กรกฏาคม 2548

 
 
 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
เกาะเสม็ด in holiday
ทริปนี้ไม่มีการคิดล่วงหน้า ไม่มีการวางแผนใดๆ ทั้งสิ้น อารมณ์ประมาณ เบื่อกรุงเทพฯขึ้นมากระทันหัน เบื่อควันสีเทาจากท่อไอเสียรถ เบื่อค่ารถที่นับวันก็แพงขึ้นๆ แบบไม่รู้จุดสิ้นสุดของราคา เบื่อตึกสูงๆ เบื่อความเย็นจากสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ว่าแล้วก็ลุกขึ้นมาแพ็คเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไปนอนทะเลซักคืนดีกว่า งานนี้พกแต่เสื้อผ้าและเงินเท่านั้น ไม่อยากแบกอะไรมาก กล้องยังไม่เอาไปเลย หนัก..

6 โมงเช้าวันเสาร์ ออกมาโบกแท๊กซี่หน้าปากซอย "พี่ๆ ไปสถานีเอกมัย" เช้าๆนี่ดีจัง รถไม่ติดเลย วิ่งไม่นานก็มาถึงเอกมัย 7 โมงเช้าพอดี ก่อนอื่นก็ตรงไปที่ขายตั๋ว จากที่ดูตารางรถกรุงเทพฯ-บ้านเพ เที่ยวแรกออก 7 โมงครึ่ง อืม กำลังดี
"พี่ กรุงเทพ-บ้านเพ 1 ที่ค่ะ"
"น้องจะตีไป-กลับเลยไหม 180 ตอนกลับเลือกเวลาได้"
"เอ่อ..แล้วถ้าตีขาไปอย่างเดียวกี่บาทค่ะ"
"98 บาทครับ"
"อืม โอเคค่ะ ตีไป-กลับเลย"

ระหว่างรอรถออกก็ไปหาอาหารเช้าเข้าปากก่อน มองไปรอบๆ อ่ะ เจอแว๊วววว ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก อยู่ใกล้ๆกับทางเข้าสถานีฯ ฝากท้องไว้นี่แหละ นั่งกินไป มองผู้คนไปก็เพลินดีเนอะ
พอใกล้เวลาก็สอดส่ายสายตาหา รถกรุงเทพ-บ้านเพ คันไหนหว่า อยู่นั่นเอง จอดอยู่ใกล้ทางออกเลย เห็นสภาพรถค่อยใจชื้นหน่อย สภาพดีแบบนี้ถึงจุดหมายปลายทางแน่เรา โหะๆ บนรถคนน้อยมาก นับตัวเองแล้วยังไม่ถึง 15 คนมั้งเนี้ยะ เราก็เลือกที่นั่งริมหน้าต่างเลย ข้างๆ ก็ไม่มีคนเบียดวางกระเป๋าเป้ได้สบาย
เวลาเลทไปประมาณ 10 นาทีรถก็เริ่มออกเดินทางสู่ จ.ระยอง โดยใช้เส้นทางสายบางนา-โทลเวย์ ถามนายท่าเค้าบอกวิ่งประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งนับว่าเร็วใช้ได้ นั่งแรกๆ ก็ชมวิวข้างทางไปเรื่อย แต่พอผ่านไปซักระยะ เริ่มมะไหว หลับเอาแรงดีกว่า ปล่อยให้วิวชมเราแทนแล้วกัน

ลืมตาขึ้นมาแบบงัวเงีย ทำไมรถจอดหล่ะ ถึงไหนแล้วหว่า มองไปรอบๆ รถ เฮ้ย..หายไปไหนกันหมด ตูดกระเด้งขึ้นจากเบาะแบบไม่รู้ตัว เดินไปดูหน้ารถ อะ คนเก็บตั๋วยังอยู่
"เอ่อ..ถึงแล้วเหรอค่ะ" ถามแบบหน้าตาตื่น
"เปล่าครับ"
"อ้าว แล้วจอดทำไมค่ะ" จิงๆอยากถามนะว่าหายไปไหนกันหมด
"แวะให้เข้าห้องน้ำนะครับ" เท่านั้นแหละถึงบางอ้อ ก็พอถามจนรู้เรื่อง ผู้โดยสารคนอื่นๆ (ซึ่งมีอยู่น้อยนิด) ก็เริ่มทยอยมาขึ้นรถพอดี รวมทั้งคนขับด้วย เฮ้อ..เวงง ดันหลับจนเผลอปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ ตาสว่างเลยเรา ดีเหมือนกัน เพราะนั่งอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะถึงท่าเรือบ้านเพ จ.ระยองแล้ว
10.30 เลทนิดหน่อยรถเข้าจอดหน้าท่าเรือบ้านเพ หอบกระเป๋าเดินไปยังเรือลุงดำที่จอดรอรับผู้โดยสารอยู่แล้ว ก็ต้องรีบหน่อยเพราะแกวิ่งเรือแค่รอบเดียวตอน 10.30 น.เท่านั้น ตีตั๋วกันบนเรือนั่นแหละ 70 บาทไปอย่างเดียว จุดหมายทริปนี้คือ อ่าวเทียนบนเกาะเสม็ด ที่ต้องกลับมาอีกครั้งเพราะติดใจในความสงบ ความเป็นส่วนตัว และมิตรภาพของผู้คนที่รีสอร์ทลุงดำ เป็นกันเองมากๆ

เรือประมงลำสีเขียวอ่อน สภาพกลางเก่ากลางใหม่ของลุงดำ ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากท่าสู่ท้องทะเลสีฟ้าคราม เรือวิ่งอย่างช้าๆ ไม่รีบเร่งอะไร ใจเราก็ไม่รีบเร่งเช่นกัน ทำให้ไม่รู้สึกร้อนรนในความช้าของเจ้าเรือประมงลำเขียว
ยามเรือกระทบคลื่นคงแรงพอดู ทำให้น้ำซัดเข้าข้างลำเรือเรียกเสียงกรี๊ดจากคนนั่งเป็นที่คึกครื้นกันไป
ประมาณชั่วโมงเรือลุงดำก็เข้าจอดเทียบสะพานไม้ที่ยื่นลงมาในทะเล
เอ้า.. อึ้บ.. อย่าแปลกใจ นี่เป็นเสียงแต่ละคนกำลังปีนขึ้นท่ากัน วันนี้น้ำลงเรือเลยอยู่ต่ำกว่าสะพานเล็กน้อย ก็เลยต้องใช้แรงปีนกันเอาหน่อย

เดินเข้าเกาะก็เสียก่อนเลย 20 บาทให้เจ้าหน้าที่ฯ จากนั้นก็ติดต่อเข้าพักที่รีสอร์ทลุงดำ ที่นี่ถ้ามาวันธรรมดา หรือมาช่วงที่ไม่ตรงกับเทศกาล รับรองไม่มีเต็ม ไม่ต้องจองล่วงหน้าให้เสียเวลา มาถึงที่แล้วค่อยมาเลือกบ้านพักที่จะอยู่เลยดีกว่า มาพักคราวนี้เราเลือกพักฝั่งซ้าย สภาพบ้านพอที่เรารับได้ ในราคา 500 ติดชายหาดเลย
หลังจากจัดแจงเอาของเข้าที่พัก เราก็หาของกินก่อนเลย ก็ไม่ต้องไปไหนไกล ร้านอาหารของรีสอร์ทนั่นแหละ เลือกโต๊ะเดี่ยวริมทะเลบนหาดทราย โหะๆๆ เหมือนหาดส่วนตัว ไม่รู้นักท่องเที่ยวหายไปไหนหมด แต่ก็ไม่ถึงกับร้างอะนะ ยังพอมีอยู่บ้าง มาคนเดียวก็สั่งเป็นอาหารจานเดียว "ปลาหมึกผัดช่าราดข้าว โค๊ก 1 น้ำแข็ง 1"

มื้อนี้หมดไป 70 บาทพอดิบพอดี อิ่มและ เพิ่งบ่ายโมงเองหาที่นอนเล่นดีกว่า... เดินกลับไปที่บ้านพัก ลากเตียงผ้าใบมาตั้งใต้ต้นไม้ใหญ่ติดชายทะเลซึ่งก็อยู่หน้าบ้านพักนั่นแหละ ร่มรื่น แดดไม่ร้อน นอนหลับตา ฟังเสียงทะเล แม้จะเป็นเวลาบ่าย แต่ลมทะเลกลับไม่ร้อนอย่างที่คิด ตรงข้ามกลับเย็นสบายด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะเรานอนอยู่ใต้เงาร่มไม้ใหญ่ก็เป็นได้ แถมยังโชคดีมาคราวนี้ไม่เจอฝนซักแอะ อากาศดีมากๆ

บ่าย 2 โมงครึ่งลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวไปดำน้ำตื้นตอนบ่ายสาม ก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่+จ่ายเงิน ที่นี่เค้าจะคิดเป็นหัว ตกหัวละ 300 บาท แต่...ด้วยความที่คุ้นหน้ากันมาแล้วครั้งนึง คราวนี้พี่เจ้าหน้าที่เค้าเลยลดให้เหลือ 250 บาท จิงๆ ก็ต่อเค้าด้วยและ ตื้อๆหน่อยเด๋วเค้าก็ใจอ่อนลดให้ เอิ๊กก
พอได้เวลาเรือสปีดโบ๊ทก็ทะยานออกจากหาด ด้วยทั้งเรือผู้โดยสารมีเพียง 5 คน ไม่นับคนขับและผู้ดูแล ทั้งหมดเลยตกลงกันว่าจะไปดำที่เกาะทะลุกัน เราก็พวกใจง่าย ไปก็ไปฟะ เพราะจุดที่เค้าจะพาไปดำน้ำตามปกติ เราก็เคยไปดำมาแล้ว
หลังจากนั่งกระเด้งดึ๋งๆ บนเรือมาร่วมชั่วโมงกว่า ก็เห็นเกาะทะลุแล้ววว น้ำทะเลตรงส่วนนี้เป็นสีเขียวอ่ะ ไม่ฟ้า ก่อนถึงหน้าเกาะเล็กน้อย เค้าก็ปล่อยให้เราลงดำน้ำกัน ภาพแรกที่หน้าจุ่มลงสู่ผิวน้ำ อื้ออออ สวยจัง ฝูงปลาตัวเล็กกำลังว่ายอยู่ข้างหน้า ลักษณะเป็นลายสีเขียว สะท้อนแสง ไม่รู้ปลาอะไร
พอสายตาละจากฝูงปลาลงไปด้านล่าง จะเห็นปะการังมือเสือ เจอปลาตัวใหญ่ตัวนึงดูจากในน้ำเหมือนจะใหญ่พอๆกะแขนเราอ่ะ ไม่รุ้ว่าหลอกตารึเปล่า ลำตัวเป็นสีแดงผสมฟ้า ตรงครีบจะดำ ก็ยังไม่รู้อีกว่าคือปลาอะไร ช่างดำน้ำแบบไร้ความรู้จริงจริ๊งงง เราจะชอบว่ายตามปลาไปเรื่อยๆ เจอปลาตัวไหนสวยก็จะว่ายตาม ดูว่ามันจะว่ายไปไหน ทำอะไร รู้สึกเพลินดี บางตัวมันก็พาเราว่าย วนไปวนมา แล้วว่ายอย่างรวดเร็วหนีกันไปดื้อๆ ซะงั้น
เราเจอเม่นทะเลด้วย แต่เราไม่ค่อยชอบอ่ะ ออกแนวกลัวก็ว่าได้ ก็แหม รอบตัวมีแต่หนาม และตรงลูกกะตาก็เหมือนเพชรส่องประกาย เหมือนจ้องเราเลยอ่ะ เจอทีไรว่ายน้ำหนีทุกที บรึ๋อออ พูดแล้วขนลุก
ไม่รู้ว่าว่ายไปนานแค่ไหนก็ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่เรียกให้กลับขึ้นเรือ เศร้าอ่ะ รู้สึกยังว่ายไม่ทั่วเลย เงยหน้าจากน้ำก็เห็นทุกคนขึ้นไปกันหมดและ ไหงเหลือแต่เราอ่ะ รีบขึ้นดีกว่า....

กลับมาถึงที่พัก เราก็ยังไม่คืนสน็อคเกิลกับเจ้าหน้าที่ แต่เรายืมไปดำน้ำต่อตรงหน้าหาด อะห้าาา หน้าหาดอ่าวเทียนก็มีปะการัง มีปลาสวยให้ดูนะ ว่ายออกจากฝั่งไปนิดเดียวเอง ก็จะเห็นปะการังแล้ว ด้วยยังไม่เต็มอิ่ม เราก็ว่ายน้ำดูปะการังเล่นไปเรื่อยๆ ถึงจะไม่สวยเท่าที่อื่นๆ เช่น อันดามัน เกาะนางยวน(ที่นี่สวยจริงๆ ว่าแล้วก็อยากกลับไปดำอีก) แต่ก็ไม่ถึงกับขี้เหล่ละนะ
อยู่กับปลาอยู่กับธรรมชาติ บางทีก็มีความสุขมากกว่าอยู่กับคนเราด้วยกันเองซะอีก ไม่มีคำนินทา ไม่มีการอิจฉากันไม่มีการมาเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าใคร

เราขึ้นจากน้ำประมาณ 6 โมงครึ่ง ก่อนเข้าบ้านพักเราก็แวะซื้อข้าวผัดปูกับต้มยำทะเล น้ำเปล่า 2 ขวดใหญ่หิ้วกลับไปทานหน้าบ้านพักด้วย พอค่ำแล้วได้ยินเพียงเสียงคลื่นของทะเล กับเสียงเพลงที่ดังแว่วๆ มาจากบ้านพักสำนักงานเท่านั้น หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย ก็เริ่มหันมาจัดการอาหาร ค่ำนี้ทานอาหารริมระเบียงหน้าบ้านพักเคล้าแสงจันทร์ โหะๆๆ โรแมนติกสุดๆ แม้จะเหงาไปหน่อยก็ตาม

คืนนี้นอนเร็วกว่าปกติ เพื่อจะตื่นมาให้ทันคุณพระอาทิตย์ในวันพรุ่ง ถ้าอยู่กรุงเทพฯ คงไม่ได้นอนเร็วขนาดนี้...



Create Date : 11 กรกฎาคม 2548
Last Update : 17 สิงหาคม 2548 10:40:06 น.
Counter : 436 Pageviews.

9 comments
  
ฟังดูน่าสนุกจังเลยอ่ะค่ะ แบบคิดจะไปก้ไปเลยไม่ต้องมาวางแผน แบบนี้สุดยอดเลยอ่ะค่ะ
โดย: JewNid วันที่: 12 กรกฎาคม 2548 เวลา:0:03:40 น.
  
โห .. น่าสนุก .. คราวหลังจะไปชวนกันด้วยน้า
อยากเที่ยวแบบนี้เหมือนกันอ่ะ
โดย: ต.เตย อยากแจม วันที่: 12 กรกฎาคม 2548 เวลา:9:53:23 น.
  
บางครั้งการได้ลุยเที่ยวคนเดียว ก็รู้สึกอิสระดีนะค่ะ JewNid แต่เราต้องแน่ใจด้วยค่ะว่าที่ๆ เราจะไปมันปลอดภัยพอ หรือคุ้นเคยมาบ้างแล้วนะค่ะ ไม่งั้นขมอมก็ไม่กล้าไปคนเดียวหรอกค่ะ

ต.เตย ถ้าชวนแล้วจะไปด้วยจิงเปล่า หุๆๆ
โดย: ขมุกขมอม วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:33:43 น.
  
แวะมาอ่านแย้วก่ะ

อย่างงี้เลยง่ะที่แสวงหา

โดย: ฝน IP: 219.102.223.122 วันที่: 13 สิงหาคม 2548 เวลา:6:53:54 น.
  
หวัดดีค่ะ คุณฝน

ขมอมหวังว่า บันทึกของขมอมคงมีประโยชน์กับคุณฝนบ้างนะค่ะ ขอให้เที่ยวให้สนุกนะค่ะ
โดย: ขมุกขมอม วันที่: 16 สิงหาคม 2548 เวลา:17:48:43 น.
  
อยากเที่ยวบ้างจังเลยอ่ะ ห้องที่คุณขมุกขมอมพักเนี่ย นอนได้กี่คนคะ แล้วถ้าไปประมาณ 5 คนจะราคาเท่าไหร่คะเนี่ย
โดย: Por IP: 210.246.163.38 วันที่: 17 สิงหาคม 2548 เวลา:16:14:23 น.
  
อ๊า... โทษทีค่ะ คุณปอ เพิ่งเข้ามาเห็น

หลังที่ขมอมพัก เป็นหลังเล็กอ่ะค่ะ ถ้าเอานอนสบายก็ 4 คน แต่ถ้าเบียดก็น่าจะได้ 5 ค่ะ แต่รู้สึกว่าทางที่พักเขาจะให้ลิมิต 2-3 คนต่อหลัง ถ้าพักมากกว่านี้เขาคงคิดราคาเพิ่มอีกหน่อย อย่างตอนที่ขมอมไปครั้งแรกพร้อมแม่กะน้องช่วงสงกรานต์ บ้านหลังข้างๆ เขามากันหลายคน น่าจะประมาณ 7-8 คนได้ เห็นเขาเสียไปหลังละ 700 บาทนะค่ะ แต่ถ้าปกติจะตกหลังละ 500 บาทค่ะ
โดย: ขมุกขมอม IP: 61.91.84.114 วันที่: 19 สิงหาคม 2548 เวลา:23:36:14 น.
  
ดีจ้า ขมอมจ๋า ตะโก้อีกแล้วจ้า
คือว่า โก้ไปรู้มาว่า ที่ลุงดำอะ มีบ้านพักบนต้นไม้ด้วยอะ
ขมอม คิดว่ามันเป็นไงอะจ๊ะ มันจะดีเท่าริมหาดปะ หรือว่า แย่กว่า
อยากรู้อะ อยากรู้
โดย: ตะโก้แห้ว IP: 203.130.143.243 วันที่: 22 สิงหาคม 2548 เวลา:18:21:16 น.
  
ดีจังค่ะ กำลังจะไป เล่าได้สนุกน่าไปมากมากค่ะ
โดย: ออย IP: 58.9.100.58 วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:23:19:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขมุกขมอม
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



อย่าปิดตัวเองในกรอบแคบๆ
หยุดกลัวกับสิ่งที่..มองไม่เห็น
แค่ใจเรากล้า เปิดตาให้กว้าง
ความฝันยังรอคุณ...ทำมันให้เป็นจริง