Group Blog All Blog
|
หรือเป็นฉัน..ที่ฝันไป 11.04 ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นที่ได้นอนหลับเต็มตื่น มึนงงเล็กน้อยด้วยหลงวัน และเวลา กระพริบตาถี่ๆ ปรับนาฬิกาในหัว อ้อ วันนี้วันอาทิตย์ สิ่งแรกที่นึกได้ถัดมาคือ เธออยู่ที่นี่ นี่นะ ไวเท่าความคิด..หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ไร้ข่าวคราว ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมามองหาเธอ..มองหาร่องรอยของความรัก ..ผิดหวัง.. "Looking at Waan" นั่นคือ คำตอบที่เธอตอบมา หลังจากที่เธอบอกว่า ตอนนี้คิดอยากมีครอบครัว และฉันถามว่า มี potential candidate หรือเปล่า มันแปลว่าอะไรนะ คำตอบกำกวมแบบนั้น สมแล้วที่เป็นเธอ เมื่อไม่แน่ใจ ฉันจึงทำได้แค่สงวนท่าที มองหน้าเธอนิ่งๆ ส่งสายตาเป็นคำถามไปแทน "เราเข้ากันได้ทุกอย่าง อยู่ด้วยกันก็มีความสุข สามชั่วโมงที่ผ่านมานี้ ผมหัวเราะกับคุณมากกว่าบางคนที่ผมเดตด้วยมาสามปีด้วยซ้ำ" เธอพูดอะไรอีกมากมาย ที่ล้วนแล้วแต่ตรงกับใจของฉัน ทุกอย่างที่เธอพูดมา มันคือความรู้สึกของฉันที่มีต่อเธอเช่นกัน ฉันรู้ เราเข้ากันได้ดี ฉันรู้ ฉันไม่ได้เกลียดเขา เรื่องราวครั้งนั้น ฉันเพียงแต่โกรธ และฉันคิดว่า ณ ตอนนี้ ฉันไม่ติดใจแล้ว ฉันรู้ ว่าเราดึงดูดกันและกัน ฉันรู้ เราชอบที่จะอยู่ในโลกของกันและกัน เจอกันครั้งนี้ ฉันยังรู้สึก ชอบ ทุกอย่างที่เป็นเธอ อยู่ เหมือนเคย ดูบรรยากาศที่นี่สิ มีการแสดงโชว์ โอเปร่า ในห้องอาหารเสียด้วย รสนิยมเธอดีเลิศ ถูกใจฉันไม่เคยเปลี่ยน ดูการแต่งตัวสุดเท่ห์ของเธอสิ ดูความเอาใจใส่เวลาเธอเลือกอาหารให้ ร้านที่เธอเลือกวันนี้ ไม่มีใครที่ไหน จะเลือกได้ดีเท่านี้อีกแล้ว ดูห้องพักของเธอสิ ดูการแสดงออกตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันสิ อยู่ใกล้เธออีกครั้ง ฉันแทบนึกภาพอาแปะของฉันไม่ออกเอาเสียเลย ผู้ชายที่ดึงเอาความสนใจทั้งมวลของฉันไปได้ มีไม่มากนักหรอกนะ เธอจบท้ายสิ่งที่พูดมาด้วยคำว่า "แต่รักทางไกล ผมไม่เอาแล้วนะ ผมทำไม่ได้หรอก" "งั้นนี่ก็ไม่ใช่คำตอบน่ะสิ" "ก็ไม่ผมมาอยู่ที่ไทย คุณก็ต้องไปอยู่เมกาอะ ตอนนี้ผมไม่มีปัญหาทางการเงินอะไรเลย ธุรกิจของผมมันดีมากก ผมบริหารธุรกิจคอนโด ทำให้มันโตขึ้นมาได้สิบยี่สิบเปอร์เซ็น กำไรจาก ธค ปีที่แล้ว สามสิบห้าเปอร์เซ็น เรื่องการแต่งงาน จัดการทุกอย่าง ไม่มีปัญหาเลย Say if we are so in love with each other , I can make it happen in 1-3 months" ฉันเริ่มคิดว่า นี่เค้ากำลังพูดถึงฉันจริงๆเหรอ หรือฉันแค่ฟังผิด หรือฉันแค่เข้าข้างตัวเอง ฉันยังคงไม่แน่ใจ จึงแค่ยิ้ม พยักหน้า แล้วถามว่า Am I supposed to say something now? "NO, you dont have to. you say it when Waan want to say. If Waan dont want to , then don't" จะให้บอกได้อย่างไร ว่าฉันอาจจะตกหลุมรักคุณได้อีกครั้ง...อย่างง่ายๆ I know I can fall for you so easily. ที่เคยคิดว่า ไม่รู้สึกอะไรแล้ว กลับไม่ใช่เลย ที่เคยคิดว่า เข้มแข็งแล้ว กลับกลายเป็นว่า จะอ่อนแอเอาง่ายๆ ฉันเข้มแข็งเมื่อเธอไม่ได้อยู่ตรงหน้า เมื่อเธออยู่ไกลครึ่งฟ้า ไม่สามารถมองตาลึกเข้าไปสุดหัวใจ..เท่านั้นเอง หากไม่ใช่เพราะพยายามรั้งใจตัวเองไว้ ป่านนี้ฉันคงไปนั่งฝั่งตรงข้าม อยู่ในอ้อมกอดเธอไปแล้ว ย้ายขึ้นไปนั่งบน roof top โซฟาตัวเดียวกัน สัมผัสของเธอ ไม่ได้ทำให้ฉันรังเกียจ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ว่า มีไม่กี่คนในโลกหรอก ที่เรารู้สึกสบายใจ และไม่รังเกียจ ยามอยู่ใกล้ ยิ่งถ้ามีความสุข เวลาอยู่ด้วยกัน คนคนนั้นยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ ไหนจะความพยายามของเธออีก ฉันอยากใช้เวลากับเธอ แค่นี้เองที่ฉันต้องการในเวลานี้ เธอเองก็คงไม่ต่างกัน หรือเธออาจจะแค่รู้ใจฉัน พยายามหาร้านไปต่อ ร้านไม่ได้น่าสนใจอะไรขนาดนั้น เราแค่รู้สึกดี และยังไม่อยากจากกัน แค่นั้นเอง คืนนั้น..จากกันด้วยรอยจูบที่โหยหา จูบที่เป็นการ...ลา จูบที่ฉันอยากให้มันนานกว่านั้น อยากให้มันเป็นนิรันดร์ โชคดีจริงๆ ที่เธอไม่ได้อยู่เมืองไทย เพราะฉันกลัวใจตัวเองเหลือเกิน *************************** แล้ว...วันนี้ มันคืออะไร ที่เธอหายไป บอกจะโทรกลับ ก็หาย ทุรนทุราย รอคอย หรือ คนบางคน ไม่ได้มีไว้เพื่อรัก เพื่อครอบครอง แต่มีไว้เพื่อให้วาบไหว ให้เป็นภาพฝัน ดุจเทพนิยายแสนหวาน ตื่นขึ้นมา ก็คว้าจับอะไรไว้ไม่ได้เลย แม้เพียงเสี้ยวเศษของมัน?? บางที การฝันร้าย อาจดีกว่าฝันดีตรงที่ ไม่ต้องตื่นมาพบว่า รอยจูบนั้น มันเป็นแค่ฝันไป เกลียดตัวเอง ที่อยากอยู่ในฝันนั้น ไปอีกแสนนาน 11.57 10 มิถุนา 2555
|
cinta
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] สวัสดีค่า ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้า แบบว่ายังใหม่มากๆสำหรับที่นี่ เห็นบล็อกคนอื่นเค้าสวยๆงามๆก็ให้อิจฉาตาร้อนผ่าวๆ ไม่รู้เค้าทำกันยังไง ใครมีจิตเมตตาก็มาบอกกันมั่งเน้อ |
||||||||||||
