Entry  นี้ตามที่ได้สัญญากันเอาไว้ว่าจะกลับมาเที่ยวโบราณสถานในอำเภอเมือง สุโขทัยกันนะครับ หลังจากที่พาไปเที่ยวโบราณสถานในอุทยานประวัติศาศตร์ศรีสัชนาลัยมาหลายบล็อก โบราณสถานในศรีสัชนาลัยยังเหลืออีกหลายที่นะครับ ยังเที่ยวไม่หมด ตุลาฯนี้ว่าจะไปเก็บตกอีกซักทีนึงครับ

เจ้าของบล็อกมีความผูกพันทางความรู้สึกกับประวัติศาสตร์โดยเฉพาะสุโขทัยมากมายตั้งแต่เด็กๆ ชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร รู้สึกชอบและหลงใหลกับประวัติศาสตร์อย่างมากมายไม่ว่าจะรัตนโกสินทร์ อยุธยา สุโขทัยโดยเฉพาะเมืองศรีสัชนาลัย ได้ยินชื่อครั้งแรกรู้สึกว่าเป็นชื่อที่เพราะมากๆ และบ้านเมืองคงสงบสุข ร่มเย็น เมื่อตอนเจ้าของบล็อกอยู่ชั้น ม.3 คุณอาน้องสาวของพ่อ (ที่เจ้าของบล็อกชอบเรียกว่าคุณน้า) เห็นเจ้าของบล็อกหลงใหลประวัติศาสตร์เลยพาเจ้าของบล็อกไปเที่ยว “งานเผาเทียนเล่นไฟ” ที่สุโขทัย เจ้าของบล็อกก็ตื่นตาตื่นใจนะครับ แต่ยังไม่รู้สึกว่า “เต็มอิ่ม” เพราะจะเน้นที่งานเผาเทียนเล่นไฟเท่านั้นไม่ได้เน้นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเจ้าของบล็อกจะเลือกคณะเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยเจ้าของบล็อกก็สองจิตสองใจว่าจะเลือกเรียนโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากรดี หรือว่าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดี ใจเจ้าของบล็อกเทไปทางโบราณคดีติดอยู่นิดเดียวที่ว่าเจ้าของบล็อกเป็นคนกลัวผีมาก สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อความตั้งใจของพ่อที่อยากจะให้เจ้าของบล็อกเรียนนิติศาสตร์ก็เลยเลือกคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แทนการเลือกคณะโบราณคดีไว้ในตัวเลือก 5 อันดับ (เจ้าของบล็อกยังสอบเอ็นทรานซ์ระบบเก่าที่ให้เลือกคณะ 5 อันดับ) ในตอนเรียนมหาวิทยาลัยความใฝ่รู้ในประวัติศาสตร์ก็เริ่มถดถอยลงเพราะเจ้าของบล็อกให้ความสำคัญกับวิชานิติศาสตร์มากกว่าจนเรียนจบและไปศึกษาต่อต่างประเทศเจ้าของบล็อกก็ลืมไปแล้วว่าตัวเองชอบประวัติศาสตร์ มาหลังๆไม่กี่ปีมานี้ความใฝ่รู้ในประวัติศาสตร์ของเจ้าของบล็อกได้หวนกลับมาอีกครั้ง เจ้าของบล็อกเลยขอให้เวลาช่วงที่มีความสนใจประวัติศาสตร์เรียนรู้และท่องเที่ยวโบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ต่างๆ อย่างบ้าคลั่ง และคิดว่าความสนใจประวัติศาสตร์จะยังคงอยู่กับเจ้าบล็อกไปนานๆนะครับ อิอิอิ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง สุโขทัย

การเดินทางไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง  สุโขทัย สามารถเดินทางไปง่ายๆเลยครับ จากถนนที่มาจากพิษณุโลกแยกเข้าจังหวัดสุโขทัยแล้วตรงมาเรื่อยๆจะผ่านกลางเมืองสุโขทัยพอเจอหอนาฬิกาก็แยกไปทางซ้าย ข้ามสะพานพระร่วงข้ามแม่น้ำยมแล้งวิ่งตรงๆมาเรื่อยๆเลยครับ ผ่านแยกคลองโพธิ์แล้วตรงมาเรื่อยๆครับเป็นทางเดียวกับที่จะไปอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยครับ พอผ่านกำแพงเมืองเก่าสุโขทัยจะเริ่มเป็นเขตชุมนุมชน ค่อยๆขับเลยกำแพงเมืองเก่าสุโขทัยมาไม่ไกลจะเห็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติรามคำแหง สุโขทัย อยู่ทางซ้ายมือติดริมถนน หลังวัดตระพังทองหลางก่อนถึงอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเพียงนิดเดียวเท่านั้น ส่วนทางเข้าต้องขับรถไปเลี้ยวซ้ายที่หน้าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยนะครับ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง  สุโขทัย ตั้งอยู่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย หลังจากที่ได้เริ่มมีการสำรวจ ขุดแต่ง บูรณะโบราณสถานในสุโขทัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 และได้พบวัตถุโบราณเป็นจำนวนมาก กรมศิลปากรเห็นว่าควรจัดสร้างสถานที่เก็บรักษาโบราณวัตถุที่ได้จากการสำรวจ ขุดแต่ง และบูรณะโบราณสถานจึงได้ดำเนินการจัดสร้างพิพิธภัณฑสถานขึ้นในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยเมื่อปี พ.ศ. 2503 อาคารหลังแรกที่หลังคาเป็นทรงไทยซึ่งเป็นอาคารหลังแรกของพิพิธภัณฑ์เริ่มก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2506 มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง” ซึ่งตั้งขึ้นตามพระนามของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช วีรกษัตริย์ที่ทรงครองกรุงสุโขทัยช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 19 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑ์แห่งชาติรามคำแหงเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2507

ต่อมาใน พ.ศ. 2526 ซึ่งเป็นปีที่เฉลิมฉลองการประดิษฐ์อักษรไทยครบ 700 ปี - 700 ปี ลายสือไทย รัฐบาลในสมัยนั้นได้จัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างอาคารจัดแสดงอีกหนึ่งอาคารให้ชื่อว่า อาคารอนุสรณ์ลายไทย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินเปิดอาคารเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2526

จากทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง  สุโขทัยจะมาถึงอาคารอนุสรณ์ลายไทยก่อน อาคารแห่งนี้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองสุโขทัยในด้านต่างๆ ทั้ง ภูมิศาสตร์ ประชากร ความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ ฯ และยังมีห้องประชุม ห้องขายบัตร และร้านขายของที่ระลึกอีกด้วย

จากอาคารอนุสรณ์ลายไทยจะมีทางเดินเชื่อมไปสู่อาคารทรงไทย 2 ชั้น ตามทางเดินและสนามหญ้าหน้าอาคารทรงไทย 2 ชั้นมีการจัดแสดงศิลปวัตถุชิ้นที่เป็นหิน ดินเผา ชิ้นใหญ่ๆ เป็นส่วนการจัดแสดงกลางแจ้ง แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ เพราะเจ้าของบล็อกไปถึงพิพิธภัณฑ์ฯก็เย็นมากแล้วเกรงว่าจะชมส่วนจัดแสดงหลักไม่ทันครับก็เลยเข้าไปชมในอาคารเสียก่อนครับ

ในอาคารทรงไทยเป็นส่วนการจัดแสดงหลักของพิพิธภัณฑ์ฯ มีศิลปวัตถุต่างนานามากมาย ชอบที่เจ้าหน้าที่ทุกคนดูยิ้มแย้มแจ่มใสถึงแม้เวลานั้นจะเป็นชั่วโมงท้ายๆของวันเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใส แถมคะยั้นคะยอให้ทุกคนถ่ายภาพภายใต้เงื่อนไขเล็กๆ คือ “ห้ามใช้แฟลช” เท่านั้นเองครับ ประทับใจมากๆ

จุดที่เป็นไฮไลท์ของอาคารจัดแสดงแห่งนี้น่าจะเป็น พระพุทธรูปลีลา หล่อด้วยสำริดอายุราวๆพุทธศตวรรษที่ 19-20 พระพุทธรูปลีลานับเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะแบบสุโขทัยโดยแท้ เป็นงานศิลปะแบบลอยตัวมีลักษณะอ่อนช้อย มองแล้วสงบ เยือกเย็น เป็นการจำลองพุทธลักษณะเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็งลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งในประเทศไทยพบพระพุทธรูปปางลีลาอยู่ไม่กี่ที่โดยเฉพาะในเมืองโบราณที่รับอิทธิพลศิลปะสุโขทัยเช่น สุโขทัย เชียงแสน ชัยนาท

การจัดแสดงในชั้นที่ 1 ของอาคาร 2 ชั้นที่พิพิธภัณฑ์ฯ ยังมีการจัดแสดงอื่นๆล้วนแต่เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความเป็น “สุโขทัย” เช่นอารยธรรมแรกที่ปรากฏในดินแดนที่เป็นสุโขทัยในปัจจุบัน ศาสนาฮินดูในสุโขทัยซึ่งมีวัตุโบราณที่เกี่ยวเนื่องกับศานาฮินดูจัดแสดงอยู่หลายชิ้น เช่น กลองมโหระทึก เทวรูปต่างๆ แต่วัตุโบราณชิ้นเอกที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติรามคำแหงคือ เทวรูปสำริดที่พบที่หอเทวาลัยมหาเกษตรนอกกำแพงเมืองสุโขทัย (รายละเอียดปลีกย่อยเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนพาไปเที่ยวหอเทวาลัยมหาเกษตรนะครับ entry นี้อยากให้รู้จักสุโขทัยแบบคร่าวๆก่อน) และเทวรูปเคารพหินทรายที่เคยประดิษฐานอยู่ที่ศาลตาผาแดง ภายในกำแพงเมืองสุโขทัย

เมื่อได้มีการสถาปนากรุงสุโขทัยเป็นราชธานีแล้วก็ได้มีการสร้างวัด เจดีย์ รูปเคารพในพุทธศาสนาต่างๆมากทายๆ ทางพิพิธภัณฑ์แห่งชาติรามคำแหงก็ได้นำตัวอย่างวัตถุโบราณชิ้นเด่นๆมาจัดแสดงเอาไว้ด้วยเช่น พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่งดงาม อ่อนช้อย

นอกจากจะมีพระพุทธรูปที่งดงามแล้ววาสุโขทัยยังมีฝีมือในการประติมากรรมมาก ตัวอย่างเช่นลายปูนปั้นประดับเครื่องเคลือบที่ได้จากวัดพระพายหลวงนอกกำแพงเมืองสุโขทัย

ที่ชั้น 1 ของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติรามคำแหงยังมีส่วนหนึ่งซึ่งจำลองอุโมงค์ที่อยู่ระหว่างกำแพงมณฑปวัดศรีชุมที่ปัจจุบันได้ปิดไม่ให้เข้าชมของจริงแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ได้จำลองภาพเขียนบนหินชนวนตามส่วนต่างๆของอุโมงค์พร้อมทั้งกับช่องแสงที่เจาะไว้เป็นระยะๆให้สามารถเห็นวิวจากช่องแสงที่เจาะไว้ได้

บนชั้นที่ 2 ของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติรามคำแหงจัดแสดงเครื่องถ้วยชามสังคโลก และสิ่งที่ทำให้สุโขทัยมีความเจริญมากก็คือระบบชลประทาน

นอกจากนั้นยังมีส่วนจัดแสดงที่อยู่กลางแจ้งที่เจ้าของบล็อกไม่ได้เผื่อเวลาไปชมเนื่องจากเข้าไปเยี่ยมชมเย็นมากแล้ว ถ้าสนใจประวัติศาสตร์มากๆน่าจะได้ใช้เวลาที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติรามคำแหงซักครึ่งวันนะครับ

ขอบคุณ code เพลงจากบล็อก  "ป้ากล้วย"  ครับ

อีกช่องทางหนึ่งในการติดตามการท่องเที่ยวแบบตามใจทนายอ้วนครับ

ทนายอ้วนพาเที่ยว - ChubbyLawyer Tour

https://www.facebook.com/ChubbyLawyerTour/

Chubby Lawyer Tour …………… เที่ยวไป...........ตามใจฉัน