตาเชื่อม ปากหวานจนอยากจะวิ่งออกไปอาเจียนเสียเดี๋ยวนี้

“หึๆ สงสัยบรรยากาศในปราสาทแก้วทำให้ข้าควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ถึงได้เผยความในใจออกไปอย่างง่ายดาย”

ปรอทวัดความร้อนบนใบหน้าพุ่งทะลุเป้า รินผลักเซนออกอย่างแรงพร้อมกับเขยิบตัวถอยออกห่าง คนไม่เคยชินกับคำพูดหวานๆหอบแฮ่กด้วยความตกใจ

“นาย...นายต้องป่วยแน่ๆ! อย่ามาเข้าใกล้ฉันนะ ฉัน...” รินกัดริมฝีปาก ก่อนจะพูดโพล่งออกไปเสียงดัง “ฉันไม่อยากติดเชื้อบ้า!”

พูดจบรินก็วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ไม่แม้แต่จะหันมามองชายหนุ่มที่ระเบิดเสียงหัวเราะลั่น บุรุษร่างสูงหัวเราะจนต้องยกมือกุมท้อง นัยน์ตาสีดำสนิทพราวระริกอย่างอารมณ์ดี เจ้าชายคนสำคัญของแทร์เนียยอมรับกับตัวเองอย่างเต็มใจ

เขาหลงรักเด็กสาวจอมแก่นคนนี้เข้าแล้วจริงๆ หลงรักทั้งภายนอกและภายใน หลงรักนัยน์ตาสีเขียวคู่สวยที่สบตากันทีไร...หัวใจไม่เคยเต้นได้ตรงจังหวะเลยสักที แล้วยังการแสดงออกซื่อๆที่แสนจะน่ารักนั่นอีกล่ะ...

เซนเผยยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

ในที่สุด...เขาก็พบกับใครคนนั้นที่เขาค้นหามานาน

ร่างสูงหันหลังกลับ หัวใจอิ่มเอมอย่างมีความสุข สัมผัสอันอบอุ่นยังคงไม่จางหาย ชายหนุ่มเผลอสูดลมหายใจเอาบรรยากาศที่ยังคงมีกลิ่นหอมกรุ่นเข้าไปด้วยสีหน้าพึงพอใจ

เซนเดินจากไปโดยไม่ทันสังเกตเห็นสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองมาจากหลังเสาต้นใหญ่ ร่างนั้นมองตามเซนไปด้วยแววตาโศกเศร้าและปวดร้าว...


+ + +


กษัตริย์แห่งออสเทียร์นอนหลับอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ บานประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างบางที่ค่อยๆโผล่หน้าเข้าไปมองอย่างชั่งใจ เมื่อเห็นคนป่วยยังคงหลับสนิท รินจึงกลั้นใจเดินไปนั่งตรงเก้าอี้ข้างเตียง พินิจดูใบหน้าซีดเซียวอย่างรู้สึกผิด

“อือ...” อเล็กซ์ส่งเสียงครางยาวเมื่อรู้สึกถึงมือเย็นๆที่เอื้อมมาลูบที่หน้าผาก กระพริบตาถี่ๆก่อนจะลืมตาขึ้น

ดวงหน้างามที่กำลังจับจ้องมาอย่างสำนึกผิดเอ่ยเสียงแผ่ว

“ขอโทษนะ”

เสียงเศร้าและดวงหน้าจ๋อยๆของคนพูดทำให้อเล็กซ์เผยยิ้มบางๆอย่างเอ็นดู

“ไม่ต้องคิดมาก ข้าสบายดี” คำพูดปลอบประโลมที่ผิดไปจากความคาดหมายยิ่งทำให้รินรู้สึกผิดขึ้นเป็นทวีคูณ

อเล็กซ์ยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตน รินสังเกตเห็นจึงรีบกุลีกุจอหยิบผ้าชุบน้ำหมาดๆมาหมายจะเช็ดตามใบหน้าและลำคอให้ แต่คนป่วยรีบคว้าข้อมือของเด็กสาวเอาไว้ เอ่ยเสียงเข้ม

“อย่าทำแบบนี้ เจ้าเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งโกราล และอีกไม่นานเจ้าก็จะเป็นพระราชินี พระราชินีแห่งโกราลไม่จำเป็นต้องเช็ดตัวให้ใคร”

คำพูดจริงจังแฝงไว้ด้วยความเคารพทำเอารินอึ้งไป ความรู้สึกตื้นตันระคนดีใจบังเกิดขึ้น บัดนี้ฐานะของเธอได้รับการยอมรับจากบุรุษตรงหน้าแล้ว รินเงยหน้าขึ้นมองคนป่วยเต็มตา

“ฉันไม่ใส่ใจตำแหน่งเจ้าหญิงอะไรนั่นหรอก ก่อนที่ฉันจะมาเป็นเจ้าหญิงทาเชียน่า ฉันก็เป็นเพียงแค่เด็กสาวธรรมดาที่ชื่อว่าริน ตำแหน่งที่ได้มาก็เพียงแค่คำนำหน้า มันไม่ได้มีความหมายไปกว่าคำว่าเพื่อนหรอก เมื่อเพื่อนไม่สบายฉันก็ต้องดูแล แล้วยิ่งนายป่วยเพราะฉันด้วยแล้ว ฉันยิ่งต้องดูแลให้ดีกว่าปกติหลายเท่า” พูดจบ ร่างบางก็ลงมือเช็ดตัวให้อเล็กซ์อย่างแผ่วเบา

อเล็กซ์ลอบมองเด็กสาวด้วยสีหน้าครุ่นคิด เจ้าหญิงคนนี้แปลกนัก เขาไม่เคยพบเจ้าหญิงคนไหนมีกิริยาเช่นเธอมาก่อน ทั้งซนและดื้อรั้น แต่ก็มีจิตใจอ่อนโยน อีกทั้งยังไม่ถือตัว

ช่างเป็นเจ้าหญิงที่น่าสนใจอะไรเช่นนี้

อเล็กซ์นอนให้เด็กสาวเช็ดตัวให้ด้วยสีหน้าสบายใจ มือใหญ่เอื้อมไปหยิบเอกสารที่อ่านค้างไว้ขึ้นมาอ่านต่อ รินขมวดคิ้วมุ่น เอ่ยท้วง

“นายควรพักผ่อน”

“แต่งานของข้ามันพักไม่ได้ ยิ่งวันนี้ทำงานไปได้ไม่มากเท่าไหร่” อเล็กซ์หันไปมองริน นัยน์ตาสีเทาหรี่ลงราวกับจะพูดว่า...

ที่เธอวิ่งตามเขาต้อยๆนั่นมันรบกวนการทำงานที่สุด!

“งั้นฉันจะช่วยทำแทน” รินคว้าเอกสารจากมือของชายหนุ่มมาถือไว้โดยไม่รอฟังคำตอบ แล้วเริ่มลงมือทำงานหน้าตาเคร่งเครียด

อเล็กซ์นั่งอึ้งมองเด็กสาวที่เพ่งสมาธิอ่านเอกสารพร้อมกับจัดแยกออกเป็นหมวดหมู่ อันไหนไม่มีสาระ รินก็จัดการโยนกองไว้รวมกัน ส่วนเอกสารสำคัญเธอก็อ่านจับใจความสั้นๆให้ฟัง พลางยื่นปากกาให้เมื่อต้องเซ็นชื่อ

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว รินง่วนอยู่กับการอ่านเอกสาร ส่วนคนป่วยก็นอนฟังเสียงใสๆอยู่บนเตียง รู้สึกว่าอาการปวดที่แขนทุเลาลง อเล็กซ์ลอบยิ้มขันกับท่าทีเคร่งเครียดของสาวน้อย ยิ่งเมื่อเห็นผมยุ่งๆของริน เขาก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ

“หัวเราะอะไร” รินเลิกคิ้วขึ้น ถามอย่างเอาเรื่อง

“เจ้าไปพักเถิด เดี๋ยวที่เหลือข้าจัดการเอง” อเล็กซ์พูดอย่างใจดี

คนเมื่อยล้าเต็มทนพยักหน้าหงึกๆอย่างเต็มใจเป็นที่สุด เพิ่งรู้วันนี้เองว่างานของพระราชานั้นน่าเบื่อและน่าปวดหัวเพียงใด รินลองนึกภาพว่าเธอเป็นพระราชินีแห่งโกราล รอบตัวเต็มไปด้วยเอกสาร ด้านข้างมีไคยืนถือแส้ด้วยใบหน้าบึ้งตึง

เด็กสาวมีสีหน้าปั้นยาก กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝื่อน

ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เธอคงลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่ทำงานไม่ทันพ้นวัน!

อเล็กซ์ขยับตัวจะลุกขึ้น รินรี่เข้าไปช่วยประคองพลางถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นชายหนุ่มคว้าเสื้อคลุมขึ้นมาสวมทับ

“จะไปไหน”

“ตรวจเมือง”

“ทั้งๆที่แขนหักเนี่ยนะ!” รินร้องเสียงหลง ทำหน้ายุ่งใส่คนบ้างาน “ไปวันหลังเถอะ”

“ไม่ได้” อเล็กซ์ส่ายหน้า “ประชาชนของข้ากำลังเดือดร้อน”

รินอยากเอาหัวโขกกำแพงให้รู้แล้วรู้รอด เหลือบมองคนป่วยด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

คนหน้าซีดยกมือขึ้นเสยผมยุ่งๆให้เข้าที่ ใบหน้ายังคงมีรอยแดงระเรื่อจากพิษไข้ สภาพของคนผู้มีหัวใจกษัตริย์อย่างเปี่ยมล้นแต่ไม่เคยพิจารณาสังขารตัวเองว่าจะลากมันไปได้สักกี่น้ำดูแย่เสียจนรินลอบถอนหายใจ ความคิดที่แล่นเข้ามาในสมองทำให้ร่างบางเริ่มสงสัยตงิดๆว่านี่เธอกำลังหาเรื่องใส่ตัวหรือเปล่า!

“บอกมา” จู่ๆคนที่นั่งเงียบไปก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย คนกำลังแปลงโฉมให้ดูเหมือนโจรป่าเงยหน้าขึ้นมองคนพูดอย่างสงสัย

“ก็บอกมาสิว่านายจะไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เดี๋ยวฉันไปทำให้” รินถามย้ำ อเล็กซ์ที่เพิ่งเข้าใจความหมายส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย

“เจ้าไม่เข้าใจ สิ่งที่ข้ากำลังทำอยู่นี่มันอันตราย”

“เพราะอย่างนั้นฉันถึงต้องไปทำแทนนายอย่างไรล่ะ”

“เจ้ามันดื้อ” อเล็กซ์รำพันกับตัวเอง นึกอยากเห็นหน้าคนที่เลี้ยงดูเด็กสาวแสนแสบและดื้อรั้นคนนี้เสียจริงๆ

“คนแถวบ้านฉันบอกว่าเด็กดื้อคือเด็กฉลาด” พูดพลางยักคิ้วหลิ่วตา ยืดอกอย่างภาคภูมิใจ

“แต่คนฉลาดมักอายุสั้น” อเล็กซ์พูดต่อ ใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อเห็นคน ‘ฉลาด’ หันมาถลึงตาใส่

“เอาล่ะ ขอโทษด้วยนะสาวน้อย ข้าคงต้องไปทำธุระเสียทีแล้วไว้จะมาคุยด้วยใหม่” อเล็กซ์หันไปหยิบดาบ และกำลังจะเอื้อมไปหยิบวงพระจันทร์ที่วางไว้บนโต๊ะกลมสูง รินก็ใช้พลังทำให้มันลอยมาหาตัวเอง

อเล็กซ์ชะงัก น้ำเสียงพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดเมื่อสบตาคนขี้เล่นที่กำลังฉีกยิ้มหวาน

“เลิกเล่นได้แล้ว”

รินหมุนวงพระจันทร์ในมือไปมาอย่างสบายอารมณ์ “ฉันมีข้อเสนอ”

คำพูดลอยๆที่ฟังดูขัดหูยิ่งนัก หากคนไม่ชอบขัดใจสตรีก็ยืนนิ่งฟังด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

“ถ้าฉันจัดการปัญหาของนายได้สำเร็จ นายจะยอมเป็นพันธมิตรกับโกราลไหม”

คนหน้าเครียดชะงักกึก นัยน์ตาสีเทาเบิกกว้างอย่างประหลาดใจ

ดูพูดเข้า! ปัญหาของเขาอย่างนั้นหรือ นี่รินคิดว่าปัญหาของเขาคือไปวิ่งเล่นไล่จับกับเด็กสิบขวบหรืออย่างไรกัน ถึงได้เสนอตัวออกมาดื้อๆแบบนั้น!

“ปัญหาของข้าไม่ใช่เรื่องที่เด็กๆจะจัดการได้” น้ำเสียงเคร่งเครียดเมื่อคิดว่ากำลังโดนเด็กสาวปั่นหัวด้วยความสนุก หากคนจริงจังกับทุกคำพูดถึงกับหน้าบึ้งเมื่อถูกคนอายุมากกว่าไม่กี่ปีเรียกว่าเด็ก ริมฝีปากสีชมพูได้รูปเชิดขึ้นอย่างดื้อรั้น กล่าวเสียงห้วนด้วยความไม่พอใจ

“ไม่ลองก็ไม่รู้”

อเล็กซ์ถอนหายใจ จ้องนัยน์ตากลมโตที่มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมก็นึกรู้ว่าถึงอย่างไรเจ้าหญิงจอมจุ้นก็คงไม่ยอมแพ้เป็นแน่

นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องเขม็งแบบไม่ยอมหลบ รอยดื้อรั้นปรากฏชัดทั้งในแววตาและสีหน้า แล้วในที่สุด...กษัตริย์ผู้เป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้วก็ต้องยอมลงให้ด้วยสีหน้าอ่อนใจ เรื่องราวค่อยๆถูกเล่าออกมาอย่างช้าๆ

“เมื่อไม่กี่เดือนมานี้มีคนกลุ่มหนึ่งเรียกตัวเองว่ากองโจรดาร์คเทียร์ลอบเข้ามาอยู่ในออสเทียร์ พวกมันออกปล้นและฆ่าชาวบ้าน ข้าส่งคนออกไปตามจับเท่าไหร่ก็ล้มเหลว ซ้ำร้ายคนของข้าก็ค่อยๆล้มตายไปทีละคน จนในที่สุด...ข้าจึงตัดสินใจออกไปตามล่าพวกมันด้วยตัวเอง แล้วก็สืบจนได้เรื่องว่าจะมีคนส่งสารเดินทางมาจากแดนไกล ข้าจึงไปดักรอ...แล้วก็พบกับเจ้า”

รินพยักหน้า นึกถึงเหตุการณ์ที่เธอได้เจอกับอเล็กซ์ครั้งแรก มิน่า...เขาถึงได้เข้าใจผิด เรื่องมันช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้

“ข้าต้องการสืบสาวไปให้ถึงต้นตอ ให้ถึงรังของมัน ข้าอยากรู้ว่านายใหญ่ของมันคือใคร แล้วมันมีจุดประสงค์อะไรถึงได้เข้ามาก่อความวุ่นวายในออสเทียร์” คนพูดขบกรามแน่นเมื่อนึกถึงความโหดร้ายที่พวกมันสร้างขึ้น ชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องอยู่อย่างหวาดผวาไปวันๆ เขารู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อทราบข่าวความเดือดร้อนของประชาชน

รินพอจะเข้าใจสถานการณ์ได้ลางๆ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจได้

“ตกลง ฉันจะจัดการแก้ปัญหาเรื่องโจรแทนนายเอง”

อเล็กซ์ชะงัก มองคนตรงหน้าราวกับกำลังมองเด็กเล่นขายของ “รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา”

“นายก็เห็นอำนาจของฉันและคนอื่นๆแล้ว ยังจะสงสัยอะไรอีก” ทูตสาวจำเป็นพูดอย่างเหมารวมทันทีว่างานนี้ทุกคนต้องช่วยเธอด้วย

อเล็กซ์มีสีหน้าครุ่นคิด ถึงแม้เด็กสาวตรงหน้าจะดูบอบบางแต่ก็มีอำนาจจิต ส่วนผู้ติดตามแต่ละคน เท่าที่เขาเห็นก็มีฝีมือร้ายกาจนัก งานนี้อาจจะสำเร็จก็ได้

พันธมิตรกับโกราลอย่างนั้นหรือ?

ใช่ว่าจะเป็นข้อเสนอที่เลวร้ายนัก เขาเองก็ไม่เคยนึกชมชอบกษัตริย์กาลอสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร งานหมั้นระหว่างอาเมเลียกับเจ้าชายเซนฟาร์นั้นถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ ใจจริงเขาถูกใจเด็กสาวตรงหน้ามากกว่ากษัตริย์กาลอสหลายสิบเท่า หากเมื่อนึกย้อนถึงความปลอดภัยของประชาชน อเล็กซ์ก็มีสีหน้าคิดหนัก

แต่...ถ้าหากรินสามารถกำจัดกลุ่มโจรได้จริงๆ เมื่อถึงเวลานั้น...อาจจะมีทางเลือกที่ดีกว่านี้

“ตกลง” อเล็กซ์พูดออกมาอย่างไม่มีทางเลือก “ข้าให้เวลาเจ้าหนึ่งเดือน หากเจ้าทำสำเร็จ ออสเทียร์จะเป็นพันธมิตรกับโกราล”

รินยิ้มกว้าง นัยน์ตาเป็นประกายตื่นเต้น

“แต่ถ้าเจ้าทำไม่สำเร็จ ข้าคงต้องส่งตัวเจ้าให้กษัตริย์กาลอส หวังว่าเจ้าคงจะเข้าใจ” ประโยคถัดมาทำเอารินหน้าเสีย แต่ถึงกระนั้น...โอกาสที่ลอยมาหล่นอยู่ตรงหน้า ยังไงก็ต้องคว้าเอาไว้ก่อน ดังนั้นคำพูดตกลงโดยไม่ต้องคิดก็หลุดออกจากปากของเจ้าหญิงแห่งแทร์เนียที่กำลังฝืนยิ้มหวานอย่างให้กำลังใจตัวเอง

“ได้”

“เป็นอันว่าตกลงตามนี้ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปพักเถิด”

ชายหนุ่มเอ่ยอนุญาตไปสักพักแล้วแต่คนตรงหน้าก็ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ร่างบางยืนขยุกขยิกจนคนป่วยที่ตั้งท่าจะพักผ่อนเงยหน้าขึ้นมองพลางขมวดคิ้ว และก็ถึงบางอ้อเมื่อสาวเจ้าเอ่ยอ้อมแอ้ม

“เอ่อ...ไม่ใช่ว่าฉันไม่ไว้ใจนายนะ แต่ว่าฉันอยากได้สัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร จะเอาไปปาใส่ เอ๊ย! ไม่ใช่ จะเอาไปอวดใครบางคน นายพอจะทำให้ฉันได้ไหม”


========
((จบบทที่ 10))




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2549
1 comments
Last Update : 26 พฤษภาคม 2549 2:14:24 น.
Counter : 435 Pageviews.

 

รอตอนที่เหลืออยู่น้า

 

โดย: highfly IP: 124.121.159.123 30 พฤษภาคม 2549 19:20:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ฟ้าใส ช.
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Cursor by nuthinbutnet.net
First Love
~*Kiss Me*~
Friends' blogs
[Add ฟ้าใส ช.'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.