พฤศจิกายน 2554

 
 
1
2
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ก้อนหินกับสายลม#3-ปรับพฤติกรรม


หลังจากเคลียร์กันเรียบร้อย (เคลียร์ด้วยวิธีนี้ทีไร เราอารมณ์ดีทู้กกที 555)


คุยไปคุยมา มันเห็นเริ่มอารมณ์ดี


เลยมีออกตัวเรื่องกล้องบ้างว่า ก็เราไม่รู้เธอจะเอาป่าวอะ อ้างนั่นอ้างนี่


ดูแล้วไม่ชัวร์ เราก็ไม่รู้ยังไง 



เราก็ขึ้นเสียงได้อีก บอก อย่ามาพูดแบบนี้นะ เพราะมันฟังไม่ขึ้น!!


เราอะ บอกชัดเจนเลยนะ ว่าเอารุ่นนี้ๆ 


แล้วเธอบอกว่าไง บอกว่าให้โอนเงินมาก่อนใช่ไหม !!


อย่ามาแถ!! (พร้อมกับดันตัวหนี จากอ้อมกอด)


พี่แกก็ อ้ะ ยอมๆ ขอโทษ (อิอิอิ ก็มันผิดชัดๆ ผิดเต็มประตู จะอ้างอะไรได้) 





นอนเล่นกอดกันไปมา เราก็ถามเค้าว่า



"ชอบส่วนไหนในตัวเราอะ"

"อืม ไม่รู้ดิ (ทำท่าคิด) อ๋ออ ผมอะ ผมเธอสวย"



"แล้วนิสัยล่ะ" (คำถามที่อยากถามจริงๆ อิอิ)



"ตรงไปตรงมาดี"



"ยังไงอะ คือ แบบ ดีลด้วยง่ายดี ไรแบบนี้ปะ"



"เคยดูละครมะ"



-*-



"ไม่รู้สึกเหรอ บางคนคุยด้วยเแล้วรู้อะ ว่าเฟค" 



"อ๋อ ไม่จริงใจงี้ปะ"



"ช่ายย 

อย่างเธออะ ร้องก็ร้องเลย หัวเราะก็หัวเราะ"



(แอบดีใจ คริคริ)



อ้ะ เอาเป็นว่า คืนแรกนี้ แฮปปี้เอ็นดิ้งกันดี





วันที่สอง ย้ายที่พักไปอีกอำเภอ (ขอเล่าแบบบทสนทนานะคะ)



ยืนรอรถกันอยู่



เธอ : มีกระจกปะ 

เรา : ทำไมอะ

เธอ : จะทาครีม หน้ามันแห้ง เริ่มแสบหน้าแล้วอะ

เรา : ไม่มีอะ ทาให้เอาปะ

เธอ : (หน้าตาเหมือนไม่ได้นึกว่าจะทาให้) อืม เอาดิ

เรา : งั้นถือกระเป๋าดิ๊ (กระเป๋ายีนส์ใส่โน๊ตบุ๊ค หนักสองสามโล)

เธอ : โห ไรเนี่ย 

(เอาไปวางไว้บนเป้เราที่วางบนพื้น ละถือสายเป๋ายีนส์ พยุงไว้ 

คือไม่ถือเองทั้งใบ แต่ใช้วิธีทุ่นแรง 

บอกแล้ว พ่อคนนี้ ประหยัดทรัพยากรทุกทาง ในที่นี้คือประหยัดแรง) 

เรา : (ทาๆๆ ทาเสร็จแล้วบอก) เสร็จละ มือที่ทาๆนี่ก็ เมื่อกี๊เข้าห้องน้ำแล้ว ยังไม่ได้ล้าง 5555555

เธอ : (ยิ้มๆ ละทำหน้าตาแบบ หนอยยยย)





พอลงจากรถ เดินหาที่พัก อากาศร้อนมั่กๆ

เรา : ช่วยถือหน่อยดิ หนักแล้วววว

เธอ : ไม่เอา ถือเองดิ

เรา : น่านะ ถือหน่อย 

เอากระเป๋าไปคล้องไหล่ให้ เล่นมุกยิ้มหวาน 

จริงๆแอบสังเกตพฤติกรรมด้วยว่าหลังจากเคลียร์กันมะคืน พฤติกรรมจะดีขึ้นไหม

พี่ท่านหยิบสายกระเป๋าบนบ่าตัวเอง ส่วนเราแอบอมยิ้ม คิดว่า เย้ ถือให้แล้ว 

(ดีใจเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ แต่เพราะมันไม่เคยถือให้ เลยเหมือนแบบ ต้องให้ถือให้ได้ 555 โรคจิตใช้ได้เลยตรู)





ปรากฎ เอาสายกระเป๋ามาคล้องคอเราเหมือนเดิมละบอก



"ถือเองงงดิ" พร้อมกับยิ้มหวานกว่า ส่งมาให้ !!!



ปรี๊ดดดค่ะ เพิ่งพูดเรื่องเห็นแก่ตัวไป ไม่สำนึกเลยชิมิแก!!!

ตอนนี้เริ่มชั่งใจละ จะวีนอีกดีไหม หรือปล่อยไป



พอหาที่พักได้ ละบอกให้มานช่วยยกกระเป๋าเดินขึ้นข้างบนให้ 

สามชั้น กับกระเป๋าสองใบ หนักร่วมสิบโล สมควรที่มันต้องโชว์แมนซักใบชิมิคะ

อินี่ ไม่ยอมถือค่ะ 

ฮ่วย โน๊ตบุ๊คนี่เมิงก็ใช้นะ ความละอายไม่มีเลยนะเมิ้งงง!!



ตัดสินใจเด็ดขาด

มะวานมันง้อ เพราะเพิ่งทำเรื่องไว้ ละเราเพิ่งวีน เรื่องเห็นแก่ตัว ไป

ถ้าจะวีน ต้องวีนต่อเนื่อง น่าจะมีเปอร์เซ็นการง้อ มากกว่าห้าสิบ

ถ้าปล่อยไปจนทริปหน้า อาจจะล่อไปหลายเดือน หรือข้ามปี

ตอนนั้นก็คงไม่มีประโยชน์

และอานุภาพทำลายล้างคงไม่เพียงพอ (5555 อย่างกะหนังไอ่มดแดง มดเอ็กซ์เลยเนอะ)



เพราะฉะนั้น เราก็หน้าหงิกมันตอนนั้นเลยค่ะ เดินไม่พูดไม่จาสามชั้น ขึ้นไปถึงห้อง



พี่ท่านเปิดประตู แล้วพูดๆ ถามไรซักอย่าง

เเต่เราเงียบ 

เห็นจากปลายหางตาว่าหันมามองหน้า



เราวางกระเป๋าแล้วไปนั่งริมหน้าต่าง

พี่แกก็พูดๆไรอีก เราก็เงียบ

เห็นเราเงียบ เลยเดินมาเอามือจับคาง บอก เป็นไรอะ

เราหันคางหนี ทำเป็นดูโทรศัพท์ แต่น้ำตาเริ่มคลอ (คงแดงๆ แต่ไม่ได้ไหลลงมา)

พี่แกเดินไปนอนที่เตียง ซักพัก ก็เดินมาหาเราอีก แล้วดึงแขน

ไหนมานอนกอดๆหน่อยจิ๊



เราปัดแขนออก

ละไม่มองหน้า และเงียบ

พี่แกเลยไปนอนแผ่บนเตียง ท่าทางคงจะหลับเอาแรง ประมาณว่างอนได้งอนไป กรูนอนก่อนละกัน 

เราก็ไม่ยอมค่ะ เรื่องไรรอจนมานหลับ

ก็ลุกไปเก็บของ หยิบโน๊ตบุ๊ค และชุดว่ายน้ำ กะว่าไปฆ่าเวลาที่สระว่ายน้ำก็ได้

ไม่ลืมหยิบกุญแจห้องไปด้วย

ดูดิ๊ ถ้าหิว จะออกจากห้องยังไง 555555





เดินลงมาชั้นสอง พอดีมีโซฟาน่านั่ง ตรงส่วนกลาง 

เลยเดินไปนั่งเล่นเน็ทมันตรงนั้น

เม้ามอยระบายกะเพื่อน

ผ่านไปสองสาม ชม

พี่แกเดินลงมา 

บอก ไปกินข้าวกัน (เชอะ นึกว่าจะแน่)

เราเฉย

เค้า : (เอามือจับคางให้หันหน้ามา) เป็นไรเนี่ย 

เราหันหน้าหนี

เค้า : เราไม่ได้ล๊อคห้องนะ เอาของไปเก็บ ละไปกินข้าวกันเถอะ

เราตาคลอๆอีก แต่ทำหน้าเฉย ละบอก เธอไปก่อนเลย

เค้า : งอนไรอีกอะ ไปกินข้าวกันป่ะ 

เรา : จะไปก็ไปเถอะ เดี๋ยวเราก็ไปกินของเราเองอะ

เค้า : งั้นเราเอากุญแจไปนะ

เรา : (เสียงเริ่มรำคาญ) เดี๋ยวเราเอาไปทิ้งไว้ให้ตรงเค้าท์เตอร์ละกัน จะไปก็ไปเถอะ



สุดท้ายก็ต่างคนต่างแยกกันกินข้าว



ตกกลางคืนมันกลับมา เห็นเรานอนบนที่นอน ก็มาเอามือจับคาง ถามว่า เป็นไร งอนไร 

เราก็ไม่สน เงียบอย่างเดียว

มันก็ไปนั่งดูทีวีที่ปลายเตียง

เรานอนอ่านหนังสือแถวหัวเตียง

อ่านๆไป เพราะร้องไห้ ตอนที่นั่งเล่นเน็ทที่ชั้นสอง

จมูกมันเลยคัดๆ มีน้ำมูก 

ก็สูดน้ำมูกฟืดๆ

สูดที มันก็หันมามองที

สูดอยู่สองสามที มันก็บอก ร้องไห้เหรอ ละเดินเข้ามาหา

ถามว่า ร้องไห้เหรอ เป็นไร งอนไร พูดมาดิ



เราก็เฉย เงียบ

มันก็กลับไปดูทีวีต่อ



อ่านหนังสือไปเริ่มเบื่อ เลยดูทีวีกะมานด้วย

ทีนี้ ก็เริ่มอารมณ์ดีขึ้น เลยวิจารณ์ทีวี

มันก็คุยด้วย ละเดินมาหา มานอนกอด เราก็ถอยหนี บอก ไม่ต้องมากอด ไป ไป๊

มันก็เอามือจี้เอว ละกอดแน่นขึ้น

เราก็เลยเอาถุงขนมหวานที่เรากินอยู่ แปะหน้ามัน 

มันก็หนี ละบอก เฮ่ย สกปรกนะเนี่ย



เราก็หัวเราะขำ แต่ก็กลับมาโหมดเก๊กขรึมอีก

มันก็กลับไปดูทีวีต่อ

พอดูเสร็จ มานก็มาคุยด้วยอีก ถามว่า เป็นไร งอนไร พูดมาเลยดิ ร้องไห้ทำไม

เราเอาหน้าแนบหมอน ละนอนน้ำตาไหลพรากๆ

แกล้งให้มันทรมานเล่น 

ปกติทุกครั้ง เราจะคุยเลย

แต่อยากไม่สำนึกดีนัก ต้องเอาให้หนักหน่อยคราวนี้ 555555



จริงๆคิดในใจด้วยแหละ ถ้าบอกว่า ทำไมไม่ถือกระเป๋าให้เรา ล่ะก็ จบเห่ !!

หน้าอย่างมัน เรื่องแบบนี้คือเรื่องไร้สาระ



มันถามอยู่หลายที จนในที่สุดเราก็เปิดปาก

บอกว่า

-ไม่รู้สิ เราคงคิดไม่เหมือนกันมั้ง (เปิดให้งงๆไว้ก่อน จะได้สนใจฟังต่อ อิอิ)



-ทำไมอะ คือไร



(จำไม่ได้แล้วว่า เอามาโยงต่อกันยังไง แต่คงประมาณว่า)



-เธอรู้มั้ย ตั้งแต่รู้จักกันมา เธอไม่เคยจะถือกระเป๋าให้เราเลย



-เรื่องแค่นี้อะนะ มันเล็กน้อยนะเนี่ย



-ไม่ใช่แค่นี้หรอก อย่างเรื่องกล้องเงี้ย ที่เธอไม่ซื้อให้ มันก็เหตุผลเดียวกัน



-มันเกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย 



- (ไม่เกี่ยวแต่ตรูจะเอาให้เกี่ยว มีไรปะ 5555 เลยพูดช้าๆ ชัดๆ พร้อมกับน้ำตานองหน้าไปว่า) 

มันเป็นเรื่อง ความ-เห็น-แก่-ตัว

เวลาเธอทำอะไรนะ priority ที่เธอคิดถึง มีอยู่สองอย่าง

หนึ่ง เรื่องเงิน

สอง อะไรที่ลำบากเธอ



จริงมั้ย



ที่เธอไม่เอากล้องมา ก็เพราะว่า มันลำบากเธอ ละแถมเกี่ยวกะเรื่องเงินๆทองๆอีก





- ละเธอไม่งกหรือไง เธอกะเราใครงกกว่า (ยังอุตส่าห์พยายามจะเถียง)



- อ่าว ละความงกวัดกันยังไง



- อ้ะ อย่างของอย่างเดียวกันเงี้ย

จองห้องงี้ เธอเอาห้องพัดลม เราเอาห้องแอร์ 

แบบนี้ใครงกกว่า (โปรดสังเกตว่า เถียงแต่ประเด็นงก ไม่ได้เถียงประเด็นเห็นแก่ตัว หุหุ )



- อ้ะ ก็คนเรามีลิมิตของตัวเองไม่เท่ากันนะ อย่าลืม

อย่างถ้าเธอมีร้อย ห้าสิบของเธอคือโอเค

แต่ถ้าเรามีแค่สิบ

ห้าของเราคือโอเค ใช่มะ



- ละเธอรู้ได้ไง เรามีมากกว่า



- ไม่ใช่ 

ที่เราจะบอกคือ คนเรามีลิมิตในใจกับเรื่องต่างๆไม่เท่ากัน

อย่างเรื่องห้อง

เราอะ ขี้หนาว เราเลยนอนพัดลมก็ได้

แต่เธออะ ขี้ร้อน เธอก็เอาแอร์

เห็นมั้ย ว่ามันวัดกันไม่ได้

เราถึงถามไง ว่าวัดความงก วัดยังไง



- (ประเด็นนี้ตกไป เพราะคู่กรณีจนแด้ม 555)





-เรื่องกระเป๋านะ ปกติเวลาไปเที่ยวกะเพื่อนๆชายคนอื่น อย่างน้อย เค้าก็ต้องมีถามว่า

เออ เป็นไง ไหวมั้ย ช่วยมั้ย

ยกกระเป๋าขึ้นรถ ขั้นบันไดงี้ เค้าก็ต้องช่วย

นี่เธอไม่มีเลยนะ ขนาดเราขอร้องแล้ว



-แต่เรื่องกระเป๋่าเนี่ย ปกติเวลาเที่ยวกะเพื่อนๆ ใครแพคไรมา คนนั้นก็แบกเองนะเว้ย

ของใครของมานอ่า





- เหรอ ตอนไปจีน จำได้มั้ย

ที่เราขนกระเป๋าขึ้นรถไฟกัน บันไดมันแค่สามขั้น แต่กระเป๋าเราหนักมาก

เราเลยขอให้ พนง รถไฟที่ยืนตรงประตู ช่วยขนขึ้นให้

มันเหล่ตามองกระเป๋า แล้วบอกว่า หนักนะเนี่ย แล้วไม่ช่วยยก

อ่าว ถ้าไม่หนัก แล้วกรูจะขอร้องเมิงไหม

แม่ม โคดเกลียดเลย ผช จีน



ละพอเรามาถึงไทยนะ

ตอนกะลังจะหยิบกระเป๋าตรงสายพาน

มีฝรั่งคนนึง โผล่มาจากไหนมะรู้

บอกว่า คุณไม่ต้อง ผมเอง

โดยที่เราไม่ได้ขอเลยด้วย



เธอเข้าใจมั้ย คำว่า เรื่องปกติอะ เรื่องปกติ

ใครที่ไหนเค้าก็ทำกัน

แต่เธอนี่ ไม่มีเลยยย (เน้นเสียง) 

แม่มม เกิดมาไม่เคยเห็น คนไรจะชั่วได้ขนาดนี้

นี่ไม่ต้องไปถึงจีนเลย

ที่ กทม ก็มีแบบนี้คนนึง



ตอนไปน้ำตกกัน เธอก็มาตะแง้วๆ บอกให้เราเก็บของๆ

นึกว่าห่วง เปล่าหรอก

เธอจะเอาของของเธอมาใส่กระเป๋าเรา

แม่ม ไม่งั้น ไม่สนใจหรอก

เรื่องของเมิง ก็เรื่องของเมิงไม่เกี่ยวกะกรู ใช่มะ

ละเอาของตัวเองมาใส่กระเป๋าเราไม่พอ 

ดันเอาของของเราออกมาใส่ถุงพลาสติก ให้เราหิ้วถุงพลาสติกเองซะงั้น

ฮ่วย กระเป๋าตรูนะเนี่ย



- เห้ย อาไรอะ ใช่เหรอ



- อย่าเถียงได้ไหมเนี่ย ชั้นเขียนบันทึกไว้ จะอ่านไหม!!



- อูยยย ขนาดนั้นเลย ^^'



- เออสิ 



-คิดมากเหมือนกันนะเนี่ย นึกว่าไม่คิดไร (555 ชั้นเนียนดูพฤติกรรมแกรไง ยังไ่ม่รู้ตัวอีก)



-เค้าบอกว่า คนเราจะจำไรได้ ก็เพราะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง

ที่ชั้นจำได้ เพราะมัน "รู้สึก" เว่ย

เรื่องอื่นชั้นอาจจำไม่ค่อยได้ 

แต่เรื่องแบบนี้ ชั้นรู้สึก เข้าใจปะ



ละตอนเราไปนครวัดกะเพื่อนนะ

เราหิวข้าว แต่คนอื่นเค้าจะอาบน้ำก่อน

เราเลยบอกงั้นเราไปกินก่อนละกัน เพราะเราหิวละปวดท้อง

เพื่อนผู้ชายในกลุ่มยังบอกเลย

เออ เราไปเป็นเพื่อน

ขนาดเราบอกไม่เป็นไร มันก็ไปเป็นเพื่อนอยู่ดี



ละเธอ แม่มม ตอนอยู่ ตปท บอกว่าเหม็นบุหรี่ ละหนีกลับก่อน

เราเดินออกมานะ สี่ห้าทุ่ม มืดมาก 

เธอเคยคิดไหมว่าเราจะกลับยังไง



ตอนเดินข้ามแม่น้ำ(เย็นจนเป็นน้ำแข็ง) ละเราหนาวมาก

ที่เราตัดสินใจขึ้นกระเช้า ไม่ว่าจะราคาแพงแค่ไหนก็ตาม

ละเธอบอก บ้าแล้ว ถ้าเท่านี้ ก็จะขึ้นเหรอ

ตอนนั้นในใจ เราคิด แม่ม ถ้าเดินข้ามแม่น้ำกลับมา แล้วเราเกิดหมดแรงกลางแม่น้ำ

มันจะทิ้งเราไปไหมวะ

หรือว่า มันจะเอาเราขึ้นหลัง

คาดว่าคงไม่

เพราะฉะนั้น จ่ายแพงแค่ไหน กรูยอม ขอเอาชีวิตรอดไว้ก่อน



พอข้ามกลับมาได้ เราทั้งหนาวทั้งหิว

เธอบอกว่าไง ?? เธอบอก เดินไปก่อนเลยนะ เราถ่ายรูปแถวนี้ก่อน

ไม่มีหรอกที่จะบอกว่า เห้ย ไหวไหมอะ เราเดินไปเป็นเพื่อนนะ



- (เธอ: อยู่ดีๆก็อุทานแบบมีอารมณ์ร่วมว่า) โห แม่มมม โคตรเลวเลย คนไรวะ (พูดให้ฮา ซึ่งเราก็ขำ เลยเข้าไปตีๆ)



-ใช่ๆ ไอ่ชั่วๆๆ แกมันโคดชั่วเลย ไอ่บ้าๆๆ 

(ตีไปหัวเราะไป มานก็ฮา เอามือป้องกัน )

คนแม่มไร จะเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้

อะไรที่ลำบากเธอ เธอไม่เอาด้วยซักอย่าง



เวลาสบาย เวลาแฮปปี้ ละค่อยมาเจอกันรึไง ห๊า!!



เราบอกตรงๆเลยนะ

ถ้าเธอเห็นแก่ตัวมากขนาดนี้ 

เรา-รับ-ไม่-ได้ (เน้นๆเลย พูดไปมองหน้าไป)



- เห้ย คนดีๆมันน่าเบื่อน้า (พูดให้ฮาได้อีก)





-ไอ่บ้า !

มันเป็นเรื่องของทัศนคติ เข้าใจปะ

ถ้าเธอไม่เห็นด้วย เธอบอกมาเลย ว่าไม่เห็นด้วย

เราจะได้รู้ว่า เราสองคนคิดไม่เหมือนกัน

มันก็คงจบแค่นี้แหละ

เราคงไม่มีไรต้องเสียดายแล้ว

ถ้าเธอจะเห็นแก่ตัวขนาดนี้ เธอบอกมาได้เลย

เราจะได้ไม่เสียเวลา

แปลว่า มันคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว เข้าใจปะ



- เอ่อ งั้นถามหน่อย ละเราต้องถือกระเป๋าให้ทุกครั้งเลยปะ



-(ตอนนี้ ก็นอนเกยอยู่บนอกมานแล้วค่ะ) ของแบบนี้ มันขึ้นอยู่กะวิจารณญาณ 

ถ้าไม่มีวิจารณญาณ ก็ต้องมาถามคำถามประเภทนี้แหละ (พร้อมกับยิ้มสะใจ ที่ด่าได้อีก 555)

(มานก็ทำหน้าแบบ ฮึ่ย ฝากไว้ก่อนเถอะ โอฬาร )



เรื่องกล้องนี่ก็เหมือนกัน

ทุเรศมาก พูดมาได้ โอนเงินมาก่อน

เป็นไรมากปะเนี่ย



- โหย ก็อันนั้น น้อง B อะ ทำเรานอยด์ ชอบโอนตังค์ช้า 

(น้อง B เป็นน้องที่เรารู้จัก ละมานทำธุรกิจ ทางอินเตอร์เน็ทกันอยู่ช่วงนึง)



-นั่นมันคนละคนกันนะ

เธอต้องแยกแยะบ้าง

หรือว่าเธอไม่ไว้ใจเรา



-ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ

แต่น้องเรายังเคยโดนเลย

ฝากๆซื้องี้แหละ

ละให้เงินก็ไม่ครบ



-แล้วไง สรุปคือเธอไม่ไว้ใจใครเลย หรือว่ายังไง



- ม่ายช่าย

ก็เธออะ ไม่ยอมออน บอกว่าเน็ทเสีย อ้างนั่นอ้างนี่

ติดต่อก็ไม่ได้ (ยังอุตส่าห์จะแถ คิดว่าจะสำเร็จรึ หึหึหึหึ)



- อ๋อ สรุปคือเธอหาว่าเราอ้างจริงอะ ห๊า ถ้าเป็นแบบนี้ คงไม่มีไรต้องพูดกันแล้วมั้ง

แบบนี้แปลว่า มองจากคนละมุมสุดๆแล้วว่ะ

พอเหอะ เสียเวลา (หนีจากอ้อมกอด จะลุกจากเตียง)



- (ตามมากอดไว้ ไม่ยอมให้หนี)

โอเคๆ อันนี้ยอม เพราะถือว่ามีประเด็นอยู่



-เอาเบอร์มาที่นั่นมาเลยมา ดูซิ จะมาอ้างไรได้อีก หาว่าเราติดต่อไม่ได้

เดี๋ยวจะโทรไปด่าเลย ดูซิ จะมีไรให้อ้างอีก



(เนียนเอาเบอร์ซะเลย เคยขอทางเอ็ม แม่ม เล่นตัว ไม่ยอมให้

พี่แกก็เขียนให้แต่โดยดี 555 กล้าหือรึ)

เราก็ถามต่อว่า



-ละไงเนี่ย ตกลงจะเห็นพัฒนาการปะ ถ้าไม่เห็นนี่ ไม่ไหวละนะ

เราบอกแล้วนะ เราไม่ชอบคนทำผิดเรืองเดิมซ้ำๆ เราถือว่าเราสื่อสารแล้วนะ

ทำดีทีสุดแล้ว

ถ้าไม่มีไรดีขึ้น เราคงพอแล้วอะ



- เอ่อ อันนี้ ก็ ไม่รู้ว่ะ 555 (หรือตอบว่า ก็ดูกันไป ก็ไม่รู้นะ จำไม่ค่อยได้ค่ะ)




คืนนั้น ก็แฮปปี้เอ็นดิ้ง






เช้าวันรุ่งขึ้น เช็คเอาท์



เดินลงบันได ถือกระเป๋าลงมาหนึ่งชั้น โดยไม่ขอให้ช่วยอีก ดูดิ๊ จะทำมั้ย

มันก็แซว 

หูยย ดูดิ กล้ามใหญ่นะเนี่ย ฝึกๆไว้ ถือกระเป๋าเก่งๆ จะได้แข็งแรง



เราก็เหล่ ทำหน้างอลล์



มันก็ขำๆ ละเอามือมาดึงกระเป๋าไปถือให้ (55555555 ค่ดดีจายยเลยยยคร้า)



ทีนี้ก็ถือตอนขึ้นบันได้สะพานลอยตลอด 

บางทีจะทำเนียน รีบเดินลง เราก็เอามือลากคอเสื้อ บอก มาถือก่อนเลย 555 นาทีทองจริงจริ๊ง ต้องเอาให้คุ้ม









Free TextEditor



Create Date : 03 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2554 17:27:52 น.
Counter : 318 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cinta
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวัสดีค่า ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้า
แบบว่ายังใหม่มากๆสำหรับที่นี่
เห็นบล็อกคนอื่นเค้าสวยๆงามๆก็ให้อิจฉาตาร้อนผ่าวๆ
ไม่รู้เค้าทำกันยังไง
ใครมีจิตเมตตาก็มาบอกกันมั่งเน้อ
free counters
New Comments