...Welcome to 'CharVinFongLian' Club...
ขอต้อนรับสู่ Blog ChuengNgee (จูเลี่ยนจาง) Series Fan Fiction ค่ะ

ครั้งแรกในชีวิตกับพระเอกยอดขวัญใจ

...ครั้งแรกในชีวิตกับ Mini Concert ของสุดที่รัก...
Chilam Cheung Music Show @ Kowloon Toong


ก่อนอื่นคงต้องขอเอ่ยถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของงานนี้สักหน่อย หลังจากที่ ‘จางจื้อหลิน’ (กระทู้นี้ขอใช้ชื่อจริงหรือชื่อเล่นของพี่ชายจางแทนคำว่าพี่ชายนะคะ เผื่อว่าใครผ่านไปผ่านมาจะได้รู้จักพี่ชายเรามากขึ้น) ไม่ได้มีผลงานในประเทศไทยให้เราได้ชื่นชมกันมานานหลายปีดีดัก ปรากฎว่าปีที่แล้วแฟนคลับจางจื้อหลินก็ได้เฮกันเมื่อผลงานเพลงล่าสุดของพระเอกหนุ่มอันมีเอกลักษณ์ส่วนตัวที่โดดเด่นกระชากใจสาวๆ นั่นก็คือ ‘ลักยิ้มพิฆาต’ ได้ออกสู่สายตาของสาธารณะชนกับเขาเสียที

งานนี้ต้องขอขอบคุณค่ายเพลง Neway ที่ถึงจะไม่ใช่ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แต่ก็โดนใจแฟนคลับหลายๆ ที่นำผลงานเพลงชุดล่าสุดของจางจื้อหลินมาให้เหล่าแฟนๆ ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ได้ให้หายคิดถึงกัน

เปิดตัวกันไปเรียบร้อยเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2009 กับอัลบั้ม ‘I AM CHILAM’ (ได้ข่าวว่าชื่ออัลบั้มโดนใจซ้อแต๋มแบบสุดๆ iamtomtam vs iamchilam …จ๊ะแม่คุณยอมกันไม่ได้เลย ไปฟาดฟันกับ channylam ศิษย์ลูกค้างคาวกันเอาเองก็แล้วกันนะ น้องใหม่คนนี้ชีแร๊งค์น่าดู) ซึ่งเหล่าซ้อๆ ก็ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดโดยมี ‘เหมียว’ เป็นผู้นำ (สงสัยว่างๆ ต้องไล่อายุกันหน่อยแล้วนะ ไปๆ มาๆ พี่งี้ดูอาวุโสที่สุดในหมู่แฟนคลับพี่ชายเรยเนี้ย เหมาะกับการเป็นนางเอกมิวสิควีดีโอ Collagen เสียจริง) และครั้งนั้นก็ได้แต๋มติดตามไปถึงงานเปิดตัวอัลบั้มเพื่อคว้าซีดี pre-order ที่มีลายเซ็นต์ของจางจื้อหลินมาฝากแฟนคลับชาวไทยกัน (นี่แค่เวอร์ชั่นแรกนะคะท่านผู้ชม มาคอยดูกันว่า I AM CHILAM มันจะมีทั้งหมดกี่เวอร์ชั่นกัน แล้วเหล่าซ้อๆ ล่ะจะฟาดหมดทุกเวอร์ชั่นกันเรยหรือเปล่า???)

หลังจากงานเปิดตัวอัลบั้มเสร็จสิ้น ซ้อๆ ก็ได้แผ่นเพลงของจางจื้อหลินมาฟังกัน (ได้ข่าวว่าฟังมันทั้งวัน...ฟังมันจนแผ่นจะเยินอยู่แระ...บางคนมีหลายชุดก็เก็บมันที่บ้านบ้าง...ที่ทำงานบ้างเพื่อให้จางจื้อหลินรู้ว่า...เรารักคุณมากแค่ไหน !!) แล้วก็มาฝึกร้องกันเพราะคาดการณ์กันเอาไว้ว่าจางจื้อหลินคงจะได้มีคอนเสิร์ตใหญ่ให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกัน

...และแล้ว...

สวรรค์ก็มีตา...ฟ้าก็มีใจ ยังไม่ทันถึงคอนเสิร์ตใหญ่ก็มีข่าวแว่วๆ ว่าจะมีคอนเสิร์ตเล็กของจางจื้อหลินมาให้ลองเวทีกันก่อน คราวนี้ซ้อๆ หูผึ่งกันเป็นแถว เหยี่ยวข่าวอย่างเหมียวก็เริ่มปฏิบัติหน้าที่โดยมีซ้อแต๋มเป็นมือขวา



ซ้อแต๋มจึงได้มาประกาศในบล็อกว่าใครสนใจที่จะไปดูมินิคอนเสิร์ตกันบ้าง งานนี้ตั๋วฟรี พี่งี้ก็เปิดปฏิทินดูทันที ติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ซะด้วย เพราะงั้นเลยลงชื่อไว้เลยค่ะ

แต่ปรากฎว่าหลังจากนั้นก็เกือบเศร้าไปเหมือนกันเพราะตั๋วฟรีก็จริงแต่ได้มาโค-ตะ-ระ ยากส์ส์ส์ เพราะอะไรนั่นเหรอ ได้ข่าวว่าจะต้องไปร้องคาราโอเกะ และสั่ง BUDWEISER จำนวน 2 ลังเพื่อลุ้นชิงโชคตั๋วฟรีจำนวน 1 ใบ (แม่เจ้า...มันตั้งใจแจกตั๋วหรือตั้งใจมอมเบียร์แขกกันแน่เนี้ย) งานนี้ก็เลยต้องรอลุ้นกับมิเชลอย่างเดียวเลยว่าจะหมู่หรือจะจ่า (ผู้หมวดหลอช่วยดาร์ลิ้งค์ด้วยฮ่ะ)

พี่งี้สวดภาวนาทุกวัน บ่นมันทุกวันในบล็อกนั่นแหละ (ยืมมุขมิมาใช้ บ่นมากๆ เข้าเดี๋ยวก็ได้ไปเอง) บ่นมายาวนานร่วมสองเดือนได้...

....ในที่สุด...

ก่อนวันคอนเสิร์ตจริงราวๆ อาทิตย์เดียวเราถึงรู้ข่าวกันว่าได้ตั๋วฟรีมาจำนวน 3 ใบตามที่ขอกันไปเที่ยวแรก (หลินกุกับพี่เล็กอย่าเสียใจนะคะ เหมียวพยายามแล้วจริงๆ พี่งี้ยืนยันได้ แต่เนื่องด้วยตั๋วหายากจริงๆ อย่างที่บอกเอาไว้เพราะงั้นรอบหลังที่ขอเพิ่มไปอีก 2 จึงลำบากนิดนึงค่ะ) ทีนี้สามซ้ออย่าง เหมียว แต๋ม และพี่งี้ก็เลยต้องหัวหมุนกันให้ควั๊ก ไหนจะจองตั๋ว ไหนจะลางาน ไหนจะหาที่พัก (แต่เรื่องที่พักโชคดีที่เหมียวชำนาญก็เลยไม่ใช่เรื่องยาก แล้วก็พี่งี้ลาไว้ล่วงหน้าให้เป็นลางไว้ก่อนแล้วก็เลยโชคดีไป เหลือแต่แต๋มนี่แหละที่ลุ้นกันจนนาทีสุดท้ายว่าจะหมู่หรือจะจ่า แต่ในที่สุดก็โล่งอกค่ะที่แต๋มสามารถเคลียร์งานได้)

...วันที่ 12 มีนาคม...

รักชิแลมต้องอดทนค่ะ (ต่อไปนี้ขอเรียกชิแลมนะคะ เพราะว่าสามซ้อใช้เรียกกันตอน @ HK) โดยเฉพาะพี่งี้อดทนเป็นเลิศ ลองนึกภาพนะคะตอนจัดกระเป๋ามันไม่คิดร๊อก แต่ตอนลากกระเป๋าเพิ่งจะมาสำนึก แบบว่าขนของไปให้ญาติที่อยู่ฮ่องกงด้วยไง เฉพาะของฝากก็ปาไป 15 กิโลแล้ว ไหนจะกระเป๋าเสื้อผ้าอีก แล้วยังกระเป๋าสะพายอีก กลายเป็นยัยบ้าไปเลยงานนี้...แต่ไม่เป็นไรค่ะรักชิแลมต้องเข้มแข็ง..ถึก และอดทนเป็นเลิศค่ะ

ทีแรกสามสาวนัดกันที่สนามบินตอน 12.30 น. ค่ะ แต่พอเขาเล่นกีฬาสีกันก็เลยต้องเปลี่ยนเวลานัดหมายให้เร็วขึ้นเป็น 11.30 น. ค่ะ ปรากฎว่าไปถึงกันก่อนเวลากันหมดเลย (ไม่ค่อยตื่นเต้นกันเร้ยยย พวกแกเนี้ย) เช็คอินอะไรกันเสร็จเรียบร้อยก็มีเวลาสิบเอ็ดรอดอกันอีกหน่อย

สวรรค์ ยังคงกลั่นแกล้งแฟนชิแลมไม่เลิกด้วยการที่เครื่องบินดีเลย์อีกต่างหาก สามซ้อบ่นกันใหญ่...แต่ไม่รู้ว่าจะบ่นกันทำไม ก็ได้ข่าวว่าคอนเสิร์ตมันมีวันที่ 13 มีนาคมไม่ใช่เร๊อะ !! (พวกแกเวอร์ไปป่าวเนี้ย)

...เวลา 14.45 น....เครื่องบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ (บ้ายบายกีฬาสี เราเลิกเล่นกันสักพักดีกว่าเน๊อะ เหอะๆๆๆ)

...เวลา 18.30 น....เครื่องบินร่อนลงสู่สนามบินฮ่องกง (เย้วๆๆๆๆ...ชิแลม เดี๋ยวเราก็จะเจอกันแล้วนะ...เฮ้ย ! จะบร้าหรือแก ก็บอกว่าคอนเสิร์ตมีวันที่ 13 ไงยะ !!)


…และแล้ว การเดินทางเพื่อกระแทกหัวใจชิแลมก็เริ่มขึ้น...

ออกจากสนามบินก็เดินทางไปที่พักโดย Airport Bus ค่ะ ทริปขอตั้งชื่อว่า ‘ก็นี่แหละนะ...เพราะบ้าผู้ชาย’ ทำไมถึงต้องตั้งชื่อแบบนี้ เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ

ระหว่างที่สามซ้อนั่งรถไป ก็เม้าส์กันไป ทอปปิกไม่มีอะไร้เร้ยนอกจากผู้ชายที่ชื่อ ‘ชิแลม’ แต๋มอาการหนักนิดนึงที่ชีแอนตี้เมียชิแลม พอพูดถึงฝนฝนเข้าหน่อยชีก็ชริเข้าใส่ เม้าส์กันไปเม้าส์กันมาอายู้ก็แมสเสสมาหาพี่งี้ว่าอยู่ที่ไหนแล้ว เพราะพี่งี้บอกอายู้ว่าที่แรกที่เราจะไปเยือนก็คือบ้านอายู้นั่นเอง

พี่งี้ก็เลยโทร. กลับไปหาอายู้ แต่ด้วยความที่ภาษาอังกฤษเก่งด้วยกันทั้งคู่ แถมสำเนียงก็ใกล้เคียงกันซะเหลือเกิน พูดกันอยู่ตั้งนาน สรุปว่า...ไม่เข้าใจ... ก็เลยส่งโทรศัพท์ให้เหมียวช่วยพูดให้ (เออแฮะ..ก็ฉันให้เธอช่วยพูดตั้งแต่แรกแล้วทำไมไม่พูดล่ะยะ ปล่อยให้ฉันพูดคนละเรื่องกับน้องชายอยู่ได้ตั้งนาน กำเจงๆ) ก็เลยตกลงกับอายู้ว่าจะนัดเจอกันที่ไหนจนเสร็จเรียบร้อยถึงจะวางสาย ต่อจากนั้นก็เข้าเรื่องเดิมคือนังพวกนี้บร้าผู้ชายยยยย เม้าส์กันไปเรื่อย ทางเทิงไม่ยอมดู แล้วเป็นไงรู้มั้ย...

เงยหน้าขึ้นมาอีกที เหมียวร้องภาษาลิง...เจี๊ยกกกก...เลยยยยย !!! เป็นไปได้ไงเนี้ย ทุกทีไม่เคยเลยนี่หว่า...ซึ่งคำตอบก็คิดว่าทุกคนคงจะเดากันได้...ก็เพราะพวกแกบร้าผู้ชายไง (ยกที่หนึ่ง)

คราวนี้ก็เลยลากกระเป๋ากันยาว สองคนลากมือเดียว พี่งี้คนเดียวลากสองมือ (ก็บอกแล้วไง ตอนจัดกระเป๋ามันไม่คิด แล้วเป็นไงล่ะเข็ดมั้ย??) แต่ก็เดินกันชิวๆ ค่ะไม่เท่าไหร่ร๊อก แค่หาที่พักไม่เจอกันเท่านั้นเอง (ทำไมทริปนี้มันเลยตลอดฟระเนี้ย)...แต่สุดท้ายด้วยความอดทนของผู้หญิงของชิแลม ในที่สุดเราก็หาที่พักจนเจอค่ะ...ส่วนสภาพห้องนะเหรอ????

เปิดประตูเข้าไปก็เป็นเงี้ยอ่ะค่ะ...แบบว่าพี่งี้ยืนขวางก็เต็มแนวกว้างแล้วค่ะ ต้องแถกข้างกันเข้าไปค่ะ

เตียงนอนมี 2 ชั้น 1 ตัวค่ะ เตียงนี้ยกให้แต๋ม ข้างๆ กันนั้นของเหมียวค่ะ ส่วนของพี่งี้เตียงใหญ่หน่อยอยู่ติดกับห้องน้ำค่ะ (หัวติดกับโถส้วมเลยค่ะ...เจี๊ยก !)



ส่วนนี้ก็อีกมุมหนึ่งค่ะ ห้องกว้างมากค่ะ เดิน 3 ก้าวถึงประตูห้องแล้วค่ะ...แหม...ห้องกว้างซะขนาดนี้ แล้วห้องน้ำล่ะ จะเป็นยังไงหนอ????



แต่นแต้นนนนนน...ห้องน้ำสุดหรูที่หาวงสวิงไม่เจอ (ขอยืมคำแต๋มใช้หน่อยนะ) ด้านหน้าเป็นอ่างล้างหน้าขนาดเท่าใบหน้าของพี่งี้ ส่วนที่ติดสะโพกก็คือชักโครกดีๆ นี่เอง...เวลาอาบน้ำต้องห้ามหมุนตัว ถูๆ ไถๆ ให้หอมพอประมาณ ส่วนเวลาใส่เสื้อก็กระโดดขึ้นไปบนส้วมดีที่สุดเพื่อหาวงสวิง แล้วก็เข้าได้ทีละคนนะจ๊ะเพื่อความเป็นสุภาพชน



แต่ว่าขอบอกไว้ก่อนนะคะ ใครที่จะไปโคลีเซียมต้องยอมรับได้กับที่พักขนาดนี้ด้วย เพราะว่าที่พักที่นี่ใกล้โคลีเซี่ยมที่สุดแล้วค่ะ ส่วนราคาก็พอรับไหว เพราะถ้าพักโรงแรมราคาห้องพักอาจเป็นหลายร้อยเหรียญ แม้สะดวกสบายก็จริงแต่ว่าเราคงจะไม่อุดอู้กันอยู่แต่ในที่พักทั้งวันใช่มั้ยคะ...ท่องเอาไว้ค่ะ รักชิแลม ต้องอดทน เราเอาเงินค่าที่พักไปซื้อบัตรคอนเสิร์ตกันดีกว่านะคะ หรือหากสาวกท่านใดพักไม่ได้จริงๆ ก็จะให้เหมียวหาโรงแรมให้ค่ะ

หลังจากที่วางกระเป๋าแล้วก็ได้เวลาไปหาอายู้กันค่ะ มีพี่งี้กับแต๋มไปกันสองคนค่ะ ส่วนเหมียวขอแยกตัวไปหาซื้อเสื้อช็อกโกแลตอีกสักตัวที่ Causeway Bay

ส่วนนี่ก็ครอบครัวของพี่งี้ที่ฮ่องกงค่ะ น่ารักป่าวคะ





แต๋มก็คุยกับน้องๆ ของพี่งี้ไป แบบว่าเห็นกล่องช็อกโกแลตแล้วจะเป็นโลมมมมค่ะ ชีก็เปิดกล่องช็อกโกแลตออกมาแล้วก็คุยเรื่องเพลงกับน้องๆ ของพี่งี้ไป (ชุดนี้เป็นเวอร์ชั่นที่ 2 ค่ะมาพร้อมเสื้อ I AM ซึ่งซ้อๆ ก็กวาดกันทุกคนเหมือนเดิม) ส่วนพี่งี้ก็มัวแต่เถียงกับอาอี้เรื่องของฝากอยู่นั่นแหละ คือเรื่องมันมีอยู่ว่าแม่ฝากอาอี้ซื้อของแล้วอาอี้จะไม่เอาเงิน ก็เลยต้องต่อสายให้แม่ๆ คุยกันเอาเอง ระหว่างนั้นก็ดึงของฝากมาจากกระเป๋าใบใหญ่ น้องๆ ก็ร้องเป็นภาษาลิงกัน เอามาทำไมเยอะแยะเงี้ย !

อยู่คุยได้ประมาณ 45 นาทีค่ะหลังจากที่แชะรูปก็ได้เวลาต้องเดินทางกลับที่พักแล้วเพราะเป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าๆ แล้วค่ะ ก่อนกลับอาเตี๋ยยังให้อั่งเปามาอีก (จุ๊บๆ อาเตี๋ยน่ารักจัง ให้แต๋มด้วยนะเก็บไว้เป็นขวัญถุงนะจ๊ะแต๋ม)

แล้วอายู้กับอาอี้ก็มาส่งที่ MTR ค่ะ ก็ถึงเวลาที่พี่งี้ต้องจากกับครอบครัวที่ฮ่องกงอีกแล้ว (แต่ไม่เป็นไรค่ะกลางปีคงได้เจอกันอีกถ้าโคลีเซียมไม่ล่ม...สาธุ)

ออกมาจาก MTR เรายังไม่กลับเข้าที่พักค่ะเพราะต้องซื้อซีดีกันก่อน (นี่ก็เวอร์ชั่นที่ 3 มาพร้อมกับ MV และแหวนคู่สื่อรัก และแน่นอน ซ้อๆ ก็กวาดเรียบอีก) ในใจคาดหวังไว้ว่าจะให้ชิแลมเซ็นต์ค่ะ แต่ก็ต้องแห้วไป (สรุปที่ขนไปมากมายก่ายกองในมินิคอนเสิร์ตไม่ได้แอ้มมือชิแลมสักติ๊ดดดด) ต้องขอโทษเพื่อนๆ ด้วยนะคะที่แกะกระดาษห่อซีดีออกเพื่อหวังจะอำนวยความสะดวกให้ชิแลมเต็มที่ เอาเป็นว่างวดต่อไปไม่ต้องขนอะไรไปให้เซ็นต์แล้วค่ะ เอามันส์กับคอนเสิร์ตอย่างเดียวก็แล้วกันจะได้สบายตัวหน่อย เย้วๆ กันให้มันส์

พอกลับถึงที่พักก็รีบเก็บรูปไว้ฟ้องก่อนเลยค่ะ ดีนะเนี้ยที่กระเป๋าแต๋มใหญ่ (ขนาดกระเป๋าใหญ่ยังกุมขมับเรย ลองนึกกันเอาเองก็แล้วกัน) ส่วนพี่งี้ก็มีกระเป๋า 2 ใบพอดี (ทั้งๆ ที่คิดว่ากลับบ้านจะตัวเบากลายเป็นว่ากระเป๋าใส่ไม่พอต้องใส่ถุงผ้าที่เตรียมมาอีกกลายเป็น 4 กระเป๋าตอนขากลับ...มันบร้าไปแล้วววววว)



แต๋มอาบน้ำเป็นคนสุดท้ายค่ะ แล้วชีต้องร้องเจี๊ยกเพราะเกือบได้กินนมร้อนค่ะ...แบบว่าเครื่องทำน้ำอุ่นมีประสิทธิภาพดีมากๆ เล่นเอาเกือบสุกเรย...เหอะๆๆๆๆ


...วันที่ 13 มีนาคม: วันแห่งการรอคอย…

พวกเราตื่นกันแต่เช้าเพื่อไปสักการะพระใหญ่กันก่อนค่ะ หรือที่เรียกว่า Nong Ping นั่นแหละค่ะ เดินทางโดย MTR แล้วก็เม้าส์ๆๆๆๆๆ กันเรื่องผู้ชายเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ก็เตือนๆ กันตลอดว่าให้คอยดูทางด้วย สรุปก็เข้าอิหรอบเดิมคือ เลยยยยย อีกแล้วครับท่าน เหมียวถึงขนาดบ่นว่าทำไมรอบนี้มันเลยตลอดเลยฟระ (ก็แหงล่ะ ก็พวกเอ็งมันบร้าผู้ชายไง มันคือคำตอบสุดท้าย)

เอาภาพมาฝากด้วยค่ะ

นั่งรถกระเช้าอยู่ค่ะ บรรยากาศดีมากๆ ค่ะ เห็นหมอกเต็มเรย


ถึงแล้วค่ะก็เก็บภาพทางเข้าไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย (ขอโทษนะเหมียวก็เธอไม่สามารถให้เปิดเผยโฉมหน้าแก่สาธารณะชนได้ ฉันเลยต้องทำแบบนี้ !!)


ก่อนที่จะขึ้นไปสักการะ เราก็เติมพลังกันเล็กน้อย (คงเห็นแล้วนะคะว่าใครเห็นแก่กินที่สุด...เหอะๆๆๆ)


ขึ้นมาถึงแล้วค่ะ ข้างบนสวยมากๆ (แรกๆ ก็ก้าวกันฉับๆ สักพักเริ่มผลัดกันหอบ...กำ...บันไดล่อไปเป็นร้อยขั้น)


เสร็จจาก Nong Ping เราก็แวะห้างกินข้าวกันค่ะ แล้วก็แลก Gift Voucher สำหรับนักท่องเที่ยวรวมๆ ก็ราวๆ 70 เหรียญได้ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะ ไว้แลกซื้อของได้ ขากลับก็โดยสาร MTR อีก...ทายสิคะว่าเลยอีกหรือป่าว...(ให้แต๋มตอบแล้วกัน)

กลับถึงที่พักก็ราวๆ 4 โมงเย็นได้ค่ะ ก็เตรียมตัวไปดูคอนเสิร์ตกันด้วยการสวมเสื้อ I AM สรุปว่า เสื้อไซด์ใหญ่กว่าที่คิดเอาไว้มากๆ เลยค่ะ แต๋มใส่แล้วโคร่งเลย ส่วนพี่งี้ XL ก็ลองนึกภาพเอาเองดีที่ตัวใหญ่อยู่แล้วก็เลยไม่น่าเกลียด ส่วนเหมียวโชคดีที่มีสะแปไว้อีกตัว...อ้อ ก่อนหน้าที่จะกลับที่พักก็โทร. นัดน้องเกอร์ให้มาเจอกันก่อนด้วยค่ะ

อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อกันเสร็จก็ออกไปหาเกอร์และกินข้าวกันก่อนที่จะไปสถานที่จัดคอนเสิร์ตค่ะ





ได้คุยกับน้องเกอร์ ถึงรู้ว่าน้องเกอร์เก่งมาก อายุเท่านี้ต่อปริญญาเอกแระ ทั้งๆ ที่พี่งี้ไม่เอาอ่าวอะไรเลย (เอาแต่ชิแลมอย่างเดียวนั่นแหละ) แล้วน้องเกอร์ก็เล่าเรื่องตาสตีเฟนให้ฟัง แล้วก็คุยกันจิปาถะ รวมถึงภาพในกล้องของน้องเกอร์ที่มีแต่ฟงฟงเป็นร้อยๆ ภาพ ซึ่งน้องเกอร์ก็ตามฟงฟงเกือบทุกงานเลย เหมียวถามว่าไม่ตามคนอื่นมั่งเหรอ เกอร์เลยบอกว่าจะให้ตามพี่ชิแลมมั้ยล่ะ (เอาล่ะสิ...ไม่สวยนะคะน้องงานนี้ ของใครของมันค่ะ)

คุยกับน้องเกอร์ได้ไม่เยอะค่ะ ก็ได้เวลาที่เราต้องเดินทางไป Kowloon Toong กันแล้วค่ะ (ตื่นเต้นๆ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้เจอหน้าชิแลมแล้วค่ะ) เที่ยวนี้ไม่เลยค่ะ ตั้งสติกันเต็มที่ แต่ที่เข้ามาแทนก็คือ ‘หลง’ ค่ะ หาทางขึ้นรถไม่เจอ แต่ด้วยความเป็นผู้หญิงของชิแลมในที่สุดเราก็งมกันจนเจอค่ะ (ปรบมือให้เหมียว เย้ๆๆๆๆ)

เรานัดกับมิเชลไว้ตอน 19.45 น. ที่หน้าเจ็ด-สิบเอ็ดค่ะ แต่เราไปถึงกันราวๆ 19.10 น. (ไม่ค่อยตื่นเต้นกันเรยพวกแกเนี้ย) ก็เลยขึ้นไปหน้าห้องจัดงานเพื่อเซอร์เวย์กันก่อนค่ะ แล้วก็กลับลงมานั่งปุ๊กลุ๊กกันหน้าทางเข้าตอน 19.20 น. ค่ะ แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นคนมากัน เหมียวบอกว่าคนที่นี่ตรงเวลาค่ะ (ตรงเวลากันจริงๆ เลยค่ะ ถ้ายังไม่ถึงเวลาก็จะไม่เห็นหัวกันเลยค่ะ)

ประมาณ 19.30 ลองโทร. หามิเชลค่ะ ชีถึงแล้วนั่งกินนู๊ดเดิลอยู่ค่ะ (เออ แฮะ...มันยังไม่ถึงเวลานัดหมายจริงๆ ด้วยค่ะก็เลยยังไม่มาตรงจุดนัดหมายค่ะ)

สามสาวก็นั่งปุ๊กลุ๊กกันต่อไปค่ะ สายตาก็สอดส่องคนใส่เสื้อ I AM ไปด้วย ส่วนกลุ่มคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กันนั้นเราไม่รู้หรอกค่ะว่ามาดูชิแลมหรือเปล่า แต่ก็คาดเดากันต่างๆ นาๆ ว่าแฟนของชิแลมมีทุกเพศทุกวัยเลยจริงๆ เพราะว่ากลุ่มข้างๆ เรานั้นเป็นกลุ่มคนที่สามารถเล่นมิวสิควีดีโอ Collagen ได้ค่ะ (เฮ้อ !)

19.40 น....มิเชลก็ยังไม่มาค่ะ (สงสัยดูดนู๊ดเดิลอยู่) จุดนี้ทำให้พี่งี้เชื่อว่าคนที่ฮ่องกงเขาตรงต่อเวลากันจริงๆ นะคะ (อะไรจะตรงขนาดนั้นเนี้ยยย !)

19.45 น....เป๊ะเลยครับท่าน เห็นมิเชลเดินมาแระ พวกเราก็ไปรวมกลุ่มกันหน้าเจ็ด-สิบเอ็ดเพื่อรับตั๋วคอนเสิร์ตค่ะ ต่อจากนั้นก็ขึ้นไปข้างบนทันทีค่ะ

20.15 น....เปิดประตูให้เข้างานค่ะ ทางมันเป็นอย่างงี้ค่ะ คือต้องขึ้นบันไดเลื่อนไป 1 ชั้น แล้วก็ลงบันไดเลื่อนมาอีก 1 ชั้นเพื่อเข้าประตูหน้างาน (มันจะให้ขึ้นๆ ลงๆ ทำไมก็มะรุ เพราะในที่สุดก็มาอยู่ตรงจุดเดิม เป็นเงง) ก่อนจะเข้างานมิเชลก็แจก ‘ลูกไฟสวมนิ้ว’ (คำถามข้อที่ 5 ของแต๋ม post ที่ 1075 นั่นแหละค่ะ) อันนี้ชิแลมไม่รู้เรื่องค่ะ แฟนคลับตั้งใจเซอร์ไพรส์ชิแลมค่ะในเพลงช้อก่อก๊อ (ถ้าสะกดผิดต้องขอโทษด้วยนะคะ) ที่ประกอบละครหัวใจปรารถนานั่นแหละค่ะ

20.45 น....เข้ามาอยู่ข้างในงานแล้วค่ะ ก็รีบเก็บภาพป้ายไฟก่อนเลย (เทสค่ะเทส กลัวชิแลมไม่เห็น) เรานั่งเฉียงไปทางซ้ายมือของชิแลมค่ะ โชคดีอยู่แถวที่สองค่ะก็เลยพอเห็นตัวจริงได้ชัดๆ แม้จะไม่ชัดเท่าที่ใจอยากก็ตามที




....21.00 น.....เพลงบรรเลงมาแล้วค่ะ....กรี๊ดดดดดดดดดดด...พอเพลงจบทีมงาน BUDWEISER ก็ขึ้นมาให้เล่นเกมส์ค่ะ (กำ...อุตส่าห์กรี๊ดจนเสียงแห้ง ฉันไม่ได้กรี๊ดแกนะยะ)

...21.10 น....

เกมจบแระ ทำนองเพลง GET TOGETHER ขึ้นมาแล้วค่ะ...กรี๊ดดดดดด เสียงกรี๊ดลั่นฮอลล์เลยค่ะ แล้วชิแลมก็กระโดดออกมาจากประตูห้องน้ำ (ว่าแต่ทำไมต้องทำฉากหลังเป็นห้องน้ำด้วยฟระ) พี่งี้กับเหมียวรีบชูป้ายไฟเลยค่ะ พี่งี้ทุเรศนิดนึงเล่นยืนขึ้นด้วยกลัวชิแลมไม่เห็นจนเหมียวต้องเตือนว่าบังคนข้างหลังก็เลยนั่งลงใหม่ค่ะ แต่ก็ยังออกแนวอีบ้าเหมือนเดิมด้วยการกรี๊ดลั่นอยู่

จังหวะนั้นแต๋มก็เล็งกล้องเลยค่ะ เตรียมถ่ายคลิป แล้วทำไมรู้มั้ย อยากจะบีบคอ ‘การ์ด’ เสี้ยเหลือเกิน เดินเข้ามากดกล้องแต๋มลงค่ะ (นี่คงเป็นคำตอบได้ว่าเพราะอะไรชูชูถึงต้องลงไปนอนพาบๆ กับพื้นด้วย คาดการณ์เอาว่าเจ้แอบซุกกล้องไว้ หรือไม่ก็จ้องเป้าชิแลม)

...สักพัก...ชิแลมก็หันมาทางซ้ายมือค่ะ !!!!


(ไม่ใช่ภาพประกอบของจริงนะคะ แต่คิดว่าพอถูไถไปได้)

ลองนึกภาพตามนะคะ ชิแลมหันมา...พี่งี้กับเหมียวชูป้าย 智 霖 และ THAILAND ขึ้นพร้อมๆ กัน...ชิแลมผงะไปเสี้ยววินาที...ก่อนที่จะยกมือซ้ายขึ้นและโบกมือให้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พระเจ้าช่วย....แทบเป็นลมไปทั้ง 3 คน แต๋มอาการหนักสุดไม่กล้ามองหน้าชิแลม ชีบอกเขิลลล เลยหันมาทางพี่งี้แทน (ครั้งที่ 1 แล้วนะที่ทำให้ใจสาวเปลี่ยวแทบแหลกสลายกลายเป็นจุล...ชิแลมเอ้ย !)

ต่อจากนั้นพอตั้งสติได้แล้วถึงได้จ้องคอสตู้มชัดๆ อีกที แทบเป็นลมยกที่ 2 เมื่อข้างซ้ายของชิแลมสวมกระโปรง (ชิแลมช้านนนนน...ทำไมสวมกระโปรงคระเนี้ย !!) แต่พอดูให้ดีอีกทีก็พอรับไหวอยู่มันก็เก๋ไปอีกแบบกับการใช้ผ้าแถบริ้วๆ (ที่ดีกว่าผ้าถุงหรือผ้าขาวม้า) มาพันเป็นกระโปรงแถบหนึ่ง

เพลงที่ 2 จำไม่ได้แระว่าเป็นเพลงอะไร ร้องกับ Guest คนแรกที่หัวฟีบๆ หน่อยไม่ฟู (ไม่รู้หรอกว่าคือใครและไม่สนใจที่จะอยากรู้ด้วย)

มาถึงตอนนี้จำไม่ค่อยได้ว่า Guest ร้องไปกี่เพลง แล้วกลับเข้าข้างหลังไปยัง (ก็บอกแล้วไง ไม่คิดสนใจจำ) แต่ที่แน่ๆ ช่วงนี้ (ถ้าจะไม่ผิดนะ) เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชิแลมหันมาทางซ้ายขณะร้องเพลง และจังหวะนั้นป้าย THAILAND ก็ชูไหวๆ ไม่ยอมหยุด...อยู่ๆ ชิแลมก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาปิดตา..

ลองนึกภาพตามนะคะ...ชิแลมหันมา...ป้าย THAILAND ชูไหวๆ...ชิแลมยกมุมปากขึ้นทั้งสองข้างอย่างมีเสน่ห์จนลักยิ้มบุ๋มปรากฎ (ออย...ระทวย)...ต่อจากนั้นชิแลมก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดตานานประมาณ 3 วินาที ก่อนที่จะเปลี่ยนองศาหันไปอีกทางหนึ่ง (ยกที่สอง)

เราก็เดากันว่าชิแลมคงคิดเช่นนี้อยู่ในใจ

‘ขอบคุณครับคนไทย ขนาดบ้านเมืองเป็นอย่างนี้คุณยังเลือกที่จะมาหาผม ผมรับรู้ว่าคุณมาหาผม ผมรักคุณนะครับ’

(กรี๊ดดดดดดดด สลบ...ท่าปิดตายังตราตรึงมาถึงเวลานี้เลยค่ะพี่น้อง)

จบเพลงชิแลมก็กลับเข้าหลังเวทีไปเปลี่ยนคอสตู้ม แล้ว ‘ชาร้อน’ (Hotcha) ก็ออกมาเดินนวยนาด แล้วก็พูดอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง ซับไตเติ้ลก็ไม่ทำหน้าที่เร้ยให้ตายเหอะ มัวแต่จ้องจะงาบชิแลมอยู่นั่นแหละ

พอชาร้อนเว้าจบชิแลมก็ออกมาด้วยคอสตู้มชุดที่ 2 แบบว่ามาในมาดทาร์ซาน เอาหนามมาพันหัว เห็นแต๋มกับเหมียวบอกว่าใส่ต้มหูด้วย แต่พี่งี้ไม่เห็นหว่ะ มัวแต่อึ้งกิมกี่กับหนามที่เอามาพันหัวนี่แหละ ไม่รู้จะพันทำไม แต่ก็เอาเหอะ หล่อลากไส้(ขาด) ขนาดนี้จะใส่หรือสวมอะไรก็เท่ห์ทั้งนั้นแหละ ยอม



เที่ยวนี้ชิแลมไม่หันซ้ายมาหาไทยแลนด์เร้ยให้ตายเหอะ มัวแต่จีบชาร้อนอยู่ได้พับผ่าสิ เสร็จจากจีบชาร้อนก็ไปนั่งกันที่เคาน์เตอร์เบียร์ ยื่น BUDWEISER มอมสาวไปคนละขวด



ต่อจากนั้นก็พูดอะไรกันก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจ และซับไตเติ้ลก็ไม่ทำหน้าที่เหมือนเดิมเพราะมัวโฟกัสที่เสียงหล่อสุดทรงเสน่ห์ของชิแลมอยู่ (ผู้ชายมาก่อนเชียวนะเหมียว เพื่อนช่างหัวเผือกไปเรย)

หลังจากนั้นชิแลมก็ปล่อยให้ชาร้อนโซโลต่อ ตัวเองก็จิบเบียร์ไป (แหมพ่อ ! จีบชาร้อนเสร็จก็จิบเบียร์ต่อเรยนะ เดี๋ยวก็ร้องเพลงไม่ล่ายร๊อก)

เสร็จจากชงชาร้อน ชิแลมก็กลับเข้าหลังเวทีใหม่ ปล่อยให้หัวฟูออกมาพักหนึ่ง (พี่งี้กับเหมียวก็คือรู้หน้าที่ปิดไฟเลย เปลือง ฉันไม่ได้ทำมาเพื่อเธอ)

ออกมาอีกทีด้วยคอสตู้มเรียบง่ายแต่เก๋ไก๋สไลด์เด้งมากๆ ด้วยผ้าพันคอสุดคลาสสิค แล้วก็เว่าอะไรกันกับหัวฟูก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจเหมือนเดิม แล้วก็ไม่หวังพึ่งซับไตเติ้ลแล้วด้วย ทำใจ นั่งมองหน้าชิแลมอย่างเดียว รู้แต่ว่าเสร็จจากคุยกันก็ร้องเพลงเนี้ยหง่ะ



พอตาหัวฟูเข้าหลังเวทีไป ก็เป็นหน้าที่ของชิแลมต่อ ช่วงนี้ร้องต่อเนื่อง 3-4 เพลงแต่เป็นภาษาจีนกลาง ฟังไม่รู้เรื่องหรอก แต่ว่าแต่ละเพลงจะหันไปแต่ละองศา ซึ่งก็มีอยู่เพลงหนึ่งหันมาทางแฟนคลับไทยแล้วก็ส่งยิ้มให้พร้อมกับโบกมือพองาม (ยกที่ 3)

...โอยเป็นปลื้ม คือชิแลมรับรู้ว่าเรามาหาเขา แล้วตัวชิแลมเองก็พยายามที่จะหันมาทางเราบ่อยมากๆ ค่ะ...

(ต่อไปอาจจะสลับลำดับกันบ้างนะคะ เพราะจำไม่ค่อยได้แล้วค่ะ)

ถัดมาเป็นเพลง You are too good ค่ะ ด้วยคอสตู้มที่คล้ายๆ กับชุดแรกแต่เพิ่มระบายที่กระโปรงเข้าไป (ดูเอาเถิดคอสตู้มแต่ละชุด) มีนางเอกมิวสิคมาร้องคู่ด้วยค่ะ เห็นแระโอบเอาๆ แทบจะอยากขึ้นไปเป็นตัวตายตัวแทนนางเอกซะเหลือเกิน



เสร็จแล้วชิแลมก็พูดอะไรไม่รู้ย้าวยาว ซับไตเติ้ลก็ไม่สนใจเพื่อนๆ เหมือนเดิม แต๋มกับพี่งี้พอหันมาทางซับไตเติ้ลก็ถอนหายใจเฮือก แล้วก็เปลี่ยนใจหันไปมองชิแลมดีกว่า พูดยาวๆ แล้วก็ขอบคุณทีมเบียร์ ขอบคุณนักดนตรี ทำท่าเหมือนจะจบเลย

แล้วก็กลับเข้าไปหลังเวที เที่ยวนี้เพลงบรรเลงยาวมาก ไอ้เราก็รู้แหละว่าชิแลมแกล้งทำเป็นไก๋ว่าจะจบจริงๆ แล้วเปลี่ยนเป็นชุดไมเคิลต่างหาก แล้วหน้าเวทีก็เตรียมฉากเหมือนในห้องน้ำอีกแระ (เห็นแล้วรู้เลย มีนางยั่วมาเตรียมแต๊ะอั๋งชิแลมของช้านแล้วล่ะงานนี้)

แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ตอนนี้มองไม่ค่อยเห็นค่ะ พยายามมองมากเลยว่ายัยนางยั่วแตะต้องตรงไหนของชิแลมมั่ง (ลืมไปอีกต่างหากว่าข้างหน้าเป็นสกรีนใหญ่บิ๊กบึ้ม แล้วทำไมแกไม่ดูสกรีนแทนเนี้ย) ก็เข้าคอนเซปเดิมคือลูบไล้ทั่วตัว (ตอนนี้ไม่มีภาพประกอบเพราะทนรับไม่ล่ายฮ่ะ)

พอโดนลวนลามเสร็จ ชิแลมก็เต้นสะบัดค่ะ (สงสัยเอาคราบลวนลามออก) เท่ห์ได้ใจมากๆ ค่ะ แต่พอจบเพลงปาดเหงื่อซะงั้น (ออย..แค่เหยียบเลขสี่เองนะจ๊ะชิแลมเอ๋ย แต่ไม่เป็นไรค่ะให้อภัยหล่อก็เงี้ยแหละ)



เสร็จจากเต้นสะบัดก็ใกล้จบแล้วค่ะ เป็นเพลงช้า คือ ช้อก่อก๊อ นั่นเอง แล้วตอนนั้นแฟนคลับก็ชูนิ้วไฟค่ะ ชิแลมผงะไปเล็กน้อยแล้วก็ส่งยิ้มหวานเหมือนเดิมด้วยความประทับใจแฟนคลับที่เซอร์ไพรส์เขาค่ะ



เอาคลิปมาให้ดูค่ะ นั่นแหละค่ะไฟฉายจิ๋ว



ส่วนเดอะลาสวันก็คือเพลงนี้ค่ะ (ตอนนี้เพิ่งจะมาสำนึกว่าอยากจะร้องไห้ตามแต๋ม ชิแลมเสียงสั่นจริงๆ ด้วยค่ะ แถมร้องไห้ด้วยค่ะ)



๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑


จบแล้วค่ะสำหรับคอนเสิร์ตที่เรารอคอย จบด้วยความประทับใจและตราตรึงเข้าไปในความทรงจำค่ะ ทีนี้ก็ถึงช่วงที่เรารอคอยอีกเช่นกัน หลังจบคอนเสิร์ต มิเชลให้เรานั่งอยู่กับที่เพื่อจะได้ไป Guttering กับชิแลม

แต่ไหง นั่งอยู่ดีๆ การ์ดมาไล่ซะงั้น...สรุปก็คือมิเชลก็เครียดไปเหมือนกันเพราะไม่มีห้องให้ได้ Guttering กันก็เลยต้องยืนเรียงแถวตอนเอาแทน แล้วเจ้าการ์ด (มีเจ้าอ้วนกับเจ้าแว่น ฉันเกลียดมันมากๆ คอยตามประกบติดอยู่ล่าย น่ารำคาญ) ก็เก็บบัตร Guttering ไป ใครที่ทำหายก็อดต้องโดนกันออกจากห้อง (ดูมันทำนะ)

ครู่หนึ่งมิเชลก็บอกว่าเดี๋ยวให้ชักภาพกันเป็นกลุ่มๆ แทน เพราะว่าไม่มีห้อง ตอนนั้นก็เศร้ากันไปค่ะ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เจออ่ะนะ พวกเราก็ยืนเม้าส์กันไป รอกันไปค่ะ

และแล้วก็ถึงเวลาที่เรารอคอยค่ะ ตอนนั้นก็โฟกัสกันคนละอย่างล่ะ แต๋มตั้งกล้องถ่ายคลิป เหมียวจ้องทิศทางชิแลมเพื่อคอยจัดฉาก ส่วนพี่งี้ก็ถือป้าย THAILAND ไว้ ตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวว่าอยากให้ชิแลมรู้ว่าเป็นพวกเรานะที่ชูป้ายไหวๆ เพื่อคุณ ลองดูกันเอาเองนะคะ งานนี้ต้องปรบมือให้แต๋มค่ะ

เพื่อนๆ ลองนึกภาพตามนะคะ ท่าประจำของชิแลมนั่นแหละค่ะ (แต่รู้สึกแต๋มถ่ายไม่ทัน)

ชิแลมออกมา...แฟนๆ กรี๊ดลั่น....ชิแลมผงะไปเล็กน้อย ก่อนที่จะยกสองมือในระดับเอว แล้วโบกไหวๆ แต่พองาม 2-3 ทีให้พอกระชากใจสาวๆ เล่น (ออย...ระทวย)

ตอนที่ชิแลมเดินมาหา พี่งี้ชี้ป้ายก่อนเลยค่ะ แล้วชิแลมก็ชูนิ้วโป้งให้ บ่งบอกว่าเยี่ยมมาก แล้วสายตาก็โฟกัสไปที่เหมียวทักทายเป็นภาษาจีนทำนองว่า ไม่ได้เจอกันนานแล้ว (คือว่าเหมียวเขาตามชิแลมมาเป็นสิบๆ ปีแล้วค่ะ แล้วก็เคยได้มีโอกาสใกล้ชิดชิแลมอยู่หลายครั้งค่ะ ซึ่งพี่งี้คาดว่าชิแลมจำเหมียวได้ค่ะ และแต๋มก็คิดเช่นนั้นค่ะ)

ชิแลมมาแล้วค่ะ

หลังจากนั้นก็โดนไล่ออกมากันแล้วค่ะ แต่พวกมิเชลกับชูชูยังไม่ออกมา เหมียวก็ว่าน่าสงสัย พวกเราก็เลยยังไม่ยอมกลับค่ะเผื่อว่าจะมีโอกาสได้เจอต่อ แต่สรุปก็คือชิแลมกลับไปแล้วค่ะ แต่เราก็ยังป้วนเปี้ยนกันอยู่แถวนั้นค่ะ เพราะยังไม่ไว้ใจพวกมิเชลอยู่ดีเผื่อสับขาหลอกให้คนกลับไปกันหมดก่อนแล้วชิแลมค่อยปรากฎกาย

เรื่องก็เลยกลายเป็นว่าทั้ง 3 คนลงมาทีหลังสุด (เพราะมัวแต่หลงทางหาลิฟท์ไม่เจอ ดูเอาเถอะขนาดคอนเสิร์ตจบแล้วมันยังหลงทางกันได้อีก) แล้วก็จ๊ะเอ๋กับพวกมิเชลตรงหน้าฮอลล์ พวกมิเชลถึงกับอึ้งร้องเป็นภาษาลิงว่า ‘เจี๊ยก...พวกแกยังจะอยู่กันอีกเร๊อะเนี้ยยยย !’

พวกเราก็เลยรีบขึ้นแท็กซี่ด้วยความอับอายขายขี้หน้า ไม่กล้าบอกว่าฉันไม่ไว้ใจพวกแกกลัวถูกสับขาหลอก

เชื่อป่ะ ใกล้ๆ ที่พักยังอุตส่าห์เจอชูชูอีก ตอนที่เหมียวกับแต๋มยืนซื้อลูกชิ้นทอดอยู่ พี่งี้ยืนอยู่ข้างหลังก็เห็นแระทำไมคนนี้แต่งตัวคุ้นๆ เหมือนชูชูเลย สักพักเหมียวกับแต๋มก็หันมาบอกไม่แน่ใจว่าใช่ชูชูหรือเปล่า พี่งี้ก็เลยเสนอให้ลองเรียกชื่อดูดิ ถ้าใช่ก็หันเองแหละ

...‘ชุชุ’.... (เสียงเรียกโค-ตระ-ระเบา แบบว่าไม่แน่ใจ)
... ‘ชู...ชู’… (ดังขึ้นมาอีกนิด แต่ชีก็ยังไม่หัน)
.... ‘ชู....................ชู’................. (ทีนี้เอาให้ดังเลย ชีก็ยังไม่หันนะ แต่เพื่อนชีหันแทน)

แล้วชูชูก็หันมาทักทายนิดหน่อยค่ะก่อนที่จะเดินจากไปพร้อมเพื่อนๆ ของเธอ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑


เอาล่ะ มาอุ่นเครื่องกันหน่อย



เตรียมตัวกันให้พร้อมนะคะ คาดว่าที่โคลีเซี่ยมน่าจะมีราวๆ สิงหาคมค่ะ ระหว่างนี้ก็เก็บเงินกันให้ดีๆ นะคะ

แล้วมาพบกับความสนุกในครั้งต่อไปค่ะ บ้ายบายยยยยย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.










Create Date : 20 มีนาคม 2553
Last Update : 20 มีนาคม 2553 19:43:59 น. 19 comments
Counter : 1751 Pageviews.

 
มาแล้วค่ะตามสัญญานะ


โดย: จางงี้ (ChuengNgee ) วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:2:23:55 น.  

 
โอยยย
อ่านตาม ก็ลุ้นตาม อารมณ์ประมาณว่านางเอกจะได้เจอพระเอกตอนจบไม๊
จางงี้ก็เล่าบรรยายได้ละเอียดดีแท้ แทบจะบรรยายทุกวินาที สมใจคนที่ไม่ได้ไปแบบอ้อมมากๆ เห็นภาพตามเลย

ภาพสุดท้ายนั่น แทบจะเป็นลมตายด้วยความอิจฉาเลยนะเนี่ยยยยย

เอ่อ เรื่องเสื้อ อ้อมได้รับแล้วนะ เดี๋ยวจะโอนเงินให้นะคะ แต่เสื้ออ่ะ ตัวใหญ่โคดๆเลย อ้อมสั่ง size M แล้วเอามาทาบตัวดู ตายและ มันยาวมาเกือบจะถึงเข่าเลยอ่ะ แง้งงงงงง รู้งี้สั่ง size s ก็ดี แฟนอ้อมสวมได้พอดีเลยอ่ะ ตัวบิ๊กเบิ้ม

โคลีเซี่ยมเจอกันอีกรอบนะ รอบนี้สงสัยคงพากันหลงมากกว่าเดิม เพราะถ้าศิษย์ค้างคาว พี่เล็ก หลินกุไปด้วย ฟันเฟริม์ได้เลยว่า เราจะเม้าท์แต่เรื่องปู้ชายจนลืมดูหนทางเหมือนเดิม


โดย: จางอ้อม IP: 118.173.78.238 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:7:53:17 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:8:33:00 น.  

 

เป็นการเดินทางที่สนุกมากเลยคะ อ่านเพลินเชียว ไม่คิดว่าสามสาวจะเม้าท์ถึงพี่ชายจางจนทำให้ "เลย" ได้บ่อยขนาดนี้นะเนี่ย

สุดท้ายสามสาวก้อมีรูปรวมกลุ่มกับพี่ชายจางนะเนี่ย ตอนแรกคิดว่าจะมีซ้องี้คนเดียวที่มีรูปกับพี่ชายจาง



โดย: มลเยี่ย IP: 203.144.144.165 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:9:22:42 น.  

 
เมื่อคืนรอไม่ไหว หลับไปก่อนอ่ะ

นี่อู้งาน แวะเข้ามาดู ว๊าวววววงี้แปะแล้วจริงๆ ด้วย เป็นรีวิวที่ยาวมากกกกกกก เดี๋ยวกลับไปอ่านที่บ้านนะคะ

xoxoxo


โดย: tomtam IP: 127.0.0.1, 203.144.144.165 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:11:03:43 น.  

 

อ่านแล้ว สมกับที่รอคอยมาตั้งหนึ่งสัปดาห์ งี้รีวิวได้ละเอียดยิบ เหมือนร่วมทัวร์กับสามสาวไปด้วยเลย เสียใจอีกรอบที่พลาดหวังครั้งนี้ ซิกๆ
เห็นห้องพักแม้จะแคบแต่ก็สะอาดน่าอยู่ดีค่ะ เห็นด้วยว่าอันไหนประหยัดได้ ก็ควรประหยัดล่ะ และก็ทริปทัวรก็ท่าทางสนุสนานมาก ครอบครัวอายู้อบอุ่นและใจดีมากค่ะ อิจฉางี้จังที่มีญาติน่ารักๆ แบบนี้ทุกคนเลย

และก็ภาพกระชากใจซ้อกุ ภาพถ่ายหมู่กับจื้อหลินอ่ะ อิจฉามากกกกกกกกก โอ้ยยยย มันอิจฉาว้อยยยย

พูดถึงเสื้อ เห็นด้วยกับงี้ อ้อมว่ามันใหญ่เกินกว่าไซด์ตามบ้านเรานะเนี่ย คือ ปกติตัวเองจะใส่เสื้อยืดเบอร์ L นี่จะไม่คับไม่หลวมเกินไป เรียกว่าพอดี มาเจอไซด์ L ของเสื้อ I AM หญ่ายมากกกก เท่าไซด์ XL บ้านเราเลยนะเนี่ย แต่ใส่หลวมๆก็สบายตัวดีเหมือนกัน

งี้บรรยายได้สนุก ตลกขบขัน และก็มองเห็นภาพตามเลยค่ะ บรรยายความหล่อลากของอาจื้อได้กระจ่างมาก มิน่าล่ะ กลับมาแต่ตัว หัวใจยังอยู่ hk


โดย: หลินอี้ วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:11:25:36 น.  

 
ในเรื่องเล่ามีคำตอบที่แต๋มถามไว้หลายข้อค่ะ แต่ยังขาดข้อ 4 และ 5 ตกลงมือที่ยื่นในภาพคือใครง่า และก็ขวดใสๆ นี่อะไรแน่ใช่ไฟฉายขนาดจิ๋วที่แฟนคลับเซอร์ไพรส์เอาเข้าไปส่องวิบๆวับๆ ในคอนฯป่าวคะ


โดย: หลินอี้ วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:11:28:59 น.  

 
เข้ามาตอบคำถามค่ะ...

มือที่ยื่นไหวๆ ไปๆ มาๆ ก็คือมือเหมียวค่ะ...

ส่วนขวดใสๆ เล็กๆ นั่นก็คือไฟฉายสวมนิ้วขนาดจิ๋วค่ะ

เอ่อ...สารภาพตามตรงว่าตอนถ่ายรูปไม่รู้สึกเลยว่าโดนโอบ...แล้วดันล้างตัวไปเรียบร้อยแล้วด้วยกรรม..

ได้โหลดคลิปตอนชิแลมออกมากันไปดูหรือเปล่าคะ ให้ไว้เป็นที่ระลึกค่ะให้ซ้อๆ หายคิดถึงกัน คำว่า 'ชิแลมมาแล้ว' น่ะค่ะ โหลดกันไปเลย งานนี้ยกให้แต๋มเป็นยอดขวัญใจอีกคนค่ะที่ชีมือไวถ่ายไว้ได้ ชิแลมน่าร๊ากกกกสุดๆ


โดย: จางงี้ (ChuengNgee ) วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:16:49:09 น.  

 

ว้าว . . รีวิวละเอียดสุดยอด อ่านแล้วตื่นเต้นไปด้วย กรี๊ดกร๊าดสุดๆ ก็วินาทีสบตาชิแลมเนี่ยแหล่ะ แล้วก็ต้องยอมรับว่าซ้อๆ อดทนและกล้าหาญมากๆ ที่ไปผจญภัยต่างแดนกันแบบนี้ ขอบอกว่าถ้าเป็นตัวเองคงไม่กล้าขนาดนี้ค่ะ เป็นคนที่ปรับตัวเรื่องแปลกที่ แปลกคน ได้ยากมากๆ ชีวิตนี้ถึงอยู่แต่บ้านไง ขนาดแค่ในเมืองไทยยังไม่ยอมไปผจญภัยเลย นับประสาอะไรกับต่างแดน แต่เชื่อแล้วว่าพลังรักของซ้อๆ เหลือล้นกันจริงๆ เข้าใจเลยนะว่าหายใจเข้าก็พี่ชาย หายใจออกก็พี่ชาย แล้วยังสามารถแปรเปลี่ยนเป็นพลังในการตามล่าความฝันอีกด้วย วิทยายุทธ์ก้าวไกลจริงๆ ค่ะ ของโอโย่ก็แค่หายใจเข้าก็อาเส่ หายใจออกก็อาเส่ แต่ยังไม่กล้าไล่ตามความฝัน

ตอนนี้บ้านพี่น้องก็มีคลับพี่ชาย คลับอาฟง ที่ได้ไล่ตามความฝันกันแล้ว ส่วนคลับเฮียเคเฮียเค้ามาหากันถึงที่ เหลือแต่คลับอาเส่ เจ้เธอเก็บตัวอยู่แต่ฮ่องกง ไม่ก็ข้ามเมืองไทยไปมาเลย์กับสิงคโปร์ เมื่อไหร่หนอจะแวะมาเมืองไทยสักที (เพี้ยง . . เมื่อไหร่กีฬาสีจะจบหนอ)


โม้ถึงเกอร์นิดนึง . . ตอนแรกนึกว่าต่อโทอยู่ ตอนนี้จะต่อเอกแล้วเหรอคะเนี่ย เก่งจริงๆ ขอให้ประสบความสำเร็จนะ เอาใจช่วยค่ะ เกอร์ก็เป็นแฟนพันธ์แท้อาฟงตัวยงเลยนะ คาดว่าอาการคงไม่แพ้ซ้อๆ รักใครสักคนก็ทำให้เกิดพลังทีเหลือเชื่อเนอะ


เหมียวก็เป็นแฟนพลังเงียบที่สุดยอดนะ ตามเป็นสิบปีแล้ว และยังมั่นคง เหมือนแต๋มเลย แฟนคลับพี่ชายสุดยอดรักมั่นคงทุกคนจริงๆ ค่ะ


รูปสุดท้ายที่ถ่ายกับชิแลม ป้าย THAILAND ทำหน้าที่สุดยอดมาจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ ค่ะ

ปล. เพลงที่ประกอบละครหัวใจปรารถนาชื่อเพลงว่า “จ๊กกวั๊นโห” แปลเป็นภาษาอังกฤษคือ “Wish you well” ค่ะ ที่จำได้เพราะว่าเป็นชื่อของนางเอก แล้วตอนหลังที่จำได้อีกเพราะรู้ว่าชื่อนางเอกแล้วว่าหวังจะให้คุณได้เจอสิ่งดีๆ ก็คือภาษาอังกฤษว่า Wish you well นั่นแหล่ะ เพลงนี้ชอก่อก๊อร้องให้กวั๊นโห พอมาเป็นอัลบั้มก็คงมอบให้แฟนเพลง หมายถึงความปรารถนาดีที่ส่งให้แฟนๆ ล่ะมั้งนะ อันนี้เป็นการคาดเดาผสมกับข้อมูลที่ได้มานะ ใครรู้รายละเอียดเยอะกว่านี้ ก็แบ่งปันความรู้กันบ้างนะคะ



โดย: O-yohyo วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:18:36:34 น.  

 
ตามมาถูกละ อ่านแล้วสนุกมากเลยค่ะ ได้บรรยากาศ ทริปนี้เรียกว่า "หลงทางรัก" หลงตลอดเวลาแต่ยังไงก็วกกลับมาที่ชิแลมอยู่ดี อุปสรรคย่อมมีเสมอเพื่อเป็นทดสอบความอึดในชีวิต มามิอึดสู้เพื่อฟงมาแล้ว 555 เวลาพวกเราเจอกันก็คุยแต่เรื่องปู้จายนี่ล่ะ เจอกันก็ยาวเลย เม้าทืไม่เลิก

น้องเกอร์ไปเรียนต่อ และก็ถือโอกาสติดตามฟงไปด้วยเลย ไหนๆ ก็ไปถึงที่แล้ว เราถือว่าน้องเกอร์เป็นตัวแทนแฟนคลับคนไทย เพราะตอนเกอร์ไปงาน gathring ของแฟนคลับฟง พอแนะนำว่าเป็ฯคนไทย ฟงรู้งานมากค่ะ ทักทายว่าสวัสดีครับ อุตส่าห์ยังจำคำๆ นี้ได้ น่ารักสุดให้ไป 100 คะแนนเต็ม แต่นะพี่ชายก็เอาใจใส่แฟนคลับเช่นกัน ไม่แปลกที่จะมีคนรักยืนนานขนาดนี้


พอเข้าใจพวกบรรดาการ์ดทั้งหลาย ของมามิก็เจอนะ ที่พักมามิว่าก็โอเคนะคะ แค่นอนๆ เล็กหน่อยก็ไม่เป็นไร

เห็นโคลีเซียมด้านนอกแล้วมองไม่ออกเลยเนอะว่ามันเป็นที่จัดคอนเสิร์ต
ดูมันเงียบๆ ธรรมดามากๆ

ขอบคุณที่ปลีกเวลามาเล่าให้ฟังว่าแต่ขออวยพรให้ได้ไปคอนเสิร์ตใหญ่ที่โคลี่เซี่ยมนะคะ


โดย: มิโดริ IP: 203.144.144.165 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:22:41:07 น.  

 
หลังคอนเสิร์ตพวกเราก็คิดว่าจะมีงาน gathering เหมือนกัน ทุกคนรอแบบมีความหวัง ทางแม่ยกฟงก็รอเหมือนกันค่ะ ยืนอยุ่กับกลุ่มสมาชิกแฟนคลับเผื่อมีโอกาสแต่นะ คนของเรางานล้นพ้นตัวมาก เสร็จปุ๊บก็กลับปั๊บ เอาเถอะยังไงก็ได้เจอทางเวทีแล้ว 555 ช่างเป็นอารมณ์ของแฟนคลับที่เป็นเหมือนกันจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติไหนๆ


โดย: มิโดริ IP: 203.144.144.165 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:22:46:50 น.  

 
โห!! พี่งี้ อ่านแล้วลำดับภาพตามได้เลยอ่ะ
ประดุจว่าไปอยู่ในบรรยากาศจริงๆ เลย รู้สึกตื่นเต้น
และฮาไปด้วย ชิแลมน่ารักมากกกกกกก

เห็นภาพสุดท้ายแระอิจฉามา๊๊กค่ะ...
ขอบคุณนะคะ ที่เขียนละเอียดยิบเลย
แบบว่าไม่ต้องไปเองก็เห็นภาพอ่ะ

รอให้ถึงคอนใหญ่เร็วๆ อยากไปอยู่ในบรรยากาศจริงๆมั่ง
ว่าจะตื่นเต้นขนาดไหน เวลาที่ชิแลมมองมาทางเรา
เชนจะอายเหมือนแต๋มมะเนี๊ย..อิอิ

ขอให้มีคอนใหญ่เร็วๆด้วยเถิด..สาธุ..สาธุ


โดย: chainny cheung IP: 203.144.144.165 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:23:20:01 น.  

 
อิ อิ ตามมาอ่านค่ะ

ดีจังค่ะ ได้ใกล้ชิดพี่ชิแลมสุด ๆ เลย พี่ชิแลมน่ารักจริง ๆ

คราวนี้มีเวลาเจอกันไม่มาก ไว้คราวหน้ามาอีก แล้วไปเที่ยวกันนะคะ


โดย: coeur IP: 147.8.246.86 วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:1:14:02 น.  

 
แอบมาอ่านค่ะ จขบ เล่าได้สนุกมากกกก

ปล แอบมาดูน้องเหมียวด้วย ~~


โดย: Anson วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:6:56:39 น.  

 
วันนี้ที่รอคอยจริงๆเลยค่ะพี่งี้ ตื่นเต้น ประทับใจแบบสุดๆไปเลย พี่งี้เล่าได้ละเอียด จนเห็นภาพตามเลยค่ะ แล้วก็พร้อมสุดท้าย....อ้าปากค้างไปเลย ใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัว


โดย: ทับทิม IP: 125.26.42.163 วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:19:25:57 น.  

 
เฉลยคำถามอีกรอปค่ะ

1. มือที่พัลวันอยู่หน้างี้กะชิแลมก็คือมือพี่เหมียวค่ะ หลินกุอธิbuy เหตุผลไว้ถูกโด๊ะเลย
- "มือของเหมียวค่ะ เพราะแต๋มเคยบอกว่า เหมียวเป็น ผกก.คอยจัดฉากให้นางเอก-พระเอก ส่วนแต๋มเป็นตากล้อง ไม่น่าจะเป็นแฟนคลับจีน ไม่งั้นซ้อแต๋มก็คงไม่หยิบมาตั้งคำถาม"

2. ข้อสองรู้สึกมลเยี่ยะกะเชนเยี่ยจะ answer ถูกนะคะ
- fc คนนั้นก็คือหัวโจกแห่งเมืองจีน ชูๆ นั่นเองค่ะ และสาเหตุที่ชีต้องลงไปนอนอย่างนั้น หนึ่งก็เพื่อให้ได้ภาพสวยๆ มาลง web เห็นกล้องชูๆ แล้วใหย่มาก เป็น bab professional เลยหล่ะ ท่าทางหนักหลายโลอยู่ ถ้าไม่วาง on ขาตั้ง มือคงสั่นเพราะน้ำหนักกล้องแน่ๆ ชีก็เลยต้องลงไปนอนท่านั้นค่ะ อีกสาเหตุหนึ่ง อาจจะเพราะรำคานพวกการ์ดด้วย นอนข้างล่างไม่มีใครเห็นก็ไม่มีใครห้ามค่ะ

3. ข้อสามที่พี่ชายทำท่าปิดตา
- นั่นคือครั้งที่สองที่เขาหันมาทักพวกเราค่ะ ครั้งแรก wave มือให้ ตามที่งี้เล่า พอครั้งที่สอง (คงนึกมุขได้) เลยเอามือปิดตา ทำท่าว่า zab ตาค่ะ เพราะไฟ LED ของพวกเราแสงมันเขียวเด่นอยู่คนเดียว มี shot หนึ่งเขาถ่ายป้ายพวกเราขึ้นจอมอนิเตอร์ใหย่ด้วย เห็นกันทั้ง hall เลย อายก็อาย แต่ก็ได้หน้าค่ะ ชิแลมหันมาหยอกพวกเรา often มากๆ จน bored เลย ฮ่าๆๆ

4. ทำไมตอนที่งี้ถ่ายรูปคู่กับพี่ชายจึงไม่มีแฟนคนอื่นเข้าไปขัดขวางหรือแย่งชิงเลย ที่เห็นยืนมองๆ อยู่ด้านหลังก็ไม่เข้ามาด้วย ทำไมคะทำไม ฮ่าๆๆๆ
- ข้อนี้เหมือนจะมีคนเดาถูกนะ ก็เพราะว่าพี่ชายออกมาเจอพวกเราแป๊ปเดียว ทาง hk fc ก็เลยให้ยืนกันเป็นกลุ่มๆ ประมาณ 10 กลุ่มได้มั้ง พวกเราถูกให้ไปรวมกะ fc จีนอีก 4-5 คน ทีแรกเราก็ไม่ happy มากๆ พอพี่ชายออกมาจริงๆ เราก็เนียนแยกกันมาเป็น 3 คนค่ะ ตอนชิแลมเดินเข้ามา โอวววว มี ออร่า มากๆ ยิ้มหวานชวนฝันมาเชียว งี้ก็ชูป้าย thailand ใหย่เลย พี่ชายก็ยกนิ้วให้อีกรอป ประมาณว่าเออเห็นแล้วเฟร้ย ยกอยู่ได้ ฮ่าๆๆๆ แล้วพี่ชายก็ส่งสายตา bab เล็กเสี่ยวหงส์ให้พี่เหมียวซึ่งยืนอยู่ตรงกลาง แล้วสองคนก็ว่าวภาษาลาตินที่แต๋มกะงี้ฟังไม่ออก พี่เหมียวก็ยิ้มเขินๆ ตอปอะไรชิแลมไปก็ไม่รู้ มาแอปกระชิปถามทีหลัง ถึงได้รู้ว่าพี่ชาย พูดว่า "เราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ" กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ไรเนี่ย หยอดมาแปปนี้ ใครได้ยิน ไม่ตายให้รู้ไป น่าอิจฉาพี่เหมียวมากๆ พอรู้คำแปล แต๋มโวยวายใหย่เลยว่าทำไมพี่ชายจำพี่เหมียวได้คนเดียว (นางมารสุดๆ 555) แถมตอนเดินเข้ามาก็มองหน้าพี่เหมียว bab ว่าเหมือนมีกันแค่สองคนในโลก โอววววววว อิจฉาจังวุ๊ย สงสัยต้องตาม often ขึ้นเพื่อสายตา bab นั้นของชิแลมฮ่าๆๆๆ

5. ที่หลินกุแปะรูป กระดาษใบนี้กับไอ้แสงขาวๆ เนี่ย ทายซิมันคืออะไร ขอบอกว่ามันน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
- มันคือแหวนไฟจิ๋วค่ะ hk fc แจกให้ทุกคนก่อนเดินเข้า hall (คนเกือปพันคงหลายตังเหมือนกันนะนั่น) เป็น idea ของ fc เองค่ะ ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กัปทาง neway เจ้าตัวเองก็ไม่รู้เรื่อง ในกระดาษแผ่นนั้นจะมี instruction เขียนเอาไว้ค่ะว่าให้ใส่ตอนไหน โชคดีมากๆ ที่มิเชลเดินมาถามว่าอ่านออกไหม ถึงได้ช่วยแปลให้ ไม่อย่างงั้นต้องมีเสี่ยวสามคนใส่แหวนนี่ตั้งแต่ต้นคอนยันท้ายคอนแน่ๆ ฮ่าๆๆ แล้วพอถึงเพลงจั๊กกวันโหว ทุกคนก็พร้อมใจกันใส่แหวนไฟพร้อมกันทั้ง hall เป็นภาพที่สวยมากๆ เหมือนมีหิ่งห้อยอยู่ใน hall เป็นร้อยๆ พันๆ ตัวเลย คิดดูว่ามองมาจากเวทีจะสวยขนาดไหน ทำเอาพี่ชายอึ้งไปเลย ถ้าดูคลิปจะเห็นเลยว่า พี่ชายร้องว่า ว๊าวววว ออกมา แปปว่าฮี surprised จริงๆ เพราะไม่รู้มาก่อน งานนี้ fc ฮ่องกงน่ารักอ่ะ มี surprised ให้จื้อหลินด้วย เป็นความรู้สึกที่อปอุ่นมากๆ พวกเขาจะคอยปกป้อง support และคิดถึงชิแลมในทุกๆ เรื่องเลย แต๋มประทัปใจพวกแฟนคลัปฮ่องกงจริงๆ เลยนะ


โดย: realtomtam วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:23:34:25 น.  

 
ขอบคุณแต๋มที่มาตอบส่วนที่เหลือให้นะคะ...แบบว่าทุกวันนี้ยังคิดถึงชิแลมอยู่เรยหง่ะ ทำไงดีอ่ะ ไม่น่าเร้ยเรา


โดย: จางงี้ (ChuengNgee ) วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:6:10:22 น.  

 
อ่านเฉลยของแต๋มแล้วเก๊ดทุกข้อแล้วคร่า ยิ่งอ่านยิ่งอิจฉาสามสาวจะตายชักแหงกๆแล้ว
รู้ได้เลยว่า fc ทั้งจีนและ hk เค้ารักอาจื้อมากๆ ลงทุนเซอร์ไพร้สขนาดนี้ และทำให้อาจื้อได้ความประทับใจจนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้แทบไม่ได้เลย คุ้มมั่กๆ และก็ขอยกนิ้วโป้งให้สามสาวที่สร้างความโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นป้ายไฟคำว่าไทยแลนด์และก็แอบเนียนแยกตัวออกมาเป็นกลุ่มได้ด้วย 555 เก่งมั่กๆ แบบนี้อาจื้อต้องจดจำแฟนคลับไทยไปอีกนานเลย


โดย: หลินอี้ วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:10:13:12 น.  

 
ขอบคุณซ้อแต๋มนะคะที่มาช่วยตอบคำตอบ พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวเพิ่มเติม อ่านกี่ทีก้อสนุกค่ะ


โดย: Cipher IP: 203.152.13.62 วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:10:22:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ChuengNgee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บทประพันธ์ในบ้านหลังนี้เป็นลิขสิทธิ์ของผู้ประพันธ์โดยสมบูรณ์ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก เลียนแบบ หรือตีพิมพ์ ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของบทประพันธ์ในบ้านหลังนี้เพื่อการอย่างอื่นนอกจากการชมเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากผู้ใดทำการละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
Group Blog
 
 
มีนาคม 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
20 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ChuengNgee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.