No matter what life brings, I just believe that... Everything happens for the best.

Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
7 มกราคม 2552
 
All Blogs
 

TBR'09 no.1 - The Judas Strain : ความลับของมาร์โค โปโล

เริ่มต้นด้วยนิมิตรหมายอันดีกับ TBR Challange 2009 โครงการทลายกองดองของปีนี้ อ่านเล่มแรกจบในเดือนแรกค่ะ ^^ สนุกจนวางไม่ลง อ่านจบใน 3 วัน >_<




เรื่อง : The Judas Strain
เขียนโดย : James Rollins






เล่มนี้เป็นเล่มที่ 4 ของหน่วย Sigma ค่ะ

สามเล่มแรกคือ

- Sandstorm

- Map of Bones

- Black Order


ถึงแม้ว่าแต่ละเรื่องจะเป็นเอกเทศ ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่อยากแนะนำให้อ่านเรียงตามลำดับนะคะ เพราะความสัมพันธ์ของตัวละครจะได้ต่อเนื่องกันค่ะ ^^

แถมเล่มนี้มีตัวละครจากเรื่อง Ice Hunt ด้วยค่ะ นายทหารเรือ Kowalski ตัวโตสุดฮาจากเรื่องนั้นมาเข้าหน่วย Sigma ด้วยแฮะ ^^"


....


สำหรับเรื่อง The Judas Strain นั้น ก็ไม่ทิ้งสไตล์ของพี่จิม ((James Rollins)) เป็นเรื่องที่ผูกช่องว่างทางประวัติศาสตร์ ตำนาน วิทยาศาสตร์ code breaking และการผจญภัยเอาไว้ด้วยกัน


เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงค่ะ การเดินทางของมาร์โค โปโล (Marco Polo) นักเดินทะเลชาวอิตาเลียนที่เดินทางไปยังประเทศจีน และกลับมาเล่าเรื่องราวต่างๆ ออกมาเป็นหนังสือให้ชาวยุโรปได้ฮือฮากัน แต่...มีบางอย่างที่มาร์โค โปโลไม่ได้เล่า

ตอนที่เขาออกจากประเทศจีน Kublai Khan ได้ขอให้เขาช่วยพาเจ้าหญิง Kokejin ไปส่งให้คู่หมั้นที่เปอร์เซีย Kublai Khan ได้ให้เรือมาร์โค โปโลถึง 14 ลำพร้อมกับทหาร 600 คน แต่พอมาร์โค โปโลได้เดินทางถึงท่าเรือ กลับเหลือเรือเพียง 2 ลำและทหารอีก 18 คนเท่านั้น เรืออีก 12 ลำหายไปไหน มาร์โค โปโลไม่ได้เล่าเรื่องนี้ และเก็บเป็นความลับจนตาย ... เขาได้ทิ้งคำพูดเอาไว้ว่า "เรื่องที่เขาเล่านั้น ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของที่ได้ประสบมาจริง"


กลับมาที่ปัจจุบัน หน่วย Sigma ได้รับรายงานข่าวว่ามีโรคระบาดในเอเชีย Director Painter Crowe จึงได้ส่งทีมของเขาสองคนไปที่นั่น Monk...ผู้เชี่ยวชาญด้าน forensic และ Lisa แฟนสาวของเขาที่เป็นหมอ

ขณะเดียวกัน Seichan...สาวสมาชิกของ Guild...ศัตรูตัวร้ายของหน่วย Sigma ก็ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ และมาขอความช่วยเหลือจาก Commander Gray Pierce ... Seichan มาพร้อมกับ Obelisk อันหนึ่ง ซึ่งมี Angelic Script เขียนอยู่ ... มันเป็นโค้ดที่จะนำไปสู่ความลับที่มาร์โค โปโลซ่อนเอาไว้


Monk และ Lisa ได้พบว่า โรคระบาดนั้นไม่ใช่โรคระบาดธรรมดา เป็นโรคร้ายแรงถึงสามารถทำให้มนุษยชาติสูญสิ้นได้ทีเดียว ... และ...ทั้งสองยังต้องเผชิญหน้ากับคนที่ทาง Guild ส่งไปด้วย

ส่วนด้านของ Gray และ Seichan ก็โดนนักฆ่าของ Guild ตามล่า


Guild ต้องการโรคที่เกิดจากแบคทีเรียนี้มาผลิตอาวุธเชื้อโรค แต่ยังไม่พบวิธีการรักษา จึงดำเนินการสองทาง ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ฝั่งที่ Monk และ Lisa ถูกส่งไป และทางประวัติศาสตร์ด้วยการตามล่า Gray ด้วยเชื่อว่าสิ่งที่มาร์โค โปโลได้พบและปิดบังเอาไว้คือคำตอบ

หน่วย Sigma จะต้องเอาตัวรอดจากการจู่โจมของ Guild และจะต้องหาคำตอบของการรักษาโรคนี้ให้ได้


.....


การดำเนินเรื่องจะสลับเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินไปของแต่ละฝ่ายนะคะ ฝ่ายทางแพทย์ และฝ่ายที่แกะรอยทางประวัติศาสตร์ ทั้งสองฝ่ายก็โดน Guild ตามล่า ต้องเอาตัวรอดไปพลาง หาคำตอบไปพลาง จนกระทั่งมาบรรจบกันที่คำตอบสุดท้ายตามสไตล์พี่จิม

เรื่องนี้สนุกค่ะ อ่านแบบวางไม่ลง ฝีมือพี่จิมดีจริงๆ มือไม่ตกเลย และหาเรื่องน่าสนใจเอามาผูกเรื่องได้แนบเนียนทีเดียว


ประวัติศาสตร์และตำนาน

นอกจากเรื่องเกี่ยวกับมาร์โค โปโลและเส้นทางการเดินเรือของมาร์โค โปโลแล้ว ยังมีตำนานเกี่ยวกับฮินดู แถมด้วยประวัติศาสตร์เกี่ยวกับนครวัตร-นครธมอีกด้วย ((อ่านแล้วก็เพิ่งรู้ว่า ประเทศไทยเคยรุกรานเขมรด้วย ^^" อ่อนประวัติศาสตร์ไทยจริงๆ))

ฉากของเรื่องไล่ตั้งแต่ อิตาลี ตุรกี อิหร่าน เขมร


วิทยาศาสตร์

เกี่ยวกับ Judas Strain ค่ะ...มันคือไวรัสที่ทำให้แบคทีเรียเปลี่ยนสภาพไป ทำให้แบคทีเรียที่เป็นมิตรและ benign กลายเป็นแบคทีเรียที่ทำลายล้างได้


Code breaking

เล่มนี้ใช้ angelic script ซึ่งเป็นตัวอักษรที่มีคนคิดขึ้น เกี่ยวเนื่องจากภาษาฮิบรูโบราณ เชื่อว่าเป็นภาษาที่สามารถใช้ติตต่อกับ angel ได้ เก๋มากๆ ค่ะ

ใครสนใจเข้าไปดูได้ ที่นี่ นะคะ เว็บไม่อนุญาตให้ลิงก์รูปค่ะ

....


อ่านจบแล้วก็ทึ่งพี่จิมเหมือนกับหลายๆ เรื่องที่ผ่านมาว่า "คิดได้ยังไง" การผูกเรื่องทำได้เนียนค่ะ การเอาวิทยาศาสตร์มาเกี่ยวข้องก็ดูน่าเชื่อถือ

เล่มนี้ที่อ่านสนุกเป็นพิเศษด้วยก็เพราะสถานที่ในเรื่องนี่ บางที่ไอซ์เคยไปแล้ว อย่างเช่น Hagia sofia ในตุรกี เห็นภาพดีค่ะ อิอิ


สรุปว่าชอบมากๆ เลยเรื่องนี้ อยากอ่าน The Last Oracle ที่เป็นเล่มต่อจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่ปกอ่อนจะออกซักทีน้า >_<



สปอยล์


ชอบการโยงประวัติศาสตร์และตำนานมากๆ

- เพิ่งรู้ว่านครวัตร-นครธม สร้างตามลักษณะของดวงดาว
- การโยงตำนาน 'milk churning' กับการเกิดโรค
- การโยงเทพ Rangda กับลักษณะของคนที่โดนแบคทีเรียจน glow
ฯลฯ

ตอนท้ายพี่จิมทิ้งปริศนาเอาไว้

- ชะตากรรมของ Monk ตอนแรกนึกว่าตายแน่ๆ แล้ว แต่ตอนท้ายเรื่องมีทิ้งท้ายไว้ว่า Monk รอด จะต้องเอามาใช้ต่อแน่ๆ

- เรื่องของ Susan ... หลังจากที่ถูกช่วยเหลือออกมา กลายเป็นยารักษาแล้ว เธอกลับไปที่เขมรอีก ที่นั่นเธอได้พบกับคนอื่นๆ ซึ่งเคยมีชะตากรรมเดียวกัน มีการทิ้งท้ายไว้ว่า เธอจะนอนหลับจนกว่าวันที่ "โลกพร้อม" ...มันจะมีอะไรต่อเนื่องอีกหรือเปล่า





ปิดท้ายด้วยหนังสืออ้างอิงที่พี่จิมแนะนำให้อ่านต่อตามเคยค่ะ

- Heaven's Mirror - Graham Hancock, Santha Faiia



ไอซ์มีหนังสือของ Hancock เล่มอื่นอยู่สองเล่มค่ะ หนังสือของเขามีทฤษฎีแปลกๆ น่าสนใจดี อ่านไปเล่มละหน่อยแล้ว แต่เล่มนี้ไม่มีค่ะ


- Human Wildlife - Robert Buckman



เล่มนี้ก็น่าสนใจค่ะ เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในร่างกายของเรา ในนิยายบอกว่า สิ่งต่างๆ ในร่างกายนั้นเป็นของเราจริงๆ ไม่ถึง 10% ที่เหลือเป็นอย่างอื่นทั้งนั้น




อ่านเล่มนี้จบไปด้วยความตื่นเต้นระทึกขวัญ ตอนนี้หยิบ The Book Thief มาอ่านไปได้หน่อยนึงแล้วค่ะ ((40 หน้า)) คนละอารมณ์กันเลย อ่าน The Secert History พร้อมกันไปด้วย ((อ่านจบบทแรก)) ...นั่นก็ทฤษฎีหลุดโลก เอิ๊ก




 

Create Date : 07 มกราคม 2552
10 comments
Last Update : 7 มกราคม 2552 18:36:25 น.
Counter : 3838 Pageviews.

 

รวดเร็วทันใจดีจัง....คราวนี้คุณไอซ์ต้องผ่านฉลุยหมดแน่ๆ

 

โดย: นัทธ์ 7 มกราคม 2552 22:31:08 น.  

 

ก่อนอื่น...ขอกรี๊ดดังๆ ตะกี้พิมพ์ไปเยอะ กดผิด หายวับไปกับตา เศร้าใจจริงๆ

พี่เข้ามาดีใจด้วยจ้า ที่อ่านจบไปเล่มหนึ่งแล้ว พี่ก็อ่านจบไปเล่มแล้ว แต่มันบางๆ เบาๆ สบายๆ เลยจบเร็ว เรียกว่าเอาฤกษ์เอาชัย อิอิ

อ่านรีวิวเรื่องนี้แล้วอยากอ่านมากๆ เลยค่ะ แต่ให้อ่านภาษาอังกฤษคงไม่ไหว ท่าจะจบยาก ใช้เวลานานแน่ๆ ยิ่งรู้ว่าเป็นซีรี่ย์เดียวกับหนังสือที่มียิ่งอยากอ่าน แต่ทำให้ลังเลที่จะอ่าน Map of Bones นิดหน่อย เพราะพี่มันประเภทโรคจิตน่ะนะ ถ้ามีคนบอกว่าควรอ่านเรียงลำดับ พี่ก็จะอ่านเรียงลำดับ แหะๆ (ใจง่ายเนอะ เชื่อคนง่าย) เดี๋ยวต้องไปเสิร์ชหาก่อนว่า Sandstorm แปลเป็นไทยหรือยัง

 

โดย: คีตาญชลี 8 มกราคม 2552 0:31:53 น.  

 

ป้าด อะไรจะอ่านได้เร็วขนาดนี้ อิอิ
กดดันๆ วุ้ย



เล่มนี้น่าสนใจเชียวครับ

 

โดย: Boyne Byron 8 มกราคม 2552 11:34:04 น.  

 

...หวังว่าปีนี้จะไม่ล่มค่ะคุณนัทธ์ แต่ช่วงแรกๆ ยังเห่ออยู่ เดี๋ยวพอเวลาผ่านไป มีหนังสือใหม่มาอีก ตอนนั้นน่าเป็นห่วงค่ะ เอิ๊ก

...เรื่อง Sandstorm เรียกได้ว่าเป็น pre-series นะคะพี่คี ตัวเอกคือ Painter ซึ่งพอเล่ม Map of Bones จะกลายเป็นเจ้านายของพระเอกอีกทีอะค่ะ

อ่านเรียงดีกว่าจริงๆ ค่ะ เพราะจะมีการพูดถึง Guild ซึ่งเป็นศัตรูถาวรของหน่วย Sigma ด้วยค่ะ

แต่...ถ้าเทียบกันแล้ว Sandstorm สนุกน้อยที่สุดในสี่เล่มนี้อะค่ะ ฮา

...เล่มนี้เป็นงานของนักเขียนคนโปรดจ้า ปกติพี่ก็อ่านหนังสือสปีดนี้แหละ พอดีช่วงนี้ยังพักผ่อนอยู่ แต่ถ้ามีงานเข้าเมื่อไหร่ จะอ่านช้ามากจ้า

 

โดย: Clear Ice 8 มกราคม 2552 13:46:34 น.  

 

ประเดิมด้วยดีนะคะ อ่านแล้วสนุกเนี่ย ดีจัง

รอลุ้นเล่มต่อไปนะคะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 8 มกราคม 2552 14:03:05 น.  

 

ฮา เล่มต่อไปแววไม่ค่อยดีค่ะพี่เติ้ล กำลังอ่าน The Book Thief อยู่ รู้สึกว่ามันเด็กๆ แฮะ แหะๆ

 

โดย: Clear Ice 9 มกราคม 2552 9:38:57 น.  

 

เอ ! ชื่อไทยกับอังกฤษไม่ตรงกันนี่คะ

 

โดย: หวานเย็นผสมโซดา 11 มกราคม 2552 14:11:15 น.  

 

อะ...ภาษาไทยข้างบนไม่ใช่ชื่อเรื่องค่าหวานเย็นฯ เป็นการบอกว่าเนื้อเรื่องมีโยงเกี่ยวกับอะไรบ้างเฉยๆ แฮ่ๆ

 

โดย: Clear Ice 12 มกราคม 2552 8:35:12 น.  

 

ดู Index รายชื่อหนังสืออื่นๆ ที่ไอซ์ได้รีวิวไปแล้วตามลิงก์ข้างล่างค่ะ

- หนังสือภาษาอังกฤษ
Index Bookshelf : English Books

- หนังสือแปล
Index Bookshelf : Translated Books

- หนังสือภาษาไทย
Index Bookshelf : Thai Books

 

โดย: Clear Ice 8 พฤษภาคม 2553 11:41:49 น.  

 

สอบถามหน่อยครับ โพสไว้ที่ pantip ด้วย ขอมาโพสที่นี่ด้วยนะครับ

//www.pantip.com/cafe/library/topic/K12510276/K12510276.html


อ่านจบแล้วก็ยังมีบางประเด็นงงๆ (ใครกำลังจะอ่านผ่านไปเลยครับ spoil นะ)

1.ตกลงว่ามองก์น่าจะรอดใช่ไหมครับ ทิ้งท้ายไว้ซะแบบนั้น
2.สิ่งที่อยู่ในบึงน้ำใต้ปราสาทบายน เป็นแบคทีเรียเรืองแสง หรือว่าเป็นจูดาสไวรัสกันแน่
3.หลังจากที่บึงน้ำใต้ปราสาทบายนระเบิดแล้ว เชื้อโรค (ไวรัสหรือแบคทีเรีย??) น่าจะกระจายออกมา ทำไมผู้การเพียซร์ เซซาน ลิซ่า ไม่เป็นอะไร ช่วงนี้เนื้อเรื่องงงๆ
4.ตอนจบที่ซูซานขึ้นไปในถ้ำบนเทือกเขาบรรทัด ชายแดนไทย-กัมพูชา เข้าไปทำอะไรอ่ะครับ แล้วคนอื่นๆที่เรืองแสงอยู่ในถ้ำนั้นมาจากไหนกัน คืออยู่ดีๆก็ล้มตัวลองนอน แล้วเหมือนว่าอยู่ๆจะเข้าใจภาษาอิตาลีโบราณ (ภาษาฑูตสวรรค์??)ซะด้วย แล้วก็จบไปซะงั้น

 

โดย: ไร้ชื่อ IP: 115.87.219.125 14 สิงหาคม 2555 10:38:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Clear Ice
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Friends' blogs
[Add Clear Ice's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.