และแล้ววันเวลานัดหมายก็มาถึงเราจัดแจงเวลาทุกอย่างได้ตามที่เจ้าเม่นวางโปรแกรมไว้ แวะ ณ จุดพักรถกลางทางมอเตอร์เวย์ รองท้องท้องกันนิดหน่อย มุ่งหน้าแยกเข้าทางบ้านบึงเพื่อต่อออกไปยังจันทบุรีเส้นทางช่วงนี้ถนนไม่ดีมาก เราทำความเร็วไม่ได้เยอะแถมรถยังมีตามเรามาแน่นๆเหมือนกัน เอ ห้าทุ่มกว่าแล้วทำไม รถเยอะอยู่ คิดเล่นๆ ไปว่าหรือว่าเค้าไปเขา เขาคิชฌกูฏกันแฮ๊ะ วิ่งไปได้ไมนาน เราแวะปั้ม น้ำมันใหญ่ ปรากฏว่า …บร๊ะเจ้า…นี่ผู้คนมาสุมกันอยู่ทำไรเนี๊ยะทั้งรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ มากันเพี๊ยบ แถมยังมีพี่รถบัส กันอีกสองสามคันคนแน่นเอี๊ยดเต็มทุกคน คนในปั้มนี่เดินกันยั้วเยี้ย อ้าวเอาไงดี คือที่แวะนี่ไม่ได้จะเติมน้ำมันหรอก ว่าจะแวะหาแลกเงินย่อยไว้ทำบุญ ตามทาง แต่พอขอที่ร้านค้าแลกเค้าว่าให้แลกไม่ได้เราเลยต้องใช้วิธีซื้อของแตกเงินย่อยเอาแทน จะว่าไปแล้วกระแสไว้พระบาทเขาคิชฌกูฎนี่แรงมากเลยนะ เพราะกลายเป็นว่าปั้มนี้อยู่อีกตั้งไกลแต่กลับ มีขายของสำหรับไหว้ทั้งหมดเลยแม่ค้าเต็มไปหมด ขายดอกดาวเรือง ขายพลอยสีไว้หยอดในรอยพระพุทธบาท ขายธูปเทียนภาพรูปถ่ายต่างๆ เรียกว่าพร้อมเลย ว่าแล้วพวกเราเลยจัดกันซะ ชุดใหญ่เพราะดูจากสถานการณ์แล้ว ถ้าถึงตีนเข้าคงจะแย่ รีบซื้อไว้ก่อนดีกว่า

เราขับรถออกเดินทางต่ออีกสักพักใหญ่ๆ จนเจอป้ายบอกทางให้เลี้ยวซ้ายไปเขาคิชฌกูฎ…บร๊ะเจ้า… รถข้างหน้าทุกคัน ข้างหลังทุกคันไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ พากันตบไฟเลี้ยวซ้ายเหมือนกันหมด ตอนนี้ ตีหนึ่งกว่าๆ แล้วรถวิ่งเลี้ยวไปตามทางเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง พอๆ กันที่อีกฝั่งยังคงมีรถทะเบียนกรุงเทพ แล่นสวนกันออกมาไม่ขาดสายเช่นกัน ผ่านไปสักครู่ รถตู้คันหน้าเริ่มชะลอช่วงโค้งหักศอกขวา แล้วข้างหน้าที่เราเห็นคือ ไฟแดงยาวเปรื้อยจากหลังรถที่ติดเรียงคิวกันยาวสุดถึงโค้งหน้าอีก …อ้าวเอาหล่ะซิ รถติดในป่าตอนตีหนึ่ง ดูจากป้ายบอกทางแล้วน่าจะสักอีกยี่สิบโล ถึงจะถึงตีนเขา แล้ว ทำไงดีหล่ะ ติดซะขนาดนี้ … ยังไม่ทันที่จะคิดจบรถด้านขวาจากข้างหลังก็แห่ทะลักแล่นสวนทางอีกเลนหนึ่งขึ้นมา ครู่เดียวรถทั้งหมดก็จอดนิ่งสนิททั้งสองเลน …อ้าวแล้วจะไปกันยังไงหล่ะค๊าบพี่น้องเล่นกันแบบนี้แล้วไอ้คันที่จะออกหล่ะจะโผล่ออกมายังไง …นิ่งไปเกือบครึ่งชั่วโมงได้รถถึงเริ่มขยับอย่างช้าๆ มีการแทรกตัวกันอย่างชุลมุน ก็มองเห็นรถบัสคันใหญ่เปิดไฟสูงจ้าบีบแตรดังลั่นแล่นสวนออกมาอย่างช้าๆ …อืม นี่แหละที่เค้าว่าคนไทย…หลังจากมีรถที่สวนออกมาจัดระเบียบสังคมกันแล้ว เราขยับไปได้ช้าๆ แต่ต่อเนื่องมาจนถึงจุดที่เป็นวัด ด้านซ้าย ซึ่งมาทราบในตอนหลังว่าเป็นวัดกระทิง สามารถจอดรถได้แต่ถ้าพระบาทต้องเข้าไปอีกไปจอดที่วัดพลวง เราเลยว่าไปจอดข้างในดีกว่า….แต่พอตามกันไปจากรถสามเลนถูกบีบให้เป็นสองเลนชนิดเต็มถนนไม่มีรถสวนได้เราก็ติดแหง๊กกันอีก เจ้าเม่นว่าท่าไม่ค่อยดีหล่ะเลยอาสาขอนั่งมอไซด์รับจ้างที่วิ่งอยู่เกลื่อนกลาดเข้าไปดูสถานการณ์ก่อนผ่านไปสักสิบห้านาที เราขยับไปได้อีก ไม่ถึงร้อยเมตร เจ้าเม่นก็ยังไม่โทรเข้ามามดเลยโทรกลับไปปรากกฎว่า เพิ่งถึงแล้วตลอดเส้นทางรถติดเต็มตลอดให้หาที่จอดกลางทางทิ้งรถไว้แล้วเปลี่ยนมานั่งมอไซด์เข้ามาดีกว่า…อืม…ท่าทางการมาไหว้พระพุทธบาทนี่จะไม่ธรรมดาแล้ว… อีกนานเท่าไหรไม่รู้ รู้แต่ว่าเราคลืบคลานเข้ามาจอดรถไว้ในลานจอดรถมะขามได้แล้วโทรเช็กเจ้าเม่น ได้ความว่า เราจองได้คิวขึ้นรถโฟว์วีล รอบเช้า คิวที่ 244 และคิวที่1 จะเริ่มตอนแปดโมง ….หมายความว่าเราต้องรอรถไม่ต่ำกว่าเก้าถึงสิบโมงถึงจะได้ขึ้น…เอิ่ม…เอาไงดี สุดท้ายเราเลยตกลงว่าจะหาที่นอนพักก่อนดรีมเลยโบกวินแล้วออกไปหาที่พัก โทรกลับมาบอกว่าได้ที่พัก 2 ห้องสุดท้ายแขกมาไม่ถึง มันจะตีสี่แล้วป้าแกเลยให้เข้าแทนพวกเรารวมตัวเป็นเด็กแว๊นออกจากฝูงรถที่เนื่องแน่นเข้าที่พักโดยเร็วนอนกันถึงแปดโมงเช้ารถมอไซด์ชุดเดิมก็มารับตามที่นัดไว้พอเข้ามาถึงส่วนที่เตรียมขึ้นรถปรากฎว่าเลยคิวเราไปแล้วแต่ก็มีรถเก็บคนตกหล่นให้เราเลยได้เริ่มขึ้นเขาตอน9โมงกว่าๆ
การขึ้นเขาคิชฌกูฎ แบ่งเป็นสองส่วนคือขึ้นด้วยรถโฟว์วีล สองต่อส่วนนี้มันส์มากเพราะรถแต่ละคันขับสวนขึ้นลงเขากันตลอดคนขับต้องเซียนกันจริงๆแถมรู้ไลน์เข้าโค้งกันอย่างดี ด้วยไม่งั้นคงมีประสานงา ค่าโดยสารเที่ยวละ 50บาท แต่ละจุดที่รอขึ้นรถก็ต้องมีการรอรับบัตรคิวอีกแต่ก็ไม่นานมากเพราะมีรถวิ่งเที่ยวเยอะมากๆ

เรามาถึงจุดที่เริ่มเดินก็ทำใจเพราะคนแน่นมากงานนี้คงจะเป็นการไหลมากกว่าเดินแน่ๆ เจ้าเม่นเข้ามา บอกว่าให้เราอธิฐานขออย่างเดียว ให้อธิฐานขอในทุกๆ จุดตลอดเส้นทางเลย ห้ามบนโดยเด็ดขาดและห้ามคิดไม่ดี ห้ามคิดว่าเหนื่อยว่าร้อนหรือบ่นใดๆ ต้องคิดแต่สิ่งดีๆตลอดทางแล้วสิ่งที่อธิฐานขอจะได้เป็นจริง …อืม…แล้วมดจะทำได้ไหมเนี่ยะ
ระยะทางแค่สองกิโลแต่เราเดินกันร่วมสี่ชั่วโมงเห็นจะได้เพราะตลอดทางจะมีจุดให้นมัสการอยู่ตลอด บางช่วงก็คนติดหนึบต้องกั้นแบ่งเลนขึ้นกับเลนลง แต่ก็ยังมีพวกแซงขวามาอีกผลก็คือ ขาขึ้นก็เต็มเลนขาลงก็เต็มเลน แล้วทุกอย่างก็หยุดนิ่ง ต้องรอ เจ้าหน้าที่มาประกาศ ถึงค่อยๆ ขยับแทรกตัวกันไปได้ บางคนอุตสาหะมากหน่อยพี่แกเล่นปีนเขาตัดทางเองก็มี แต่ยังไงต้องยกนิ้วให้กับคนที่เดินขึ้นตั้งแต่จุดแรกเลยคือพวกที่ไม่ยอมขึ้นรถโฟว์วีล พวกนี้สุดยอดนับถือๆ แต่สำหรับคณะของมดคงขอบายไม่ไหวแน่นอนค่ะ เดินอีกนานระหว่างทางก็จะมีร้านขายของและจุดบริการไว้ให้ด้วยคณะเราก็จัดไปตลอดเส้นทาง…

วันนี้คนเเน่นมาก

อันนี้เป็นปฏิมากรรมเเปลกๆ ของที่นี่

ของกินเพียบ ว้าวๆ ...555

อันนี้เป็นน้ำขิงต้มเค้าให้บริการฟรี เต็มอิ่มค่ะ

555… เดินกันมาจนถึงชั่วสุดท้ายคือรอเข้านมัสการรอยพระพุทธบาท ทุกคนต้องถอดรองเท้าออกและห้ามสตรีนุ่งสั้นด้วย จุดนี้ทุกคนทุกสายทุกคณะจะถูกบีบ ให้มารอรวมตรงจุดทางเข้าตากแดดไว้ เพื่อรอรอบให้เข้านมัสการรอยพระพุทธบาท เป็นรอบๆ ไป ต่อรอบเข้าได้ หกสิบถึงเจ็ดสิบคนเห็นจะได้ พอถึงรอบก็เบียดกันชนิดๆ ยิ่งกว่าไหลอีกเพราะจุดนี้เจ้าหน้าที่บีบเป็นทางเล็กไว้ และก็เข้ามาถึงกันจนได้ ในบริเวณจะมีผู้ทำพิธีนำสวดให้ เราเลือกกราบไว้นมัสการรอยพระพุทธบาทได้ตามใจเลยจนหมดรอบเวลา จะมีรอยใหญ่และรอยเ็ล็กนะคะ

สิ่งที่มาแล้วต้องทำคือนั่งพักบริเวณรอบรอยพระพุทธบาท เพราะอากาศเย็นสบายมากแม้แดดจะร้อนพวกเราโชคดีหน่อยที่ต้นกะฟิ แบกหมูอบน้ำผึ้งขึ้นมาด้วย เราเลยโซ้วกันชนิดอร่อยโฮ้กสุดๆชิวจริงๆ ตามที่เจ้าเม่นว่าไว้แต่แรกด้วยเรานั่งพักอยู่สักชั่วโมงเห็นจะได้เลยว่าคงจะไม่ไปจุดผ้าแดงเพราะต้องเดินอีกกิโล กลัวว่าขากลับจะเย็นเกินเลยลงกันดีกว่า

วันนี้ดอกไม้เต็มรอยพระพุทธบาทค่ะ

ส่วนขากลับลงนี่ก็ไม่ต้องพูดถึงไหลเช่นเดิม เรากลับลงมาถึงตีนเขาประมาณสี่โมงเย็นล้างมือล้างไม้ล้างหน้าขึ้นรถได้ เปิดแอร์เย็นสุดแรงสุดรีบบึ่งไปยังบ้านฟิโอโดยเร็วเพราะปะป๊าสั่งปูทะเลยักษ์ กะกุ้งยักษ์จากแพปลาไว้ให้เย็นนี้เรามีนัด ซีฟู๊ด กันที่บ้านฟิโอ …

หลังจากกลับมาจากนมัสการรอยพระพุทธบาทที่เขาคิชฌกูฎ แล้วรู้สึกได้เลยว่ามีสิ่ง ดีๆ เข้ามาและการไปถึงจะยากเย็นเพียงไรมดก็รู้สึกประทับใจมาก เลยตั้งใจไว้ว่าจะไปในปีหน้าอีกแต่ก็คงจะเลือกวันที่ไม่เจอช่วงเสาร์อาทิตย์ จะได้ไม่เจอคนเยอะมาก สุดท้าย ปีนี้เทศการนมัสการ รอยพระพุทธบาท เขาคิชฌกูฎ ก็หมดลงแล้ว ยังไงก็ขอให้ทุกคนที่ได้ไปนมัสการมา ได้พบ ประสบแต่สิ่งดีๆ ตามที่ได้ขอกันไว้ส่วนเพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่ได้ไป ก็คงต้องเตรียมตัวไว้สำหรับปีหน้าแล้วหล่ะค่ะ

ไม่แน่ปีหน้าเราอาจได้เจอกัน…บ๊าย บาย…ขอคุณที่ติดตามอ่านกันนะค่ะ