...You should have faith in people; but most importantly, YOU SHOULD HAVE FAITH IN YOURSELF...
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
สี่คราวที่ไปอเมริกา

เรามานึกย้อนดูว่าชีวิตในต่างแดนของเรามันมีอะไรที่น่าสนใจหรือเปล่า ย้อนไปกันค่ะ ที่อเมริกา

ครั้งแรก
เที่ยวแบบทัวร์ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปจากทัวร์ธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดา คือ ต้องแยกจากทัวร์คนเดียวตอนที่เพื่อนร่วมทางกลับเมืองไทย แต่เราต้องบินไปหาญาติอีก 3 เพื่อนอีก 1 ที่อยู่ต่างเมืองต่างรัฐ ไม่ได้คิดไว้เลย พับผ่าสิ แต่เพราะคุณป้าที่เคารพบอกว่าไปแล้วเอาให้คุ้ม ถึงจะคนเดียวกับครั้งแรกในอเมริกา โหวงเลยเวลาโบกมือลาทุกคนแล้วเหลือเราคนเดียว นึกกันออกมั้ยคะแบบว่ารถแวนบรรทุกเพื่อนร่วมทางกำลังจะไปสนามบินกลับเมืองไทยแล้วเพื่อนๆโบกมือบ๊ายบาย เราต้องอยู่โรงแรมคนเดียวอีกหนึ่งวันหนึ่งคืนถึงจะเดินทางต่อไปหาญาติ แต่ แหม ผู้จัดการโรงแรมใจดีเพราะเขารู้ว่าอยู่คนเดียวตอนเราไปติดต่อขอให้หารถพาไปส่งสนามบินในวันรุ่งขึ้นให้หน่อย เขาหาขนมเค้กให้กินด้วย แล้วก็คุยกันแบบประมาณว่าสอนภาษาอังกฤษเรานิดๆหน่อยๆพอรอดตาย แล้วเราก็เริ่มเดินทาง

ที่แรกก็จาก LA ไป Houston ตอนไปเช็คอิน กระเป๋าเราหนามากเพราะยัดสารพันที่หาซื้อระหว่างไปทัวร์เพิ่มขึ้นมา คุณพนักงานสายการบินเห็นว่ามันหนาแล้วแน่นเลยบอกว่าให้รื้อออกมาแบ่งใส่กล่องแยกไปดีมั้ย เราก็โอเคได้ค่ะ เค้าจัดการหากล่องให้เสร็จ แต่เวลารื้อของออกจากกระเป๋าเราต้องรื้อเองกลางโถงสนามบินนั่นแล ไป Houston คราวนี้ไปหาป้า ความจริงบ้านป้าอยู่ชานๆเมือง เราเลยต้องต่อเครื่อง พอไปถึงสนามบินนานาชาติแล้วต้องไปต่อเครื่องบินเล็กประมาณยี่สิบที่นั่งได้มั้ง นักบินผู้หญิงด้วย แหม เสียวดีจริง เวลาเลี้ยวก็ให้รู้สึกได้เลยว่าเออเครื่องบินเลี้ยวแฮะ จนในที่สุดก็ถึงมีลุงเขยมารอรับ อยู่กับป้าก็ช่วยป้าทำฟาร์มตัดแต่งสมุนไพรส่งลูกค้า ป้ากับลุงเขยพาไปเที่ยวหลายที่เลย

ต่อจากนั้นก็ไป Chicago แบบเดิมอีกไปขึ้นเครื่องที่สนามบินภายในประเทศแล้วไปต่อเครื่องที่สนามบินนานาชาติ คราวนี้ต้องขนต้นไม้เล็กๆไปให้อาด้วย เลยต้องดูแลทะนุถนอมเอาขึ้นเครื่องไปด้วยกัน คนมองตรึมเลย พอไปถึง Chicago อาก็มารอรับ แล้วก็ต้องวิ่งวุ่นเพราะรถที่อาเอามาจอดไว้ถูกลากไปเลยต้องไปเสียค่าปรับ อยู่กับอาชีวิตคึกคักกว่าอยู่กับป้าเพราะอาเปิดร้านอาหารไทยรู้จักคนเยอะ พอดีกับแม่ยายของอามาเที่ยวเลยได้ลุยเที่ยวพิพิธภัณฑ์ทั้งหลายแหล่ใน Chicago นั่นแหละ

ต่อจากนั้นก็ไปหาพี่ที่ Rochester ตอนขาไปตกเครื่องเพราะอามาส่งช้าเลยต้องรอเที่ยวต่อไป คราวนี้เครื่องบินลำใหญ่แต่มีผู้โดยสารนิดเดียวเองแล้วก็มีไปจอดหยุดพักและรับผู้โดยสารเพิ่มที่ Buffalo ก่อนไป Rochester พี่ชายรออยู่บนอู้เลยว่าทำไมไม่บอกวะ เราก็ว่าโทรบอกแล้วแต่รูมเมทพี่บอกว่าพี่ดันไม่อยู่ที่อพาร์ตเม้นท์นี่ พี่เราก็บอกทำไมไม่ฝากบอกเค้าไว้ล่ะ เราก็อ้าวจะรู้เหรอว่าพี่จะกลับเข้าอพาร์ตเม้นท์อีก นึกว่าออกมารับเราแล้วอะดิ แต่สุดท้ายก็ไม่ว่ากัน พี่เราพาไปฟังดนตรีวงออร์เครสต้าน่ะ (สะกดถูกป่าวไม่รู้แฮะ) แล้วไปดูหนัง แค่นั้นแหละแล้วปล่อยให้เราช็อปปิ้งเองวันนึงเพราะพี่มีเรียน อยู่กับพี่ไม่กี่วันหรอกเพราะพี่ก็จะไปเที่ยวฟลอริดา เราก็อยากไปกับพี่นะ แต่ดันนัดเพื่อนจาก Pittsburgh ไว้ก่อนว่าให้มารับ เราเลยอดไป แต่กว่าเพื่อนจะมารับก็รอ ร้อ รอ จนพี่รอด้วยไม่ไหวทิ้งกุญแจอพาร์ตเม้นท์ไว้ให้แล้วให้ไปคืนที่บ้านอาตอนปีใหม่เลยเพราะพี่ก็จะไปหาอาเหมือนกัน เราต้องค้างอพาร์ตเม้นท์พี่อีกคืนโดยที่พี่ไปเที่ยวแล้วเพราะเพื่อนเรามาถึงก็สองทุ่มแนะจะเดินทางเลยเขาก็ขับรถมาเหนื่อยเลยให้พักก่อน รุ่งขึ้นค่อยเดินทาง

แล้วพอรุ่งขึ้นก็เดินทางออกจาก Rochester ไปเรื่อยๆไปเที่ยวน้ำตกไนแองการาด้วย แต่ไปผิดฤดูเลยไม่ค่อยประทับใจ แล้วก็ไป Pittsburgh เพื่อนพาเที่ยวนิดหน่อยเพราะอยู่ไม่กี่วัน มีอยู่วันเพื่อนเราพาเราไปเยี่ยมเพื่อนเค้าที่ West Verginia โห เมืองอะไรไม่รู้เหงาสุดขีด ไปที่นั่นแค่ไปกินข้าวกับนั่งดื่มอะไรนิดๆหน่อยแล้วกลับ Pittsburgh อยู่ต่ออีกวันก็กลับไปมาสมทบกับพี่และอาที่ Chicago ฉลองปีใหม่ ทีแรกเพื่อนชวนให้ไปนิวยอร์คที่ไทม์สแควร์ แต่อาไม่อนุญาตแถมบอกว่าถ้าจะฉลองปีใหม่ด้วยกัน เพื่อนเราก็ต้องมาที่ Chicago หาเราเอง ปรากฏว่ายอมมาแฮะ เช่ารถจาก Pittsburgh ไปรับเพื่อนเค้าที่ West Virginia แล้วมาเจอกันที่ Chicago อยู่จนหลังปีใหม่เที่ยวอีกนิด เพื่อนเราก็กลับ เราก็อยู่กับอาต่ออีกพัก แล้วกลับเมืองไทย





ครั้งที่สอง
ตั้งใจไปเรียน ไปที่ Chicago เริ่มจากภาษาเพื่อเตรียมตัวจะเข้าเรียน ระหว่างเตรียมสอบ Toefl กับ GMAT ก็ลงเรียนคอร์สนั่นนี่ไปเรื่อยที่ Community College ไปด้วย พอสอบทั้งสองอย่างแล้วปรากฏว่า GMAT ยังไม่พอใจเท่าไหร่ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่มหา'ลัยที่เราจะสมัครต้องการ แต่มีคนบอกว่าสมัครเรียนเลยได้เขารับนะแต่ยังไงก็ต้องตามเก็บ GMAT ให้ผ่านเกณฑ์ แต่เราไม่เอายังไม่เรียนขอเลื่อนไปอีกเทอมก่อน เพราะจะหาเงินช่วยพ่อแม่ไง ค่าเงินบาทก็นะอ่อนตัวลงแยะตอนนั้นน่ะ เงินที่พ่อแม่เตรียมไว้ให้มันก็ไม่พอสิ เลยทำงานพิเศษกับอานั่นแหละ แล้วบ้าทำงานหาเงินไปหน่อย เห็นแก่อาด้วยที่ไม่มีคนช่วย สุดท้ายได้เงินเก็บมากพอควรก็ตั้งใจจะส่งเอกสารสมัครเรียนเลยทุกอย่างพร้อมแล้วนี่ แต่เพราะความอยากหาเงินเพิ่มเลยลองเล่นหุ้นกับอาปรากฏว่าเสียไป 5000 เหรียญ แทบร้องไห้เลย ท้ายสุดป่วยค่ะจนปัญญาจะหาหมอเมืองนอก Bipolar ไง ค่าหมอไม่ต้องพูดถึง เลิกคิดได้ เพิ่งจะออกอาการตอนอยู่เมืองมะกันนี่แหละ เลยต้องกลับเมืองไทยเพราะถูกเรียกตัวให้กลับ เป็นโรคแบบนี้และอาการกำเริบควรอยู่ใกล้หมอไว้ดีกว่าเพราะต้องหาหมอปรับยากันถี่เลย แต่ไปครั้งที่สองนี่ก็ไม่ถือว่าเสียเที่ยวซะทั้งหมดนะ เพราะได้ไปเที่ยวหลายที่เหมือนกันช่วงว่างจากงานพิเศษเพราะไม่ได้ทำทุกวันและพอหาคนช่วยได้ก็ลางานกับอาไปเที่ยวหาเพื่อนตามเมืองต่างๆกระจัดกระจายไปทุกสารทิศ (อันนี้เว่อร์จริงๆแค่สองเมืองเอง Boston กับ San Francisco แค่นี้ก็เสียดายเงินจะแย่แล้ว) อ้อ กว่าจะกลับคนเดียวได้อาต้องดูอาการให้ชัวร์ก่อนว่าไหวพอที่จะกลับคนเดียว จนมาถึงเมืองไทยก็หาหมอเลย มีต้องเข้านอนโรงพยาบาลด้วยอาการกำเริบแบบที่สุดที่เคยเป็นมา ช็อคน่ะ ดีที่ไม่ไปช็อคตอนขากลับจากอเมริกา





ครั้งที่สาม
หลังจากอาการคงที่มาระยะโตๆแล้วก็ตั้งใจใหม่ว่าจะเรียน แต่ด้วยกลัวอาการจะกำเริบเมื่อไหร่ไม่รู้เลยไม่กล้าเรียนโท เลยตัดสินใจเอามหาวิทยาลัยดังเลย เพราะยังไงความสามารถก็ไม่ถึงขั้นจะเรียนโทมหาวิทยาลัยนั้นอยู่แล้ว ทางมหา'ลัยบอกว่าจะเรียนแบบเอาปริญญาก็ได้แต่เรียนตรีอีกใบละกัน โห ค่าเทอมแพงหูดับ เราเอาแค่โปรแกรม Post-Graduate ก็น่าจะพอกล้อมแกล้มแค่นี้ก็หลายวิชาแล้วนะห่วงอาการกำเริบด้วย คราวที่สามนี่ไปเพื่อสมัครเรียนเอาหลักฐานทั้งหลายแหล่ให้เขาดู รอจนเขาส่งจดหมายมาบอกให้ไปสัมภาษณ์พอเขารับแล้วก็เที่ยวเล่นพักนึงก่อนกลับเมืองไทยเตรียมตัว ปรึกษาหมอด้วย





ครั้งที่สี่
เน้นเที่ยวมาก่อน เรียนตามหลัง พอเรียนจบแต่ละเทอมก็โน่น จองตั๋วหรือเช่ารถเที่ยว ไม่ทำงานช่วยอาเด็ดๆ บ้านอายังไม่ค่อยได้กลับเลย นอกจากอยู่ตอนเปิดเทอม





ทั้งหมดนั่นล่ะคร่าวที่ไปอยู่อเมริกามาสี่ครั้ง จำรายละเอียดได้แทบทุกอย่างเลยทั้งประทับใจและไม่ประทับใจ ทั้งเรื่องร้ายเรื่องดี ก็เป็นประสบการณ์ที่มีค่าไปอีกแบบ


Create Date : 31 ตุลาคม 2550
Last Update : 1 มีนาคม 2551 13:35:11 น. 2 comments
Counter : 468 Pageviews.

 
อิจฉาจังได้ไปตั้ง 4 ครั้งแนะ คงมีโอกาสได้เก็บประสบการณ์มากมายเลย

เพธยาธร


โดย: วิมานเพธยาธร วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:08:02 น.  

 
อยากไปมั่งจัง แต่ไม่รู้จักใครเลยแหะ เงินก็มีไม่พอทำวีซ่าด้วยซ้ำ แต่จะลองดูสักตั้ง ขอบคุณน่ะสำหรับข้อความข้างบน อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง

Thanks and have a great every days.

^_^ ขอให้หายป่วย สุขภาพแข็งแรง

แล้วจะกลับมาอ่านใหม่ เผื่อว่ามีครั้งที่ 5 อีก


โดย: นักผจญภัย IP: 124.121.120.108 วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:23:47:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Chulapinan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Chulapinan

ขอต้อนรับเพื่อนๆสู่บล็อกของจุฬาภินันท์ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ บล็อกนี้เป็นบล็อกของผู้หญิงธรรมดาที่ปรารถนาจะเข้าถึงธรรม มาขอร่วมเป็นสมาชิกของชุมชนใหญ่นี้ค่ะ

Friends' blogs
[Add Chulapinan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.