life sucks
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
6 ตุลาคม 2552

XXXแหกคอกมหาลัยXXX13XXX



“มึงอย่าย่ามใจไป” เสียงมีอำนาจนั้นกำลังพูดจาข่มขู่ “ถ้ามึงไม่ตั้งใจเดี๋ยวนี้... มึงคงยังไม่รู้สินะว่ามันใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว”


“ผมรู้ครับ” ไอ้หมีตอบ


อะไรใกล้เข้ามา? มันเป็นคำถามที่ดังก้องอยู่ในหัวผมด้วยความตื่นเต้น สัมผัสพิเศษบางอย่างบอกผมว่าเรื่องราวมันใกล้จะกระจ่างขึ้นทุกทีแล้ว ผมนั่งนิ่งตั้งใจฟังจนเกือบจะหยุดหายใจ มีเสียงสตาร์ทรถและรถขับผ่านไปสองสามคัน มีเสียงนกหวีดของยามที่เป้าเป็นจังหวะให้รถถอยหลัง แต่สองคนนั้นยังคงยืนอยู่ตรงนั้น มันยังคงยืนคุยกันโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังมีคนแอบฟังพวกมันอยู่อย่างตั้งใจ


“กูไม่ได้เสียตังส่งมึงมาให้มึงทำตัวไร้สาระ ถ้าอาจารย์เค้าโทรมาบอกอีกว่ามึงไม่ตั้งใจเรียน กูจะเอามึงกลับบ้านทันที ไม่ต้องลงต้องเรียนมันแล้ว”


“ขอโทษครับพ่อ”


พ่อ! นี่หูผมฝาดไปหรือเปล่า ไอ้หมีควายมันเรียกคนที่คุยกับมันอยู่ว่าอะไรนะ


“ผมจะตั้งใจเรียนครับพ่อ” ไอ้หมีควายมันพูดซ้ำอีกครั้งว่าคนที่มันกำลังคุยด้วยอยู่เป็อพ่อ!


“เออดี” พ่อมันตอบ “กูรับราชการทหารมายี่สิบปี เงินเดือนก็เก็บเล็กผสมน้อยเพื่อเป็นทุนการศึกษาของลูก เมื่อได้ยินว่าลูกมันไม่รักดี คนเป็นพ่อมันก็ต้องโกรธเป็นธรรมดา มึงเข้าใจไหม?”


“เข้าใจครับพ่อ”


ผมเข่าอ่อนแทบจะล้มลงไปนอนบนพื้นลานจอดรถเย็นๆนั่นเลย เป็นความจริงครับที่ว่าสัมผัสพิเศษบางอย่างของผมบอกว่าเรื่องนี้มันจะกระจ่างและมันก็เปิดเผยออกมาเล่นเอาผมหงายหลังล้มตึงไปเลย


“เอาล่ะ เมื่อมึงเข้าใจก็ดีละ พ่อจะขึ้นไปข้างบน ไปโอนเงินเข้าบัญชีมึง แต่มึงจำไว้นะว่าทุกบาททุกสตางค์ที่พ่อหามาได้นี้แลกด้วยเลือดเนื้อของพ่อ แกเป็นลูกของชายชาติทหาร ถ้าแกจะใช้จ่ายเรื่อยเปื่อย ไม่ตั้งใจเรียน แกก็รู้จะว่าพ่อแก่ๆคนนี้จะเสียใจแค่ไหน”


“ครับพ่อ ผมรู้ครับ” ไอ้หมีมันพูดเสียงอ่อยอย่างน่าสงสารจนผมน้ำตาแทบไหล


  ผมร้องไห้ออกมาจริงๆเลยครับ รู้สึกว่าน้ำตาตัวเองเอ่อท้นด้วยความสงสารพ่อลูกคู่นี้ เรื่องราวทุกอย่างลงล็อคคลี่คลายออกมาจนหมดเปลือก ที่ไอ้หมีควายมันไม่กล้าแต๋วแตกตอนอยู่ในสยามเพราะมันกลัวพ่อของมันจะเห็นนะสิครับ โอ้มายก็อด... ชีวิตของตุ๊ดที่มีพ่อเป็นทหารนี่มันเป็นเรื่องราวที่ดราม่าสุดๆไปเลย ผมรู้ครับว่าผมคงเล่าบรรยายให้คุณผู้ฟังได้ไม่สะเทือนใจเท่าที่ควร เพราะของบางอย่างถ้าไม่เจอกับตัวเองมันไม่รู้หรอกครับ คงจะไม่มีใครสะเทือนใจได้เท่าบุคคลที่สามที่อยู่ในเหตุการณ์จริงๆอย่างผม ไม่อยากเชื่อเลยครับว่าไอ้หมีที่วิ๊ดว๊ายกระตู้วู้เป็นเจ้าแม่ปีหนึ่งอยู่หอชายจะมีภูมิหลังที่รันทดสุดๆ


พวกเขาไปกันหมดแล้วครับ ในลานจอดรถมืดๆนี้ผมรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เหมือนอยู่ตัวคนเดียวในจักรวาลอันอ้างว้างมืดมิดและแห้งแล้ง น้ำตาแห่งความรันทดใจไหลริน มันเป็นน้ำตาแห่งความอัดอั้นที่ผมต้องร้องไห้ปลดปล่อยออกมาบ้าง บางครั้งเวลาผมเศร้าผมก็ร้องไห้เพียงคนเดียวในใจ แต่ช่วงเวลาที่ผมอยู่คนเดียวในจักรวาลอย่างนี้ผมจึงกล้าร้องไห้ออกมาดังๆเพราะไม่มีใครให้ต้องอายอีกแล้ว บางที... ผมอาจจะเครียดกับเรื่องของตัวเองเกินไป อาจจะวุ่นวายกับเรื่องที่อยู่ในสมองของตัวเองเกินไปโดยไม่คิดเรื่องว่าแต่ละคนที่อยู่ล้อมรอบกายผมก็เต็มไปด้วยเรื่องเศร้าไม่เว้นแม้แต่คนที่ผมเคยคิดว่ามันเป็นศัตรู อย่างเช่นไอ้หมี รูมเมทที่มีลุคแรกปรากฏกับผมว่ามันเป็นกระเทยตัวใหญ่ที่ แรง แรด และน่ารังเกียจ ภาพภายนอกนั้นทำให้ผมรังเกียจมัน อย่างที่ไม่ได้เข้าใจมันในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเลย


ใช่ครับ... ผมยอมรับว่าผมเคยรังเกียจมันจริงๆ มันเคยจะเข้ามาคุยกับผมหลายครั้งแล้วผมก็เดินหนี ไม่คุยด้วย อยู่ห้องเดียวกันก็ทำตัวเหมือนมันไม่มีตัวตน พูดง่ายๆก็คือรังเกียจละครับถึงทำอย่างนั้น แต่พอมาเห็นอย่างนี้เข้าผมก็รู้สึกว่ามันเป็นคนที่ใช้ได้เลยทีเดียว เพราะว่าที่แน่ๆก็คือมันรักพ่อของมันมาก มันรักพ่อแต่มันก็เป็นกระเทย พ่อรักมันแต่คิดว่ามันเป็นลูกผู้ชาย แล้วเรื่องนี้มันจะลงตัวได้อย่างไรละครับ ผมไม่รู้ว่าไอ้หมีควายมันปิดบังความจริงแก่พ่อมันมานานเท่าไรแล้ว แต่การทำอย่างนี้ผมเข้าใจว่ามันต้องทรมานมากเลยทีเดียว แค่ตอนเด็กๆผมแอบแม่ไม่ให้รู้ว่าผมเจาะหูผมก็รู้สึกไม่สบายใจมากแล้ว แต่การเป็นกระเทยนี่มันยิ่งกว่า เท่าที่ฟังพ่อคุยกับลูกชาย แค่ลูกชายไม่เข้าเรียนพ่อมันยังแทบจะทำใจไม่ได้ และอย่างนี้ถ้ารู้ว่าลูกชายมีจิตใจเป็นหญิงนี่พ่อมันไม่ต้องช็อกตายไปเลยเหรอครับ โดยเฉพาะความจริงที่ว่าความลับไม่มีในโลก ในที่สุดพ่อมันก็จะรู้ความจริงอยู่ดี และถึงตอนนั้นชีวิตของไอ้หมีควายคงน่าสงสารอย่างบัดซบเลยละครับ ผมสัญญากับตัวเองว่าต่อไปนี้ผมจะไม่มองอะไรเพียงด้านเดียวอีกแล้ว


ผมปล่อยตัวเองให้ร้องไห้อยู่ตรงนั้นนานพอสมควร มันนานพอจะทำให้รู้ตัวว่าผมต้องกลับไปที่เดิมได้แล้ว มันยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังรอคำปรึกษาจากผมอยู่ ถึงแม้ว่าเรื่องของไอ้หมีควายนี่ผมอาจจะไม่สามารถช่วยอะไรมันได้นอกจากจะยอมพูดคุยกับมันบ้าง แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังรอผมให้ไปช่วยเหลือ ผมสงสารเธอเพราะผมเองก็ทิ้งเธอไว้นานเกินไปแล้ว ผมลุกขึ้นเดินออกจากลานจอดรถ ถอดเสื้อผ้าไปคืนในห้องยามให้เรียบร้อย ผมเดินไปตามถนนในสยาม เฝ้ามองผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา บนถนนในสยามนี่มีทั้งคนรวยล้นฟ้าและคนจนที่ต้องขอทานหากิน แต่ทั้งคนจนและคนรวย จะหน้าตาหน้าเกลียดหรืองดงามสักเพียงใด ทุกๆคนก็กำลังพยายามใช้ชีวิตเพื่อความอยู่รอด ใช้ชีวิตให้มีความสุข บางทีถ้าคนเราอยากค้นหาสัจจะธรรมแห่งชีวิตผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปนั่งสมาธิในป่าหรือหันหน้าเข้าหาความเงียบสงบใดๆให้ยากลำบากหรอก เพราะสัจจะธรรมจริงๆสามารถเห็นได้ในทุกจังหวะของชีวิต เพียงแค่เราพยายามค้นหาจริงๆเราก็สามารถหาความหมายของชีวิตได้บนท้องถนนสายที่เราใช้เดินทางเป็นประจำ เห็นได้จากเพื่อนบ้าน เห็นได้จากพ่อ จากแม่ จากแฟน จากเพื่อน จากลูก จากทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในโลกนี้ เพราะทุกสิ่งในปัจจุบันล้วนแต่เป็นเรื่องจริงที่จับต้องได้ ผมไม่รู้ครับว่าความสุขอันแท้จริงคืออะไร คือการปล่อยวางหรือไม่ ผมยังเป็นวัยรุ่นอายุเพียง 19 ปี และผมก็พอใจที่จะซึมซับทุกอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจ เท่าที่เราต้องทำคือให้อดีตเป็นบทเรียนเพื่อวางแผนความฝันในอนาคต และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด


ผมชนแก้วเบียร์เย็นๆกับเธออีกครั้ง เพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน      


 


จบตอนที่ 1






Free TextEditor


Create Date : 06 ตุลาคม 2552
Last Update : 6 ตุลาคม 2552 14:09:16 น. 4 comments
Counter : 372 Pageviews.  

 
ช่วงนี้สอบ ไม่ค่อยได้เข้ามานะคะ


โดย: kirill วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:15:13:47 น.  

 
จ้า... โชคดีกับการสอบนะ


โดย: Chud S. วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:17:48:56 น.  

 
หนุกมากค่ะ ตลกดี


โดย: chilli (wonderful_chilli ) วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:22:05:39 น.  

 
เรื่องแต่งหรือเรื่องจริงคะเนี่ย??

สนุกค่ะ



โดย: Kiddo & i วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:22:10:04 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Chud S.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Chud S.'s blog to your web]