Group Blog
 
 
เมษายน 2566
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
13 เมษายน 2566
 
All Blogs
 
ตอนที่ 2  หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - เมืองหลวงของภาคใต้ 1

บทความทั้งหมด....................

บทความก่อนหน้าคลิกที่นี้..........


ตอนที่ 2  หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - เมืองหลวงของภาคใต้ 1




"หาดใหญ่ คือเมืองหลวงของภาคใต้"     คำกล่าวนี้ เมื่อสักประมาณ 20 ปีที่แล้ว  คงไม่มีใครโต้แย้ง   เนื่องจากการค้าสินค้าหนีภาษี  และการเป็นเมืองสีเทา  ทำให้เศรษฐกิจหาดใหญ่ดีอย่างมากมาย  จนถึงขนาด มีธนาคารกลางแห่งประเทศไทย  มาตั้งอยู่ที่หาดใหญ่ ตรงบริเวณข้าง โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย  ในตอนนั้น  ไม่มีใครโต้แย้งได้เลย  ทุกคนต่างยกให้หาดใหญ่มีความเจริญอย่างมาก  จะเป็นรองแค่กทม.  และสูสีกับเชียงใหม่        ...แต่ในปัจจุบันนี้ กลับไม่ใช่   การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น  ทำให้หาดใหญ่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง  หลายๆจังหวัดแซงหน้าไปอย่างไม่เห็นฝุ่น     ในอดีต  เราเคยเห็นคนจากจังหวัดต่างๆ  มาอยู่มาอาศัย  และทำมาหากินอยู่ที่หาดใหญ่     หาดใหญ่เคยมีรถประจำทางอย่างมากมาย เชื่อมต่อเส้นทางเกือบทุกจังหวัด แต่ตอนนี้กลับลดน้อยลงมากๆ













แม้แต่จังหวัดทางภาคใต้  ก็แซงหาดใหญ่สงขลาไปหลายๆจังหวัดแล้ว        ...บางครั้งได้รู้ข่าวเกี่ยวกับ  การพัฒนา  และการขยายสนามบินกระบี่   สนามบินภูเก็ต  สนามบินตรัง    เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว  5  ล้านคนบ้าง  10 ล้านคนบ้าง  20 ล้านคนบ้าง   ในขณะที่สนามบินหาดใหญ่  แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยในเวลาที่ผ่านมา    ซึ่งในบางครั้ง  ก็รู้สึกท้อแท้ใจ  เมื่อได้ยิน  หรือได้ข่าวว่า  เพื่อนคนนู้น  ลูกหลานคนนี้   ต้องย้ายถิ่นฐาน  เพื่อไปทำงานที่ ภูเก็ตบ้าง  กระบี่บ้าง  บางคนบอกว่า  แค่ไปขายน้ำส้มให้นักท่องเที่ยวในทำเลดีๆของภูเก็ต  ก็ได้เงินเดือน ละ 8 หมื่นแล้ว   อะไรมันจะขนาดนั้น!!   หรือบางคน ก็ไปตั้งถิ่นฐานแถวกรุงเทพเลย  แถวหน้า ม.ราม ก็เยอะ  ทำให้ พี่น้อง  เพื่อนฝูง  หายหน้าหายตา อย่างหน้าใจหาย...












เมื่อสักประมาณหลายปีก่อน  ทางการประเทศมาเลเซีย  ได้ทำการปราบปราม  "พวกต้มยำกุ้ง"  ซึ่งหมายถึง  คนไทย และคนต่างชาติ   แต่จะเน้นที่คนไทยเป็นหลัก  ที่ไปเปิดร้านอาหารที่ประเทศมาเลเซีย  ด้วยข้อหา เป็นคนต่างชาติ  แต่กลับมาแย่งงานของคนมาเลเซีย        ...ในตอนนี้  มีคนรู้จักของผู้เขียนคนหนึ่ง  ก็ต้องอพยบ หรือเรียกว่า หนีตำรวจมาเลเซีย  มาเปิดร้านอาหารที่ เขต 8            .... สรุปสุดท้าย  ขาดทุนไปหลายแสน  น่าสงสารมากๆ    จึงมีคำถามว่า  เกิดอะไรขึ้นกับเมืองหาดใหญ่   เมืองที่เคยให้โอกาสสำหรับผู้คนในอดีต    ความภาคภูมิใจของเราหายไปไหน   สิ่งที่เราเคยภูมิใจเกี่ยวกับเมืองหนีภาษี  ทุกคนต้องมาซื้อตลับเกมส์ที่กิมหยง   ซื้อหัวหอม  กระเทียม  น้ำมันพืชก็ต้องมาซื้อที่หาดใหญ่  รองเท้าชื่อดังอย่าง  scholl คู่ละ 2  พัน ก็ต้องมาซื้อที่หาดใหญ่  อุปกรณ์ไฟฟ้า  ทีวีสีรุ่นใหม่  ก็ต้องมาซื้อที่หาดใหญ่   คำตอบของคำถามนั่นคือ ทุกอย่างละลายหายไปกับ สิ่งที่เรียกว่า  FTA  หรือเขตการค้าเสรี   ทำให้  ตลาดกิมหยง  ตลาดสันติสุข  แทบกลายเป็นตลาดร้าง  ไม่คึกคักเหมือนในอดีต  และโดนซ้ำเติมด้วย "การค้าออนไลน์" อย่างหนักหน่วง















เกิดอะไรขึ้นกับหาดใหญ่   เมืองที่เราเคยภูมิใจ   ดูเหมือนว่า เรากำลังตั้งหลักไม่ทัน  ไม่ทันการเปลี่ยนแปลง  จะพัฒนาไปทางท่องเที่ยว  เราก็ไม่มีเกาะที่สวยงามแบบ กระบี่ ภูเก็ต  หรือแม้แต่สุราษฎร์ ที่มีเกาะพงัน  เกาะสมุย   เรายังวนเวียนอยู่แค่ เขาคอหงส์  กับเกาะหนูเกาะแมว  เราไปได้ไกลกว่านั้นหรือไม่  เราจะเอาอะไรไปสู้ทะเลฝั่งอันดามัน  หรือเราเป็นได้แค่ที่แวะเข้าห้องน้ำของคนมาเลเซียเท่านั้นหรือ   พรรคพวก  เพื่อนฝูง  พี่น้องของเรา  ต้องหนีไปทำงานที่อื่น  เพื่อหาเลี้ยงชีวิต  และครอบครัว    บางคนถึงขนาดไปเสียชีวิต และฝังไว้ที่นู้น  ซึ่งน่าเศร้าใจ  แต่ทำอะไรไม่ได้            ...แต่ทว่าในวันนี้   พวกเราจะพาพวกเขากลับมา   พาลูกหลานของพวกเรากลับมา     มาอยู่ในหาดใหญ่  มาทำงานในหาดใหญ่    เพื่อให้ความ  ภาคภูมิใจของพวกเรากลับมาให้เป็นดังเดิม  และมากๆยิ่งกว่าที่เคยเป็น ...






บทตวามตอนต่อไปคลิกที่นี้................

 


Create Date : 13 เมษายน 2566
Last Update : 29 มิถุนายน 2568 10:20:21 น. 0 comments
Counter : 425 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

BlogGang Popular Award#21


 
chuk007
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




Friends' blogs
[Add chuk007's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.